ความคิดเห็นที่ 1 |
|
วิชาเรียนในช่วงบ่ายหมดไปแล้ว ได้เวลาที่ทุกคนจะต้องกลับบ้าน แต่ภารกิจของโคซึเกะยังไม่หมด เขาคงต้องตามดูนัตสึมิต่อ แต่ถ้าให้เดินตามต้อย ๆ เป็นพวกสโตรกเกอร์ คงได้โดนแจ้งให้ตำรวจมาจับข้อหา ‘โรคจิต’ แหง ๆ ดีที่บ้านของโคซึเกะนั้นไปทางเดียวกับนัตสึมิ แถมไกลกว่า ก็เนียนไปก็แล้วกัน กับการเดินไปเป็นเพื่อนกลับบ้าน เพียงแต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าการที่อยู่ ๆ จะกระโดดเข้าไปเดินเป็นเพื่อนกลับบ้านด้วยเหตุผลว่า ‘ระยะนี้มีเหตุฆาตกรรมบ่อย ๆ’ เธอจะรับฟังรึเปล่า แต่ก็คงต้องลองเท่านั้นล่ะ
ที่ล็อกเกอร์ด้านล่างตึก โคซึเกะจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหานัตสึมิ “นี่นัตสึมิจัง” เขาทักเจ้าหล่อนด้วยน้ำเสียงกล้า ๆ กลัว ๆ นัตสึมิที่กำลังใส่รองเท้าอยู่ เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้า ๆ สีหน้าเธอเรียบเฉยซะจนเขารู้สึกประหม่ามากขึ้นไปอีก
“เดินกลับบ้านด้วยกันมั้ย แบบว่า…เออ…ช่วงนี้ ในเมืองเรามีเหตุร้ายบ่อย ๆ ไปเป็นเพื่อนกันน่าจะดีกว่า…มั้ย” โคซึเกะพูดยาว แต่แบบตะกุกตะกักพอควรทีเดียว ก็นี่มันเหมือนจีบสาวทางอ้อมเลยนี่นา
นัตสึมิมองหน้าโคซึเกะเฉย ๆ พลางกระพริบตาปริบ ๆ ในใจของโคซึเกะนั้นร้อนรนหนักเข้าไปใหญ่ แน่ล่ะไปชวนอะไรแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่อยู่กันมาตั้ง 2 ปี ไม่เคยชวยเลยซักแอะ มันยังไง ๆ อยู่นา สงสัยกลับบ้านไปต้องจัดการพี่ฮิไคอิสักหน่อยแล้ว
“อืม ได้สิ” นัตสึมิตอบเรียบ ๆ เธอไม่ได้แสดงอาการเคอะเขินใด ๆ ให้เห็นเลย จนโคซึเกะถึงกับอึ้งที่ได้รับการตอบรับที่ง่ายดายแบบนี้ “อ…อืม งั้นเราไปกันเถอะ” โคซึเกะกล่าวชวนนัตสึมิทันที แต่ใบหน้าของเขานั้นแดงก่ำไปด้วยความอายจริง ๆ
ทั้งสองเดินไปพร้อม ๆ กันได้เป็นระยะทางไกลพอสมควร โดยที่แทบไม่ได้พูดอะไรกันเลย โคซึเกะนั้นคิดในใจว่า ถ้าเพื่อน ๆ มาเห็นเขาเดินกลับบ้านไปพร้อมกับนัตสึมิบ่อย ๆ จะมีข่าวลืออะไรออกมาบ้างรึเปล่า รึเราจะต้องกลายเป็นคู่กันจริง ๆ หรือบางที บางที บางที และบางที โคซึเกะเริ่มฟุ้งซ่านไปเรื่อย
“นี่ซาการะคุง” นัตสึมิช่วยทำลายอาการฟุ้งซ่านของโคซึเกะให้ ดูจากคำพูดเธอยังไม่ค่อยรู้สึกสนิทสนมกับ โคซึเกะซักเท่าไหร่ เลยเรียกด้วยชื่อสกุลเช่นนั้น
“เรียกโคซึเกะก็ได้ เราอยู่ร่วมห้องกันมาตั้ง 2 ปีแล้วนะ” โคซึเกะรีบบอก เพราะเขาไม่อยากเป็นเหมือนคนที่ห่างเหินเธอมากนัก
“นั้นสินะ ตั้ง 2 ปี แล้วนึกยังไงถึงได้มาเดินกลับบ้านเป็นเพื่อนฉันเอาตอนนี้ได้ล่ะ” นัตสึมิจี้เอาปัญหาที่โคซึเกะคิดเอาไว้ก่อนหน้า มันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเอาซะเลยสินะ ไอ้เหตุผลที่เขาให้กับเธอไปก่อนหน้านี้
“เออ…อา…คือ แบบว่า…” เขาเองก็ไม่รู้จะตอบยังไงดี สรุปนี่เขาพลาดเองใช่ไหมที่คิดจะตามเธอแม้กระทั่งตอนจะกลับบ้านแบบนี้
นัตสึมิเดินไป พลางมองหน้าของเขา สายตาของเธอดูเย็นชาเรียบเฉยซะจนเขารู้สึกกลัวจริง ๆ “เธอ…เฝ้าจับตาดูฉันอยู่สินะ” นัตสึมิจี้ไปตรง ๆ ทำเอาโคซึเกะที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่แล้วถึงกับแสดงอาการตกใจออกมาทีเดียว ก็แน่ล่ะไอ้สิ่งที่เขาทำอยู่มันก็ไม่ใช่เรื่องถูกต้องสักเท่าไหร่อยู่แล้ว ถ้าเขาจะโดนนัตสึมิโกรธก็คงไม่แปลกเลย
โคซึเกะเดินเงียบ ๆ เขาไม่กล้าบอกสิ่งใดออกไปเพราะเขาเองก็ไม่อยากเปิดเผยในสิ่งที่ฮิไคอิ ลูกพี่ลูกน้องของเขาวานให้มาทำอยู่
“ไม่เป็นไรหรอก ” นัตสึมิกล่าวเรียบ ๆ โดยไม่ได้มองหน้าของโคซึเกะ ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจจนอุทานออกมา “เห?”
นัตสึมิที่ได้ยินคำอุทานของโคซิเกะ ก็หันไปมองเขาช้า ๆ เธอไม่รู้สึกแปลกใจ ถ้าโคซึเกะจะแปลกใจคำพูดของเธอ “ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่คิดว่าเธอจะประสงค์ร้ายอะไรกับฉันแน่นอน” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ เช่นทุกครั้ง
มันค่อนข้างแปลกพอสมควร นัตสึมิไปเอาความมั่นใจแบบนั้นมาจากใหน สถานการณ์เช่นนี้ เธอยังมองคนที่สะกดรอย แอบตามเธอในแง่ดีได้อีกยังงั้นเหรอ แต่เขาได้เพียงคิดในใจ เพราะแค่นี้เขาก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว ยิ่งเธอไม่ถือสาและมองเขาในแง่ดี มันช่างได้อารมณ์แม่พระให้อภัยคนบาปเลยทีเดียว
“ถึงบ้านฉันแล้ว” นัตสึมิพูดขึ้นเมื่อมาถึงอพาร์ทเมนท์ของเธอ ดูท่าทางโคซึเกะนั้นจะไม่รู้ตัวเลยว่าเดินกันมาจนมาถึงที่พักของนัตสึมิแล้ว เขายิ้มแล้วยกมือขึ้น “แล้วเจอกัน” “อืม แล้วเจอกัน” นัตสึมิตอบเสียงเรียบ ๆ ก่อนเดินขึ้นอพาร์ทเมนท์ไป
โคซึเกะที่ส่งนัตสึมิขึ้นอพาร์ทเมนท์ไปแล้ว ได้เวลาที่เขาจะกลับบ้านไปรอจัดการคุณลูกพี่ลูกน้องที่ไหว้วานอะไรให้เขาโดนเขม่นได้แบบนี้ โคซึเกะเดินกลับบ้านไปอย่างรวดเร็ว บางทีเขาอาจจะขอเลิกทำอะไรแบบนี้ แต่อีกใจเขาก็รู้สึกว่าการได้ติดตามนัตสึมิทำให้เขารู้สึกผูกพันธ์กับเธอมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าเขาเลิกตามดูเธอมันก็น่าเสียดายแย่เลยสิ
‘เฮ้ยงั้นมันก็กลายเป็นว่าเขาชอบเธอจริง ๆ น่ะสิ!!’ ในความคิดของเขาราวกลับว่ากำลังดำดิ่งลงไปในความมืดที่หาคำตอบไม่เจอ แต่ช่างเถอะ ไปจัดการฮิไคอิก่อนดีกว่า
“กลับมาแล้วคร้าบ” โคซึเกะที่เข้ามาในบ้านพูดเสียงดังลากเสียงยาว เพื่อให้แม่ของเขาที่อยู่ในครัวได้ยิน
“โคซึเกะ ของว่างอยู่ในห้องกินข้าวนะ” “ครับผม” เขาตอบรับผู้เป็นแม่ที่บอกเรื่องของว่าง เขาเดินไปที่โต๊ะกินข้าวแล้วหยิบของว่างที่เป็นเซนเบะ (แป้งข้าวเหนียวย่างซี้อิ้ว ห่อด้วยสาหร่าย) เดินขึ้นห้องของตัวเองไป
เขาเอาของไปวางไว้บนโต๊ะ แล้วลงนอนแผ่บนเตียงทันที ไม่ใช่เพราะความเหนื่อยล้าจากสิ่งใด แต่เขากำลังคิดถึงเรื่องที่เขาตามดูนัตสึมิอยู่ ตลอดระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ตามนั้น เขาไม่พบสิ่งใดที่น่าสงสัย หรือผิดปกติในโรงเรียนเลย นัตสึมิ ยังคงเป็นนัตสึมิที่ดูเย็นชาไม่เปลี่ยนแปลง
‘เอาเถอะ ทำการบ้านก่อนดีกว่า’ เมื่อเขาคิดได้แบบนั้น ก็งัดเอาการบ้านในกระเป๋าขึ้นมานั่งทำ เพราะยังไงตอนนี้ฮิไคอิก็ยังไม่กลับบ้านแน่นอน กว่าจะกลับก็คงเย็นพอสมควรทีเดียว ---------------------------------------------------
เวลาผ่านไป จนตอนนี้จะสองทุ่มแล้วโคซึเกะซึ่งทำการบ้านเสร็จ และอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยกำลังนั่งล้อมวงทานข้าวกับครอบครัวในห้องดูทีวี เพราะวันนี้แม่ของเขาทำสุกี้ให้ทานกัน
“โหย พี่…นั่นเนื้อเค้านะ” คาสุมิน้องสาวของโคซึเกะบ่นออกมา เมื่อโคซึเกะคีบเนื้อในหม้อที่เธอจ้องไว้ไปใส่ถ้วยของตัวเอง
“จะเอารึเปล่าล่ะ” โคซึเกะถามกลับไป เขายังไม่ได้กินมัน ถ้าน้องเขาจะเอาก็ให้ได้อยู่แล้ว
“ไม่เอาละ มันอยู่ในถ้วยของพี่แล้วอ่ะ” เธอตอบกลับราวกับว่าเขาน่ารังเกียจซะจนกินของร่วมกันไม่ได้ซะอย่างนั้น
พ่อของโคซึเกะคีบเนื้อในถ้วยของเขาขึ้นมา “งั้นเอาของพ่อไหม?” คาสุมิหันไปมองพ่อของตัวเองทันทีที่เขาพูดจบ
“ไม่เอาอ่ะ หนูกินอย่างอื่นก็ได้” คาสุมิค้อนใส่พ่อ และพี่ชายของตัวเอง โคซึเกะได้คำตอบว่าจริง ๆ น้องสาวของเขาไม่ได้รังเกียจเขาหรอก แต่เธอไม่ชอบที่จะเอาของจากในจาน ชามของใครทั้งนั้นล่ะ
“กลับมาแล้วครับ” เสียงของฮิไคอิดังจากประตูเข้ามาถึงข้างใน เขาเดินโผล่เข้ามาในห้องดูทีวีที่โคซึเกะกำลังทานสุกี้กันอยู่ ชายอายุ 32 ปี ไว้ผมรองทรง แสดงสีหน้าเพลีย ๆ ออกมาให้ทุกคนในห้องนั้นเห็น
“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะฮิไค” แม่ของโคซึเกะชอบเรียกฮิไคอิสั้น ๆ ว่า ‘ฮิไค’ เป็นประจำ น้ำเสียงของเธอค่อนข้างสงสัยต่อสิ่งที่เห็น แต่เธอก็ยังคงนั่งทานสุกี้ไปเรื่อย ๆ
ฮิไคอิแกล้งฟุ่บไปตรงทางเดิน เพื่อแสดงว่าเขาไม่ไหวแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ใครในห้องสนใจเขาเลย
“พี่ฮิไคอิ อย่าทำตัวเป็นเด็กปัญญาอ่อนนา” คาสุมิว่าเข้าให้ จนฮิไคอิหน้าเจื่อนเลยทันที เขาค่อย ๆ ลุกขึ้นมานั่งล้อมวงกับพวกโคซึเกะด้วย แม่ของโคซึเกะหยิบถ้วยให้เขาทานร่วมกัน
โคซึเกะนั้นไม่ได้กล่าวถามอะไรฮิไคอิออกไปในตอนนี้ เพราะเรื่องที่เขาทำอยู่นี่คนอื่น ๆ ในครอบครัวไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย เขานั่งทานสุกี้พร้อมทุกคนไปจนอิ่มเรียบร้อย เขาจึงสะกิดฮิไคอิแล้วส่งสัญญาณมือให้ไปหาเขาที่บนห้อง
“โคซึเกะจะขึ้นห้องแล้วรึ?” พ่อของเขาถาม เพราะอยู่ ๆ โคซึเกะก็อิ่มไวกว่าปกติ
“ครับ เดี๋ยวผมว่าจะอ่านหนังสือสักหน่อยน่ะครับ” เขาตอบคุณพ่อไป เพราะจริง ๆ เขาต้องอ่านหนังสือเพื่อรอรับการทดสอบย่อยในอีก 1 อาทิตย์ข้างหน้าด้วย
“แย่จัง พี่ชายกินเนื้อวัวของเค้าไปเลยขยันแน่ ๆ” คาสุมิแหย่โคซึเกะไปแต่โคซึเกะก็ไม่รอช้า เขาก็แหย่คาสุมิกลับไปเช่นกัน
“งั้นพี่ควรจะแย่งเนื้อเราประจำ ๆ สินะ” โคซึเกะแหย่ออกไปพร้อมรอยยิ้ม แต่คาสุมิไม่เล่นด้วย เธอมองค้อนใส่โคซึเกะทันที เขาเลยแยกตัวขึ้นไปบนห้องเพื่ออ่านหนังสือ และรอฮิไคอิ
เวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง โคซึเกะนั่งอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ เขาคิดว่าฮิไคอิคงอาบน้ำเลยทำให้ขึ้นมาช้ากว่าที่ควรจะเป็น เขาคิดไม่ทันจบเสียงเคาะห้องก็ดังขึ้นทันที “เข้ามาได้ครับ ไม่ได้ล็อคครับ” เขาตอบกลับผู้ที่มาเคาะห้องออกไป
ฮิไคอิมาในชุดนอน ไม่ผิดจากที่เขาคิดฮิไคอิอาบน้ำก่อนมาหาเขา เดี๋ยวคงไปเข้านอนแล้วแหง ๆ
จากคุณ |
:
joyka
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.พ. 53 01:03:35
|
|
|
|