ความคิดเห็นที่ 1 |
|
๏ ไม้ใหญ่ยืนกลางป่านำมาปลูก ในวัดถูกขนานนามไร้โศกศัลย์ แต่ชื่อจริงคือ "โศก" เขารู้กัน ตามบ้านนั้นไม่ปลูกไร้มงคล แดงอมเหลืองเขาบอกนั่นดอกโศก หอมลมโบกกลิ่นมวลอบอวลหน น่าลิ้มลองดอกสดยามได้ยล ชื่นกมลรายการอาหารดี
"พล่าดอกโศก" รสจัดคัดมาก่อน ดอกลวกร้อนพอสุกคลุกเคล้าถี่ หมูต้มสุกหั่นบางน้ำปลาดี น้ำตาลยีน้ำมะนาวให้เข้ากัน หอมกระเทียมเจียวไว้ใช้ทั้งคู่ พร้อมผักชีพริกขี้หนูอย่าลืมหั่น แล้วโรยหน้าให้ดีอย่างมีชั้น ยกมาพลันเพียงเพิ่มเติมกระเพาะ
"น้ำพริกก้อยดอกโศก" ยกมาสิ หัวกะทิใส่หม้อเคี่ยวพอเหมาะ ใส่กุ้งคนพอสุกยกลงเลาะ น้ำปลาเหยาะน้ำมะนาวเคล้าน้ำตาล ใส่มันกุ้งน้ำพริกเผาถั่วลิสง รสจำนงตามแต่งเปรี้ยวเค็มหวาน ผักจิ้มสดสะระแหน่หัวปลีทาน ดอกโศกกรานแตงกวาและผักชี
อีก"แกงส้มดอกโศก" อร่อยล้ำ น้ำพริกแกงละลายน้ำตั้งไฟหรี่ พอน้ำเดือดดอกโศกยกใส่ซี ใส่กุ้งพีมะขามเปียกและน้ำปลา ใส่น้ำตาลชิมรสเปรี้ยวเค็มหวาน ตักรับประทานรสชาติปรารถนา โรยพริกแห้งเติมเผ็ดวิเศษมา พริกขี้หนูแทนได้ถ้าไม่เผ็ดพอ
ดูดอกรักสีม่วงบ้างสีขาว สวยสกาวไร้กลิ่นฉมให้ชมหนอ ยังมียางเป็นพิษผดผื่นตอ สวยละออกินไม่ได้เสียดายครัน
"ดอกรักบานในใจใครทั้งโลก แต่ดอกโศกบานอยู่ในหัวใจฉัน" หากกินแกงดอกโศกทุกวี่วัน คงสุขสันต์ปรีดาชิวหาเอย ๚ะ๛
จากคุณ |
:
คนตะกละ (ศาลายา)
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.พ. 53 23:21:38
|
|
|
|