ความคิดเห็นที่ 1 |
น่าแปลก... ทำไมตอนนี้เขาถึงคิดว่า ฉางเอ๋อที่นอนละเมอร้องไห้เช่นนี้จึงดูน่าเวทนาเหลือเกิน นางดูงดงาม และบอบบางจนเหมือนถ้าสัมผัสนางแรงเพียงนิดเดียว นางอาจแหลกสลายลงในพริบตา ภาพตรงหน้าเกือบทำให้เขาหลงลืมความร้ายกาจที่เป็นเนื้อแท้ของนางไปจนหมดสิ้น
นายท่าน...
เว่ยเหยียนฟงขยับตัวยืนตรง หันกลับมามองคนที่กำลังคุกเข่าก้มหน้านิ่งกับพื้น สะดุดใจกับความคิดที่เกิดขึ้นของตัวเองเมื่อครู่ ขออภัยที่ข้าน้อยเผลอหลับไป ทำไมเจ้าถึงไม่ผลัดเปลี่ยนกับสาวใช้คนอื่นมาดูแลนาง พี่เหม่ยหลินบอกว่า มันเป็นหน้าที่ของสาวใช้คนสนิท ยามเจ้านายป่วยไข้ต้องคอยรับใช้ไม่ให้ห่าง
เว่ยเหยียนฟงส่ายหน้า คงเป็นเพราะอารมณ์ที่มักเลวร้ายของฉางเอ๋อ ทำให้สาวใช้เก่าในจวนไม่มีใครอยากเข้ามาดูแลรับใช้นางอีก จึงส่งเด็กใหม่เข้ามาเป็นที่รองรับอารมณ์นางเช่นนี้
ไปเรียกเหม่ยหลินให้มาดูแลฮูหยินแทนเจ้า ส่วนเจ้ากลับไปพักผ่อนเสีย
หน้ากลมแป้นเหยเกทันทีที่ฟังจบ แต่สายตาเข้มงวดที่มองมาทำให้นางไม่กล้าจะพูดอะไรอีก ก้มหน้าลงต่ำ น้ำตาเริ่มคลอที่หน่วยตา เมื่อคิดถึงว่าพรุ่งนี้ตนเองคงต้องออกไปหางานที่ใหม่เสียแล้ว
พรุ่งนี้เช้าเจ้าค่อยกลับมาดูแลนางเหมือนเดิม ประโยคที่ตามมาทำให้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองนายหนุ่ม หน้าตากลับมายิ้มแย้ม
เจ้าคะ เด็กสาวรับคำก่อนจะโค้งคำนับเดินออกจากห้องไป
เว่ยเหยียนฟงหันกลับมามองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง อยู่ๆ เปลือกตาที่ปิดสนิทก็กะพริบลืมขึ้นมา ดวงตากลมโตฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำตามองไปรอบๆ ตัวอย่างงุนงง ก่อนจะจ้องเขม็งมองมาที่เขา ชายหนุ่มรู้สึกหัวใจตัวเองเต้นแปลกๆ อีกครั้ง
ความหวั่นไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน
คุณเป็นใคร กิรณาพึมพำถามชายหนุ่มที่ยืนอยู่ชิดเตียง คิ้วเรียวขมวดมุ่นเล็กน้อย พยายามเพ่งมองร่างสูงใหญ่ที่บดบังแสงตะเกียง ทำให้ใบหน้าของเขาอยู่ใต้เงามืด เขาสวมเสื้อคลุมสีดำแขนยาวกว้าง สองมือไพล่หลังมองหล่อนเงียบๆ
คะ...คุณเป็นใคร เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไง หล่อนถามเสียงดังขึ้นข่มความกลัวที่เกิดขึ้น พยายามยันตัวลุกขึ้น แต่กลับต้องทิ้งตัวลงนอนที่เดิม เมื่อรู้สึกปวดไปหมดทั้งตัวจนเผลอครางออกมา
ฉางเอ๋อ คราวนี้เจ้ากำลังพูดด้วยภาษาอะไรอีก เขานิ่งไปครู่ ก่อนจะถามขึ้นมาด้วยเสียงทุ่มต่ำคล้ายคนที่กำลังสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเองเต็มที เจ้าให้ไห่จูไปเรียกข้ามาทำไม
ไห่จู... กิรณาทบทวนความจำเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมาได้ เมื่อจำได้ว่าเด็กที่ถูกจ้างให้มาเล่นเป็นเด็กรับใช้จะมีชื่ออย่างนั้น
งั้นคุณก็คงเป็นคุณเว่ยเหยียนฟ่งที่เป็นแม่ทัพอะไรนั้นใช่ไหม
เว่ยเหยียนฟงมองรอยยิ้มสดใสมีชีวิตชีวาของคนตรงหน้าเขม็ง ยามที่ดวงตากลมโตที่เป็นประกายระยับเหมือนกำลังขำอะไรบางอย่างคู่นั้นมองมา มันทำให้ลมหายใจของเขาชะงักกึก เพิ่งตระหนักตอนนี้เองว่า เหตุใดนางจึงได้รับการยกย่องให้เป็นหญิงงามลำดับหนึ่งแห่งเมืองอู่ซื่อ
คุณไปบอกนุชนารถได้ไหมว่า ฉันยอมแพ้แล้ว เลิกเล่นอะไรอย่างนี้เสียทีเถอะ
ภาษาพูดฟังแปลกหูประโยคนั้น ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง ตาเรียวหรี่ลงเมื่อเอ่ยถามอีกครั้ง
เจ้ากำลังพูดถึงใคร
หญิงสาวพยายามกลั้นยิ้มทำหน้าเคร่งเครียดตาม นุชนารถก็คนที่จ้างคุณให้มาเล่นเป็นแม่ทัพนี่ไง
เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่งจนทำให้คนที่มองอยู่เริ่มใจคอไม่ดี ก่อนเขาจะถามออกมาอีกครั้ง ฉางเอ๋อ... เจ้ามีอะไรอยากพูดกับข้าก็รีบๆ พูดมา ข้าไม่มีเวลาทั้งคืนมานั่งฟังเจ้าพูดจาไร้สาระพวกนี้ คุณไม่รู้จักนุชนารถหรือ
ข้าไม่รู้จักผู้ที่เจ้าถามถึง เขาพูดตัดบทเสียงเข้ม หากไม่มีเรื่องใดจะพูดอีก ข้าก็คงต้องขอตัวก่อน
เดี๋ยวก่อนคุณเว่ย หล่อนรีบจับชายแขนเสื้อคลุมของคนที่หันหลังกลับทันทีที่พูดจบ หล่อนงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้ามากขึ้น
ชายหนุ่มสะบัดแขนเสื้อให้พ้นการจับนั้น ดวงตาที่จ้องเขม็งมาคู่นั้นเป็นประกายดุดันจนน่ากลัว มือใหญ่บีบคางหล่อนแน่นจนเจ็บ
ว่ามาสิท่านหญิงเฟ่ยฉางเอ๋อ เสียงของเขาราบเรียบ แต่ทำให้คนถูกมองรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ใบหน้าขาวที่มีไรหนวดจางๆ ชะโงกเข้ามาใกล้มากขึ้น
ไหนบอกข้ามาสิว่า ตอนนี้เจ้ากำลังเสแสร้งจะทำอะไรอีก ข้าจะได้ตามเจ้าให้ทัน ถ้าเป็นไปได้เจ้าช่วยบอกข้าหน่อยได้ไหมว่า เวลานี้เจ้ากำลังมีแผนการอะไรที่จะทำให้ข้าเสื่อมเสียอีก
คะ...คุณจะทำอะไร ปล่อยฉันน่ะ กิรณาตัวเกร็ง ความกลัวเอ่อล้นขึ้นมาในอกอีกครั้ง พยายามส่ายหน้าให้หลุดจากการจับกุมนั้น หล่อนยกมือที่อ่อนแรงพยายามดันแผ่นอกกว้างให้ห่างออกไป
เพียงแค่เห็นดวงตาตรงหน้าฉ่ำน้ำ เว่ยเหยียนฟงก็ปล่อยมือจากใบหน้างามนั้นทันที ความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นทำให้ชายหนุ่มยิ่งโกรธเพิ่มมากขึ้น
เจ้าให้ไห่จูเรียกข้ามาพบทำไม เขาถามเสียงลอดไรฟัน
ฉัน... กิรณาพยายามกลั้นสะอื้น ฉันอยากให้คุณไปบอกกับนุชนารถหน่อยว่า เลิกเล่นได้แล้วฉันอยากกลับบ้าน
ฉางเอ๋อ... เจ้าต้องการกลับตระกูลเฟ่ยจริงหรือ ริมฝีปากเรียวเหยียดยิ้มหยาม เจ้าถามทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แล้วว่า แม้ข้าจะต้องการส่งตัวเจ้ากลับเพียงใด แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนของตระกูลเว่ยแล้ว อย่างไรข้าก็คงไม่ส่งตัวเจ้ากลับไปไม่ได้ ดังนั้นในเมื่อเจ้าต้องอยู่ที่นี้ต่อไปเจ้าก็อย่าพูดเรื่องนี้ให้ข้าได้ยินอีก และข้าขอเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เลิกเล่นละครพวกนี้ได้แล้ว ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะทำอย่างที่เจ้าต้องการจริงๆ ก็ได้ พูดจบเขาก็เดินออกจากห้องไป
น้ำเสียงราบเรียบและสายตาเย็นชาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มองมานั้น ทำให้กิรณารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก หล่อนเริ่มมองไปรอบๆ ตัวกับสภาพห้องที่เหมือนหลุดออกจากหน้าหนังสือประวัติศาสตร์จีนด้วยสายตาตื่นตระหนัก
มือเรียวยกขึ้นควานหาหยกประจำตัวที่มักพกติดตัวอยู่เสมอ แต่เมื่อพบกับความว่างเปล่า ความกระวนกระวายใจก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างระงับไว้ไม่อยู่ ไม่เข้าใจสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนนี้แม้แต่น้อย ร่างบางพยายามยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ความตื่นกลัวอัดแน่นเต็มหัวใจ แต่กล้ามเนื้อที่อ่อนแรงทำให้ลุกได้เพียงเล็กน้อยก็ต้องทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม
ถ้าทุกอย่างไม่ได้เป็นแผนการตลกร้ายของนุชนารถ หรือนี่จะเป็นการลักพาตัว...
กิรณาส่ายหน้าไปมากับความคิดหลังนี้ เพราะถ้าเป็นการลักพาตัว ทำไมคนที่นี้ถึงทำเหมือนกับหล่อนเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่ง ผู้หญิงที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีเสียด้วย รู้สึกว่าผู้ชายคนเมื่อกี้จะเรียกหล่อนว่า ท่านหญิงเฟ่ยฉางเอ๋อใช่ไหม
ฉางเอ๋อ... เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ในนิทานจีนโบราณอย่างนั้นหรือ... หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ เพื่อระงับอารมณ์หวาดกลัวที่เกิดขึ้น
นี่มันต้องเป็นเรื่องตลกที่นุชนารถคิดขึ้นมาแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้น ทำไมคนที่หล่อนมาเหมือนต้องมีชื่อที่หมายถึงพระจันทร์เหมือนกันด้วย
โบว์...ออกมาน่ะ อย่าล้อเล่นอย่างนี้กับฉัน กิรณาลองเรียกเพื่อนด้วยเสียงที่ดังขึ้น ก่อนจะไอออกมาอย่างรุนแรงอีกครั้งจนรู้สึกหมดแรง สมองมึนงงรอบตัวหมุนคว้างไปหมด ความอ่อนเพลียเข้ามาครอบงำอีกครั้ง
โบว์... คนบนเตียงพึมพำเรียกออกมาอีกครั้ง เปลือกตาค่อยๆ หนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ
ฉันต้องกำลังฝันอยู่แน่นอน... ฉันกำลังฝันไป...
กลิ่นกำยานอบอวลลอยคลุ้งอยู่รอบๆ ตัว ยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกเหมือนร่างกายจมลงสู่ก้นบึ้งของกาลเวลาที่ผ่านมาเนิ่นนานเพิ่มมากขึ้นทุกที
มีต่อ..............
| จากคุณ |
:
w_panda
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 ก.พ. 53 19:34:18
|
|
|
|