 |
ความคิดเห็นที่ 5 |
สวัสดีขอรับท่าน ศาลายา ขอยกมาแจมนิดนึงขอรับ
(รีรีข้าวสาร) ๑๑๓๘
๏ รักษ์ธรรม รำถัก ถ้อย.........โคลงถึง คลึง,โท่ง เทงทำขึง..............ข่วนเน้น เข็นนวล หนักเอวดึง..............ดันสู่ ผวนนา ดูสั่น ใจอกเฟ้น....................ผ่องเพี้ยงเพลินเสมอ ๚
๏ เผลอเมิน, เพียงหมอกคลุ้ง..ครวญมา คราม่วน โคลงเรียงพา...........สุขทั้ง - ชังทุกข์ ถั่งโถมมา................ทำหม่น ทนหม่ำ กลืน,เก็บ,ยั้ง............อยู่เกื้อพลังไหว ๚
๏ ไพรหวัง โปรยฉ่ำชื้น..........รวงฝน หล่นพ่วง รดเพลินปน............ป่าพลิ้ว ปลิว,ผา ผ่องงามจน.............ใจผึ่ง จึงใฝ่ เพียรหอบหิ้ว...............ห่วงทั้งเราผอง ๚
๏ ลองเผา ไฟกิเลสเรื้อ -........รัง,ดู หรูดั่ง จิตเจริญพรู.................ผ่านแท้ แพรธาร หลากสีปู................ประกายผ่อง กรองฝ่าย ธรรมทุกข์แก้.........กล่อมห้วงมนุษย์ผลาญ ๚
๏ นานผุด พอผ่านเคลิ้ม........คนึงหา คราหนึ่ง สองสามครา...........ขนาบซ้ำ หนำทราบ แต่นำพา..............เพียรปัก พักเปลี่ยน ตามตอกย้ำ..........หย่อนต้องตรึงฐาน ๚
๏ ตาลถึง คราวเปลี่ยนครั้ง......หวานปน ขมนอ วน,ป่าน เป็นดังฝน...............หลบฟ้า ลาพลบ หมอกโพลนจน.........เมืองขุ่น หมุนเขื่อง แรงขับกล้า...........กรุ่นสู้พลังสมัย ๚ะ๛
๑๒๕๒ ๑๗๐๒๕๓
จากคุณ |
:
คนสาธารณะ
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.พ. 53 13:39:36
|
|
|
|
 |