ความคิดเห็นที่ 1 |
|
มา....มะ มาลดความอ้วนกันเถอะ (1)
ตอนนี้กระแสลดพุงกำลังมาแรง ข้าพเจ้าเป็นอีกคนหนึ่งที่มีน้ำหนักทะยานไปกว่า 100% ภายหลังจากที่เรียนจบปริญญาตรี จาก 53 กิโลกรัม ปาเข้าไป 100 กว่า กิโล ข้าพเจ้าค้นหามาหลายวิธีที่จะลดความอ้วนโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย หรือออกกำลังกายโดยไม่ต้องใช้เวลามากนัก แล้วข้าพเจ้าก็มาค้นพบความจริงว่าการจะลดความอ้วนนั้นต้องเริ่มจากการท่องคาถาก่อน อย่าหัวเราะนะจ้ะอันนี้เรื่องจริง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลามาว่าคาถาของเรากันเลย
โอม ....หนักเช้า.....เบาเที่ยง....เลี่ยงเย็น......เว้นดึก
เห็นไหม สั้นนิดเดียวแต่ท่องให้ตายก็ไม่ทำให้คุณตัวเล็กลงหรอก ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย ขอยกความดีให้กับเจ้าของคาถา คุณหมอชนินทร์ ล่ำซำ คุณหมอคนเก่งของข้าพเจ้า
ได้คาถาแล้วเรามาว่าถึงการปรับตัวในการลดน้ำหนักกันดีกว่า
ข้อแรก ถ้าคุณคิดจะลดความอ้วนด้วยการงดมื้อเช้าขอบอกเลยว่าคิดผิดอย่างแรง เช้าน่ะกินเช้าไปเลยเพราะร่างกายต้องทำกิจกรรมต่างๆอีกอย่างน้อย 12 ชั่วโมง จะเป็นแบบพวกขนมปังโฮลวีทไข่ต้มกินกับหมูย่างหนักผักเยอะๆ(ไม่อยากให้กินพวกไข่ดาวใส้กรอกเลย เพราะไขมันเยอะ ขนมปังขาวก็เลี่ยงนะ) หรือถ้าชอบแบบไทยๆ ข้าวซ้อมมือกับน้ำพริกปลาทูพร้อมผักนานาชนิดก็ไม่เลว ถ้ายังไม่ชินค่อยๆเริ่มทีละนิดก็ได้ ถ้ากลัวไปทำงาน ไปเรียนไม่ทัน เตรียมไว้ไปกินบนรถก็ได้ กว่าจะไปถึงที่หมายก็อิ่มพอดี
ข้อที่สอง การกินเป็นศิลปะอีกอย่างที่ข้าพเจ้าไม่เคยใส่ใจมาก่อน จนได้มาเรียนรู้ว่าการกินที่ถูกวิธีนั้นคือการค่อยๆกิน เคี้ยวให้ละเอียด ผลที่ได้มีหลายประการเช่นทำให้กระเพาะของคุณทำงานไม่หนักจนเกินไป อาหารที่ค่อยๆตกถึงกระเพาะทำให้สมองมีเวลาได้รับรู้ว่ากินไปเท่าใดแล้วและเริ่มอิ่มแล้วหรือยัง การกินแบบสายฟ้าแลบทำให้คุณกินเกินพอดีเพราะกว่ากระเพาะจะส่งข้อความไปบอกสมองว่าอิ่มแล้วนะจ้ะ คุณก็จุกไปแล้วนั้นแหละ
อย่ากินไปดูทีวีไปเพราะมันจะทำให้คุณเพลินจนลืมไปว่าคุณอิ่มแล้ว เคยมีการทำสำรวจกับเด็กผู้หญิงอายุสิบห้า โดยตอนแรกให้เธอนั่งดูทีวีรายการโปรดพร้อมพิซซ่า หั่นขนาด 2 x 2 นิ้ว หนึ่งจานใหญ่ ภายใน หนึ่งชั่วโมงเธอทานไป 27 ชิ้น คราวนี้เอาใหม่ให้เธอนั่งในห้องแต่ไม่มีทีวี เธอทานไปได้แค่ 15 ชิ้นแล้วบอกว่า อิ่มแล้วค่ะ แปลว่าอะไร ? แปลว่าเธอกินเกินอิ่มในขณะที่ดูทีวีไปกินไป นี่แค่มื้อเดียว ถ้าสะสมเป็นปี โอ๊ย.... ไม่อยากคิด
ข้อที่สาม ถ้าคุณยังต้องเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงกินข้าวนอกบ้านบ่อยๆ โดยเฉพาะมื้อกลางวันและเย็น จำคาถาของเราได้ไหม เบาเที่ยง อาหารพวกบุฟเฟ่ เลี่ยงได้เลี่ยงเถอะเพราะเราจะกินจนคิดว่าคุ้ม ไอ้คุ้มที่ว่าคือปริมาณอาหารที่กินเข้าไป แต่มันไม่คุ้มกันกับสุขภาพของคุณหรอก แต่ก่อนเวลาข้าพเจ้ากินข้าวกับเพื่อนจะช่วยๆกันสั่งแล้วพออาหารเริ่มเหลือ (เพราะตอนสั่งหิวจัดหน้ามืดสั่ง) ทีนี้ก็เกี่ยงกันล่ะสิ ใครสั่งใครรับผิดชอบ พอคิดจะเริ่มลดน้ำหนักข้าพเจ้าเลิกเป็นคนสั่งเลย เพราะหนึ่งไม่ต้องเป็นคนรับผิดชอบ สองบางครั้งอาหารที่เพื่อนสั่งเราไม่ชอบทำให้กินได้น้อยลง บางคนบอกไม่คุ้มเสียเปรียบ การได้กินข้าวกับคนที่เรารักและรักเรา กับคนที่คบหากันจนเรียกว่าเพื่อนไม่มีคำว่าได้เปรียบเสียเปรียบหรอก
ที่นี้มาว่ากันถึงมื้อเย็น ที่ว่า เลี่ยงเย็น ไม่ได้ให้คุณงดมื้อเย็นอย่างพระสงฆ์ แต่กินน้อยๆหน่อยก็ดี อาหารประเภทแป้งงดไปเลยได้ก็ดี เอาแบบอาหารที่เน้นโปรตีนย่อยง่ายๆ แล้วก็ไม่อยากให้คุณกินข้าวเย็นดึกมาก หลังๆข้าพเจ้าย้ายเวลามื้อเย็นจากสามทุ่ม มาเป็นหกโมงเย็น รู้สึกคุณภาพชีวิตดีขึ้นเยอะ ถ้าตอนกินข้าวเย็นกับเพื่อนก็เน้นคุยเป็นหลัก และอย่าปล่อยให้ตัวเองหิวเพราะเวลากินคุณจะกินมากเกินจำเป็น ว่ากันว่าอาหารแต่ละมื้อไม่ควรห่างกันเกิน 4-5 ชั่วโมง ระหว่างมื้อคุณอาจตุนอาหารง่ายๆไว้คั่นระหว่างมื้อ เช่น นมแบบหวานน้อย 1 กล่อง หรือโยเกร์ตแบบหวานน้อย 1 ถ้วย ทานกับผลไม้สัก 3-4 ชิ้น ข้าพเจ้าเป็นคนชอบทานถั่วมากเลยขอปรับสูตรเป็นถั่ว พิสตาชิโอ 1 กำมือทานกับผลไม้แทน หรือหมูปิ้งกับสับปะรดก็ย่อมได้ จำไว้เสมอว่าอาหารช่วงคั่นระหว่างมื้อควรทานโปรตีนก่อนแล้วตามด้วยผลไม้ เพราะโปรตีนช่วยให้อยู่ท้องส่วนผลไม้ให้วิตามินและเกลือแร่พร้อมกากใยอาหาร
ข้าพเจ้าเห็นใจและเข้าใจคนที่ต้องทำงานจนดึกจนดื่นค่อนคืนเพราะเคยใช้ชีวิตแบบนั้นมานับ 10 ปี อาหารที่เรามักสั่งมาทานที่ทำงานยามต้องโต้รุ่งมักเป็นพวก Fast Food (เพราะเขามีบริการส่งจนถึงเที่ยงคืน) อาหารพวกนี้มีแป้งและไขมันเพียบ เนื้อสัตว์ก็มักถูกปรุงแต่งด้วยสารเคมีทั้งรูป สี กลิ่น รส ปริมาณโซเดียมก็สูง กินเสร็จอีกไม่กี่ชั่วโมงคุณก็เข้านอน ร่างกายไม่ได้เผาผลาญ เลยเก็บสะสมเป็นต้นทุนต่อไป ลองปรับเวลามาทานตอนเย็นแล้วค่อยกลับไปทำงานต่อน่าจะพอช่วยได้
เสร็จเรื่องกินก็มาว่ากันด้วยเรื่องนอน อย่านอนดึกมาก ถ้าเป็นหมอชาวจีนจะบอกว่าการนอนหลังเที่ยงคืนจะทำให้ร่างกายขับสารพิษออกมา ในขณะที่หมอฝรั่งบอกว่าการนอนดึกทำให้ร่างกายขับสารที่ทำให้เกิดความอยากอาหาร ดังนั้นการลดความอ้วนที่ได้ผลอีกวิธีหนึ่งคือการนอนมากๆ ถ้าได้วันละ 8 ชั่วโมงละก็ เยี่ยมเลย
แก้ไขเมื่อ 31 ม.ค. 53 11:05:58
จากคุณ |
:
กาปอมซ่า
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ม.ค. 53 10:31:59
|
|
|
|