Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หัวใจฤาจะไร้รัก(เธอ) ตอน ๑๐  

ตอน ๑๐

กันตามีประทีปและครรชิตคอยช่วยในเรื่องต่าง ๆ จนกระทั่งถึงวันเปิดร้าน ครรชิตเชิญคนที่รู้จักมาร่วมแสดงความยินดีให้เป็นส่วนใหญ่ เพราะเขาเองก็กว้างขวางพอสมควรในระแวกนั้น นิรมลกับสรัลก็ช่วยด้วยอีกแรงโดยการชวนเพื่อน ๆ ที่ทำงานมาร่วมชิมกาแฟและเบเกอร์รี่ด้วย วันนี้เจ้าของร้านเปิดให้ชิมฟรีตลอดวัน กาจน์เองก็ชวนลูกค้ามาร่วมงานด้วย อนวัชหลีกเลี่ยงคำขู่ของเพื่อน ๆ ไม่ได้ จึงจำใจต้องมาให้แขกในร้านได้เห็นหน้าบ้าง แต่กระนั้นเขาก็ยังอุตส่าห์ทำร้ายจิตใจคนเป็นเมียทางอ้อมได้อีก

เพราะรัตนาภร กับมาริสาก็มาร่วมงานนี้ด้วย แต่ความที่วุ่นกับแขกในร้านทำให้กันตาไม่มีเวลาจะไปคิดเรื่องอื่น นอกจากจะคอยบริการแขกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ครรชิตดูเหมือนจะช่วยเธอในจุดนี้ได้มาก เพราะเขาวิ่งช่วยเสิร์ฟประหนึ่งเป็นเจ้าของร้านเอง นิรมลก็ไม่ได้น้อยหน้าคอยช่วยเหลือตลอดเวลา กันตาให้รู้สึกอบอุ่นไม่น้อย ที่มีคนคอยช่วยเหลือตั้งแต่ต้น ก็นับว่าโชคยังดีอยู่มาก ถึงแม้ใครบางคนจะทำหมางเมินประหนึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยก็ตาม

“เฮ้อ! เหนื่อย วันที่มากินแล้วต้องจ่ายคนจะเยอะแบบนี้มั้ยนะ”
นิรมลถอนหายใจแรง ๆ ออกมา เมื่อแขกหมดไปจากร้านได้สักพัก กันตาได้แต่ยิ้มให้ด้วยความขำ แต่ก็ซาบซึ้งในน้ำใจของนิรมลไม่น้อย

“ดื่มน้ำส้มคั้นเย็น ๆ ก่อนนะคะคุณนิ ขอบคุณมาก ๆ เลยค่ะที่มาช่วยหวายวันนี้ ถ้าไม่ได้คุณนิหวายคงจะแย่แน่”
บอกพรางยื่นแก้วให้ อีกคนรับมาดื่มด้วยความกระหาย กันตาจึงหันไปหาครรชิตที่เดินมานั่งลงใกล้ ๆ
“คุณชิตจะรับด้วยมั้ยคะ”
“อืม! ผมขอเป็นเบียร์เย็น ๆ แล้วกันนะครับ” คนถูกถามยิ้มรับด้วยความสดใส

“ถ้าจะกินเหล้ากินเบียร์คุณชิตต้องไปร่วมวงด้านนอกโน่นล่ะค่ะ ที่นี่มีแต่น้ำผลไม้กับกาแฟ”
นิรมิลอดประชดไม่ได้ จึงบอกพร้อมเบ้ปากไปทางกลุ่มอนวัชและเพื่อน ๆ รวมทั้งรัตนาภาที่นั่งพูดคุยกันอย่างออกรสอยู่โต๊ะนอกร้าน
“โอ้โห! พอหมดประโยชน์ก็รีบไล่เลยนะครับ รู้งี้ไม่มาช่วยก็ดี ปล่อยให้คุณนิวิ่งวุ่นอยู่คนเดียว”
“นี่ค่ะเบียร์เย็น ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะคะคุณชิต”
กันตาส่งเบียร์พร้อมแก้วให้ และไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณในความมีน้ำใจของเขาอีกคน

“ค่อยยังชั่วหน่อยครับ คุณหวายไม่ต้องเกรงใจนะครับ บ้านเราติดกัน ผมยินดีช่วยเสมอและทุก ๆ เรื่อง ไอ้เก้ามันไฟเขียวกับผมแล้ว ว่าให้เข้านอกออกในบ้านได้โดยไม่ต้องขออนุญาต”
แม้จะเป็นคำพูดทีเล่นทีจริง แต่ก็ทำให้คนฟังอดน้อยใจไม่ได้ ที่ผู้เป็นสามีไม่คิดจะหึงหวงเลยสักนิด เธอเลือกที่จะไม่ตอบแต่หากยิ้มให้ครรชิตแทน

สายตาดุดันเผลอมองเข้าไปในร้านที่เป็นกระจกใส สามารถเห็นด้านในเกือบทั้งหมด อดนึกหมั่นไส้ไม่ได้ กับรอยยิ้มของเมียตัวเอง ที่ส่งไปให้เพื่อนรักเขาอย่างไม่รู้จักจะเกรงใจคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผัว ถึงในใจจะบอกว่า ‘เกลียดแม่นั่น’ ยังไง อนวัชก็ยังคงมีความเป็นผู้ชายอยู่ในตัวเฉกเช่นสามัญชนทั่ว ๆ ไป เขาจึงไม่ชอบใจนักที่จะเห็นเมียยิ้มระรื่นอยู่กับชายอื่น ร่างกำยำลุกพรวดขึ้นจากวงเหล้าเดินตรงเข้าไปในร้านอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

“คุณเก้าจะไปไหน รอดี้ด้วยสิคะ” รัตนาภรจำต้องวิ่งตามเมื่อเห็นเขาเดินตรงไปทางประตูร้าน
“ไม่ไปร่วมวงกับฉันข้างนอกเหรอชิต เพื่อน ๆ บ่นถึงอยู่โน่น” สีหน้าบึ้งตึงถามเพื่อนออกไป
“ไม่เอาล่ะ วันนี้ฉันไม่กินเหล้าดีกว่า หมดเบียร์ขวดนี้แล้วจะช่วยคุณหวายเก็บของ เสร็จก็กลับบ้านไปนอน พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า คุณหวายจะเก็บหรือยังครับผมจะได้ช่วย” ครรชิตปฏิเสธเพื่อนหน้าตาเฉย

“เดี๋ยวนี้ไม่อยากกินเหล้าแล้วเหรอ จะปฏิวัติตัวเองรึไง ไม่เห็นต้องช่วยเก็บเลยนี่ คนงานก็มีจะมาเสียเวลาทำไมกัน”
“อ้าว! ก็ฉันอยากช่วยนี่ คุณหวายยุ่งมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว หัดหันมามองเมียตัวเองบ้างนะ อย่าเอาแต่ควงผู้หญิงอื่นมาแบบนี้ แกไม่เห็นสายตาของแขกที่มาร่วมงานบ้างเหรอ” ครรชิตอดว่าไม่ได้ เมื่อรัตนาภรเดินเข้ามาในร้านพอดี

“ทำไม ฉันเป็นผู้ชายจะทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด แต่ผู้หญิงนี่สิ จะพูดจะจากับใครก็หัดคิดบ้างนะ เดี๋ยวใครจะคิดว่าฉันกินหญ้าแทนข้าว”
ปากพูดแต่หันไปหาอีกคนที่กำลังเก็บข้าวของอยู่กับหล้า รู้ดีว่าเขาจงใจจะตำหนิ แต่กันตาก็บอกตัวเองว่า ไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลยสักนิด สีหน้าของอนวัชบอกบุญไม่รับ เมื่อคำพูดเหน็บแนมของตัวเองไม่ทำให้เมียสะทกสะท้านเลย จึงหันไปหารัตนาภรก่อนจะถาม

“วันนี้จะนอนที่นี่หรือเปล่าครับคุณดี้”
“เอ่อ ดี้ไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานี่คะ ไหนคุณเก้าบอกว่าจะไปส่งดี้ไง แล้วก็จะค้างที่นั่นเลย”
รัตนาภรให้สงสัย พร้อมกันนั้นก็อยากจะเย้ยหยันคนที่เป็นเมียเขาอยู่ในที เพราะความเป็นผู้หญิงจึงให้อิจฉานัก ที่กันตาได้รับเกียรติเป็นถึงเมียที่ถูกต้องตามกฏหมาย แม้ตัวเองจะคบกับผู้ชายหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่วายจะหวงอนวัชอยู่ดี ทั้ง ๆ ที่เขาและเธอไม่คิดจะมีข้อผูกมัดใด ๆ ต่อกัน

“ไม่ต้องใช้ก็ได้เสื้อผ้า ไม่เห็นสวยเลย มีแต่เกะกะ ผมจะกลับเข้าบ้านแล้วนะครับ ไม่อยากอยู่แถวนี้ให้รกตาใคร”
ว่าแล้วก็เดินดุ่ม ๆ ออกจากร้านไปดื้อ ๆ รัตนาภรรีบเดินแกมวิ่งตามไปติด ๆ นิรมลกับครรชิตหันไปสบตากันก่อนจะส่ายหน้าไปมาด้วยความระอา ส่วนกันตาไม่คิดจะสนใจกับการกระทำของเขาอีกแล้ว ได้แต่ก้มหน้าเก็บข้าวของด้วยอาการสงบ

กันตาเลือกที่จะไม่กลับไปเยี่ยมพ่อในเดือนนี้ เพราะร้านเพิ่งจะเปิดจึงยังปล่อยให้หล้าดูแลคนเดียวไม่ได้ อีกทั้งคุณอาจินก็เพิ่งจะโทรบอกว่าจะมาดูกิจการ หญิงสาวจึงใช้วิธีโทรไปหาพ่อและหลานชายแทน

“เมียเจ้ากฤตมันแท้งลูก ไม่มีเงินไปจ่ายค่าโรงพยาบาลน่ะหวาย พ่อขอเงินไปช่วยพี่หน่อยได้หรือเปล่าลูก”
กันตารู้ดีว่าพ่อคงจะลำบากใจเมื่อต้องมารบกวนแบบนี้ เพราะเมื่อก่อนพ่อมักจะให้เงินพี่ชายใช้อยู่บ่อย ๆ แต่ตอนนี้ทำมาหากินไม่ได้ ก็คงจะเกรงใจลูกเป็นธรรมดา

“หวายจะฝากไปกับลุงมิ่งก็แล้วกันนะจ๊ะพ่อ”
หญิงสาวเลือกที่จะทำให้พ่อสบายใจ มากกว่าจะไปต่อว่าพี่ชาย ที่ไม่รู้จักหาเงินเก็บเอาไว้ใช้ในยามจำเป็นแบบนี้ และอีกหลาย ๆ เรื่องที่กันตาจะต้องรับรู้จากพ่อ และทุกเรื่องล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินแทบทั้งสิ้น ไม่ว่าจะค่าเทอมหลาน ค่าจ้างจินตนา ค่าหยุกยาของพ่อที่จะต้องกินเป็นประจำอยู่แล้ว

“ตกลงสุจะไม่ลองชิมกาแฟของหนูหวายก่อนค่อยไปจริง ๆ เหรอ”
คุณอาจินหันไปหาภรรยาที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ หลังจากเดินสำรวจดูรอบ ๆ ร้านกับสะใภ้ได้สักพักแล้ว
“เอาไว้ชิมพรุ่งนี้ก็ได้นี่คะ เราจะอยู่อีกตั้งวันหนึ่ง จะถึงเวลานัดแล้ว ขืนกินไปตอนนี้อิ่มกันพอดี ก็ไปนั่งดูเพื่อนกินอย่างเดียวสิคะ งั้นสุไปนะคะเจอกันเย็น ๆ ค่ะ”
สุภาไม่ยอมตามใจสามี และก็ไม่ยอมบอกว่าที่นัดไว้เป็นใครด้วย อีกทั้งคุณอาจินก็ไม่คิดจะไปซักไซ้ไล่เลียงนัก สุภาเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บแก้มสามีเพื่อเป็นการปลอบใจ ก่อนจะรีบเดินไปขึ้นรถที่มีมิ่งจอดรออยู่ก่อนแล้ว

กันตาได้แต่ยิ้มให้กับความน่ารักของคนทั้งสอง แม้จะอายุห่างกันหลายปี อีกทั้งไม่ใช่ผัวเดียวเมียเดียวมาแต่ต้น แต่เธอก็เห็นสุภาคอยเอาใจใส่ดูแลคุณอาจินด้วยดีเสมอมา ให้แปลกใจไม่น้อยที่คนเป็นลูกเลี้ยงเอาแต่ด่าทอ ประชดประชันแม่เลี้ยงไม่มีที่สิ้นสุด รถของสุภาแล่นออกถนนใหญ่ไปแล้ว กันตาจึงหันมาหาคุณอาจินที่ยังคงยืนมองตามภรรยาอยู่อย่างนั้น

“คุณพ่อจะนั่งรับของว่างในร้านเย็น ๆ หรือจะไปนั่งโต๊ะใต้ร่มไม้ดีคะ ตรงนั้นก็ลมพัดเย็นสบายเหมือนกันค่ะ”
“อืม ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกจะดีกว่ามั้ยลูก” คุณอาจินหันมาตอบ
“คุณพ่ออยากลองชิมอะไรก่อนดีคะ ชา หรือว่ากาแฟ”
“แล้วเจ้าของร้านมีอะไรอร่อยจะแนะนำหล่ะ”คนถูกถามยิ้มให้อย่างเอ็นดูผู้อ่อนวัยกว่า กันตาถึงกับยิ้มร่าด้วยความขำ

“ร้านนี้มีแต่ของอร่อย ๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ งั้นหวายว่าคุณพ่อจิบชาร้อน กับมัฟฟินฟักทองมั้ยคะ อร่อยอย่าบอกใครเลยค่ะ ฟักทองหวายเก็บมาจากสวนหลังบ้านเราเองนะคะ หรือว่าคุณพ่อจะลองโอวัลติน มอลต์ เฟรชชี่เย็น ๆ กับทูน่าโรลก็ได้ค่ะ หวายไม่อยากให้คุณพ่อดื่มกาแฟมากไปค่ะ เมื่อเช้าก็ได้ไปแก้วหนึ่งแล้ว” คุณอาจินยิ้มรับในความห่วงใยที่สะใภ้มีให้ด้วยความอารมณ์ดี ก่อนจะตอบรับ

“งั้นพ่อเอาชาก็ได้ลูก”
“ค่ะ เดี๋ยวคุณพ่อไปนั่งรอก่อนนะคะ อีกหน่อยหวายจะยกไปให้ค่ะ”
รีบจัดแจงทำตามคำสั่งของลูกค้ากิติมศักดิ์ในทันที ไม่นานของว่างก็ไปวางอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่กันตาจำต้องปล่อยให้คุณอาจินนั่งคนเดียวไปพลาง ๆ ก่อน เพราะมีลูกค้าเข้าร้านสองสามคน

“พ่อโอนเงินเข้าบัญชีหวายแล้วนะ ๒ ล้าน”
บอกแล้วยิ้มให้เมื่อสะใภ้เดินตรงมาหาหลังจากต้อนรับลูกค้าเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” ไหว้ผู้มีแววตาแห่งความปราณีอย่างนอบน้อม

“พ่อสิ ต้องขอบคุณหวายที่ยอมช่วยพ่อ แล้วกิจการเป็นยังไงบ้างลูก พ่อเห็นมีคนเข้าเรื่อย ๆ ดีนะ หนูเลยต้องเหนื่อยมาดูแลร้านเลย” ยิ้มรับอย่างซาบซึ้งที่ผู้อาวุโสออกอาการห่วงใย
“หวายไม่เหนื่อยหรอกค่ะคุณพ่อ อยู่เฉย ๆ สิคะเหนื่อยกว่าอีก กว่าจะหมดไปวัน ๆ มันช้ามาก ๆ เลยค่ะ”

“นั่นสินะ นี่เผลอแป๊ป ๆ ก็ปาเข้าไปสามเดือนแล้ว แต่พ่อว่ามาคราวนี้ดูหนูจะสดใสกว่าครั้งก่อนนะ สงสัยได้อยู่ห่าง ๆ เจ้าเก้าล่ะสิท่า แล้วเป็นยังไงบ้าง พักนี้มันหอบใครมานอนที่บ้านอีกหรือเปล่า”
ดวงหน้าขาวเนียนแทบจะหุบยิ้มลงไปในทันที กับคำถามที่ฟังดูเหมือนจะเป็นการพูดคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป หาใช่สลักสำคัญไม่

“เอ่อ ก็ไม่มีนะคะคุณพ่อ ช่วงนี้หวายเองก็กลับบ้านเย็น ๆ เลยไม่ค่อยได้เจอคุณเก้าเท่าไหร่ค่ะ หวายต้องขอโทษคุณพ่อมาก ๆ นะคะ ที่ทำงานตามคำสั่งยังไม่สำเร็จค่ะ แล้วหวายจะพยายามให้มาก ๆ กว่านี้นะคะ”
กันตาเลือกที่จะเลี่ยงกับคำตอบตรง ๆ เพราะกลัวเขาจะหาว่า ‘ขี้ฟ้อง’ อีกเหมือนคราวที่แล้ว
“ไม่ต้องมาโกหกแทนมันหรอก พ่อรู้จักลูกตัวเองดี และก็ไม่ต้องมาขอโทษพ่อด้วย ลำพังแค่หนูทนอยู่กับมันได้มาถึงวันนี้พ่อก็ว่าดีมาก ๆ แล้วล่ะลูก ไอ้นี่บทมันจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายขึ้นมาใครก็เอาไม่อยู่ คงจะได้เลือดพ่อมาเยอะน่ะ”

รู้ดีว่าลูกมีส่วนคล้ายตัวเองมาก คือไม่ค่อยจะฟังใคร ถ้าลองได้ตัดสินไปแล้ว ก็อย่าได้มาลบความคิดนั้นออกไปจากหัวได้ง่าย ๆ คุณอาจินไม่ทันจะได้ถามไถ่อะไรสะใภ้มากนัก ครรชิตก็นำรถเข้ามาจอดแล้วเดินตรงมาหา อีกทั้งกันตาจะต้องไปคอยบริการลูกค้าที่กำลังจะจากไป และกำลังจะเข้ามาใหม่

คุณอาจินได้รับรู้จากครรชิตว่าเขาเข้ามาช่วยเป็นหูเป็นตาให้ตามที่เคยขอเอาไว้ แม้ผู้อาวุโสจะกังวลไม่น้อยว่าเพื่อนลูกชายจะคิดเกินเลยกับสะใภ้ตัวเอง แต่ด้วยเคยได้ยินป้าผ่องบอกเอาไว้

‘นายหญิงวางตัวดีค่ะ เวลาคุณชิตมาหาทั้งที่ร้านและที่บ้านนายหญิงก็จะให้หล้าอยู่ด้วยใกล้ ๆ ค่ะ หรือไม่ผ่องก็จะไปอยู่เป็นเพื่อน ส่วนใหญ่คุณชิตจะมาช่วยทำขนมนิด ๆ หน่อย ๆ เวลาแกเสร็จงานที่ฟาร์มค่ะ จากนั้นก็จะไปข้างนอกหรือไม่ก็นั่งจิบเบียร์กับนายเก้าแล้วก็กลับค่ะคุณท่าน ไม่ได้ดูน่าเกลียดตรงไหนเลย ผ่องว่าดีซะอีกค่ะ นายหญิงเหงานะคะ วัน ๆ ก็คุยแต่กับผ่องและหล้าแค่นั้น ส่วนนายเก้าก็ยังทำตัวเดิม ๆ ค่ะ คือไม่ใส่ใจนายหญิงเลย’

เท่านี้คุณอาจินก็มีอาการโล่งอกไม่น้อยแล้ว อีกทั้งกิริยามารยาทของสะใภ้ไม่ได้ส่อไปในทางไม่ดีไม่งามเลยสักนิด ครรชิตเองก็ไปมาเปิดเผย พูดตรงทำตรง คุณอาจินจึงล้มเลิกความตั้งใจที่จะเปรย ๆ เรื่องนี้กับครรชิตเอาไว้ เพราะอาจจะเป็นการชี้โพลงให้กระรอกเสียก็เป็นได้

ร้านอาหารหรูหราในห้างสรรพสินค้า คือที่ ๆ สุภานัดพบ ผู้คนในร้านไม่พลุกพล่านมากเหมือนหลาย ๆ ร้านในกรุงเทพฯ สุภาใช้เวลายืนกวาดสายตามองหาคู่นัดหมายอยู่สักพัก ก็มองไปเห็นสาวร่างบอบบางผิวขาวแทบจะเป็นซีด กับแว่นกันแดดที่สวมใส่ส่งให้ดวงหน้าสะสวยดูเด่นเป็นสง่า กว่าแขกหลาย ๆ คนในร้าน เจ้าของร่างบอบบางรีบลุกขึ้น พร้อมถอดแว่นออก เมื่อมองเห็นคนที่เดินตรงเข้ามาหา สองมือรีบพนมไหว้อย่างนอบน้อม เสมอต้นเสมอปลาย

จากคุณ : ธัญญะ
เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 16:22:06




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com