ความคิดเห็นที่ 1 |
อ้าว! วันนี้นายโตลาหรือนี่
ปรียานุชหูผึ่งเมื่อได้ยินเสียงพูดจากแผนกบัญชี ตอนแรกคิดว่าที่ไม่เห็นเขาวันนี้เพราะโดนเลี่ยงใส่เสียอีก แต่พอรู้ว่าลาก็ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาเหมือนกัน ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาได้สองสามเดือนยังไม่เคยพบว่าเขาลาเลยสักครั้ง แต่ที่แปลกใจจนอดสะกิดถามพี่ที่อยู่ในแผนกเดียวกันไม่ได้
พี่ดวง...พวกบัญชีเขารู้ได้ไงว่ามีคนลาน่ะ ก็เธอเห็นสาวๆบัญชีทั้งหลายนั่งอยู่กับที่เฉยๆ แผนกของโตมรก็อยู่ห่างไปไกล ถ้าไม่จงใจคงยากจะเจอ ถ้าเป็นแบบนี้แล้วรู้ได้อย่างไรกัน
ปกติเวลาใครลาเขาจะส่งอีเมล์บอกว่าใครหยุดบ้าง แต่เขาจะส่งให้เฉพาะพวกระดับหัวหน้าน่ะนะ พี่ดวงเอ่ยในขณะที่ง่วนกับงานของตนเองอยู่ พี่ดวงจะเป็นพวกทำงานในช่วงเวลางานรีบเร่งตลอดเวลาแต่เมื่อจบเวลาทำงานก็จะทิ้งทุกอย่างเพราะมีครอบครัวต้องดูแล
หนูดี มาที่นี่หน่อยสิ เสียงทุ้มของเจ้านายเรียกเธอเบาๆ ปรียานุชเลยละงานที่ทำอยู่แล้วไปคุยกับเจ้านายที่นั่งโต๊ะใหญ่อยู่ด้านหลังเธอ
ค่ะ มีอะไรหรือคะพี่จอก
ช่วยแปลงานตัวนี้ที จอมเทียนเอ่ยสีหน้าเคร่งขึ้น เรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่ไปพบที่ลูกค้า พวกฝั่งเซลส์เอ็นจิเนียร์บอกว่าเขาจะต้องรีบเข้าไปชี้แจงลูกค้าพรุ่งนี้ เลยขอให้เราช่วยแปลด่วนที่สุด เรื่องนี้มาศก็ช่วยลำบากด้วย เขายังไม่คุ้นแล้วพี่ไม่อยากให้มีอะไรผิดพลาดออกไปให้ลูกค้าเลยต้องให้หนูดีทำ มันเยอะ เดี๋ยวพี่ช่วยด้วย
ปรียานุชเห็นแล้วแทบร้องไห้กับปึกกระดาษสำหรับใช้ชี้แจงกับลูกค้าที่ว่านั่น มองอย่างไรก็คงยากที่จะใช้เวลาวันเดียวในการแปล แล้วยิ่งต้องส่งลูกค้ายิ่งแปลว่าต้องละเอียดกว่าปกติเสียด้วย แถมขนาดจอมเทียนแบ่งออกไปแล้วก็ยังไม่วายเยอะอยู่ดี
เด็กสาววางงานที่จับทั้งหมดแล้วมุ่งมั่นกับงานด่วนที่สุดชิ้นนี้ก่อนเพื่อน การเทียบแปลค่อนข้างยากลำบากจนเธอต้องเสียเวลาหาคำศัพท์อยู่นานเพราะมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดทางด้านวงจรไฟฟ้าในแบบที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ไม่ใช่คำที่เธอใช้ประจำจึงยิ่งหนักหนาเป็นสองเท่า
กระทั่งเลิกงานแล้วทุกคนกลับกันไปหมดเหลือเธอกับจอมเทียนยังนั่งทำงานง่วนกันอยู่ เบญจมาศอยู่เป็นคนสุดท้าย เธอช่วยทำงานจบงานที่เด็กสาวทำค้างไว้ก่อนที่จะรับงานด่วนตัวนี้มาทำจากนั้นเจ้าตัวก็วิ่งไปซื้อขนมปัง แซนด์วิช ไส้กรอกมาให้คนทั้งคู่ที่อาจจะต้องทำงานกันโต้รุ่งก็เป็นได้ จอมเทียนยิ้มปลอบใจเมื่อเห็นสีหน้ารู้สึกผิดที่ช่วยอะไรไม่ได้มากนั่น
รีบกลับเถอะ ไม่เป็นไรหรอก
ปรียานุชยังทำงานของตัวเองต่อไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เธอโทรศัพท์ไปที่บ้านเพื่อจะบอกว่าเธอคงกลับบ้านดึกมาก พี่ชายใหญ่ให้เธอโทรหาเขาถ้าจะกลับเขาจะได้ขับรถมารับแต่เจ้าตัวดูจะเป็นห่วงอยู่ดี เด็กสาวเลยปลอบเขาว่าอยู่ที่ออฟฟิศไม่น่าจะมีอะไร แต่พอวางสายแล้วจู่ๆก็นึกถึงคำโตมรขึ้นมาเกี่ยวกับเจ้านายของเธอ เมื่ออยู่เงียบๆแบบนี้ปรียานุชก็อดเหลือบไปอย่างหวาดระแวงไมได้ แต่ก็เห็นเจ้านายเธอยังคงนั่งทำงานเรียบร้อยจึงรีบสลัดศีรษะ ตำหนิตัวเองที่คิดอะไรอกุศลเช่นนั้น
ผ่านไปนานแค่ไหนเธอไม่แน่ใจ รู้แต่ว่ามีมือมาสัมผัสเส้นผมของเธอจากด้านหลังทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว หันขวับไปยังเบื้องหลังทันควัน ขนลุกเกรียวด้วยความหวาดกลัว แต่แล้วก็พบกับเจ้านายเธอที่เดินมาตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ เธอถอนใจโล่งอกแล้วคลี่ยิ้มออก
พี่จอกมาเงียบๆ หนูดีตกใจหมดนึกว่าผีหลอก
จอมเทียนยิ้มขัน
ทำงานไปถึงไหนแล้วหนูดี ไหนขอพี่ดูหน่อยสิ ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงนุ่มพลางเอื้อมมาจับมือเล็กๆของเธอที่จับเมาส์ค้างไว้อยู่ ปรียานุชตกใจจะชักมือออกแต่มือใหญ่นั่นกลับกุมยึดไว้แน่น เด็กสาวขมวดคิ้วชำเลืองมองเจ้านายซึ่งร่างสูงของเขาอยู่เบื้องหลังวางแขนอีกข้างลงบนโต๊ะกักตัวเธอเอาไว้
ไม่ว่าเขาจะจงใจหรือไม่แต่เธอก็เริ่มหวาดหวั่น ทว่ายังพยายามมองในแง่ดี
แปลไปได้เยอะแล้วค่ะ เธอนึกดีใจที่เสียงตัวเองไม่สั่นเท่าที่คิด แล้วพยายามจะหันไปด้านหลังเพื่อจะดันให้อีกฝ่ายถอยห่างออกไป ทางพี่เป็นอย่างไรบ้าง
ก็พอสมควร เขาเอ่ยเสียงนุ่มแต่ไม่ยอมถอยไปอย่างที่เธอตั้งใจ และดูเหมือนสถานการณ์ยิ่งดูแย่ลงกว่าเดิมเมื่อเขาละจากมือเล็กที่กำเมาส์แน่นของเธอมาที่ผิวแก้มเนียนใส เด็กสาวตัวแข็งทื่อ
หน้าเครียดเลยหนูดี เดี๋ยวหน้าเหี่ยวหมดพอดี นิ้วใหญ่ๆนั่นยังคงไล้ผิวแก้มลงมาจนถึงคอเล็กๆอย่างจงใจ แล้วลูบบริเวณต้นคอจนถึงกระดูกไหปลาร้า ปรียานุชขนลุกชันจนเกือบจะเป็นขยะแขยง จริงๆไม่ต้องรีบก็ได้ เก็บบางส่วนไว้ค่อยทำต่อวันพรุ่งนี้
มือนั่นยังคงพรมนิ้วลงบนผิวเนื้อเธอซึ่งตัวแข็งด้วยอาการช็อกไปแล้ว ร่างเล็กสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้เมื่อมือเขายังคงเลื่อนต่ำลงมา คราวนี้มันหายเข้าไปในคอเสื้อของเธอด้วยซ้ำ
ที่จริงทางนั้นเขาบอกว่าไม่ไปพรุ่งนี้แล้ว แต่พี่ไม่ได้บอกหนูดี เขาเอ่ยเสียงต่ำเมื่อริมฝีปากนั้นคลอเคลียอยู่ที่ขมับเธอ เห็นว่าเราไม่ค่อยมีโอกาสอยู่ด้วยกันเท่าไร พี่ชอบหนูดีนะ แล้วพี่รู้ว่าหนูดีก็ชอบพี่เหมือนกัน
สมองเธอสับสนวุ่นวายไปหมดแล้ว อยากจะขัดขืนต่อต้านแต่กลัวที่จะทำแบบนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกลัวแต่ก็กลัว ได้แต่นั่งนิ่งแข็งเป็นหินปล่อยให้เขาทำอะไรเกินเลยได้ตามใจโดยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เธอสะอื้นฮักตัวสั่นเทิ้ม อยากจะทำอย่างไรก็ได้เพื่อหนีจากสถานการณ์แบบนี้แต่ร่างสูงที่คุกคามเกือบจะกันการหนีของเธอโดยสมบูรณ์
ร้องไห้ทำไม หนูดีไม่ชอบหรือ ทั้งที่เขาถามแต่ยังคงไม่หยุดมือ ความรู้สึกขยะแขยงยิ่งพุ่งสูงขึ้นจนน้ำตาแหลกทะลัก
แล้วแบบนี้:-)ชอบไหม เสียงห้วนต่ำแทบคำรามลั่นอยู่เบื้องหลังแล้วจู่ๆร่างเล็กๆของเธอก็ได้รับอิสระเมื่อร่างสูงที่แทบจะคร่อมเหนือร่างเธอหายไป เธอรู้อีกทีคือเสียงล้มกระแทกพื้นของเจ้านายหนุ่มกับเสียงหอบหายใจอีกเสียงหนึ่ง ปรียานุชหันไปมองด้วยอาการตะลึง
พี่โต
เมื่อได้ยินเสียงแผ่วจากเธอ โตมรหันขวับมามองเธอ ใบหน้าออกคล้ำของเขาเคร่งเครียด ดวงตาดำระอุร้อนด้วยแรงอารมณ์
นั่งเฉยๆทำไมให้มันลวนลามเอาอยู่ได้ ปากมีทำไมไม่ร้อง
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้มข้นแล้วหันขวับไปมองคนที่ลงไปนอนกองกับพื้นแล้วยันตัวลุกขึ้นมองหน้าคนที่ทำร้ายร่างกายเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง
นายคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงได้เที่ยวมาต่อยหน้าคนอื่นเขา นี่มันเรื่องส่วนตัว!
ไอ้เรื่องทุเรศๆที่พี่ทำน่ะเหรอเรื่องส่วนตัว โตมรเอ่ยตอบหน้าเคร่ง ที่ผ่านมาพี่รอดมาได้ตลอด แต่คราวนี้คงยากแล้วล่ะ ผมเล่นพี่แน่!
นี่เป็นเรื่องของพี่กับหนูดี นายไม่เกี่ยว จอมเทียนลุกขึ้น จับแก้มของตัวเองที่โดนอีกฝ่ายซัด มองเขาด้วยสายตาเย็นชา แล้วอย่าคิดว่าตัวเองจะทำอะไรได้ ตอนนี้นายต่างหากที่จะเจอข้อหาทำร้ายร่างกาย โตมรแค่นเสียงหัวเราะ ร่างใหญ่ของเขาเดินตรงไปหาอีกฝ่ายด้วยท่าทางคุกคามเต็มที่ เสียงหักนิ้วกรอบแกรบกับใบหน้าถ:-)ทึงนั่นทำให้จอมเทียนถอยหลังไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เห็นชัดอยู่แล้วว่าเขารูปร่างเสียเปรียบเต็มประตู พี่พูดถูก ไหนๆก็อาจจะต้องเจอข้อหานี้แล้ว ก็เอาให้สะใจดีไหม ไม่ต้องห่วง ผมไม่เอาถึงขั้นทำให้ตัวเองเจอข้อหาพยายามฆ่าหรอก
จอมเทียนหรี่ตามองแค่นเสียงหยัน
จะทำอะไรคิดเสียก่อนไอ้โต นายอาจจะทำอะไรตอนนี้ได้ แต่ผลหลังจากนั้นนายน่าจะรู้ พี่จะทำให้นายเด้งก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือจะจัดการให้หนูดีมีปัญหาขึ้นประวัติแบล็กลิสต์ทำงานที่ไหนไม่ได้ก็ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย นายยอมแลกไหมล่ะ
ชายหนุ่มชะงักแล้วหันมามองร่างเล็กที่ยังนั่งช็อกอยู่แล้วหันกลับมามองคนที่ทำหน้าตาเหมือนคนเหนือกว่า จอมเทียนท้าทายเขาโดยการยืนกางแขนออกราวกับยอมให้ทำอะไรตามสบายผิดกับสีหน้ามั่นใจที่เจ้าตัวคิดว่าโตมรไม่ทำอะไรเขาแน่นอน
ทำไมพี่โคตรเลวอย่างนี้วะ ผมล่ะนับถือเลย! โตมรหัวเราะแค่นๆ ตั้งแต่ตอนน้องขวัญโดนพี่ลวนลามอยู่ทุกวันเพราะโดนขู่ว่าจะกระจายข่าวเสื่อมเสียจนทนไม่ไหวลาออกเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลไป จนมาถึงไอ้ดาพี่ก็ยังทำมันเสียจนต้องเข้าโรงพยาบาลประสาท มาคราวนี้ยังหนูดีอีก ผู้หญิงที่เขาเต็มใจเยอะแยะดันไม่เลือก ดันมาทำสั่วๆกับเด็กผู้หญิง ทำเอาอนาคตเขาป่นปี้ ไอ้วิปริตเอ๊ย!
ผู้หญิงแรดๆจะแตะไปทำไมล่ะ ไม่เห็นสนุก จอมเทียนเอ่ย เสียงเขายังคงทุ้มราบรื่น อย่างน้องขวัญนี่ก็ดี พี่ชอบเขาที่สุด สดอย่างนี้เลย นายไม่เข้าใจหรอก น่าเสียดายเหมือนกันนึกว่าจะเก็บไว้ได้นานกว่านี้ ส่วนน้องดาก็ไม่ถึงขนาดชอบ เป็นของว่างเสียมากกว่าเอาไว้แก้ขัดตอนที่ขวัญไม่อยู่ ส่วนหนูดี...
ชายหนุ่มหันมายิ้มให้กับเธอ รอยยิ้มเทพบุตรที่แฝงมัจจุราชไว้ภายใน
ไม่ต้องห่วง หนูดีไม่ได้เข้ารสนิยมพี่เท่าไร น้องมาศน่าสนใจกว่าแต่ไหนๆก็ไหนๆขอพี่ตามใจนิดหนึ่งแล้วปล่อยไปง่ายๆแน่นอน
ปรียานุชฟังคำพูดของเขาแล้วความรู้สึกรังเกียจราวกับอีกฝ่ายยิ่งกว่าสัตว์ชั้นต่ำโพยพุ่งกระแทกใจเธอจนแทบจะทานทน ตัวเธอสั่นเทิ้มสุดท้ายก็หลุดปากออกมาเบาๆ
สัตว์...
จอมเทียนหรี่ตามองพลางจุปากเบาๆ
พูดไม่เห็นเพราะเลยหนูดี อย่าทำให้พี่อารมณ์เสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นหนูดีได้มีปัญหาแน่
โตมรหัวเราะอีกครั้งเรียกความสนใจของทุกคนไปที่เขา
แล้วพี่คิดว่าตัวเองมีอำนาจชี้เป็นชี้ตายคนอื่นขนาดนั้นเลยหรือ กะแค่ผู้จัดการแผนกธรรมดา
นายจะลองดูก็ได้นะโต จอมเทียนเลิกคิ้ว กอดอกด้วยท่าทางสบายๆ ก็น่าจะรู้ไม่ใช่หรือว่าซีอีโอกับพี่เป็นพ่อลูกกัน ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำอะไรนี่
ขู่คนอื่นเพราะคิดว่าตัวเองมีแบ็คดีว่างั้น โตมรยังคงยิ้มเครียด แล้วถ้าท่านซีอีโอได้ยินแบบนี้ คิดว่าใครกันแน่ที่จะเด้ง
โตมรหยิบโทรศัพท์มือถือของตนเองขึ้นมา จอมเทียนหน้าเผือดลงทันทีเมื่อเดาได้ว่าบทสนทนาเมื่อครู่นั้นกำลังจะทำอันตรายเขาได้เพียงใด และก็ไม่ผิดไปจากที่คิด เสียงที่เขาพูดเมื่อครู่ปรากฏอยู่ชัดเจน คำถามที่โตมรล่อหลอกให้เขาพูดออกมาทำให้จอมเทียนเอ่ยเสียงลอดไรฟัน
ถ้านายกะเล่นงานพี่ด้วยไอ้นั่น นายกับหนูดีก็อย่าหวังว่าจะอยู่สบายเลย ใบหน้าปานเจ้าชายบิดเบี้ยว อ้อ...เป้าหมายหลักของพี่ไม่ใช่นายหรอก หนูดีต่างหาก นายจะเสี่ยงไหมล่ะ
โตมรเข้าไปใกล้แล้วคว้าคอเสื้อของจอมเทียนขึ้นแล้วซัดอีกหมัดเข้าไปที่แก้มอีกข้างหนึ่งของจอมเทียนจนอีกฝ่ายกระเด็นไปกระแทกกำแพงติดฝาข้าง ชายหนุ่มร่างบางกว่าเจอเข้าอีกครั้งเล่นเอามึน จนเมื่อเขาตั้งตัวได้ ดวงตาเขาแทบลุกวาวทว่ายังไม่ทันพูดอะไร โตมรก็มองด้วยสายตายิ้มขันแต่ตาวาววับอย่างน่ากลัว
พี่อย่าคิดสิว่าตัวเองมีแบ็คดีคนเดียวแล้วคนอื่นเป็นหมาหมดดิ ช่วยไม่ได้ถือว่าพี่ทำให้ผมหมดความอดทนเองนะ ร่างสูงใหญ่นั่นกอดอกมองหน้าเขา ถ้าพี่บอกว่าเป็นลูกซีอีโอของที่นี่ แล้วจะว่าอะไรไหมถ้าบอกว่าผมเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทนี้ที่จ้างพ่อพี่มาเป็นซีอีโอนั่นแหละ
จอมเทียนเบิกตาคว้าง กำลังจะพ่นคำผรุสวาทออกมาก็ต้องกลืนลงกะทันหัน ในขณะที่ปรียานุชหันไปมองอีกฝ่ายบ้างเช่นกัน
แต่พี่จะไม่รู้ก็ไม่แปลกนี่ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องไปป่าวประกาศอะไร เผลอๆพนักงานในนี้จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าใครเป็นเจ้าของบริษัท คิดว่าซีอีโอเป็นทั้งนั้น โตมรยักไหล่ จะเป็นยังไงนะถ้าผมเอาไอ้ที่อัดเสียงพี่ไว้นี่ให้พ่อฟัง ไม่ต้องห่วง คนที่กระเด็นอาจไม่ใช่พี่คนเดียว อาจเป็นพ่อพี่ด้วยก็ได้ฐานที่ทำให้เกิดเรื่องทุเรศพรรค์นี้ในบริษัทได้
คนเอ่ยยังลอยหน้าลอยตากวนประสาท กลับมาเป็นโตมรคนเดิมที่อารมณ์ดีเป็นนิจแม้เรื่องที่เขาพูดจะไม่ทำให้คนฟังอารมณ์ดีได้เลย จอมเทียนแทบหน้าเครียดทันที
แก!
อ้อ...ส่วนที่พี่จะขู่หนูดีน่ะ พี่นี่ช่างไม่รู้เลยนะว่าลูกน้องพี่น่ะลูกเต้าเหล่าใคร โตมรเอ่ยเย้ยหยันไม่เลิกรา ลูกสาวเจ้าของบริษัทผลิตพีซีบีรายใหญ่ของประเทศ ก็เหมือนกันถ้าหนูดีฟ้องเรื่องนี้กับพ่อ อนาคตซีอีโอของพ่อพี่กับตัวพี่เองในกลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคส์จบแน่นอน อีกอย่างพี่ชายกับญาติผมหลายคนก็เป็นพวกข้าราชการการเมืองเหมือนกัน เกิดผมอยากให้ชีวิตพี่เจอแต่ปัญหาน่ะ มันก็ไม่ยากนักหรอก อยากให้เป็นเรื่องไหนดี เรื่องงาน เรื่องครอบครัว เรื่องธุรกิจ? รับรองผมสนองให้พี่ถึงใจแน่
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงคล้ายล้อเล่นแต่แววตาของเขาบอกว่าเขาเอาจริงทุกคำ
ที่จริงผมกะเล่นพี่ตั้งแต่ตอนไอ้ดาแล้วแต่ยังไม่มีหลักฐาน ผมคงกะแค่ขอให้พี่ลาออกเพราะอย่างน้อยพี่ก็ทำความดีให้กับบริษัทนี้ไม่น้อย เขาเดินลากเก้าอี้ที่อยู่ข้างปรียานุชมานั่ง ตวัดตามองร่างเล็กป้อมที่ยังนั่งนิ่งด้วยสายตาห่วงใยและกลับไปมองคนหน้าตากราดเกรี้ยวที่ยังนั่งค้างอยู่กับพื้น แต่เผอิญพี่เลือกเหยื่อพลาดไปหน่อย ดันมาเลือกคนสำคัญของผมเข้า ผมคงจบที่แค่ให้พี่ลาออกไม่ได้แล้วล่ะ
นายคิดจะทำอะไร จอมเทียนเอ่ยเสียงกระด้าง ใบหน้าที่หล่อเหลานั่นไม่เหลือความภูมิฐานสง่างามอีกต่อไป
ก็มีให้เลือกหลายวิธีอยู่ โตมรเอ่ยเรื่อยๆ เขากอดอกพิงเก้าอี้ไขว่ห้างอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่โยนพี่ให้ตำรวจ ใช้อะไรเล็กๆน้อย แต่งหลักฐานยัดเยียดข้อหาก็น่าจะไม่ยาก ให้พี่อยู่ในนั้นไปตลอดชีวิตก็น่าจะพอได้ หรือไม่ก็ทำบัตรสนเท่ห์กระจายไปตามบริษัทต่างๆเกี่ยวกับเรื่องพี่เหมือนที่เคยขู่น้องขวัญดีไหม แล้วก็ทำเรื่องแบล็กลิสท์กระจายไปที่ต่างๆ เอ...ไม่แน่ใจว่าพวกเครดิต บูโรจะทำได้หรือเปล่านะ ไหนๆก็จะดิสเครดิตแล้วก็ทำให้มันครบกระบวนการไปเลย น่าจะไม่เลวพี่จะได้รู้สึกบ้างว่าตัวเองทำอะไรลงไป
ดูเหมือนยิ่งพูดสีหน้าของคนข่มขู่ก็ค่อยๆยิ้มมากขึ้นในขณะที่คนฟังหน้าซีดลงเรื่อยๆ
แต่ที่จริงผมก็คงไม่ทำถึงขนาดนั้นไม่ต้องห่วง โตมรเอ่ยด้วยเสียงจริงจังขึ้น ถ้าพี่ยอมก้มกราบเท้าน้องขวัญกับไอ้ดาเพื่อขอโทษ รวมทั้งกราบหนูดีตรงนี้ ผมจะให้เรื่องจบแค่พี่ลาออกจากบริษัทเท่านั้น เดี๋ยวผมตามน้องเขามาให้พี่กราบถึงที่ไม่ต้องห่วง ว่าไงข้อเสนอไม่เลวใช่ไหม
หน้าจอมเทียนเผือดลง กรามขบกันแน่นจนน่ากลัวจะแตกได้ง่ายๆ เขาแทบถลึงตาใส่ชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้เหนือเขา แทบกระดิกขาด้วยท่าทีเย้ยหยันยิ่ง จากความคิดที่ตัวเองได้เปรียบกลับกลายเป็นเสียเปรียบจนยากที่จะยื่นเงื่อนไขต่อรอง ไอ้ยักษ์นี่คงไม่บลัฟเขาเรื่องที่พ่อมันเป็นเจ้าของบริษัทหรอก เพราะถ้ามันโกหกแล้วความแตก มันนั่นแหละที่เสียยิ่งกว่าเสีย
เป็นครั้งแรกที่จอมเทียนแค้นแทบกระอัก!
โตมรไม่สนใจใบหน้าซีดที่กลายเป็นเข้มด้วยแรงอาฆาตในใจ ชายหนุ่มเลื่อนเก้าอี้มาอยู่ข้างๆปรียานุชซึ่งนั่งประสานมือบนตักเป็นตุ๊กตาตั้งแต่แรกที่เขาปรากฏตัว มือใหญ่เขาพลางตบลงบนพนักด้านหลังเก้าอี้เบาๆ ไม่กล้าแตะต้องตัวเธอในยามนี้
ว่าไง น้องเขานั่งรออยู่ตรงนี้ให้โอกาสพี่นะ ผมคงให้เวลาพี่คิดได้แค่แป๊บเดียวเท่านั้น มันดึกแล้ว ผมรับอาสาพี่ชายเขาให้พาเขาไปส่งที่บ้านเสียด้วย
สิ่งที่โตมรเอ่ยค่อยๆซึมผ่านเข้ามาในสมองรับรู้เหตุการณ์ของปรียานุชช้าๆ เธอหันขวับไปมองชายหนุ่มร่างยักษ์ที่นั่งข้างตัวด้วยสีหน้าฉงนสุดขีดในขณะที่โตมรยังคงไม่สนใจ เขายังมองเขม็งไปยังชายหนุ่มหน้าขาวที่นั่งกับพื้นค้างอยู่อย่างนั้น
เอาล่ะ ผมขี้เกียจรอแล้ว ยายหมวกแดงเก็บของเร็ว ชายหนุ่มเอ่ยสั้นๆพลางมองเธอแล้วพยักหน้าให้เธอจัดการกับเอกสารที่โต๊ะที่ว่า ปรียานุชยังคงไม่เป็นตัวของตัวเองจนโตมรถอนใจลุกขึ้นเก็บของด้วยตัวเอง ปรียานุชจึงช่วยเขาเก็บแต่ก็ด้วยอาการไม่ต่างจากตุ๊กตาไขลาน จนในที่สุดเมื่อคอมพิวเตอร์ปิดลง ชายหนุ่มจึงหันไปมองอีกฝ่ายซึ่งยังคงนั่งครุ่นคิดสีหน้าเผือดอยู่อย่างนั้นแล้วก็ยักไหล่
ถือว่าผมให้โอกาสพี่แล้ว พี่ปล่อยมันไปก็เรื่องของพี่ ผมก็คงไปทำเรื่องของผมต่อล่ะ ถึงเวลาพี่จะเป็นยังไงตอนนั้นพี่คงรู้เอง ว่าจบมือใหญ่ของโตมรก็ก้มลงกระตุกหูกระเป๋าถือของปรียานุชเพื่อดึงให้เดินตามมาด้วยกันโดยไม่เสี่ยงที่จะแตะต้องตัวเธอในตอนนี้
รอเดี๋ยว เสียงทุ้มของจอมเทียนเอ่ยสั้นๆ เมื่อคนทั้งคู่หันมามอง เขาก็กล้ำกลืนอะไรบางอย่างก่อนบอกเสียงเรียบ พี่จะทำ
ชายหนุ่มเลิกคิ้วแล้วหันมามองเด็กสาวหน้าเซียวที่อยู่ข้างกาย เมื่อจอมเทียนลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาใกล้ร่างป้อมนั่นแทบผวาเบียดเข้าใกล้เขาจนโตมรกระชับมือเข้ากับต้นแขนดึงรั้งเธอให้เข้ามาใกล้ สัมผัสที่บอกชัดถึงความเป็นมิตรและให้กำลังใจนั่นทำให้เธออุ่นใจขึ้นมา
จอมเทียนนั่งลงคุกเข่าตรงหน้าร่างป้อมนั่น แล้วพนมมือก้มลงกราบแทบเท้าเล็กนั่นค้างอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้น ตลอดเวลาดังกล่าวเขาไม่มองหน้าเธอแม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มร่างยักษ์ข้างตัวขมวดคิ้ว
พี่กะจะกราบอย่างเดียวไม่คิดขอโทษเขาเลยหรือไง
ชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่หน้าเผือดสี กลืนอารมณ์โกรธลงแล้วเงยหน้าขึ้นสบตาเธอแล้วหลบตาลง
พี่ขอโทษหนูดี
โตมรมองหน้าเด็กสาวซึ่งมือเล็กๆที่ยึดเสื้อยืดเขาไว้กำแน่นเข้า ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยนซึ่งปรียานุชแทบไม่เคยได้ยินจากเขา
เอาไงยายหมวกแดง พอใจไหม
ปรียานุชเงยหน้ามองเขาอย่างไม่แน่ใจแล้วหันกลับไปมองร่างสูงที่ยังคุกเข่าตรงหน้าด้วยท่าทีลังเล ใจจริงอยากจะทำร้ายเขามากกว่านี้ แต่เมื่อเห็นร่องรอยที่โตมรพยายามกู้ศักดิ์ศรีให้แก่เธอซึ่งปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลานั่น เพียงแค่นั้นความอบอุ่นก็วาบเข้ามามากพอที่เธอต้องการยุติทุกอย่างให้จบลง ไม่ต้องการรื้อฟื้นสิ่งเลวร้ายที่เพิ่งเกิดขึ้นนั่นขึ้นมาอีก
ไปกันเถอะพี่โต
ชายหนุ่มดึงเธอให้หันหลังเดินจากไปอย่างว่าง่ายทิ้งให้คนแข็งทื่อเป็นหินนั่นให้นั่งค้างอยู่ตรงนั้นคนเดียวโดยไม่สนใจอีกต่อไป
แก้ไขเมื่อ 04 ก.พ. 53 23:24:52
จากคุณ |
:
peiNing
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ก.พ. 53 23:24:14
|
|
|
|