Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
วีน, เหวี่ยง, เวิ่นเว้อ  

ศัพท์แสงสามคำนี้สำหรับเราแล้วถือว่าวัยรุ่นมากๆ เวลานำมาพูดทีไร รู้สึกเหมือนอายุจะหายไป 10 ปี จริงๆ แล้วก็ไม่สามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคนคิดริเริ่มนำศัพท์ทั้งสามคำนี้มาใช้ โดยส่วนตัวแล้วสามคำสั้นๆ นี้เวลาออกเสียงแล้ว ให้ทั้งภาพ ทั้งภาพ ทั้งความรู้สึกได้เป็นอย่างดี

“วีน” เป็นการระบายอารมณ์ (เสีย) เมื่อมีเหตุการณ์ หรือบุคคลที่ไม่ได้ดั่งใจ โดยมิต้องคำนึงถึงหลักการ เหตุผล มารยาท และความเหมาะสมใดๆ ทั้งสิ้น ขอเพียงให้เหตุการณ์ หรือบุคคลนั้นๆ ไม่ได้ดั่งใจเป็นพอ การวีนนั้นต้องแสดงออกด้วย สายตา สีหน้า ท่าทาง และคำพูด โดยตรงต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาการไม่ได้ดั่งใจ และบุคคลอื่นๆ โดยรอบในสภาพแวดล้อมนั้นๆ

“เหวี่ยง” เป็นการแสดงออกถึงความไม่สบอารมณ์ต่อเหตุการณ์ หรือบุคคลที่ไม่ได้ดั่งใจเช่นเดียวกันกับ “วีน” เพียงแต่มีระดับความรุนแรงอาจจะน้อยกว่า “วีน” โดยอาการเหวี่ยงนั้นอาจจะมีการคำนึงถึงหลักการ เหตุผล มารยาท และความเหมาะสมบ้าง เล็กน้อยถึงปานกลาง โดยการเหวี่ยงนั้นอาจแสดงออกได้ทั้งโดยตรง และโดยอ้อม ด้วยสายตา สีหน้า ท่าทาง และคำพูด ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับความไม่สบอารมณ์โดยตรง และบุคคลอื่นๆ โดยรอบในสภาพแวดล้อมนั้นๆ

“เวิ่นเว้อ” เป็นการแสดงออกถึงความไม่จบไม่สิ้น ไม่ว่าจะเป็นการพูด การคิด และการกระทำ ต่อเรื่องๆ หนึ่ง หรือ คนๆ หนึ่ง ทั้งที่สบอารมณ์และไม่สบอารมณ์ สามารถกระทำได้คนเดียว สองคน หรือเป็นหมู่คณะ ขอเพียงมีความสนใจในเรื่องๆ นั้น หรือ คนๆ นั้น เหมือนๆ กันเป็นพอ และการเวิ่นเว้อนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องคำนึงมากนักถึง หลักการ เหตุผล มารยาท และความเหมาะสมใดๆ เช่นเดียวกับ “วีน” และ “เหวี่ยง” แต่ระดับความรุนแรงนั้นน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับสองคำข้างต้น

การให้คำนิยามคำทั้งสามคำข้างต้น เป็นการให้คำนิยามตามความรู้สึกส่วนตัว ที่อยากนำมาเผยแพร่ให้คนส่วนรวม ร่วมแสดงความคิดเห็น หรือร่วมวิจารณ์

โดยส่วนตัว (อีกแล้ว) คำสามคำนี้เป็นที่ใช้กันโดยทั่วไปในหมู่วัยรุ่น คนที่คิดว่าตัวเองยังเป็นวัยรุ่น รวมไปถึงคนที่แม้จะเกินวัยรุ่นไปนานแล้วแต่ยังไม่ยอมตกกระแส ซึ่งผู้ที่มีอาการดังกล่าวข้างต้นอาจจะมีภาพลักษณ์ที่ดีหรือไม่ดีก็ได้ในสายตาคนทั่วๆ ไป แต่มักจะได้รับการยอมรับ และชื่นชมอย่างจริงใจบ้าง ไม่จริงใจบ้าง จากบุคคลรอบข้าง ว่าเป็นคนที่ตรงไปตรงมา คนจริงใจ และแน่จริง

คำทั้งสามคำมีลักษณะเฉพาะร่วมบางอย่างที่เหมือนกัน คือ “การไม่ (ค่อย) คำนึงถึง หลักการ เหตุผล มารยาท และความเหมาะสม” จากลักษณะเฉพาะร่วมกันดังกล่าวจึงเกิดการอนุมาน (โดยส่วนตัว) ว่าทุกวันนี้สังคม และผู้คนในสังคม ต่างยอมรับได้ต่อค่านิยมในการแสดงออกทางความคิด คำพูด และการกระทำ ที่ไม่มีหลักการ ไม่มีเหตุผล ไม่มีมารยาท และไม่มีความเหมาะสม

ด้วยกระแสค่านิยมดังกล่าว อีกไม่นานคำว่า “กาลเทศะ” ซึ่งหมายถึง การคำนึงถึงหลักการ เหตุผล มารยาท และความเหมาะสม อาจจะต้องเป็นอีกหนึ่งคำที่ต้องถูกเก็บเข้าไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ เนื่องจากผู้ที่แสดงออกทางความคิด คำพูด และการกระทำ โดยคำนึงถึง “กาลเทศะ” อาจจะถูกตีความหมายได้ว่าเป็นคนไม่ตรงไปตรงมา ไม่จริงใจ ไม่แน่จริง และอาจไม่เป็นที่ยอมรับต่อสังคมโดยรวมได้

ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นการแสดงทางความคิดของผู้เขียน ผ่านทางตัวอักษร ซึ่งแม้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่แน่ใจว่าการแสดงความคิดเห็น (ที่คิดว่า) ตรงไปตรงมา ของตนเองจะ เข้าข่าย “วีน”, “เหวี่ยง” และ “เวิ่นเว้อ” หรือไม่
รู้สึกอย่างไรก็ช่วยกัน “วีน”, “เหวี่ยง” และ “เวิ่นเว้อ” กันมาก็แล้วกันนะคะ

แก้ไขเมื่อ 03 ก.พ. 53 19:58:40

จากคุณ : Mydarin
เขียนเมื่อ : 2 ก.พ. 53 18:53:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com