 |
ความคิดเห็นที่ 2 |
…
“ติ๋ง...”
...
“ติ๋ง...”
อะไรน่ะ เสียงหยดน้ำหรือ... ที่นี่มันที่ไหน ทำไมถึงได้มืดอย่างงี้
“ติ๋ง...”
แว่วเสียงโห่ร้องของชาวบ้านจากข้างบน จับพื้นดูก็แข็งๆ ที่นี่คงเป็นชั้นใต้ดินที่ไหนสักแห่งในหมู่บ้านสินะ...
แปลกจัง... ที่นี่ทั้งหนาวและชื้น แต่ข้ากลับรู้สึกถึงความอบอุ่นเล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่ในอก คล้ายมีสายลมของฤดูใบไม้ผลิเข้ามา
“ติ๋ง...”
จริงสิ เมื่อครู่นี้ข้าฝันถึงคุณพ่อคุณแม่ ตอนนั้นเรจเพิ่งเกิดพอดี... ทำไมนะ ทั้งที่เห็นเด็กทารกมาตั้งหลายคนแล้ว แต่ครั้งนี้ข้ากลับรู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่าครั้งไหนๆ ...
ช่วยไม่ได้นี่นะ ก็เรจเขาออกจะน่ารักน่าชังขนาดนั้น ยิ่งเมื่อไรที่เห็นเขาหัวเราะชอบใจละก็ ข้ารู้สึกราวกับโลกทั้งใบกำลังยิ้มไปพร้อมๆ กับข้าเลยทีเดียว...
แล้วคุณแม่ล่ะ ท่านจะรู้สึกอย่างไรกันนะ เวลาที่เห็นเรจยิ้ม ปรกติท่านก็เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ทางสีหน้าเสียด้วยสิ ถึงอย่างงั้นท่านก็คงดีใจยิ่งกว่าข้าเป็นร้อยเป็นพันเท่าแน่ๆ ...
ส่วนคุณพ่อนี่ล่ะก็ งานการไม่ยอมทำ เอาแต่อุ้มเรจทั้งวัน ทีแรกเรจเห็นหน้าดุๆ ของคุณพ่อก็ร้องเสียลั่นบ้าน แต่พอคุ้นเคยแล้ว ทีนี้ล่ะ ดึงหนวดคุณพ่อไม่ยอมปล่อยเชียว...
เฮ้อ... จริงๆ เล้ย พ่อลูกคู่นี้นี่...
“ติ๋ง...”
แต่แล้วคุณพ่อคุณแม่ก็มาจากพวกเราไป ในขณะที่เรจเพิ่งจะอายุได้ ๒ ขวบ...
“ติ๋ง...”
ทำไมนะ... ความสุขถึงไม่เคยอยู่กับเราได้นาน...
มันล่องลอย... ราวกับหมอกที่ไม่สามารถคว้าจับได้...
เปราะบาง... เหมือนมีเพียงม่านบางๆ คั่นอยู่ระหว่างความสุขและความทุกข์...
ไร้ตัวตน... ดั่งภาพลวงตาที่ไม่เคยมีอยู่จริง...
เช่นเดียวกับ ความฝันเมื่อครู่นี้...
เพียงลืมตาขึ้นมา ทุกสิ่งก็พลันสลายไป...
มืดมิด...
เหน็บ หนาว...
อ้างว้าง...
ลุงฌอง... ลุงทิม... ป้าเจน... ทุกคน... ขอโทษด้วยค่ะ... เพราะข้าหุนหันพลันแล่นไปตบหน้าท่านขุนนางผู้สูงศักดิ์เข้า... ทุกคนจึงต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย...
ทั้งหมดนี้เกิดจากความเอาแต่ใจของข้าเพียงคนเดียวแท้ๆ แต่กลับดึงทุกคนในหมู่บ้านเข้ามาพัวพันด้วย...
ก็สมควรแล้วล่ะ ที่พวกเขาจะโกรธข้า... ข้าเข้าใจ... พวกเขาเองก็กำลังหวาดกลัวเช่นกัน... หวาดกลัวที่จะสูญเสียชีวิตที่เคยสงบสุขไป
เพราะฉะนั้น วันพรุ่งนี้ ขอเพียงข้าและเรจไปจากหมู่บ้าน เรื่องทุกอย่างก็จะจบ... ข้าเข้าใจดี... ... ...
...
ใช่... ข้าเข้าใจดี... ทุกอย่างมันจบลงแล้ว... ทั้งบ้านที่มีความทรงจำมากมายระหว่างข้ากับคุณพ่อคุณแม่...
สวนผักและดอกไม้ที่แสนงดงามเหล่านั้น... และช่วงเวลาสบายๆ ก่อนนอนที่ข้าได้อ่านนิทานให้เรจฟัง...
ข้าเข้าใจดี... ว่าต่อให้เสียน้ำตาไปอีกเท่าไร สิ่งเหล่านั้นก็ไม่มีวันหวนคืนกลับมาอีกแล้ว...
“Stay, stay,
Until the hasting day
Has run
But to the evensong;
And, having pray'd together, we
Will go with you along.”
อา... กลิ่นหอมจรุงใจของดอกแดฟโฟดิล...
ภาพของเด็กพวกนั้นที่กำลังชูช่อพริ้วไสวเริงร่าอยู่ใต้แสงอาทิตย์ยามเช้า... โปรดอยู่เป็นเพื่อนข้า คอยปลอบโยนข้าเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงรุ่งสาง...
รุ่งสาง... จริงสิ... พอกลางคืนล่วงไป ย่อมกลายเป็นเช้าวันใหม่...
มันยังไม่จบสักหน่อย ในเมื่อวันพรุ่งนี้ยังมีดวงอาทิตย์อยู่... ทุกคนต่างเกิดมาตัวเปล่า ไม่ต่างอะไรกับข้าในตอนนี้...
และข้าก็ไม่ใช่ตัวคนเดียว ยังมีเรจอยู่อีกคน เพราะฉะนั้นจะมาท้อถอยตรงนี้ไม่ได้!
... ... ...
โปรดติดตามตอนต่อไป
| จากคุณ |
:
เต้อ้วนมาก
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 53 02:23:34
|
|
|
|
 |