Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Hyo no oujo (เจ้าหญิงน้ำแข็ง) vote  

เสียงกริ่งช่วงพักกลางวันดังขึ้น นักเรียนส่วนหนึ่งที่ไม่มีข้าวกล่องมาทานในโรงเรียนเริ่มทะยอยออกจากห้องเพื่อไปยังโรงอาหาร เหลือเพียงนักเรียนบางส่วนที่นำข้าวกล่องมาซึ่งบางกลุ่มก็นั่งทานกันในห้องเรียน

แต่บางกลุ่มก็ไปหาที่ทานกันที่อื่น สำหรับ ซาการะ โคซึเกะ เด็กชายมัธยมปลายธรรมดาคนหนึ่ง ตามปกตินั้นเขาก็ชอบที่จะเอาข้าวกล่องไปนั่งทานกับเพื่อนบนชั้นดาดฟ้า แต่พักหลังการนั่งทานในห้องเรียน คอยเฝ้าสังเกต ‘ไอซ์พริ้นเซส’ ดูจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยกว่า

ไอซ์พริ้นเซส ที่ว่าเป็นฉายาที่คนทั้งโรงเรียนตั้งให้กับ ยูคิโอมิ นัตสึมิ เด็กสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นออสเตรเลีย ซึ่งเธอมักจะนั่งทานข้าวกลางวันเพียงลำพังเสมอ ๆ ไม่ใช่ว่า นัตสึมิ เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นยาก เพียงแค่เธอไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาให้ใครเห็นเลยเท่านั้นเอง สำหรับเด็กสาวผมทรงทวินเทลสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีฟ้า ผิวสีขาวอมชมพู มันก็ทำให้เธอนั้นดูโดดเด่นกว่าใครอยู่แล้ว การที่เธอมีนิสัยแบบนั้นก็เลยยิ่งทำให้เธอเด่นมากขึ้นไปอีก

หากแต่คนทั้งโรงเรียนก็ไม่ได้เกลียดเธอ หรือมองเธอเป็นตัวประหลาด เพราะบ่อยครั้งทุกคนก็จะเห็นเธอทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะงานกีฬาประจำปี งานโรงเรียนต่าง ๆ และที่สำคัญเธอยังเป็นมือเบสให้กับชมรมดนตรีของโรงเรียนอีกด้วย เรียกว่าทั้งกีฬา ดนตรี การเรียนของเธอทำออกมาได้ดี แม้จะไม่ได้ดีสุดโต่งเหมือนพวกนักเรียนดีเด่น หรือ นักกีฬาดีเด่นประจำโรงเรียน นั่นก็มากพอที่จะทำให้คนทั้งโรงเรียกยกตำแหน่ง ‘พริ้นเซส’ ให้กับเธอ ติดแค่ว่าเธอไม่เคยแสดงอาการยิ้ม หรือหัวเราะออกมาเลยสักครั้ง จริง ๆ ต้องบอกว่า แม้แต่อารมณ์โกรธ เสียใจ ก็ไม่เคยมีใครได้เห็นเลยสักคน
ทุกคนเลยเติมคำว่า ‘ไอซ์’ ให้กับคำว่า ‘พริ้นเซส’ ไป

โคซึเกะนั้นเองแม้จะเป็นเพื่อนร่วมห้องเดียวกับนัตสึมิมาถึง 2 ปี เขาก็ไม่เคยเห็นนัตสึมิแสดงอาการต่าง ๆ ที่ว่าเลย เธอกลับเป็นเด็กผู้หญิงที่เรียบเฉยไปกับทุกสิ่ง แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาสนใจในตัวนัตสึมิจนถึงขั้นต้องมาเฝ้ามองเธอในช่วงพักกลางวันเช่นนี้

แต่เรื่องที่โคซึเกะสนใจกลับเป็นเรื่องที่ พฤติกรรมของนัตสึมิที่แปลกไปในระยะหลัง ไม่ใช่เรื่องว่าเธอเกิดมีอารมณ์เฮฮาร่าเริง หรือโมโหเสียใจเหมือนคนปกติ แต่มักมีคนพบนัตสึมิในที่เกิดเหตุ ‘ฆาตกรรม’ บ่อยครั้ง คนที่พบก็คือเจ้าหน้าที่สืบสวน ญาติของเขา ซาการะ ฮิไคอิ นั่นเอง

ฮิไคอิ มักจะพบเด็กสาวคนนี้แทบจะทุกครั้งในช่วงเช้า ณ จุดที่เกิดเหตุ ‘ฆาตกรรมปริศนา’ ฮิไคอินั้นจำเครื่องแบบนักเรียนซึ่งเป็นโรงเรียนเดียวกับโคซึเกะได้ ยิ่งฮิไคอิบรรยายลักษณะของเด็กสาวในที่เกิดเหตุให้โคซึเกะฟัง
มันยิ่งเจาะจงตัวลงไปได้อย่างดีว่า คือ นัตสึมิ เลยทำให้เขาต้องมารับอาสาให้คอยสังเกตพฤติกรรมของนัตสึมิแทยฮิไคอิ
ที่ไม่สามารถมาสังเกตการณ์ถึงภายในโรงเรียนได้

ป้าบ!!!

“เฮ้ย!! โคซึเกะ เหล่สาวรึไงน่ะ” นักเรียนชายคนหนึ่งตบเข้าที่แผ่นหลังของเขา ก่อนที่จะพูดออกมา มันเกือบทำให้เขาสำลักขนมปังที่กำลังเคี้ยวอยู่เลยทีเดียว

“ไอ้บ้าคาสึกิเอ้ย!! อย่าเล่นแบบนี้เซ่” โคซึเกะหันไปหงุดหงิดทันที เพราะเพื่อนของเขาดูจะแหย่เขาแรงเกินไป แต่โคซึเกะไม่ได้โกรธอะไร ก็แค่ไม่พอใจนิดหน่อยเท่านั้นเอง เขายังคงทานขนมปังกับนมต่อไป โดยคาสึกิเอาเก้าอี้มานั่งที่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

“เอานา…ว่าแต่พักนี้นึกยังไงไปสนเจ้าหญิงน้ำแข็งได้ล่ะนายน่ะ?” คาสึกิแหย่โคซึเกะ ด้วยเพราะสังเกตเห็น
โคซึเกะนั้นจด ๆ จ้อง ๆ นัตสึมิเกือบจะ 1 อาทิตย์ได้แล้ว

“หืม? ท่าทางของฉันสังเกตเห็นได้ง่ายขนาดนั้นเชียว” โคซึเกะย้อนถาม ก็เขาแค่นั่งทานอาหารกลางวันในห้องเท่านั้นเอง ไม่ได้นั่งจ้องนัตสึมิตลอดเวลาซะเมื่อไหร่

“คนอื่นอาจจะไม่สังเกต แต่พวกฉันมองแกออกโคตรง่ายเลยล่ะ ไอ้คนที่กินข้าวเที่ยงบนดาดฟ้าเกือบทุกวัน อยู่ ๆ มานั่งกินในห้องที่ทั้งห้องมีคนกินอยู่ไม่กี่คนแบบนี้ แถมไม่มีคู่กินด้วยกัน มันจะมีอะไรถ้าไม่ได้มาติดสาว” คาสึกิร่ายยาวเป็นฉาก ๆ พูดซะยังกับว่าโคซึเกะกำลังติดสัดอยู่แบบนั้นล่ะ

โคซึเกะที่รับฟังอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้โต้แย้งอะไรออกไป เพราะพฤติกรรมของเขาก็ผิดสังเกตไปจริง ๆ หากแต่ดูเหมือนนัตสึมิที่น่าจะสังเกตเห็นเรื่องนี้ด้วยนั้น กลับไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจเลยสักนิด เธอก็ยังคงอยู่ที่เดิมให้เขาเฝ้ามองตลอดเวลา

โคซึเกะเคี้ยวขนมไปพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ก่อนที่จะถามคาสึกิขึ้นเบา ๆ
“นายว่า นัตสึมิ เนี่ยน่ารักรึเปล่า?”

คาสึกิที่นั่งเท้าคางอยู่ เหลือบมามองโคซึเกะนิดหน่อย มันเป็นคำถามแปลก ๆ ที่อยู่ ๆ คนอย่างโคซึเกะจะเอ่ยถามขึ้นมาได้
“คงจะสวยแต่รูป แต่จูบไม่หอมล่ะมั้ง” คาสึกิตอบด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย แต่มันก็ไม่ใช่คำตอบที่นอกเหนือความคาดหมายของโคซึเกะสักเท่าไหร่ แน่ล่ะ เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่ไม่เคยแสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย มันคงดูน่าเบื่อ และจืดชืดสุด ๆ เลยเชียวล่ะ

“เฮ้ย อย่าบอกนะว่านายจะจีบแม่นั้นน่ะ” คาสึกิเป็นฝ่ายหันมาถามกลับพร้อมรอยยิ้มกวนประสาท

“ยังไม่ได้คิดไปไกลถึงขนาดนั้น” โคซึเกะตอบกลับไป เขาไม่ได้ปฎิเสธสิ่งที่คาสึกิถามเพราะเขาเองก็ยอมรับว่าให้ความสนใจในตัวนัตสึมิพอสมควร บางทีเขาเองก็อยากเห็นซักครั้งว่าถ้า เจ้าหญิงน้ำแข็งผู้นี้จะยิ้มสักครั้ง มันจะน่าดูมากขนาดใหน

นัตสึมิที่ทานข้าวเสร็จแล้ว เธอค่อย ๆ หอกล่องข้าวให้เรียบร้อยก่อนเก็บใส่กระเป๋า กิริยาท่าทางเธอค่อนข้างเรียบร้อยดูแล้วเย็นเป็นน้ำแข็งจริง ๆ

“เฮ้ นัตจัง” นักเรียนสาวคนหนึ่งเดินเรียกเธอมาจากทางหลังห้อง นัตสึมิหันไปทางต้นเสียงช้า ๆ สีหน้าของเธอยังคงเรียบเฉยแบบสุด ๆ

“หืม มีอะไรเหรอโนโซมิจัง?” มันช่างเป็นประโยคคำถามที่ราบเรียบ เฉยชาซะจริง ๆ แต่ทุกคนก็ ‘ชิน’ ซะแล้วล่ะ

โนโซมิ นักเรียนสาวห้อง C ที่อยู่ชมรมดนตรีเธอเป็นมือกีต้าร์ และร้องนำให้กับวง มักจะมาหานัตสึมิที่ห้องบ่อย ๆ
ทั้งสองดูสนิทสนมกันพอสมควร นั่นเป็นสิ่งยืนยันว่านัติสึมิไม่ใช่คนที่มนุษย์สัมพันธ์แย่แต่อย่างใด เว้นแต่จะมีใครบอกว่าโนโซมิเป็นพวกมนุษย์สัมพันธ์ดีเลิศเกินกว่ามนุษย์ปกติทั่วไป

โนโซมิเท้าเอว ยืนยืดตัวตรงหน้านัตสึมิ เธอยิ้มกว้างออกมาเหมือนดีใจอะไรซักอย่างหนึ่ง
“ฮึ่ม อาจารย์อนุมัติให้พวกเราไปเข้าค่ายฝึกดนตรีพร้อมพวกรุ่นน้องที่โอกินาว่าได้แล้วล่ะ”
น้ำเสียงของโนโซมินั้นแสดงความดีใจออกมามากมาย เพราะการที่ได้ไปเข้าค่ายนอกสถานที่กับโรงเรียนมันก็เหมือนการได้ไปเที่ยวที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยนั่นล่ะ

แม้ว่าโนโซมิจะแสดงสีหน้าดูมีความสุขสุด ๆ แต่นัตสึมิก็ยังคงนิ่งเฉยได้สุด ๆ เช่นกัน เธอก็ยังคงวางสีหน้าเรียบเฉยแล้วพูดออกไป
“เธอว่า พวกเราจะได้ซ้อมดนตรี หรือ เที่ยวเล่นตลอดเวลาเหมือนพวกสาว ๆ K-on ล่ะ” นัตสึมิยิงคำถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอพูดถึงสาว ๆ วง K-on ซึ่งเป็นการ์ตูนที่ได้รับความนิยมมากในเวลานี้ โดยตัวละครสาว ๆ ในเรื่องอยู่ชมรมดนตรี พวกเธอมักไปเข้าค่ายบ่อย ๆ แต่มันจะไปจบที่พวกเธอเหล่านั้นใช้เวลาไปกับการเล่นน้ำ เที่ยวเล่นซะจนไม่ได้หยิบเครื่องดนตรีขึ้นมาซ้อมเลย

โนโซมิที่ได้ยินแบบนั้นเธอจึงเอามือทั้งสองมาดึงแก้มของนัตสึมิทันที
“ออกค่ายมันก็ต้องเที่ยวเล่นกันสิยะ ถ้าจะซ้อมไม่ต้องออกไปใหนก็ได้แล้วล่ะมั้งเธอเอ๋ย”

นัตสิมิที่ถูกดึงแก้มไม่ได้แสดงอาการเจ็บปวดใด เธอยังคงวางสีหน้าเฉยชาเหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น เธอพูดกับโนโซมิทั้ง ๆ ที่โดนดึงแก้ม
“อ้อไอ่ไอ้อ้าอาไอ แอ๊อามอูเอ๋ยเอ๋ย” มันไม่ได้เป็นภาษาคนซักเท่าไหร่ ก็เธอโดนดึงแก้มกางซะขนาดนั้นนี่นา

โนโซมิปล่อยแก้มของนัตสึมิออก นัตสึมิได้แต่เพียงเอามือลูบแก้มของเธอเบา ๆ โดยไม่ได้แสดงอาการใด ๆ ออกมาเลยสักนิด
“จะไปได้รึเปล่าล่ะ นัตจัง?” โนโซมิกลับมาถามนัตสึมิด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล คงเพราะแม้นัตสึมิจะร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นประจำ แต่หลายคนก็ทราบดีว่า นัตสึมิเองก็มีภาระทางบ้านที่ต้องดูแลแม่ซึ่งป่วยอยู่ ทำให้เวลาไปใหนไกล ๆ เธอมักจะไม่ได้ร่วมเดินทางไปกับทุกคน

นัตสึมิยังคงลูบแก้มที่แดงอยู่ เธอไม่ได้แสดงสีหน้าหนักใจอะไร ดูเหมือนว่าเธอจะตัดสินใจบางอย่างได้แล้ว
เธอเงยหน้าขึ้นมองโนโซมิที่ยืนอยู่อย่างช้า ๆ

“ไปได้นะ คุณแม่ของฉันเสียไปแล้ว ไม่ต้องดูแลใครอีกแล้วล่ะ” น้ำเสียงของเธอราบเรียบ แต่คำตอบของเธอทำเอาคนทั้งห้องที่ฟังทั้งสองคุยกันอยู่ตกตะลึง

นั่นก็เล่นเอาโคซึเกะที่ฟังอยู่แทบสำลักนมออกมาทีเดียว
อะไรนะ แม่ของนัตสึมิเสียไปแล้ว ก็ตอนต้นเทอมนัตสึมิยังคงดูแลแม่อยู่เลยนี่นา
เมื่อไหร่กัน?
ยังไง?
คำถามผุดขึ้นในใจของคนที่อยู่ในห้อง ณ เวลานั้นทันที

นักเรียนหญิงหลายคนเดินไปห้อมล้อมนัตสึมิ บ้างก็ถามไถ่ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น บ้างก็ปลอบใจ จนโนโซมิเข้าไปไม่ถึงตัวนัตสิมิเลย โคซึเกะเองแม้จะไม่ได้เดินไปหานัตสึมิแต่ก็นั่งมองไกล ๆ ด้วยความสงสัย

‘ทำไมเธอไม่บอกเพื่อนในห้องเลยซักคนล่ะ’

คาสึกิถอนหายยาวออกมาเมื่อเห็นภาพดังกล่าว
“ยัยนั่นไม่กะจะบอกให้ใครรู้เรื่องเลยรึไงน้า ไม่คิดว่าคนอื่นเป็นเพื่อนเลยรึยังไง” เขาบ่นออกมาเบา ๆ ซึ่งโคซึเกะที่ฟังอยู่ก็รู้สึกไม่ค่อยต่างกันนัก เพียงแต่เขามองในแง่ดีว่า บางทีครอบครัวของนัตสึมิคงต้องการความเป็นส่วนตัวเลยไม่ได้ให้นัตสึมิบอกใครในห้อง ตอนนี้ครอบครัวของนัตสึมิคงเหลือเพียงคุณพ่อที่มักไปทำงานยังที่ไกล ๆ เพียงคนเดียวแล้วสินะ เธอถึงได้ตอบตกลงที่จะไปออกค่ายกับโนโซมิได้แบบนั้น

แม้ว่านัตสึมิจะกล่าวเรื่องการสูญเสียแม่ออกมา แต่สีหน้าเธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยสักนิดยังคงเรียบเฉย เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูท่าทางคนรอบข้างเธอยังเป็นเดือดเป็นร้อนมากกว่าตัวเธอเองซะอีก ถึงจะเป็นอย่างนั้นคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะเชื่อว่านัตสึมิก็คงเสียใจ เพียงแต่เธอไม่ได้แสดงออกมาให้ใครเห็นเท่านั้นเอง

เสียงกริ่งเข้าเรียนในช่วงบ่ายดังขึ้น โนโซมิจำต้องกลับห้องไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้คำตอบเป็นกิจลักษณะ เพราะเธอฝ่าฝูงเพื่อนร่วมชั้นของนัตสึมิเข้าไปไม่ได้เลย คาบบ่ายวิชาที่เรียนสอนโดยอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น เพื่อนในห้องจึงถือโอกาสนี้บอกเรื่องที่แม่ของนัตสึมิเสียให้อาจารย์ทราบ ซึ่งแม้แต่อาจารย์เองก็ยังไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน นัตสึมิเลยโดนบ่นไปพอสมควร จึงทำให้คนในห้องได้ทราบว่า แม่ของเธอเสียไปได้เกือบสองเดือนแล้ว โดยที่เธอไม่ได้บอกใครนั้นเพราะพ่อของเธอต้องการจัดงานอย่างเงียบ ๆ จึงทำให้มีเพียงญาติ และเพื่อนที่สนิทของแม่และพ่อของเธอเท่านั้น

โคซึเกะเดาสาเหตุว่าคงเพราะแม่ของนัตสึมิไม่ใช่คนญี่ปุ่น แต่เป็นชาวออสเตรเลียซึ่งทางบ้านฝ่ายพ่อของนัตสึมิคงไม่ชอบเท่าไหร่ จึงทำให้พ่อของนัตสึมิไม่ต้องการให้งานศพเป็นเรื่องเอิกเกริกโดยไม่จำเป็น แต่กระนั้นเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ที่พ่อของนัตสึมิไม่ให้บอกแม้กระทั่งทางโรงเรียนและเพื่อน ๆ ซึ่งมันออกจะแปลกประหลาดอยู่

‘ช่างมันเถอะ คิดมากก็ปวดหัวเปล่า ๆ’

โคซึเกะคิดในใจ เพราะการนั่งหาคำตอบในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ด้วยออกจะเป็นเรื่องที่ทำไปก็ไม่ได้ผลคืบหน้าอะไรแน่นอน เขาจึงหันกลับมาสนใจเรียนในวิชาช่วงบ่ายดีกว่า อย่างน้อยเขาจะได้ไม่ต้องโดนอาจารย์เพ่งเล็ง

จากคุณ : joyka
เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 53 01:02:50




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com