Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ในห้วงฝัน(In my dream)  

...ลมเอย เพียงโชยกลับเลยพ้นผ่าน ให้ใจสะท้าน หวั่นไหวแล้วผ่านพ้นไป...
เหมือนนอนหลับฝัน ฟื้นคืนไม่เจอหัวใจ ถึงเหงาเพียงไร ข่มใจระทม
ใจเอ๋ย ไม่เคยจะเจอเนื้อคู่ แต่ใครไม่รู้ ดูเหมือนมากับสายลม ไม่ทันได้ทัก ไม่ทันได้เชยชิดชม แล้วสายลมโชยให้เธอเลือนลับตา
หากเธอคือความฝัน อยากกลับไปในฝัน เธอคนนั้นคงไม่มีวันลางเลือนจากฉันไป
หากเธอคือความฝัน อยากหลับชั่วนิรันดร์ อยากจะพบเจอเธอ อยากมีเธอไว้แนบเคียงใจ ไม่มีวันลบเลือน...


เสียงเพลงประกอบละครเวทีดังขึ้นเบา ๆ จากคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่เปิดวางทิ้งไว้บนโต๊ะทำงานไม้ตัวใหญ่ ถ้าผมจำไม่ผิด ดูเหมือนละครเวทีเรื่องนี้จะเป็นหนึ่งในละครเวทีที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากคนไทย และสร้างกระแสความนิยมในการชมละครเวทีขึ้นในกลุ่มคนไทยได้เป็นอย่างดี

ในฐานะนักธุรกิจด้านเอนเตอร์เทนเมนท์แล้ว เพลงและละครเวทีเรื่องนี้ควรทำให้ผมคิดถึงกลยุทธ์การตลาดและคุณภาพการผลิตที่ทำให้งานชิ้นเยี่ยมนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

ในฐานะศิลปิน ผมคงชื่นชมในเสียงร้อง ท่วงทำนอง และเนื้อเพลงที่สื่อความหมาย

แต่ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ผมกำลังรู้สึกอย่างในเนื้อเพลง

...ลม...เจ้าจงพัดไป บอกเธอให้รู้ ฉันอยู่ตรงนี้ เฝ้าคอย...
หากเธอคือความฝัน อยากกลับไปในฝัน เธอคนนั้นคงไม่มีวันลางเลือนจากฉันไป
หากเธอคือความฝัน อยากหลับชั่วนิรันดร์ อยากจะพบเจอเธอ อยากมีเธอไว้แนบเคียงใจ ไม่มีวันลบเลือน
หากได้พบเจอเธอจะกอดเธอแนบกาย ไม่มีวันล้างรา...


ถ้าใครรู้เข้าอาจต้องขำจนน้ำตาร่วงที่ผู้ชายอย่างผมกำลังคิดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดคุย ที่ร้ายที่สุดคือไม่เคยเห็นหน้าชัด ๆ เสียด้วยซ้ำ
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีตัวตนอยู่จริงหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเพียงความฝัน ผมก็ยอมหลับไม่ต้องตื่นเพื่อให้ได้อยู่กับเธอ

มันไม่ใช่แค่ความคลั่งไล้หรืองมงาย แต่ผมคิดว่านี่คือความรู้สึกพิเศษ คงคล้าย ๆ ที่คนไทยเรียกกันว่า...ความผูกพัน...

มันยากที่จะบอกว่าความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ผมรู้แค่ว่า ทุกคืนที่ล้มตัวลงนอน ผมมีเพียงความหวังว่าจะได้พบกับเธอ แม้จะเป็นแค่ความฝัน แม้มันจะนำมาซึ่งความผิดหวังเมื่อตื่นขึ้นมารับรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่มีเธอ แต่ก็ยังดีกว่าที่ผมจะไม่ได้พบกับเธอเลย

ไม่น่าเชื่อว่าสวรรค์จะเล่นตลกกับมนุษย์ได้ถึงเพียงนี้

ผมถอนใจยาว ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปกับเพลงซึ่งดังขึ้นซ้ำ ๆ เพราะทั้งเพลย์ลิสท์มีอยู่เพลงเดียว


แล้วตัวมารก็ก้าวเข้ามาขัดจังหวะอารมณ์ผม เมื่อประตูห้องทำงานถูกเปิดออกด้วยฝีมือของไอ้เพื่อนเวรที่รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย

“ไง...นั่งฝันถึงใครอยู่วะ”

“สาบานได้ว่าไม่ใช่แก” ผมตอบเสียงเอื่อย ๆ ยื่นมือไปเลื่อนเมาส์กดปิดเพลงอย่างเกียจคร้าน บางทีเก้าอี้นุ่ม ๆ ใหญ่ ๆ ของผู้บริหารนี่ก็สร้างนิสัยเสียได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

คุณเพื่อนตัวมารลากเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานผมไปนั่งโดยไม่รอคำเชิญ เสียงหัวเราะอย่างคนอารมณ์ดีฟังน่าหมันไส้จริง ๆ “ก็ดี...ไม่อย่างนั้นคงน่ากลัวพิลึก”

“แกไม่ได้ถ่อสังขารมาถึงนี่เพื่อกวนประสาทฉันใช่ไหม” ผมจ้องหน้าเขาด้วยความหงุดหงิด หน้าด้านหน้าทนเข้ามากวนโมโหกันอย่างนี้ ถ้าไม่มีเรื่องที่มีสาระดี ๆ มาผมก็อยากจะเตะมันให้หน้าหงาย

“หงุดหงิดอะไรนักหนาวะ วันอันตรายหรือไง”

“นับหนึ่งถึงสาม ถ้าไม่พูดก็ออกไป ฉันจะทำงาน”

แม้ทั้งเสียง ทั้งตาผมจะดุแค่ไหน แต่กับคนที่เรียนด้วยกันมาจนรู้ไปถึงไส้ถึงพุงอย่างมันก็ไม่เคยกลัวแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม คุณเพื่อนตัวดียังนั่งหัวเราะหึ ๆ แล้วผิวปากหวืออย่างสบายอารมณ์ กว่าจะได้ฤกษ์พูด

“ได้ยินว่าแกกำลังตามหาคน”

“แล้ว...”

“ก็เผื่อฉันจะช่วยแกได้” คนตรงหน้าผมหัวเราะอย่างมีเลศนัยเมื่อโน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย ประกายตาคมวาวบนใบหน้าหล่อเหลาที่แพ้ผมไปแค่นิดเดียว แต่ติดจะสำอางมากกว่าผมอย่างมหาศาลนั้นดูไม่เข้ากันเลยจริง ๆ

ผมเลิกคิ้วมองหน้าเพื่อนที่รู้จักกันมานาน รู้ดีว่าคนตรงหน้าค่อนข้างจะกว้างขวาง อิทธิพลลมปากหวานหูที่เขาใช้หลอกสาว ๆ ไปวัน ๆ ยังไม่เท่ากับความสามารถที่เจ้าตัวเก็บงำซ่อนไว้ภายใต้ท่าทางเหาะแหละไม่เอาถ่าน จนเมื่อถึงเวลานั่นละดาบที่ซ่อนไว้ในฝักจึงถูกชักออกมา บอกความเฉียบคมของสติปัญญาและความร้ายกาจของเขี้ยวเล็บที่ซ่อนไว้

ประกายตาที่ราวบอกความเชื่อมั่นแบบนั้นทำให้ผมถอนใจยาว “อย่าเลยว่ะ...ฉันไม่ไว้ใจแก”

“ไอ้...” มันยกมือขึ้นชี้หน้าผม ทำท่าจะด่าอะไรสักอย่างแล้วก็เปลี่ยนใจ ยกมือกุมขมับเอ่ยคำสบถยาวเหยียดกว่าจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

“นี่ตกลงแกไม่อยากเจอเธอหรือไงวะ”

“รู้ได้ยังไงว่าเป็น‘เธอ’”

“สาว ๆ ลือกันให้แซ่ดว่าแกกำลังตามหาผู้หญิงที่ถอดเขี้ยวเล็บแกออก”

เสียงพูดปนเยาะนั่นระคายหูผมพิกล แต่เมื่อเป็นความจริงผมก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ

“ก็เพราะเป็นผู้หญิงไง ถึงไม่ไว้ใจแก” ผมบอกอย่างรู้นิสัยเพื่อนดี เรียกให้เขาหันมามองผมตาขุ่นขวาง

“ผู้หญิงของเพื่อนฉันไม่ยุ่งโว้ย” เพื่อนผู้มีคุณธรรมในใจ แต่อาจไม่มีอยู่ในการกระทำบอกเสียงแข็ง ก่อนจะถอนใจยาวแล้วจ้องหน้าผมอย่างเอาจริงเอาจัง “ถามจริง...ผู้หญิงที่ไหนทำให้แกหยุดได้วะ”

“ไม่รู้” ผมตอบเสียงเรียบ เขาจึงมองตาขวางอย่างไม่พอใจก่อนที่ผมจะบอกต่อ “ถ้าฉันบอกว่ายังไม่เคยเจอเธอ แกจะว่าฉันบ้าเปล่าวะ”

“ไอ้บ้า” มันตอบได้ทันที

“งั้นก็ไม่ต้องฟัง กลับไปได้แล้ว เสียเวลาคนจะทำงาน” ผมไล่ทันที เขาจึงรีบยกมือทั้งสองข้างเอ่ยอย่างยอมแพ้

“โอเค ๆ โทษทีเพื่อน...เล่ามา ๆ”

ผมชั่งใจอยู่ไม่นาน ก็เล่าถึงค

แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 15:00:04

จากคุณ : Argent
เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 14:58:05




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com