ความคิดเห็นที่ 1 |
|
คุณเป็นอะไรหรือเปล่า
เธอค่อยๆลืมตาเมื่อได้ยินเสียงทุ้มคุ้นหูดังกังวานด้วยความเป็นห่วง ดูเหมือนเสียงน่าฟังนั้นจะสะท้อนไปทั่วบ่งบอกว่าบริเวณที่อยู่ตอนนี้น่าจะเป็นที่กว้างรวมทั้งน่าจะเป็นที่ปิดเสียด้วย
สัญชาตญาณนักสืบบอกเธออย่างนั้น...
พื้นแข็งๆน่าจะปูราดด้วยซีเมนต์เย็นเฉียบ กลิ่นอับๆเหมือนภายในห้องเก็บของ และความมืดมิดที่จะมีแสงลอดเข้ามาจากหน้าต่างสูงลิบลิ่วดูเหมือนแสงดาวสีแดงที่กระพริบเป็นครั้งคราว หญิงสาวพยายามปรับสายตาให้เข้ากับความมืดโดยเร็ว พลิกตัวหงายอย่างแผ่วเบาให้เกิดเสียงน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่าเพียงแค่ขยับเล็กน้อย บางอย่างข้างตัวเธอก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเข้ามาทำให้เธอไม่รอช้ากลิ้งตัวหลบไปอีกด้านทันที
และนั่นทำให้รู้ว่ามือของตนเองกำลังถูกมัด
คุณตื่นแล้วหรือ ไม่เป็นไรใช่ไหม เสียงทุ้มท่ามกลางความมืดนั้นมีวี่แววตระหนกเล็กน้อยเพราะความเคลื่อนไหวของเธอแต่ก็แฝงด้วยความโล่งใจอย่างชัดแจ้ง หญิงสาวเลยนิ่วหน้าขบคิดก่อนจะเริ่มลำดับเรื่องได้มากขึ้น
นี่มันที่ไหนกันคะ
ไม่รู้เหมือนกัน อีกฝ่ายตอบ ผมเพิ่งฟื้นก่อนคุณแค่ครู่เดียวเท่านั้นเอง
ร่างสมส่วนของเธอชันตัวขึ้น พยายามเพ่งมองฝ่ามืดดำที่มีแสงไฟแดงวิบวับนั้นเป็นตัวช่วยให้มองเห็นหน้าอีกฝ่ายถนัด แต่ก็เห็นแต่เพียงกรอบรูปร่างของชายหนุ่มกำลังนั่ง มือเขาไขว้หลังอยู่เช่นกันกับหญิงสาว เธอจึงเดาว่าเขาก็คงถูกมัดไม่ต่างกับเธอ ยังดีหน่อยที่ทั้งคู่ไม่ได้ถูกมัดให้ติดกับอะไร ไม่อย่างนั้นเรื่องหนีคงเป็นแค่ความหวังอันเลือนราง
มัวแต่คิดเพลินๆอยู่ จู่ๆมือใหญ่แต่อบอุ่นของเขาก็แตะที่ผิวแก้มเบาๆ เธอสะดุ้ง เกือบจะซัดกลับไปด้วยความเคยชิน ถ้าไม่ติดว่าตรงที่เขาสัมผัสนั้นเจ็บแปลบขึ้นมา สัมผัสนุ่มนวลนั้นราวกับจดจำได้ว่าซีกแก้มข้างไหนที่บาดเจ็บ
เป็นยังไงบ้าง เจ็บมากไหม เสียงเป็นห่วงเป็นใยนั้นทำให้หัวใจพองฟูขึ้นมาอย่างประหลาด ก่อนจะตามมาด้วยเสียงดุ คราวหน้าคราวหลังอย่ายื่นหน้าเข้ามารับกำปั้นใครแบบนี้อีกนะ มันไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงเขาทำกัน
อุตส่าห์ช่วยเพราะไม่อยากเห็นหน้าหล่อๆนั่นแก้มปูดแดงเป็นตูดลิงหรอก...เสียดายน่ะ...ไอ้อย่างเธอโดนเข้าไปสักทีสองทีไม่รู้สึกรู้สาอะไรทั้งนั้น
แต่หญิงสาวก็ไม่ได้เถียงอะไรเพราะหน้าที่หลักของหัวสมองของเธอตอนนี้คือหาวิธีหนีออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด ต้องคิดไปด้วยแล้วยังต้องมารบกับคำถามกวนใจทั้งหลายไปด้วย
ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทั้งเธอทั้งเขาถึงถูกพาตัวมาที่นี่ เรื่องที่เธอต้องสืบมันไม่ใช่ทำนองนี้นี่นา อีกเรื่องที่ไม่น่าจะคิดก็ดันคิดขึ้นมาว่าคำพูดที่แสดงความห่วงใยที่ทำให้หัวใจแห้งแล้งของเธอกระเตื้องนั่น เป็นความเคยชินของนายหน้าหล่อนี่หรือความจริงใจกันแน่
ดูเหมือนเขาจะพอใจที่ไม่มีการโต้ตอบจากเธอ และที่แน่ๆก็คือไม่มีการดิ้นหนีจากเธอ นั่นทำให้มือที่แตะใบหน้าเธอเริ่มเปลี่ยนเป็นลูบไล้ไปข้างแก้มอีกด้านที่ไม่เจ็บ รวมทั้งมาแตะที่ริมฝีปากของเธออย่างนุ่มนวลทำให้สติสตังของหญิงสาวกลับมาบริบูรณ์อีกครั้งพร้อมกับอาการขนลุกซู่
ทำอะไรน่ะ!
เปล่า เขาเอามือออกทันทีเร็วเท่าๆกับที่หลบขาถีบพุ่งของเธอได้พ้น ปฏิกิริยานั่นทำให้เธอเอะใจขึ้นมาทันที
คุณไม่ได้ถูกมัดหรือ
ถูก...แต่แก้ออกแล้ว อีกฝ่ายตอบเรื่อยๆ ฟังดูเฉยเมยผิดกับสถานการณ์จนยิ่งน่าสงสัย
คุณ...เป็นใครกันแน่ เธอเริ่มระวังตัวมากขึ้น มือที่ไขว้หลังอยู่นั้นพยายามควานหามีดที่อยู่ด้านในส้นรองเท้า ไม่ได้เอาไว้ทำร้ายใครหรอกแต่มันก็พอที่จะตัดเชือกสบายๆ
พนักงานบริษัทธรรมดาๆ เขาตอบด้วยเสียงเรียบเฉยมากๆจนเธอยิ่งระแวงมากกว่าเดิม ที่จริงถ้าคุณจะบอกให้ผมช่วยแก้มัดก็ได้นะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแก้เอา
คราวนี้เธอสะดุ้งกระโดดหนีออกห่างทันทีที่แก้มัดตัวเองได้แต่ไม่เร็วไปกว่าเขาเพราะมือใหญ่นั้นรั้งแขนเธอดึงเข้าหาตัวได้อย่างรวดเร็ว แรงเกร็งแขนนั้นไม่ใช่พนักงานบริษัทธรรมดาอย่างที่เจ้าตัวอ้างอย่างแน่นอน แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาที่จะปล่อยให้ใครมาทำแบบนี้ได้เหมือนกัน หญิงสาวชิงจังหวะใช้ท่าของไอคิโด้เพื่อบิดแขนเขาในท่าฝืนธรรมชาติจนอีกฝ่ายยอมปล่อย
มันก็ดูเหมือนว่าเธอหนีเอาตัวรอดได้อยู่หรอก
ในความเป็นจริงเธอก็ชักไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตัวเองรอดจริงหรือเปล่า เพราะก่อนที่มือใหญ่นั่นจะให้อิสระกับเธอ แก้มข้างที่ไม่เจ็บของเธอก็ถูกรุกรานโดยริมฝีปากอีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว
หญิงสาวถูแก้มที่ถูกล่วงเกินอย่างขัดใจ ดวงตาเธอหรี่ลงอย่างระวังตัว สายตาที่เริ่มชินกับความมืดบอกเธอว่าที่นี่น่าจะเป็นคลังเก็บสินค้า คงอยู่ใกล้ท่าเรือด้วยเพราะแสงแดงๆนั้นไม่น่าจะเป็นอย่างอื่นนอกจากเรือ ชายหนุ่มยืนอยู่กับที่เฉยๆ มองเธอนิ่งๆอยู่แบบนั้น และถึงจะมองไม่เห็นแต่ก็รู้ได้ว่านายคนนี้ต้องยิ้มกริ่มยั่วโมโหอยู่แน่ๆ
ก็รู้หรอกนะว่าอีตานี่น่าทุบสักตุบสองตุบเวลากวนประสาท แต่ความรู้สึกที่ต้องเผชิญหน้ากับยิ้มนั่นตอนนี้มันต่างกันกับตอนที่เจอเขาครั้งแรกลิบลับ
ทิ้งกันแบบไม่เห็นฝุ่นเชียวล่ะ!
ใช่...เธอเห็นนายหน้าหล่อนี้เมื่อสองเดือนก่อน เหตุที่ทำให้ต้องมาพบเจอนายคนนี้ก็เพราะมีผู้ว่าจ้างเข้ามาที่บริษัทเรา อืม...หรือจะพูดให้ถูกก็คือของอาเธอเสียมากกว่า อาร่วมโลกน่ะ...
ผมมีเรื่องอยากให้คุณช่วยสืบ ผู้ว่าจ้างกล่าวกับอา จากนั้นก็วางรูปสองรูปลงกับโต๊ะ ซึ่งอารับมามองอย่างพิจารณาก่อนเงยหน้ามองลูกค้าอย่างแปลกใจ
รถมินิสีฟ้า?
ลูกค้าพยักหน้าขยับตัวอย่างอึดอัด เขาเอามือดันแว่นดำที่ตกลงมาจมูกผุดพรายด้วยเหงื่อ เสื้อคอโปโลยี่ห้อดังดูจะเริ่มชื้นแฉะ
ผมต้องการให้คุณตามสังเกตการณ์รถคันนี้ เขากล่าวเสียงเครียด ต้องการรู้ว่าเจ้าของรถคันนี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน ทำงานที่ไหน ชีวิตประจำวันของเขาทำอะไรบ้าง ที่สำคัญผมต้องการรู้ช่วงเวลาที่เขาออกห่างจากรถคันนี้
อาเลิกคิ้ว เขาเอนตัวลงพิงพนักโซฟาเก่าตัวกว้างที่ตะเข็บปริจนนุ่นด้านในเริ่มทะลักออกมาสู่สายตาประชาคมโลก
คงไม่ใช่อยากรู้เพื่อโจรกรรมรถนะครับ
ไม่ใช่! เขาชักสีหน้า ไอ้หมอนั่นต่างหากที่ขโมยของๆผมไป
หัวสมองอาประมวลได้อย่างรวดเร็วกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขายิ้มนิดหนึ่งทว่าดวงตาสีฟ้านั่นมีแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมา
ผมรับทำตามคำขอ อาตอบตกลงในที่สุด เรามีทีมงานพร้อมมูล นักสืบมืออาชีพที่เคยเป็นอดีต กอ.รมน. รวมไปถึงหน่วยสืบราชการลับกรมตำรวจที่ลาออกมาเพราะเบื่องานราชการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเก่าที่เคยได้รับการฝึกฝนคอร์สพิเศษจากเอฟบีไอ ตลอดจนแฮกเกอร์มือฉมังที่สามารถทะลวงคอมพิวเตอร์ของเพนทากอนได้สบายๆ กับนักข่าวหัวเห็ดที่ช่วยคลี่คลายคดีพิศวงอย่างกับคินดะอิจิ โคสุเกะ ทั้งหมดของการบริการของเรา สนนราคาอยู่เพียงเท่านี้ ซึ่งนับว่าถูกมากถ้าเทียบกับบริษัทอื่นครับ
อาขยับตัวไปใกล้ลูกค้า กดจิ้มเครื่องคิดเลขแล้วยื่นให้ลูกค้าดูอย่างกระตือรือร้น
ทันทีที่เห็นจำนวนตัวเลขนั้น คาดว่าอาคงแทบตาถลนอยู่ภายในแว่นดำนั่นทีเดียว ผู้ว่าจ้างขยับกายอย่างอึดอัดก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนลง
ผมว่างานนี้คงไม่ช้างถึงขนาดที่ต้องการคนทำงานมากขนาดนี้
ถ้างั้นไม่เป็นไรครับ เรามีออพชั่นหลายอย่างให้คุณเลือก เป็นแพคเกจราคาสมเหตุสมผลดีไหมครับ เราสามารถลดจำนวนคนทั้งหมดเหลือเพียงแต่นักข่าวหัวเห็ดซึ่งทำงานได้แบบนักสืบมืออาชีพ พ่วงกับแฮกเกอร์อัจฉริยะไปด้วยเพราะพวกเขาทำงานเป็นทีม ราคาก็จะลดลงมาเหลือเพียงเท่านี้ เป็นไงบ้างครับ ถูกกว่าครึ่งต่อครึ่งเชียวนะ
ลูกค้ายังคงลังเลเมื่อเห็นจำนวนตัวเลขอีกครั้งแต่อายังไม่ยอมแพ้
หรือถ้าไม่อย่างนั้นเรามีออพชั่นแบบราคาประหยัดครับ เป็นนักสืบมือสมัครเล่น นักศึกษาอัจฉริยะที่ได้แชมป์การแข่งขันนักสืบโลกรายการ เบเคอร์สตรีท ที่ประเทศอังกฤษ แต่ที่เขาต้องมาเป็นมือสมัครเล่นเพราะต้องเรียนไปด้วย นักสืบก็เลยเป็นงานพาร์ทไทม์ไปก่อน
เครื่องคิดเลขของอายังถูกจิ้มเพื่อเสนอราคาให้ลูกค้าต่อไป ซึ่งดูเหมือนว่าราคาของนักสืบมือสมัครเล่นจะไม่ใช่ราคาสำหรับลูกค้าที่แต่งตัวดีแต่กระเป๋าเบาหยองคนนี้ อาถอนใจตัดใจงัดแผนสุดท้ายขึ้นมา
อย่างนั้นลองฟังอีกออพชั่นหนึ่งก็แล้วกันครับ อาเอ่ยพลางระบายลมหายใจ เรามีนักสืบฝึกงานที่เอาไว้เฝ้าบริษัทอยู่อีกคนหนึ่ง ถ้าเป็นงานแบบประเภทตามหาหมาหายแมวหาย หรือตามพฤติกรรมผัวเมียนอกใจก็พอทำได้อยู่ครับ นักสืบคนนี้อาจช่วยแจ้งคุณเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนที่เอาของๆคุณไปแต่คุณภาพก็ต้องลดตามลงมา สนนราคาแบบตัดใจให้คุณคนเดียวนะครับนี่
เมื่อเห็นตัวเลขในเครื่องคิดเลขของอาแล้ว คำตอบของผู้ว่าจ้างเป็นยังไง ก็น่าจะเดาได้ใช่ไหม และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาเจอหน้านายหน้าหล่อคนนี้นั่นแหละ!
=================================================
งานครั้งนี้คือการให้ตามหาและตามดูพฤติกรรมของเจ้าของรถมินิสีฟ้าคันหนึ่ง รถคันเล็กที่ว่าปรากฏในสายตาของเธอเป็นครั้งแรกในห้องทำงานของอา เธอจำได้ว่าเบ้หน้าทันที่ที่เห็นรูปนั้น สบตาสีน้ำเงินของเขาอย่างไม่พอใจ
เรื่องชู้สาวอีกละสิอา เรื่องหลวงๆน้อยๆแบบนี้อันไม่ทำได้ไหม
จะเรียกว่าชู้สาวได้ไงในเมื่อคนว่าจ้างเราเป็นผู้ชาย อาตอบเธออย่างอารมณ์ดีตามนิสัย เขาเป็นเครื่องจักรยิ้มได้เสมอเมื่อมีงานเข้ามา (น้ำมันแพง เศรษฐกิจย่ำแย่แต่เงินเฟ้อสูง งานแบบไหนก็ทำให้อาร่าเริงได้ทั้งนั้น)
จะไปรู้ได้ไงในเมื่อแต่ละเคสที่อาเอามาให้มีแต่เรื่องจำพวกนี้ เธอเท้าเอวมองรูปนายหน้าหล่อนี่อย่างสงสัย
สิ่งที่ลูกค้าต้องการรู้คราวนี้... อากระแอมไอเล็กน้อยกล่าวเข้าเรื่อง คืออยากรู้ว่านายคนนี้เป็นใคร ทำอะไร วันๆไปไหน กลับถึงบ้านกี่โมง มีเวลาไหนที่เขาจะอยู่ใกล้หรือห่างจากรถเขาบ้าง
อย่างกับพวกสตอลเกอร์ เธอย่นจมูก อาไม่สนใจคำวิจารณ์ของเธอ เขายื่นข้อมูลอีกแผ่นให้ เป็นข้อมูลที่พิมพ์ลงคอมพิวเตอร์อย่างดี จนเธออดล้อไม่ได้ อายอมเปลี่ยนมาใช้เวิร์ดแล้วเหรอ หรืออาใช้ไอ้หลงทำล่ะ
อาของเธอเป็นมนุษย์แปลก เขาเป็นเซียนในการหาข่าว คอมพิวเตอร์กับเขาแทบจะเป็นคู่ผัวตัวเมียกันอยู่แล้ว ความสามารถในการวิเคราะห์ข่าวของอาไม่ธรรมดาจนทางการต้องแอบขอความช่วยเหลือบ่อยๆ และในอีกทางหนึ่งอาก็เป็นพ่อค้าข่าวให้กับบรรดาพวกคนใต้ดินเหมือนกัน อาจเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้อาอยู่ตรงกลางของแสงสว่างและความมืดถึงได้อยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
แต่เขาเกลียดการพิมพ์เอกสารด้วยคอมพิวเตอร์!
ไอ้หลงน่ะสิถามได้ อาว่าอย่างนั้น อาให้มันจัดการหาเจ้าของรถคันนี้ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนนี่เป็นข้อมูลของเจ้าของรถที่เราหามาได้ ที่เหลืออันต้องไปตามดูพฤติกรรมของนายคนนี้
เธอนึกฉุนขึ้นมา อาไม่เคยไว้ใจให้เธอตามสืบอะไรเลยทั้งที่เธอเป็นลูกหม้อของอามานานตั้งแต่ตอนที่เธอหลุดออกจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วตามชายหนุ่มลูกครึ่งบนรถเข็นคนนี้มาที่สำนักงานนักสืบแห่งนี้โดยมีพี่ชายร่วมโลกอีกหลายคนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว ขนาดไอ้หลงที่เติบโตด้วยกันมากับเธอ อายังดูไว้ใจมันมากกว่าเลย บางครั้งเธออดน้อยใจไม่ได้ว่าความสามารถเธอมันต่ำต้อยได้ขนาดนั้นเชียวหรือ อาถึงยังไม่ปล่อยให้เธอลงมือเองเสียที
แล้วอันต้องตามนายนี่อีกนานเท่าไร เธอทำหน้าเบื่อโลกใส่เมื่อรู้ว่ายังไงเสียก็ไม่มีทางจะต่อล้อต่อเถียงได้อีก คำตอบที่ได้จะทำให้ช้ำใจเปล่าๆ
จนกว่าข้อมูลที่ต้องการจะครบถ้วน ประเด็นหลักคือลูกค้าเราต้องการรู้ช่วงเวลาที่รถคันนั้นไม่มีคนสนใจ อาตอบสั้นๆในขณะที่มืออวบอูมนั่นกำลังจ้องคอมพิวเตอร์ตาเป็นมัน เลื่อนสโครวล์ของเม้าส์ขึ้นลงตามอัธยาศัย
อา! เธอแทบแผดเสียงใส่ กำลังเล่นอะไรอยู่น่ะ อันชักไม่ขำแล้วนะ เรื่องแปลกประหลาดขนาดนี้ อามีอะไรบอกมาให้หมดดีกว่า อย่ามาอมพะนำ
อาเงยหน้ามองเธอ ดวงตาสีฟ้าของอามองเธอนิ่งก่อนที่ริมฝีปากจะเอ่ยอย่างช้าๆ แกฟังก็รู้นี่อันว่าเรื่องนี้ไม่ธรรมดา แต่เราต้องตามน้ำไปก่อน ระวังตัวไว้ก็แล้วกัน
เธอเม้มปากขบคิด
บางทีนี่อาจเป็นโอกาสดีที่เธอจะได้พิสูจน์ความสามารถตัวเอง ถ้าเธอสามารถสืบเสาะเรื่องของนายคนนี้รวมไปถึงความลับที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เธอจะดูมีค่าขึ้นในสายตาของอาแน่นอน และงานที่น่าสนใจน่าตื่นเต้นจะต้องมีเข้ามาอย่างที่ใฝ่ฝันไว้ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม
เธอต้องเอาจริงเสียที!
อา...ถ้างานนี้อันทำได้ดี อาต้องเลื่อนขั้นให้อันนะ เธอต่อรอง
อายังคงจ้องคอมพิวเตอร์อย่างเงียบเชียบ พลางถอนใจเบาๆ อาเคยบอกแล้วไงว่านิสัยแบบแกเป็นนักสืบลำบาก อย่าเพิ่งเถียงแล้วลองทบทวนตัวเองดูว่าเป็นอย่างที่อาว่าไว้จริงหรือเปล่า ที่พูดก็เพราะหวังดีนะ...
เธอนิ่งงันมองเขาอย่างผิดหวัง
แต่เอาเถอะ อาถอนใจ ถ้างานนี้ทำได้ดีอย่างที่ว่าจริง อาจะเก็บไปคิดอีกครั้ง แต่ถ้ามันล้มเหลว อาขอให้อันไปหางานประจำทำ แล้วเลิกเล่นเป็นนักสืบเสียที
เธอไม่เคยเล่น!
อาคอยดูก็แล้วกัน อันไม่มีทางยอมแพ้หรอก
เธอเดินออกจากประตูห้องทำงานไปทันที เมื่อเธอออกไปแล้ว อาก็เอนตัวลงกับพนักรถเข็นที่เขาใช้ชีวิตกับมันเกือบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเคาะแป้นพิมพ์ ดวงตาสีฟ้ายังคงไล่อ่านบทสนทนาในอินเตอร์เนทที่มีระบบล็อคอย่างแน่นหนา บทสนทนาที่เป็นต้นเหตุให้เธอต้องมานั่งปวดหัวกับเรื่องที่ว่านั่นเอง
แก้ไขเมื่อ 14 ก.พ. 53 02:58:23
จากคุณ |
:
peiNing
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ก.พ. 53 02:57:37
|
|
|
|