ความคิดเห็นที่ 1 |
ใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน เธอก็พร้อมจะไปงานแต่งงานของอดีตเพื่อนร่วมงานแล้ว
เพียงแค่เห็นชุดที่ใส่และบอกว่ามางานแต่งงาน พนักงานต้อนรับในโรงแรมก็ดูจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็วพร้อมทั้งบอกชื่อห้องและทางไปลิฟต์เสร็จสรรพซึ่งที่จริงไม่จำเป็นเลย ห้องจัดงานเลี้ยงก็อยู่แค่ชั้นสองเท่านั้นเอง จริงๆแล้วเธอมางานโดยที่ไม่แน่ใจเลยว่าจะได้พบคนที่รู้จักกี่คน ไม่แน่ใจว่าเพื่อนเก่าที่ร่วมงานกันจะมาหรือไม่ ยิ่งคนในบริษัทนี้ยิ่งเปลี่ยนหน้ากันไปเร็วเสียด้วย
บรรดาแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายเดินกันขวักไขว่หน้าห้องบอลรูม ภาพถ่ายและซุ้มดอกไม้เก๋ๆประดับรายล้อมอยู่รอบๆราวกับพระราชวังในตำนานเจ้าหญิงเจ้าชาย บรรดาแขกที่มาเท่าที่ดูหรูหราประชันกันเต็มที่จนหญิงสาวอดไม่ได้ที่จะก้มลงมองตัวเองที่อยู่ในชุดเกาะอกกระโปรงสีนวลคาดริบบิ้นสีแดงที่ดูจะเรียบสนิทไปทันทีที่อยู่ในงานนี้
หญิงสาวสูดหายใจเข้าลึกขับไล่ความประหม่าออกไปพลางมองไปรอบๆเผื่อว่าจะพบกับใครที่พอจะรู้จักบ้าง แต่เท่าที่มองหากลับไม่เห็นมีใครที่คุ้นหน้าตาสักนิดจนความกังวลเริ่มเข้ามาจู่โจมอีกรอบ แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์ที่มีคนมาแตะต้นแขนเธอเบาๆ
คงมีใครที่จำได้แล้วเข้ามาทักแน่ๆ!
เธอรีบหันไปอย่างรวดเร็วและยิ้มที่เตรียมจะมอบให้แก่ผู้มาทักทายอย่างยินดีนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นแหยลงทันที
คิดไม่ถึงเลยครับว่าจะได้เจอคุณที่นี่
คะ...เอ่อ...ค่ะ
สุดยอดแห่งความน้ำเน่า! ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่าคนที่มาทักเธอเป็นใคร
หญิงสาวกระพริบตายังตั้งตัวไม่ติด ทำงานตามนายคนนี้มาตลอดทั้งอาทิตย์ไม่เคยให้โดนจับได้ แต่พอไม่ได้ทำงานนี้ดันมาเจอพ่อเจ้าประคุณแบบไม่คาดคิด ทำไมโลกถึงได้กลมดิกขนาดนี้นะ
คุณเป็นญาติทางฝั่งเจ้าบ่าวหรือ ชายหนุ่มในชุดสูทเต็มยศถามกระตือรือร้น ถามเดาแบบกะให้หญิงสาวตอบ
เจ้าสาวค่ะ...ฉันเคยเป็นเพื่อนร่วมงานเก่ากับเธอ
หือ? ชายหนุ่มเลิกคิ้วพลางมองหน้าเธออย่างสงสัย จากนั้นคิ้วนั่นก็มุ่นเข้าหากันก่อนจะก้มลงมาหาเธอเล็กน้อยจนรู้สึกถึงเสียงกระซิบผ่านหู คุณช่วยมากับผมเดี๋ยวหนึ่งได้ไหม
คะ ไปไหนคะ ร่างบางสะดุ้งเล็กๆถอยห่างอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มบุ้ยใบ้ให้ออกห่างกลุ่มแขกที่มาร่วมงาน ไปใกล้ๆกับส่วนที่เป็นระเบียงทางเดินไม่ไกลจากลิฟต์มากนัก ไม่คิดหรอกว่าเขาจะทำอะไร แต่วัวสันหลังหวะก็ยังอดเหงื่อแตกอยู่ข้างในไม่ได้
มีอะไรหรือเปล่าคะ
ผมจะบอกว่า เขาลดเสียงเบาลง เจ้าสาวที่ว่าเป็นหลานผม เรียนจบแล้วแต่งงานเลย เท่าที่ผมรู้...หลานผมเขาไม่เคยไปทำงานที่ไหนมาก่อนนะ
ต่อมเหงื่อที่มันแตกอยู่ภายในตั้งแต่ตอนที่เขาพาเธอปลีกจากแขกนั่นคราวนี้กลั่นตัวเป็นเม็ดผุดอยู่ที่หน้าผากของเธอทันที ร่างบางเดินออกไปที่ส่วนด้านหน้าของฮอลอีกครั้งหนึ่ง ชะโงกดูภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยิ้มชื่นมื่นรับแขกอยู่นั้นก็แทบมึนตึบ หญิงสาวจึงยกโทรศัพท์มือถือขึ้นทันที
พี่จิ๊บ อันเองนะคะ อันมีเรื่องจะถามด่วนเลยค่ะ เธอพูดเร็วปรื๋อเมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ งานแต่งพี่วันไหนหรือคะ...หา...เสาร์หน้าหรือ
เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆอยู่ด้านหลังทำให้เธอรู้ว่าเขาเดินตามเธอมาแล้ว และได้ยินบทสนทนาของเธอเต็มๆเสียด้วยสิ!
บอกตรงๆว่าไม่อยากเจอหน้าเป้าหมายหรอกนะ แต่ถ้าต้องเจอก็ขอเจอแบบในภาพลักษณ์ที่มันดีกว่านี้ไม่ได้หรืออย่างไรกัน!
คุยต่ออีกนิดแล้วตัดสายไป เธอหันกลับไปยิ้มชืดๆให้กับเขา ไม่ต้องอธิบายแล้วว่าเธอเข้าใจผิดเต็มเปาเชียวแหละ เขาเองก็ยิ้มอยู่ในหน้าเฉยๆ ดวงตาเรียบสนิทที่เธอเห็นเป็นประจำในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาพราวด้วยอาการขบขันชัดแจ๋ว แต่ยังคงรักษามารยาทอันดีโดยการถามอย่างเอาใจใส่
แล้วคุณจะเอายังไงต่อดีครับ
ก็คงไม่ยังไง ก็ต้องกลับล่ะค่ะ สีหน้าเธอยังไม่ดีขึ้น
ผมว่าไหนๆคุณก็มาแล้ว อย่าเพิ่งกลับเลยครับ
ขอกลับดีกว่าค่ะ ไม่รู้จักใครเลย หน้าเธอด้านไม่พอด้วย
อย่าพูดอย่างนั้นสิ รอผมครู่หนึ่งนะ เขาขยับตัวโดยไม่ฟังเสียงทัดทานเลยสักนิด เดินแกมวิ่งไปยังหญิงชายคู่หนึ่งซึ่งอายุอานามเป็นบิดามารดาของเขาได้ และเป็นใบหน้าที่ขึ้นตามหน้าหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับข่าวสังคมเสียด้วย ดูนายเก่งกาจคนนี้ต้องให้ความเคารพมากทีเดียวถ้าเดาจากลักษณะการพูดคุย จากนั้นก็บุ้ยใบ้มายังหญิงสาวที่ยังคงยืนเป็นเสาหินอยู่ พลางพยักหน้าเอาศอกกระทุ้งแขนเขาอย่างล้อเลียน และหันมายิ้มกับเธออีกครั้ง เขาก็เดินกลับมา
เข้าไปในงานด้วยกันเถอะครับ ผมคุยกับทางเจ้าภาพให้แล้ว เขาก็ตกลง
แล้วที่ว่าไปคุยนี่ไปคุยอีท่าไหนถึงต้องทำท่าล้อเลียนแบบนั้นด้วย
ถ้าเพียงก้าวเดินออกไป เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตกหลุมพรางอะไรสักอย่าง ทางที่ดีไม่ควรเสี่ยงกับการทำความรู้จักกับเป้าหมายน่าจะดีกว่า
ฝากขอบคุณด้วยนะคะ แต่คงต้องขอตัวจริงๆค่ะ เธอยังคงปฏิเสธด้วยสีหน้ายิ้มๆทว่าดวงตาแสดงการตัดสินใจแล้วซึ่งหากเป็นคนที่รู้จักเธอดี จะรู้ว่าให้ทำอย่างไรก็ไม่อาจเปลี่ยนใจเธอได้อีก
แต่คนที่ไม่ได้รู้จักเธอดีคนนี้กลับมองออกอย่างง่ายดาย...
ถ้าคุณพูดถึงขนาดนี้ก็ไม่เป็นไรครับ ผมไปส่งคุณที่ที่จอดรถแทนก็แล้วกัน
ฉันไม่ได้ขับรถมาค่ะ เดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับ ขอบคุณนะคะ เธอตอบถนอมเสียงพลางยกมือไหว้ลาผู้ใหญ่ใจดีทั้งสองท่านที่มองมาทำเอาฝ่ายนั้นต้องไหว้รับอย่างงงๆพลางหันไปสบตาชายหนุ่มอย่างสงสัย เขาสบตากลับพลางส่ายหน้า ทว่าเมื่อเขาหันกลับมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างสมส่วนในชุดสีนวลก็เดินลงบันไดโค้งไปเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงรีบตามไปทันที
เดี๋ยวผมไปส่ง
เธอไม่ตอบใดๆ นอกจากปล่อยให้เขาเดินเคียงลงไปจนถึงชั้นล่าง เธอรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามจ้องหน้าสบตาเธอให้ได้ แต่ตอนนี้หญิงสาวไม่มีแก่ใจอะไรทั้งนั้นนอกจากจะเผ่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมรอโทรศัพท์จากคุณตลอดเสียงทุ้มเอ่ยเบาๆด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
เธอชะงักเม้มปากนิดหนึ่ง แค่นิดเดียวเท่านั้นก่อนจะคลี่ออกเหมือนเดิม ไม่โต้ตอบอะไรกับเขาทั้งสิ้นนอกจากเงยหน้าสบตาพนักงานของโรงแรมที่ยืนอยู่ใกล้บันไดที่เธอเดินลงมา
ช่วยเรียกแท็กซี่ให้สักคันนะคะ
พนักงานผู้นั้นถามจุดหมายปลายทาง หญิงสาวเหลือบมองเขานิดหนึ่งก่อนจะตอบชื่อสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดเพื่อตัดโอกาสไม่ให้ชายหนุ่มทราบสถานที่ที่เธอต้องการไปได้ เมื่อพนักงานผู้นั้นเดินห่างไปแล้ว เขาจึงเอ่ยถามอีกครั้งหนึ่ง
ก่อนจะไป ครั้งนี้คุณพอจะยอมบอกชื่อของคุณได้ไหม
อันดา เธอตอบเบาๆอย่างเสียไม่ได้และไม่คิดจะถามชื่อเขากลับอย่างที่อยากบอกให้เขารู้ว่าไม่สนใจจะเสวนาด้วย แต่ชายหนุ่มกลับทำท่าเหมือนไม่รับรู้ ใบหน้า (หล่อ) ยิ้มกระจ่างบอกเธอเบาๆ
ผมชื่อเก่ง จะว่าอะไรไหมถ้าผมจะขอเบอร์โทรศัพท์คุณอีกครั้งหนึ่ง
อันดาไม่ตอบ เธอรอแค่ครู่เดียวรถแท็กซี่สีชมพูแปร๋นก็โฉบเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่แทนที่พนักงานโรงแรมจะเป็นคนเปิดประตูให้กลับกลายเป็นว่าถูกแย่งหน้าที่เสียอีก ร่างสูงโน้มลงมาคุยกับเธอหลังจากที่เธอรวบชายกระโปรงก้าวเข้าไปนั่งเรียบร้อยแล้ว
คุณไม่บอกผมคราวนี้ไม่เป็นไร แต่เชื่อไหมว่าผมจะได้พบคุณอีก และเมื่อถึงตอนนั้นคุณอย่าปฏิเสธนะ
สีหน้าสีตาเขาดูจะมั่นใจเสียเหลือเกินว่าเขาจะได้พบกับเธออีกครั้งหนึ่ง ใจหนึ่งก็ตะหงิดๆว่าเขาจะรู้เรื่องที่เธอต้องตามสืบเขาหรือเปล่า แต่อีกใจหนึ่งก็นึกหมั่นไส้สุดๆกับท่าทางแน่อกแน่ใจนั่นจนอดไม่ได้ที่จะต่อปากต่อคำต่อ
ฉันว่าเราคงไม่ได้เจอกันหรอกค่ะ
ผมเชื่อในพรหมลิขิตเสมอ เขายังยิ้มกริ่ม ว่าไงครับ ถ้าเราได้เจอกันอีกครั้งหน้า คุณจะยอมให้เบอร์ผมไหม
ก็ได้ค่ะ เธอสบสายตาท้าทายนั่น ถ้าเราได้เจอกันอีกนะคะ
เขายิ้มตอบรับแล้วถอยฉากไปปิดประตูรถให้เธออย่างนุ่มนวลแล้วแท็กซี่ก็ขับออกมาจากโรงแรมนั้น หญิงสาวได้แต่ทำหน้าเบ้กับอาการเชื่อมั่นในตัวเองสุดขีดนั่น จะยังไงเสียมันก็ท้าทายความสามารถของเธอเหมือนกันว่าจะสามารถหาข้อมูลโดยไม่ทำให้เป้าหมายสงสัยหรือจับได้ได้หรือเปล่า
ให้มันรู้กันไปสิว่าของแบบนี้เธอจะทำไม่ได้!
ตอนนี้อันดาเริ่มจดรายการนิสัยส่วนตัวของนายนั่นได้เป็นหางว่าวแล้ว พอจะจับทางได้ว่าจะซ่อนตัวยังไงให้ปลอดภัยจากรัศมีสายตาของเขา สงสัยสิ่งที่ต้องบันทึกเกี่ยวกับนายเก่งเริ่ดนี่ต่อท้ายหางยังมีอีกอย่างหนึ่ง...
นายนั่นเป็นพวกพูดจาน้ำเน่าได้ไม่อายปากจริงๆ! พรหมลิขิต อะไรพูดออกมาได้ อี๋! ขนแขนสแตนด์อัพ
แต่แล้วในสัปดาห์ถัดมา เธอกลืนคำพูดตัวเองแทบไม่ทันเมื่อพบร่างสูงในชุดสูทซึ่งดูกลมกลืนกับบรรยากาศกำลังยืนพิงที่ระเบียงขอบทางเดิน ยิ้มกริ่มเมื่อเห็นเธอถนัดตาพลางหลิ่วตาอย่างน่าโมโห เขาเดินเข้ามาหาเธอซึ่งยืนตัวแข็งทื่อไปเรียบร้อยแล้ว
กะแล้วเชียวว่าถ้ามางานวันนี้ต้องได้เจอคุณแน่ๆ อย่าลืมสัญญาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนะครับ
จากคุณ |
:
peiNing
|
เขียนเมื่อ |
:
16 ก.พ. 53 20:59:53
|
|
|
|