Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
สมการลับ  

“ฉิบ... แล้ว” ผมสบถออกมาด้วยใจร้อนรน หลังจากนายโทรมาแจ้งข่าว และแนะนำให้ผมอยู่เฉย ๆ ไปก่อน

แล้วจะทำอย่างไงดีวะเนี่ยล๊อตที่แล้วก็ยังได้เงินมาไม่ครบ ของล๊อตใหม่ก็รับข้อเสนอจัดซื้อมาและเริ่มสั่งทำไปแล้วเสียด้วย ที่ผ่านมา ก็ผ่านฉลุยไม่มีปัญหาใด ๆ ไหนเขาว่าทำงานกับราชการถ้าเข้าถูกช่องไปถูกทางก็กินยาวไปตลอดได้วะ นี่ขนาดเราวางเครือข่ายไปแทบจะทุกหน่วยงานที่คุมอำนาจในประเทศแล้วนะ พูดแล้วก็ให้แค้นไอ้พวกนักวิทย์ออนไลน์นัก แส่ออกมาทำไมไม่เข้าเรื่องวะ แต่ก่อนก็เห็นมันอยู่กันดี ๆ อย่างมากก็แค่จับผิดพวกเหรียญมหัศจรรย์ แท่งประหยัดน้ำมัน ตอนหลังก็เห็นเรื่องเงียบๆ ไป ใครจะคิดว่าจะกล้ามายุ่งกับเรื่องอุปกรณ์เพื่อความมั่นคง หล่ะ ไป ๆ มา ๆ ไม่รู้ทำอีท่าไหน่สื่อเอาไปเล่นเป็นข่าวใหญ่โตเสียได้

ไม่เป็นไร ๆ แบ็กอัพเรายังอยู่พร้อม แต่นี่ถ้าโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่บรรลัยเลยเหรอวะ ไหนลองเอาสมการมาดูก่อนดีว่า

ล๊อตแรก 10 เครื่อง ค่าสินค้าจริง + ค่าคอมฯ = ราคาเสนอขาย

สมการนี้นายผมเขียนขึ้นมาเองเลยนะครับเนี่ย ผมยังเก็บกระดาษลายมือนายไว้เลย ความจริงแล้ว ตัวแปร “ค่าคอมฯ” นี่ยิบย่อยมาก เกือบๆ ครึ่งหน้ากระดาษเอสี่ได้มั้ง เห็นมีชื่อคุ้นๆ อยู่หลายชื่อเหมือนกัน

อืม ล็อตนี้ไม่ค่อยกำไรเท่าไหร่แต่ก็เป็นตัวอ้างอิงที่ดี อีกอย่างเราได้ราคาพิเศษมาอยู่แล้ว แต่พวกฝรั่งที่มันมาสาธิต มาสอนนี่จิตวิทยาสุดยอดเลยว่ะ เราเองก็เกือบจะเชื่อนะเนี่ยว่ามันใช้งานได้จริงก็เล่นอ้างทั้งอังกฤษ อีรัค จีน ยังใช้ยังสั่งกันตรึม แถมตอนสาธิตยังหาของเจออีก ถ้าไม่ติดว่าวันนั้นเอาเครื่องที่จะใช้ในการอบรมออกมาเช็คเล่นแล้ว ลูกชายผมมันดันแอบเอาการ์ดแถมขนมใส่เข้าไป แล้วก็ลืมทิ้งไว้ยังงั้นจนวันอบรม จนเป็นผลให้ผมต้องลองทดสอบลับ ๆ จนมั่นใจ

ผมยังจำวันนั้นได้ดี คนถือเครื่องนั้นเป็นคนรูปร่างใหญ่ทีเดียว สูงกว่าผมเกือบค่อนหัวได้มั้ง เขาถือเจ้าเครื่องนี่แล้วใส่การ์ดระเบิดเข้าไป ก็เห็นว่ามันติด ๆ ขัด ๆ อยู่เหมือนกันนะ เหมือนจะใส่การ์ดเพิ่มเข้าไปไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เข้าไปได้ ตอนนี้แหล่ะผมถึงรู้ว่า ช่องใส่การ์ดนี่เขาเว้นพื้นที่ไว้เพื่อให้ทำคอมโบกับการ์ดอื่นๆ ได้ ที่สำคัญคือ สามารถใช้ตรวจสอบได้ว่าข้างในมีการ์ดอยู่หรือเปล่า ด้วยวิธีเขย่าไง เจ๋งไหมครับ ผลหรือครับ ตรวจเจอจริงๆ ด้วย การ์ดระเบิด คอมโบกับการ์ดมดแดงที่แถมมากับขนมห่อละสิบบาท เจอระเบิดด้วยครับ ผมเริ่มสงสัยแล้วครับว่าระเบิดที่เอามาอาจจะปนเปื้อนขนมก็เป็นไปได้ ท้ายที่สุดเลยตัดสินใจอาศัยจังหวะเผลอตอนทดลองตรวจสารเสพติด เอาการ์ดสารเสพติดออกให้เหลือแต่การ์ดขนมแทน หมดข้อสงสัยเลยครับ เครื่องใส่การ์ดขนมตรวจเจอยาบ้าด้วยครับ ผู้เข้าฝึกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย ผมก็อมยิ้มเล็กน้อย กังวลนิดหน่อย นิดหน่อยจริง ๆ ว่า ขนมที่ไอ้ป๋องลูกชายผมมันกินนี่มันอาจจะผสมสารเสพติดก็ได้

หลังทบทวนจนมั่นใจผมโทรไปหานาย แจ้งข่าวว่าเราอาจจะโดนหลอก แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือ คำด่าพร้อมเสียงหัวเราะ “นี่เอ็งเชื่อ ด้วยเหรอวะว่ามันจะใช้ได้จริง ๆ จบอิเล็กทรอนิกส์มาเสียเปล่านะเอ็ง เห็นๆ อยู่ เครื่องมันพลาสติกแต่ใช้ไฟฟ้าสถิตย์เนี่ยนะ”

เมื่อวางสาย ผมเกิดความคิดที่ว่าจะต้องสร้างผลงานเสียหน่อยหลังจากแสดงความโง่ ที่รู้ตัวช้าไปนิด ผลที่ได้ก็คือ สมการใหม่ นี่ไงครับผลที่ออกมา

ล๊อตที่สอง 150 เครื่อง ค่าสินค้าจริง (4/5) + ค่าสินค้าปลอม (1/5) +ค่าคอมฯ หน่วยงาน+ค่าคอมฯ แบ็กอัพ = ราคาเสนอขาย

ในเมื่อเครื่องมันก็ของเก๊ ไม่มีหลักวิทยศาสตร์รองรับ ทำไมเราไม่ทำปลอมมันขึ้นมาซะเลยเล่า ไม่เห็นจะต่างกัน เครื่องมันสุดยอดอยู่แล้ว ไม่ต้องซ่อมบำรุงอะไร แค่เช็ด ๆ ขัด ๆ ไปวัน ๆ ทั้งเครื่องทั้งการ์ดก็ห้ามแกะ เกิดทำงานผิดพลาดก็ยังโบ้ยให้ผู้ใช้ได้ อะไรมันจะเยี่ยมมากไปกว่านี้ การป้องกันตัวเองเข้าขั้นสมบูรณ์แบบ ทีนี้ใครจะไปรู้ว่าของเก๊ของจริง ทำของเก๊ผสมเข้าไปเลยดีกว่า ตัดต้นทุนลงไปได้ตั้งมหาศาล แถมในเมื่อรู้ๆ อยู่ว่าเครื่องมันใช้ไม่ได้ ทางบริษัทต่างประเทศต้นทางที่ขายเราจะฟงจะฟ้องมันก็บ้าแล้ว พลาสติกตัวเครื่องให้โรงงานพลาสติกแถวบ้านขึ้นรูปให้บอกเขาว่าจะเอาไปทำปืนจุดแก๊ส ส่วนเสาอากาศไปเหมามาแถวบ้านหม้อ ตัวการ์ด ไปขอการ์ดพลาสติกขาวเหลือ ๆ จากโรงงานผลิตบัตรที่น้องชายทำงานอยู่ มาพิมพ์รูปใส่ตัวหนังสือว่าเป็นบัตรยา บัตรอาวุธ เข้าไปทำเป็นร้อย ๆ ใบนี่แว้บเดียว มีก็แต่เครื่องพิมพ์รูปพิมพ์ตัวหนังสือลงบนบัตรนี่หล่ะที่ต้องลงทุนซื้อเอง แต่ก็แค่ สีซ้าห้าหมื่น แต่อย่าเข้าใจผิดราคาที่ปรากฎในใบจัดซื้อที่ไม่ได้ลดลงแถมเพิ่มไปอีกสามสี่เท่านี่ไม่ได้เกิดจากราคาเครื่องพิมพ์รูปนะครับ พอดีตัวแปรค่าคอมมันต้องเพิ่มขึ้นไปหน่อย เพื่อความปลอดภัยไง

ผมฉลาดไหมครับ แต่ผมต้องยอมรับนายผมฉลาดกว่านั้น เพราะกระดาษโน๊ตพร้อมสมการด้านล่างถูกส่งมาให้ผม ไม่นานนักหลังจากการสั่งซื้อรอบสอง

ล็อตที่สาม 500 เครื่อง ค่าสินค้าปลอม +ค่าคอมฯ หน่วยงาน+ค่าคอมฯ แบ็กอัพ = ราคาเสนอขาย

ผมก็ลืมคิดไปได้ ในเมื่อเราทำเองได้ ทำไมต้องไปสั่งชื้อด้วย ใช่มั้ย ใบสั่งของเราก็ดูแลอยู่ ทำเป็นสั่งอะไรบ้าๆ บอๆ จากอังกฤษเข้ามาสักสิบยี่สิบกล่อง ให้มีใบนำเข้าไว้เสนอก็พอว่าของมาจากอังกฤษ บริษัทเราก็พร้อมปิดชิ่งหนีอยู่ตลอดอยู่แล้ว แหมบริษัทเทคโนโลยีทุนจดทะเบียนสองร้อยกว่าล้าน ที่ไหนจะมาเช่าตึกแถวโคตรโทรมแบบเราหล่ะครับ ขนาดพนักงานรวมแม่บ้าน (ไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัย) ยังไม่เกินสิบคนเลย นี่ก็ว่าจะไปรับเด็กจบใหม่ๆ มาล้างสมองเพิ่มอยู่นะเนี่ย

หลังจากนั้นมาเราก็อาศัยสมการที่ 3 นี่เรื่อย ๆ มา รู้สึกจริง ๆ แล้วสั่งไปประมาณ ร้อยกว่าเครื่องได้มั้ง ที่เหลือ นี่ทำเองเกือบหมด ขายไปได้ราวๆ เกือบสองพันเครื่องแล้ว ล๊อตสุดท้ายที่โดนระงับนี่ราว ๆ สามร้อยเครื่องได้มั้ง นี่ก็ยังมีสต๊อกเหลืออีกตั้งเกือบ ๆ พัน

“มันคนละยี่ห้อกับครับ อีกอย่างผู้ใช้ก็ยังบอกว่าใช้ได้นะครับ ส่วนที่แพงก็เพราะทางต่างประเทศมีการวิจัยต่าง ๆ นา ๆ ก่อนจะผลิตออกมาขาย ล๊อตใหม่นี่ว่าจะสั่งรุ่นที่มีแบตเตอรี่ในตัวด้วย…” เสียงจากโทรทัศน์ดังมาเข้าหูผม หนึ่งในรายชื่อคุ้น ๆ ที่ผมเห็นในคำอธิบายสมการ ตอบคำถามนักข่าว อย่างมั่นใจ ในขณะที่กราฟฟิกในจอ อีกด้านกำลังขึ้นรายละเอียดการผ่าพิสูจน์ ตัวเครื่อง และท้ายที่สุดก็นำเสนอเอกสารระบุยี่ห้อและโมเดล ซึ่งในตอนนี้มีการไฮไลท์ยี่ห้อและรุ่นที่เป็นตัวเดียวกันกับที่เราขายแล้ว

จากคำพูดนั้นใจผมไผล่ไปคิดว่าจะเพิ่มแบตเตอรี่เข้าไปยังไง เนื่องจากว่ายังไม่เคยเห็นรุ่นต้นแบบที่มีแบตเตอรี่มาก่อน สุดท้ายจึงได้สติ ว่า เรื่องมาถึงขนาดนี้คงไม่ได้ขายต่อแล้วแน่ ๆ ทางที่ดูควรจะหาทางเอาตัวรอดเสียดีกว่า
อืม ตอนนี้ถ้าจะสรุปเป็นสมการผมคิดว่าน่าจะเป็นประมาณด้านล่างนี้

อำนาจของผู้จัดซื้อ ผู้ร่วมอนุมัติและได้ผลประโยชน์  > อำนาจการตรวจสอบของประชาชน+อำนาจของสื่อ

แต่ตอนนี้กระแสเริ่มกลับกันเรื่อย ๆ หากทางสื่อยังเล่นข่าวไม่หยุด ประชาชนยังติดตามและสนับสนุนหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการตรวจสอบ ไม่นานนักก็คงจะกลับกัน การจะหวังให้เรื่องเงียบไปแบบที่ผ่าน ๆ มาก็คงยาก ยังไงก็ต้องมี...

ฉับพลันนั้นปัญญาก็บังเกิดผมหันหน้าไปมองเจ้าปื้ดพนักงานที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่ รู้สึกว่ามันเริ่มมีเขาโค้งงอกออกมาจากหัว หน้ายาวยืดออกเป็นทรงกระบอก ฟันหน้าซี่โตสองสามซีกเหยินออกมา เคราสีขาวยาวแหลมเป็นสามเหลี่ยมทะลุออกมาทีคาง เท้าก็เปลี่ยนสภาพเป็นกีบเล็ก ๆ ตามธรรมเนียมแล้วผู้มีอำนาจของประเทศนี้ไม่เคยทำอะไรผิด เขาทำตามกฏหมายอย่างถูกต้องทุกประการหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม จนเมื่อใดที่เขาหมดอำนาจนั่นแหล่ะความผิดของเขาถึงจะปรากฎออกมา ทุกครั้งที่ไม่สามารถแก้ตัวได้เขาก็จะมีทางออกง่าย ๆ ที่ปฎิบัติมาเป็นประจำคือหาคนมารับผิดชอบแทนสักคนสองคน แล้วกระแสก็จะค่อย ๆ จางหายไป จนลืมกันไปในที่สุด แล้วทำไมผมจะเลียนแบบบ้างไม่ได้หล่ะ

ผมรู้แก่ใจว่าเรื่องคงมาถึงตัวในไม่ช้า  ถึงเวลาที่ต้องเตรียมสมการหาทางเอาตัวรอดของตัวเองไว้ให้พร้อม เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมคิดว่าทางนายคงคิดสมการของเขาเอาไว้แล้วและก็คงไม่รวมการเอาตัวรอดให้ผมในสมการของเขาด้วยเช่นกัน  เมื่อคิดได้เช่นนั้น ก็ถึงเวลาเริ่มแผนการตามสมการใหม่ล่าสุดของผมแล้ว

“ปื้ด ช่วงนี้ทางบ้านยังมีปัญหาเริ่องเงินเหมือนเดิมไหมวะ..........” ผมเดินไปที่โต๊ะปื้ดพร้อมกับชวนเขาคุย

-----------------------------------------------------------------------

จากคุณ : biblio
เขียนเมื่อ : 30 ม.ค. 53 13:50:15




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com