ความรัก [Love is...] : ตอนที่ 1 อาแป๊ะ
|
|
1.อาแป๊ะ
เมื่อแสงตะวันลับขอบฟ้า ประตูม้วนเหล็กกล้าที่นอนสงบนิ่งมาทั้งวันก็ถูกปลุกให้คลี่ตัวออกทำหน้าที่เป็นกำแพงชั้นนอก ป้องกันข้าศึกที่จะเข้าไปขโมยอะไหล่รถจักรยานยนต์ที่เจ้าของอุตส่าห์สะสมมาด้วยน้ำพักน้ำแรงแทบทั้งหมดของชีวิต แป๊ะเนี้ยว แต่คนทั่วไปไม่ค่อยเรียกชื่อจีนที่ได้มาแต่บรรพบุรุษ คุ้นหูกันในนามว่า แป๊ะ เถ้าแก่เจ้าของร้านอะไหล่มอเตอร์ไซค์ จะต้องเป็นคนปิดร้านคนสุดท้ายเป็นประจำ แม้ว่าจะมีลูกจ้าง แต่การได้ปิดร้านด้วยตนเองเป็นสิ่งที่แป๊ะทำมาตั้งแต่หนุ่มและคิดว่าก็คงจะทำเช่นนี้ไปจนวันตาย แป๊ะเนี้ยวไม่นอนที่ร้าน เขาซื้อบ้านที่อยู่ถัดจากร้านไปประมาณสองสี่แยกไฟแดง อยู่กับภรรยาชื่อ อาหลิว สองคน ไม่มีลูกเต้าไว้สืบสกุล กิจการที่ก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาหากตายไปก็จะยกสมบัติให้เป็นการกุศล
เคยมีคนถามแป๊ะว่า ทำไมไม่มีลูกสักคน กิจการออกจะใหญ่โต น่าเสียดายที่จะต้องบริจาคให้กับมูลนิธิเมื่อสิ้นลมหายใจ
ไม่มีคำตอบจากแป๊ะ และภรรยา นับแต่นั้นมาคำถามจำพวกนี้ก็ไม่เคยมากระทบโสตประสาทของแป๊ะอีกเลย
อาหลิวได้ชื่อว่าเป็นคนโชคดีที่มีสามีอย่างอาแป๊ะ เพราะอาหลิวมีหน้าที่แค่เพียงทำงานบ้าน ส่วนงานหาเงินแป๊ะเนี้ยวขอรับภาระเพียงผู้เดียว
แต่เงินทองของแป๊ะ อาหลิวก็ได้แตะต้องทุกบาททุกสตางค์
อาแป๊ะรักเมียมาก?
ไม่จริง คนทั้งตลาดเขารู้กันทั่วว่า อาแป๊ะหลังจากปิดร้าน ชอบแอบไปเที่ยว กระต่ายขาวคาราโอเกะ เรียกได้ว่าเกือบจะทุกคืน จนพฤติกรรมไม่เรียกว่า แอบ แม่ค้าบางคนบอกว่า จงใจ ต่างหาก
อาหลิวไม่ว่าหรือ? ทุกครั้งที่เดินตลาด หาซื้อกับข้าวไปประกอบอาหาร ภาพที่อาหลิวเห็นจนชินตา นั่นคือ พ่อค้าแม่ขายเอามือป้องปาก ทำเสียงกระซิบกระซาบ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพูดถึงใคร บางทีเสียงนินทาได้ยินชัดกว่า ลำโพงของโทรทัศน์ที่บ้านเสียอีก อาหลิวไม่สนใจ เพราะอาแป๊ะกลับไปนอนที่บ้านทุกคืน
สามทุ่มอาหลิวปิดโทรทัศน์เตรียมตัวขึ้นนอน จะเห็นอาแป๊ะเปิดประตูบ้านเข้ามาพร้อมกับถ้วยน้ำชาเรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่แป๊ะรักมากที่สุด รองจากภรรยา
ก็อีกเช่นเคย ชาวบ้านตะโกนนินทากันว่า อาแป๊ะซื้อไปบังหน้าอย่างนั้นเอง เพราะร้านขายเครื่องแก้วเซรามิกส์อยู่ใกล้กับกระต่ายขาวคาราโอเกะ
จริงอย่างที่เขาพูด!
เพราะวันนี้แป๊ะก็ทำเหมือนอย่างเคย ปิดร้านเรียบร้อย คล้องกุญแจเสร็จสรรพ แป๊ะหันหลังกลับ เดินไปทางซ้ายกลับบ้าน เดินไปทางขวามุ่งหน้าสู่คาราโอเกะ
แป๊ะเลี้ยวขวา
เช่นเดิม!
กระต่ายขาวคาราโอเกะไม่มีอะไรน่าสนใจนอกจาก น้องเพ็ญ ที่ชอบแทนตัวเองว่า หนู เมื่อ ป๋า หรือ แป๊ะ มาถึงร้าน และป๋าคนนี้ก็ไม่ต้องสั่งเด็กให้มายืนหน้ากระดาน หนูเพ็ญก็ปรี่มาคล้องแขนทุกทีที่เห็นตาแป๊ะขาโก่ง เดินหลังค่อมมาแต่ไกล
สวัสดีค่ะป๋าขา วันนี้เหนื่อยไหมคะ
อาแป๊ะยกมือประกบพอเป็นพิธี เพราะรู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวก็ต้องถูกฉุดเข้าไปในร้าน
บางครั้งเพ็ญก็ลากแป๊ะแรงไปหน่อย จนแก้วชาที่ซื้อติดมือมาจากร้าน แสงเซรามิกส์ เกือบตกแตก
แป๊ะมีเวลาสองชั่วโมงก่อนกลับเข้าบ้าน ครึ่งชั่วโมงแรกแป๊ะจะใช้เวลากับถ้วยชาที่สวยๆ ต้องเลือกชุดที่มีจานรองแก้วด้วยแป๊ะถึงจะซื้อ ส่วนอีกหนึ่งชั่วโมงแป๊ะจะเข้าไปหาหนูเพ็ญ ครึ่งชั่วโมงสุดท้ายเป็นเวลาเดินทางกลับบ้าน
แสงชัยหรือ แสง มักจะเลือกถ้วยชาใบสวย เตรียมไว้ให้แป๊ะเนี้ยวอย่างรู้ใจ เมื่อแป๊ะมาถึงก็แทบจะไม่ต้องเลือก ใส่ถุง จ่ายเงิน เดินถือไปเที่ยวคาราโอเกะต่อได้เลย แต่แสงก็เอ่ยปากร่ำๆ ว่าแป๊ะอาจจะต้องหาร้านรู้ใจใหม่เพราะคงจะต้องย้ายในไม่ช้านี้
ไม่เป็นไร เพราะแป๊ะมีเด็กที่รู้ใจอย่างเพ็ญอยู่แล้ว แสงย้ายไปก็ไม่กระทบกระเทือนสักเท่าไร
เพ็ญเป็นเด็กอีสานหน้าตาดี ที่อาศัยเสื้อคอกว้าง ซึ่งเวลาก้มแต่ละที เต้านมแทบจะหลุดออกมาทั้งยวง เป็นจุดดึงดูดแขก และอาแป๊ะก็จัดได้ว่าเป็นแขกขาประจำระดับวีไอพีของเพ็ญในช่วงหัวค่ำ
ป๋าขา วันนี้ป๋ามาฟังหนูร้องเพลงอีกแล้วเหรอคะ จริงๆ แล้วเพ็ญไม่ต้องถามก็ได้ เพราะแป๊ะก็มาพฤติกรรมนี้ทุกครั้ง
เพ็ญก็เลือกเพลงไป แป๊ะก็นั่งฟังไปอย่างเงียบๆ ตั้งแต่แป๊ะมาเที่ยวที่นี่ ไม่เคยได้ยินเสียงแป๊ะผ่านไมโครโฟนเลยสักครั้ง
เด็กในร้านอิจฉาเพ็ญมาก เพราะแป๊ะเนี้ยวมานั่งอย่างเดียว ไม่ร้องเพลง ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ที่สำคัญไม่ถูกเนื้อต้องตัวเพ็ญเลย ครบชั่วโมงก็จ่ายเงินพร้อมทิปอย่างงามให้กับนักร้องที่ร้องเพลงไม่ใช่มืออาชีพสักเท่าใด
แรกๆ ตอนที่แป๊ะมานั่งที่ร้านใหม่ๆ เพ็ญเคยเลือกเพลงจีน หวังจะให้แป๊ะโชว์พลังเสียง ปรากฏว่าแป๊ะโบกมือเป็นสัญญาณให้เพ็ญร้องในเพลงที่ตนเองถนัด แป๊ะของฟังอย่างเดียว
จนทุกวันนี้ แป๊ะรู้จักนักร้องวัยรุ่น แต่งตัวสีสันฉูดฉาดเกือบจะหมดทุกคนในประเทศไทย แต่ที่คุ้นหน้าเป็นพิเศษ คือนักร้องสาวรูปร่างท้วม ที่ชอบร้องเพลงด่าผู้ชาย
แป๊ะเคยอ่านเนื้อร้องของเพลงที่นักร้องหญิงคนนี้ร้องไว้ หลายประโยคที่แป๊ะชอบจับใจเหลือเกิน
บางประโยคบอกว่า ถ้าไม่รักจะห่วงไหม รู้ไหมเพราะผู้หญิงรักถึงได้หวง ได้ห่วง แสดงว่าทุกวันนี้ไม่มีใครรักแป๊ะน่ะสิ เพราะไม่มีใครหวงแป๊ะเลย
เผลอแป๊บเดียว ครบหนึ่งชั่วโมงแล้ว ถึงเวลาที่แป๊ะจะต้องกลับบ้านและก็ไม่ลืมที่จะหิ้วถุงพลาสติกที่บรรจุถ้วยชาติดตัวกลับไปด้วย
เมื่อเปิดประตูเข้าบ้านไป สิ่งแรกที่แป๊ะต้องทำคือการนำถ้วยชาไปเก็บบนตู้ไม้ที่แป๊ะอุตส่าห์ขนมาจากซัวเถาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ อายุของตู้ใบนี้รุ่นราวคราวเดียวกับอาหลิวเมียของแป๊ะเลย ถ้าจะห่างกันก็คงจะแก่กว่ากันแค่เดือนเท่านั้น
เก็บของโปรดเสร็จ ก็อาบน้ำขึ้นนอน ซึ่งเมื่อเปิดประตูห้องนอนไปก็พบภรรยารูปร่างท้วมกว่านักร้องสาวเมื่อสักครู่หลายเท่านักนอนหันข้างไปอีกทางของเตียง ไม่เห็นเหมือนกับเพลงที่ร้องเลย
อาหลิวไม่เคยซักไซ้ว่าแป๊ะไปไหนมา ทำไมกลับดึก นั่นแสดงว่า อาหลิวไม่หึงหวง ถ้าหากแปลตามตรรกะของเพลง อาหลิวไม่ได้รักแป๊ะแล้ว
แป๊ะรู้สึกถึงช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ ที่มีขนาดเท่ากับหมอนข้างหนึ่งใบ อยากจะกอดเมียใจแทบขาด ทำได้แต่เพียงยื่นหน้าข้ามสิ่งกีดขวาง เพื่อไปหอมที่ต้นแขนของอาหลิว ทั้งที่กลิ่นกายของหนูเพ็ญหอมกว่านี้หลายเท่า! หลายครั้งแป๊ะเนี้ยวพยายามดึงหมอนข้างออก เพื่อเขยิบตัวเข้าไปใกล้เมียสุดที่รัก แต่คำตอบที่ได้รับคือการดันตัวออก แล้วช่องว่างใบเดิมก็กลับมาที่เก่าอีกครั้ง หรือจะเป็นความกดดันที่สั่งสม!
หัวค่ำของวันรุ่งขึ้น หลายปีแล้วที่ไม่ได้กอดเมีย ประจวบกับวันนี้ทั้งวันขายของดีเป็นพิเศษ แป๊ะเนี้ยวครึ้มอกครึ้มใจทั้งวัน ร่างกายกระสันอยากเป็นหนุ่มเต็มแก่ คาดหมายโดยทีว่า นี่คือการปลดปล่อยความหนุ่มอีกครั้งกับหนูเพ็ญ เพ็ญจ๋า
คืนนี้ป๋าจะไปหาเธอ ปิดร้านแล้ว แป๊ะเนี้ยวแปลงร่างเป็นป๋าอีกครั้ง วันนี้ไม่เหมือนเมื่อวาน เพราะวันนี้อายุลดลงไปหลายสิบปี ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล ถ้วยชงถ้วยชาไม่ต้องซื้อแล้ว เพราะวันนี้ป๋าจะเผด็จศึก! เมื่อไปถึงร้าน บรรยากาศไม่เหมือนเคย ทุกที่จะมีสาวน้อยวิ่งมาคล้องหน้าคล้องหลัง แต่ครั้งนี้หน้าร้านเงียบเหงา มีเพียงมาม่าซังยืนหน้าเศร้าอยู่ที่หน้าร้าน ป๋าขา เพ็ญของป๋าถูกซื้อไปแล้ว หนูขอโทษนะคะ
แป๊ะเดินกลับบ้านด้วยใจห่อเหี่ยว แต่ไม่เดียวดายเท่ากับเมื่อเปิดประตูบ้าน พบจดหมายอยู่บนโต๊ะอาหาร อั๊วจะไปหาเพื่อนที่ต่างจังหวัดสักวันสองวัน เดี๋ยวก็กลับ ลงชื่อ อาหลิว เมีย love love ของแป๊ะนั่นเอง (เมีย love love แป๊ะขอยืมมาจากคาราโอเกะ)
เช้าวันที่ไม่สดใส แป๊ะนั่งขายอะไหล่เหมือนทุกวัน ข่าวร้ายซ้ำสามก็มาเยือนแป๊ะ เมื่อแสงชัยเดินเข้ามาในร้าน แจ้งว่าจะย้ายร้านไปต่างจังหวัด โลกของแป๊ะเนี้ยวถล่มทลาย เพื่อนที่รู้ใจกำลังจะเดินจากไปอีกคน
แสงชัยไม่รอให้แป๊ะร่ำร้อง เขายื่นสมบัติชิ้นแรกที่เขามีให้กับลูกค้า ที่ยกสถานะเป็นเพื่อนไปตั้งนานแล้ว
แก้วชาโบราณ ที่มีรอยร้าว
เป็นชุดแก้วพร้อมจานรองชุดแรกที่แสงชัยซื้อมา แม้ว่าจะมีรอยร้าว แต่แสงชัยก็เก็บรักษาเป็นอย่างดี แป๊ะรับไว้ด้วยใจระทม ขมขื่นเล็กๆ ที่เพื่อนขายแก้วกำลังจะจากไป เวลาที่กำลังไหลเหมือนสายน้ำช่างไร้ค่าเหลือเกิน
ปิดร้านแล้ว แป๊ะหันหลังกลับพร้อมในมือที่ถือชุดถ้วยชา ขวาหรือซ้าย
ไม่แปลกถ้าวันนี้จะประคองชุดถ้วยชาที่มีรอยร้าว มุ่งหน้าไปทางซ้าย
เพื่อกลับไปรอใครบางคน
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 11:13:40
แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 19:32:11
แก้ไขเมื่อ 02 ก.พ. 53 08:15:16
จากคุณ |
:
เปริมี่1
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ก.พ. 53 08:10:00
|
|
|
|