 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
|
นางฟองแก้วพาบัวบูชาออกไปเดินซื้อของในตลาดสดเทศบาล นอกจากจะพามาจับจ่ายซื้อของแล้ว นางฟองแก้วยังพาบัวบูชามาเปิดหูเปิดตา รวมถึงแนะนำต่อเพื่อนฝูงคนรู้จักในละแวกนั้น
บัวบูชาได้ขอตัวเดินออกไปดูของที่ร้านขายซีดีเพลง ระหว่างที่นางฟองแก้วกำลังคุยกับคนรู้จักอย่างติดลมบนชนิดที่แทบจะลืมเวลา
เมื่อเดินใกล้จะถึงหน้าร้านขายซีดีเพลง เธอได้ล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอรู้สึกเหมือนกับมีใครคนหนึ่งเดินมาชนเธออย่างเต็มแรง
Im sorry, its my fault! Are you alright? (ผมต้องขอโทษในความผิดของผมด้วย ไม่ทราบว่าคุณเจ็บตรงไหนบ้างครับ?) ชายหนุ่มที่เดินชนเธอ กล่าวขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ
ดิฉันไม่เป็นอะไรคะ แค่ตกใจนิดหน่อย ดิฉันก็ผิดเหมือนกันที่มัวแต่มองทางแค่ด้านเดียว ไม่ได้มองให้ทั่ว บัวบูชามองหน้าชายหนุ่มคู่กรณี ชายหนุ่มคนนี้อายุราวๆ 28 ปี รูปร่างกำยำดูภูมิฐาน สูงประมาณ 180 เซนติเมตร ใบหน้าสำอาง หล่อเหลา ดูสะอาดสะอ้าน ทรงผมกึ่งสั้นกึ่งยาวตามสมัยนิยม ตาโต สองชั้น นัยตาสีน้ำตาล จมูกเป็นสันได้รูป รับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อน ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงผ้าเวสป๊อยส์สีดำขายาว รองเท้าหนังสีดำขัดจนเป็นเงามัน
พูดไทยได้เหรอครับ ผมต้องขอโทษในความซุ่มซ่ามของผมอีกครั้งนะครับ
ดิฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ว่าแต่คุณเถอะ เจ็บตรงไหนบ้างคะ?
ไม่เจ็บเลยครับ... หน้าของคุณฝรั่งจ๋าขนาดนั้น แต่คุณสามารถพูดภาษาไทยได้ชัดเจนมาก ผมฟังแล้วรู้สึกทึ่ง ชายหนุ่มกล่าวชมทักษะทางด้านการใช้ภาษาของบัวบูชา
ขอบคุณมากคะ ถ้าคุณไม่เจ็บและไม่เป็นอะไร ก็ถือเสียว่าต่างคนต่างผิด ต่างคนต่างรับผิดชอบตัวเอง ดิฉันต้องขอตัวก่อนคะ พอพูดจบ บัวบูชาก็รีบเดินตรงเข้าไปในร้านขายซีดีเพลงอย่างรวดเร็ว
เดี๋ยวก่อนซิคุณ... จะรีบไปไหน? ชายหนุ่มรีบเดินตามบัวบูชาเข้าไปในร้านขายซีดีเพลง
บัวบูชากำลังดูแผ่นซีดีเพลงที่ขายเรียงรายอยู่ตามชั้นต่างๆ จุดประสงค์ที่เธอเข้ามาในร้าน เพราะว่าเธอต้องการจะหาซื้อแผ่นซีดีที่มีเพลง พะเยารอเธอ
เธอกวาดสายมองหาพนักงานขายที่อยู่ในร้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเธอไม่สามารถหาแผ่นซีดีเพลงที่เธอต้องการได้
มองหาผมเหรอครับ? ชายหนุ่มคู่กรณีที่เดินตามเข้ามาพูดด้วยสีหน้าทะเล้น
คุณอีกแล้ว... เปล่าคะ ดิฉันไม่ได้มองหาคุณ ดิฉันมองหาพนักงานในร้าน อย่าบอกนะคะว่า... คุณเป็นพนักงานในร้านนี้?
โอ้ว... โน่... ไม่ครับ แหม... ใจคอคุณจะยัดเยียดตำแหน่งงานใหม่ให้ผมเหรอ นี่ผมยังไม่กรอกใบสมัครอะไรเลย ใจร้ายจัง ผมไม่ได้เป็นพนักงานในร้านนี้และก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับร้านนี้ ผมแค่เดินตามคุณเข้ามาในนี้ เพื่อที่จะมาดูให้แน่ใจว่าคู่กรณีของผมไม่เป็นอะไรจริงหรือ เดี๋ยวจะหาว่าผมเดินชนแล้วหนี ไม่รับผิดชอบอีก
ดิฉันบอกว่าไม่เป็นไรก็หมายความว่า... ไม่เป็นไร และยังได้บอกกับคุณไปแล้วว่า มันไม่ใช่ความผิดของคุณแค่ฝ่ายเดียว ดิฉันก็เป็นฝ่ายผิดเหมือนกัน ต่างคนต่างผิด ต่างคนต่างรับผิดชอบตัวเอง มันก็ยุติธรรมดีต่อทั้งสองฝ่าย หวังว่าคุณคงจะเข้าใจที่ดิฉันพูดนะคะ
ครับผม... ใส่มาเป็นชุดจนผมโต้กลับไม่ทันเลย ในเมื่อคุณไม่เป็นอะไร ผมก็สบายใจครับ งั้นผมไม่อยู่ให้รกหูรกตาคุณแล้ว แต่ก่อนที่จะไป ผมขอทราบชื่อเสียงเรียงนามของคุณจะได้ไหมครับ? ผมชื่อ... ยงยุทธ คุณละ?
ดิฉัน... เบอร์นาเด็ต หรือเรียกดิฉันว่า... บัวบูชา ดีกว่านะคะ จะได้จำง่ายดี ยินดีที่ได้รู้จักคะ... คุณยงยุทธ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ... คุณบัวบูชา ชื่อเพราะ ความหมายดี เก๋ ไม่เหมือนใคร ผมไม่กวนคุณแล้ว หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกแถวๆนี้ บ๊าย... บาย... ครับ ชายหนุ่มเดินออกจากร้านไป ทั้งที่ในใจอยากจะอยู่คุยกับเธอต่อ โดยเขายังแอบหวังเอาไว้ว่าจะได้เจอกับเธออีกครั้ง
หลังจากที่ซื้อแผ่นซีดีเพลงเรียบร้อยแล้ว บัวบูชาก็เดินเข้าไปในตลาดสด เพื่อที่จะตามหานางฟองแก้ว เธอเดินอยู่ซักพักใหญ่ ในที่สุดเธอก็มาหยุดอยู่ตรงที่แผงขายอาหารปรุงสำเร็จรูป ซึ่งวางขายอาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิด เช่น แกงฮังเล แกงเห็ดลม ตำมะหนุน ( ตำมะหนุน หรือตำขนุน เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ โดยใช้ลูกขนุนที่ยังอ่อน ต้มจนเปื่อยแล้วตำให้ละเอียด หลังจากนั้นก็นำมาผัดกับพริกแกงและโรยด้วยหอมเจียว) แกงโฮ๊ะ แอ๊บเอาะออ ( แอ๊บเอาะออ เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ ใช้มันสมองหมูคลุกรวมกับพริกแกง ห่อด้วยใบตองแล้วนำมาปิ้งหรือย่างบนเตาไฟ) แอ๊บจิ๊นหมู ( แอ๊บจิ๊นหมู เป็นอาหารพื้นเมืองทางภาคเหนือ เครื่องปรุงและวิธีการทำเหมือนกับแอ๊บเอาะออ เพียงแต่ใช้เนื้อหมูสับแทนเท่านั้น) ใส้อั่ว แกงข้าวคั่วไก่ และ แกงหน่อไม้ เป็นต้น
เธอไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเธอจึงได้มาหยุดอยู่ตรงแผงขายอาหารนี้อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเช่นนี้ แม่ค้าที่เป็นเจ้าของแผงขายอาหารมองดูเธอด้วยสายตาที่ไม่ค่อยจะแน่ใจนักว่า เธอต้องการจะซื้ออาหารหรือมองดูอาหารด้วยความสนอกสนใจ แปลกหูแปลกตากันแน่? อีกอย่างด้วยความที่เห็นเธอเป็นชาวต่างชาติ จึงทำให้แม่ค้ากังวลเกี่ยวกับเรื่องของภาษาในการสื่อสาร
ทันใดนั้นภาพจากจิตทัศน์ก็ฉายออกมาอย่างอัตโนมัติ...
ในภาพจิตทัศน์เป็นภาพของศรีวัยนั่งทำอาหารอยู่ในครัวอย่างขะมักเขม้น เธอใช้ทัพพีคนแกงที่กำลังเดือดพล่านอยู่ในหม้อขนาดเล็กบนเตาอั้งโล้ทางขวามือ ส่วนเตาทางด้านซ้ายมือ ก็ตั้งกระทะที่ใส่น้ำมันไว้
ฉันรู้นะว่าแกไปทำอะไรมาตอนบ่ายนี้ ทำเป็นระริกระรี้ออกไปพายเรือกับอ้ายบุญสิงห์อยู่ที่กว๊าน เรื่องให้ท่าผู้ชายนี่ไม่มีใครเก่งเกินแกเลยนะ แกต้องการจะแกล้งฉันใช่ไหม? แกก็รู้ทั้งรู้อยู่ว่า ฉันชอบอ้ายบุญสิงห์ แกก็ยังแอบลักลอบไปพบเขา ไปออดอ้อนออเซาะเขา ฉันไม่รู้จะด่าแกว่าอย่างไรดี อีวอก ก๋องคำระเบิดอารมณ์โกรธออกมาดังลั่น จนทำให้อีกฝ่ายตกใจ
ก๋องคำใจเย็นๆ ฟังพี่พูดก่อน
แกไม่ต้องมาแก้ตัวอะไรทั้งนั้น และก็ไม่ต้องมาเรียกตัวเองว่า... พี่ แกไม่ใช่พี่ฉัน ก๋องคำคว้าตะหลิวที่แขวนไว้บนชั้นขอบฝาผนังเขวี้ยงใส่ศรีวัยอย่างเต็มแรง
เสียงเอะอะโวยวายอะไรกันนี่ ดังจนได้ยินไปถึงหน้าบ้านโน่น บอกแม่ซิ... ก๋องคำ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมต้องร้องตะโกนเสียงดังลั่นขนาดนี้ ไม่รู้เหรอว่าลุงศรีเพชรหลับอยู่ นางคำเมวิ่งเข้ามาในครัวอย่างหน้าตาตื่น
แม่ช่วยด้วย อีศรีวัยมันแกล้งก๋องคำ วันนี้มันหนีออกไปพายเรือเล่นกลางกว๊านกับอ้ายบุญสิงห์มาทั้งวัน แถมมันยังมาพูดเยาะเย้ย ยั่วโมโหก๋องคำอีก เป็นใครๆก็ต้องโกรธใช่ไหม? ก๋องคำบอกให้มันหยุดพูด มันก็ไม่ยอมหยุด แถมมันยังทำท่าเล่นหูเล่นตาใส่อีกด้วย มิหนำซ้ำ มันยังบอกอีกว่า มันจะเอาอ้ายบุญสิงห์มาเป็นผัวให้ได้ ก๋องคำฟ้องมารดาโดยใช้วิธีฤาษีแปลงสารเพื่อให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม
น้าคำเม... ฟังศรีวัยอธิบายก่อน เรื่องมันไม่ได้เป็นอย่างที่ก๋องคำพูดเลย
หุบปากไปเลยอีศรีวัย แกหาว่าก๋องคำขี้จุ๊อย่างนั้นเหรอ? ลูกของฉันเป็นคนดี หัวอ่อน ไร้เดียงสา จะให้มาสู้รบปรบมือกับพวกปลาปิ้งกลับหน้ากลับหลังอย่างแก ยังไงก็แพ้แกอยู่วันยังค่ำ คนอย่างแกพูดดีไปมันก็เท่านั้น ไม่รู้จักสำนึก ไม่รู้จักหลาบจำ พูดไปก็เปลืองน้ำลาย เสียเวลาเปล่า ฉันเคยบอกแกเป็นร้อยหนพันหนแล้วใช่ไหม? ว่าให้เลิกยุ่งเกี่ยวกับพ่อบุญสิงห์ แกก็รู้อยู่เต็มอกว่า ก๋องคำรักใคร่ชอบพอกับพ่อบุญสิงห์ แล้วแกยังจะมาทำตัวเป็นมารผจญขัดขวางไปถึงไหน นับแต่นี้ต่อไป ฉันขอสั่งห้ามเลยนะ ถ้าไม่เชื่อฟังกันอีกละก็ ได้เห็นดีแน่ นางคำเมตะคอกพร้อมกับข่มขู่ลูกเลี้ยงอย่างไม่ปราณีปราศรัย หลังจากที่นางคำเมและคำเอ้ยเดินออกไปจากในครัวแล้ว ศรีวัยถึงกับเข่าอ่อนลงไปนั่งร้องให้กับพื้น เธอร้องให้ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในความอยุติธรรมที่เธอได้รับจากสองแม่ลูกคู่นั้น
| จากคุณ |
:
วิมาณะ
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 53 19:58:20
A:86.179.35.48 X: TicketID:206744
|
|
|
|
 |