ท่านหญิงบัลลังก์เลือด 20
|
|
บทที่ 21 ดาวดิ้นเศร้าสลด
มีเพียงความเงียบที่เข้าครอบคลุมทุกผู้คนหลังจากที่อาเดอเรียนั้นประกาศนามของตนเอง ฝ่ายของทหารไอโอเนียและเจนัวนั้นเฝ้าจับตาดูนางทุกระเบียดนิ้ว ในขณะที่ทางโจรกบฏฝ่ายตรงข้ามนั้นเปิดทางออกและให้กองทหารกับชายผู้หนึ่งได้ก้าวเดินออกมา อาเดอเรียจำชายผู้นี้ได้ชายผู้ถือดาบยาวโดยมีผ้าสีแดงพันที่ด้ามดาบ ตัวดาบเดิมนั้นถูกซัสหักสะบั้นไปแล้ว และนั่นคงจะเป็นดาบใหม่ที่ถูกนำมาสวมเข้ากับด้าม ยังมีผ้าพันแผลพาดอยู่ตามร่างเป็นหลักฐานการสู้รบระหว่างเขากับซัส แม้จะหนีไปได้เมื่อคืนก่อนแต่จากภายนอกแล้วก็เชื่อได้ว่าคงบาดเจ็บจริงๆ ที่ตามมาด้านหลังนั่นก็คือสตรีนางหนึ่งที่ทั้งนางและรีอันน่าจำได้เป็นแม่นมั่น
คารีน่า... อาเดอเรียเรียกชื่อนาง นึกแปลกใจนักว่าเหตุใดนางจึงไม่เปิดเผยความจริงต่อผู้คนทั้งมวลเรื่องตัวจริงของ อาเดอเรีย เอสเตอร์ ขอเพียงคารีน่าประกาศว่านางเป็นสตรี ก็จะต้องเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างแน่นอน
นายข้ารู้ว่าพวกเจ้าเรียกร้อง จึงได้ส่งของกำนัลมาให้ คารีน่าแสยะยิ้มพลางก้าวเดินออกมาและยื่นส่งหีบสลักลายดอกสีทองให้ รับไปสิ ท่านเอเทล เอสเตอร์ เรียกขานนามนั้น หากแต่เป็นรีอันน่าที่ทำท่าจะก้าวออกมารับ แต่คารีน่ากลับชักมือกลับ ดวงตาเคียดขึงของนางนั้นแทนคำตอบว่าคนที่นางปรารถนาให้เข้ามารับนั้นคือผู้ใด
ข้าจะรับไว้เอง อาเดอเรียเอ่ยขึ้นและรับหีบทองใบใหญ่นั้นมา ยามที่เปิดออกนั้นร่างของนางก็พลันรู้สึกยะเยือกเย็นไปทั่วสรรพางค์กาย ความรู้สึกเคียดแค้นชิงชังมหาศาลพลันถาโถมเข้ามาพร้อมกับความหวาดกลัวที่ก้นบึ้งของหัวใจ หวาดกลัวว่าคนๆนั้น...จะทำสิ่งที่ผิดพลาด นี่.......
พระหัตถ์ขวาของใครบางคนไงเล่า ฝ่าบาทเอเทล คารีน่าสัพยอก ในขณะที่อาเดอเรียส่งหีบนั้นต่อให้กับรีอันน่า กลิ่นเลือดนั้นคละคลุ้งและชวนคลื่นเหียน มือขวาที่ถูกตัดขึ้นมาจนถึงต้นแขน เลือดสดๆที่หลั่งนองแสดงให้เห็นถึงหลักฐานว่าพวกศัตรูจะทำจริงดั่งปากว่าหากพวกนางเล่นลิ้น
พระหัตถ์....ของพระมหาอุปราชแห่งไอโอเนีย
!! ทั้งชายผู้เป็นหัวหน้าและคารีน่าพลันนึกแปลกใจ คนผู้นี้รู้จากแขนเพียงข้างเดียวว่านี่คือผู้ใด
เศษผ้าที่ติดมานั้นเป็นผ้าทอจากไอโอเนีย มือนั้นเป็นมือของผู้ชาย ชายที่จะสวมอาภรณ์สูงค่าจากไอโอเนีย...คงมีเพียงผู้เดียว ด้วยเหตุนี้จึงโกรธแค้น หากทางไอโอเนียรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเชื้อพระวงศ์ระดับสูงของตนเอง แม้จะไม่ต้องการให้เกิดปัญหา มันก็จะต้องเกิดขึ้นเป็นแน่ พาข้าไปสิ นายของพวกท่านต้องการตัวข้ามิใช่หรอกหรือ
ฝ่าบาท! ท่านหัวหน้า! รีอันน่ากับโทนี่ค้านขึ้นมาเกือบจะเป็นเสียงเดียว แต่ชายหนุ่มฝ่ายตรงข้ามกลับยื่นข้อเสนอที่น่าฟังกว่านั้น
นายท่านอนุญาตให้คนสนิทติดตามไปด้วยได้ แต่ว่า...จะต้องต้องทิ้งอาวุธทั้งหมดไว้ที่นี่ ข้อเสนอที่แน่นอนว่าทั้งโทนี่และรีอันน่าไม่ต้องนิ่งคิด ต่างคนต่างไม่ฟังคำค้านของเจ้านายตนและทิ้งอาวุธลงในทันใด ไม่ว่าจะให้เข้าไปโดยปราศจากอาวุธ หรือแม้แต่ต้องศูนย์เสียแขนแม้เพียงข้างเพื่อเปิดทาง ก็จะลงมือโดยไม่ลังเล
ชิ ช่างรนหาที่ตายกันจริงนะ คารีน่าสบถ นึกไม่พอใจว่าเหตุใดผู้หญิงที่ตนเกลียดชังจึงได้รับความรักมากมายถึงเพียงนี้ นางมาที่นี่พร้อมผู้คน และมีคนที่ยอมตายพร้อมนาง ช่างน่าชัง น่าขยะแขยง น่าเคียดแค้นเสียเหลือเกินในยามที่รู้ว่าทุกสิ่งนี้มันสมควรเป็นของพี่ชายของนาง
มันควรเป็นของ
เอเทล ฟรีด้า
พาพวกเราไปสิ สิ้นคำของอาเดอเรียนั้นทางก็เปิดออก ชายหนุ่มในชุดดำเปิดทางให้คนไร้อาวุธสามคนเดินเข้าสู่ปราสาทที่ยามนี้รายล้อมด้วยทหารโจรกบฏในชุดสีดำสนิท ทหารที่อาเดอเรียและรีอันน่าแน่ใจว่าคนเหล่านี้เดิมที...เคยอยู่เคียงข้างกองทัพเอสเทเนียในพระบัญชาขององค์กษัตริย์มาก่อน
พวกของอาเดอเรียถูกนำเข้ามาจนถึงโถงกลาง ช่างน่าแปลกว่าทั้งที่ควรจะต้องคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือดและความตายจากการสู้รบระหว่างพวกกองโจรกับทหารองครักษ์ แต่รูปการต่างกันออกไปเมื่อทุกอย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีแม้กลิ่นเลือดหรือความเสียหาย มันราวกับว่าทุกอย่างเป็นไปโดยละมุนละม่อมซึ่งอาจตีความได้สองทาง หนึ่งคือเพราะฝ่ายนั้นบุกเข้ายึดได้อย่างรวดเร็วโดยปราศจากการขัดขืน หรือไม่ก็......
ไม่จำเป็นต้องบุกเข้ามา
ตั้งแต่ต้น
เชิญ ท่านเอเทล แต่ผู้ติดตามของท่านคงต้องให้รอที่นี่ ชายเจ้าของดาบผูกผ้าสีแดงกล่าว ในขณะที่ค่อยเปิดทวารบานเข้าสู่ห้องโถงชั้นในให้
แต่! รีอันน่านั้นท้วงขึ้นมาทันทีแต่ก็ถูกอาเดอเรียยกมือห้ามไว้
ไม่เป็นไรหรอก พวกท่านก็อยู่ที่นี่ เพียงแค่บานประตูกั้นเท่านั้น ใช้ไหมล่ะโทนี่ หันไปขอความเห็นจากชายหนุ่มอีกคน
ขอรับ ตอบรับเช่นนั้นแม้ว่าจะรู้สึกกังวลก็ตาม
ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญ ท่านชาย ชายหนุ่มในชุดดำเอ่ยอีกครั้ง คราวนี้ที่อาเดอเรียหันไปมองฝ่ายตรงข้าม ใบหน้าที่ถูกปิดบังภายใต้ผ้าสีดำ ศัตรูที่หวังเอาชีวิตนางอย่างจริงจัง ใต้ผ้าสีแดงที่ด้ามดาบนั่น...คือหัวใจของชายผู้นี้มิใช่หรอกหรือ
ข้านึกแปลกใจ ที่ท่านยังไม่สังหารข้า ฝ่ายผู้ถูกเชื้อเชิญเอ่ยถาม
ข้าเพียงแต่รอคำสั่งจากนายท่าน กล่าวตอบ เพราะขอเพียงมีคำสั่งตัวเขาก็จะสามารถรักษาคำมั่นของตนเองได้ จะสังหาร...โดยไม่รั้งรอ
น่าเสียดาย ที่ในที่สุดก็ไม่อาจเลี้ยงน้ำชาท่านได้ ยิ้มที่มุมริมฝีปากเล็กน้อย นึกเศร้าใจที่มันจบลงเช่นนี้ จบลงที่ความขัดเคืองและไม่อาจเข้าใจกันและกันได้
น้ำชางั้นหรือ....
ข้าเคยสัญญาไว้ กับสหายของสหายท่านหนึ่ง นางกล่าวเช่นนั้นและก้าวเดินต่อไป เหลือทิ้งไว้เพียงคำถามในใจของผู้รับฟัง
| จากคุณ |
:
newravana
|
| เขียนเมื่อ |
:
5 มี.ค. 53 21:16:37
|
|
|
|