กรรมสิทธิ์หัวใจ ตอนที่ ๑
|
|
บทนำ
เรียนคุณอังกาบที่เคารพรัก...
ตอนที่คุณได้รับจดหมายฉบับนี้ ตัวอิฉันอาจมิได้มีลมหายใจอยู่บนโลกเสียแล้ว เพราะความแก่เฒ่าและโรคภัยที่รุมเร้าเสียจนอิฉันรู้ตัว อิฉันจึงได้เขียนจดหมายฉบับนี้ก่อนที่เรี่ยวแรงและลมหายใจอิฉันจะหมดไป อิฉันไม่ได้กลัวความตายแม้สักน้อย แต่ห่วงสุดท้ายที่ยังมีและมิเห็นใครที่จะช่วยได้นอกจากคุณอังกาบ...นายผู้เมตตาอิฉันเสมอมาเพียงเท่านั้น ในวาระสุดท้ายของชีวิตอิฉัน อิฉันขอความกรุณา ฝากฝังแก้วตาดวงใจของอิฉันกลับไปไว้ใต้ร่มใบบุญของคุณอังกาบอีกสักครั้ง เพราะเจ้าจิ๊บมันยังเล็กนัก ขาดอิฉันไปก็คงไม่มีใครอุ้มชูดูแลมันอีกแล้ว คุณอังกาบคะ ได้โปรด...ได้โปรดกรุณาเอ็นดูเมตตาชุบเลี้ยงมันด้วยเถอะค่ะ โปรดเมตตามันเช่นที่คุณอังกาบเคยเมตตาอิฉัน อิฉันขอมอบแก้วตาดวงใจดวงนี้ของอิฉันให้ แล้วต่อไปในภายภาคหน้าคุณอังกาบจะใช้สอยหรือบัญชาเจ้าจิ๊บอย่างไรก็สุดแล้วแต่ใจและความกรุณา เพราะว่าอิฉันนั้นขอยกให้ เจ้าจิ๊บจะถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณ นับแต่วันที่อิฉันสิ้นลม สายใจ
จดหมายฉบับนี้ มาถึงที่นี่ตั้งแต่วันอังคารที่แล้วแล้วละค่ะ นางบัวศรีเอ่ยดังขึ้นด้วยกระแสเสียงเนิบนาบทันทีที่จับสังเกตได้ว่าชายหนุ่มร่างสูงในชุดสีดำที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วๆ แต่เพราะนัยน์ตาสีดำคมกริบคู่นั้นที่ยังคงจ้องกระดาษเขียนจดหมายในมืออย่างเขม็งทำให้นางบัวศรีตัดสินใจอรรถาธิบายต่อ
แต่ที่ป้าไม่ได้บอกเพราะไม่สบโอกาสสักที เห็นว่าคุณพีกำลังวุ่นๆกับงานคุณอังน่ะค่ะ
ทว่าจนแล้วจนรอด เจ้าของร่างที่ถูกเรียก คุณพี ก็มิได้ส่งสำเนียงหรือปฏิกิริยาที่พอจะแสดงให้รู้ได้เลยว่าเขารับรู้หรือได้ยินคำที่นางกล่าวหรือไม่
ร้ายกว่านั้นคืออาการนิ่งเงียบและคิ้วเข้มที่ย่นเข้าหากันน้อยๆส่งผลให้นางบัวศรีต้องชั่งใจ ประสานมือไว้ตรงหน้าตักอย่างสงบเสงียมและติดจะเกรงๆ
เพราะแม้ชายหนุ่มที่มีชื่อว่า พีรพัฒน์ วิศิษฏการ ผู้นี้จะมีศักดิ์เป็นญาติใกล้ชิดที่เหลือคนเดียวของ คุณอังกาบ สุริยะธาดา ผู้เป็นเจ้านายของนาง แต่หลายสิบปีที่ผ่านมานางบัวศรีก็ไม่เคยจะได้รับใช้เขาเลยแม้แต่น้อย
สายใจ? เสียงทุ้มๆทวนคำออกมา จับได้ชัดเจนว่าความสงสัยเต้นอยู่เป็นระริ้ว ใคร?
แล้วคำถามสั้นๆก็ทำให้นางบัวศรีขยับกายน้อยๆเพราะความอึดอัดอย่างไม่รู้ตัว
แม่สายใจ แกเป็นต้นห้องคนเก่าของคุณอังเธอน่ะค่ะ นางบัวศรีอธิบาย แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะยังไม่ได้เข้าใจอะไรเท่าไหร่ เขาจึงทวนคำ
ต้นห้องคนเก่า?
ค่ะ แม่บ้านวัย ๖๕ ตอบรับ แกเป็นคนสนิทคู่ใจที่คุณอังเธอรักและไว้วางใจมากน่ะค่ะ แต่ว่าแม่สายใจแกก็ขอลาออกไปตั้งนานเป็นสิบๆปีแล้วล่ะนะคะ
แล้วยังไง ชายหนุ่มซักต่อ แต่หนนี้นางบัวศรีไม่เข้าใจ แม่บ้านผู้สูงวัยแสดงสีหน้างงงวย คนถามจึงเอ่ยถามตรงๆ
ป้าบัวศรีอ่านจดหมายฉบับนี้แล้วหรือยัง
โอย! มิได้ค่ะ นางบัวศรีรีบตอบ ความตระหนกเจืออยู่น้อยๆ จดหมายจ่าหน้าถึงคุณอัง ป้าไม่บังอาจเปิดจดหมายของเจ้านายอ่านหรอกค่ะ ก็ได้แต่เก็บไว้ รอจนสบโอกาสได้ให้คุณพีก็วันนี้เอง
พีรพัฒน์ วิศิษฏการผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนตัดสินใจยื่นจดหมายที่อยู่ในมือให้นางบัวศรี แม่บ้านวัยหกสิบห้าปีได้แต่กะพริบตา
อ่านเถอะ ผมอนุญาต
แต่ถึงกระนั้นนางบัวศรีก็ยังชั่งใจอยู่อีกเกือบสองนาทีกว่าที่จะยื่นมือไปรับกระดาษบางๆแผ่นนั้นมา แล้วเลื่อนระยะให้เหมาะกับสภาพสายตาที่เข้าสู่วัยชราเสียแล้ว ปรับกันอยู่สักสองสามที นางบัวศรีก็ได้ระยะเหมาะ เมื่อนั้นสายตาจึงค่อยๆกวาดไล่ไปมาตามบรรทัดตัวอักษร จนกระทั่งจบลงที่ตัวสุดท้ายถึงได้เงยขึ้นมา
แล้วก็ต้องสบตากับชายหนุ่มผู้ซึ่งก้าวเข้ามาเป็นเจ้านายใหม่ตามลำดับศักดิ์ทายาทโดยธรรมแห่งการรับมรดกตามกฎหมาย
นาทีนี้นางบัวศรีทำได้แค่การแอบกลืนน้ำลายด้วยสีหน้าเลี่ยนๆ เพราะรู้สึกสัญชาตญาณจะเตือนชัดว่า เจ้านายใหม่คนนี้ ต้องเอ่ยถามอะไรบางอย่างที่นางไม่รู้จะให้ความเห็นกับเขายังไงดีแน่
และ...มันก็ใช่! เมื่อในที่สุด พีรพัฒน์ วิศิษฏการก็ดันตัวเองลุกขึ้นมา ยืนสง่าเต็มความสูงก่อนถามอย่างราบเรียบแต่ฟังดูเฉียบขาดเหลือเกินว่า
อ่านแล้วป้าคิดยังไง ผมจำเป็นจะต้องรับเลี้ยงเด็กที่ชื่อ จิ๊บ อะไรนั่นมั้ย ในเมื่อผมไม่ใช่ป้าอัง .................................
ตอนที่ ๑
พีรพัฒน์ละสายตาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทันทีที่เสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยปากอนุญาต ประตูห้องก็ถูกดันออกพร้อมๆกับร่างบางสมส่วนในชุดเดรสแขนกุดสีขาวที่ก้าวเข้ามา
อยู่ที่นี่จริงๆด้วยนะคะพี กระแสเสียงอันสดใสของผู้มาใหม่เอ่ยทัก ใบหน้าสวยหมดจดนั่นประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานเสียจนเขานึกโกรธอาการโผล่เข้ามาแบบถือวิสาสะของเธอผู้นี้ไม่ลงเลย
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มน้อยๆ
ผมก็ต้องอยู่นี่สิรัก ที่นี่บริษัทผมนะ พีรพัฒน์ตอบขณะเบนสายตากลับมายังหน้าจอ เพราะยังเหลือคำสั่งอีกสองสามอย่างที่เขาต้องเขียนลงไปในคอมพิวเตอร์ของเขา
อ้อ! ค่ะ สาวสวยนาม หทัยรัก วรโชติ พยักหน้าหงึกหงักขณะพาร่างอรชรอ้อนแอ้นมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟารับแขกที่อยู่เยื้องไปด้านข้างโต๊ะทำงานของเขา
ที่นี่น่ะบริษัทพี เสียงเจ้าหล่อนว่า ก่อนที่จะยิงประโยคย้อนถาม แล้วเอพีกรุ๊ปล่ะคะ ใช่ด้วยหรือเปล่า?
ดวงตายาวรีที่ถูกล้อมด้วยแพขนตายาวงอนเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยราวกับต้องการคำตอบจากเขาเสียเดียวนี้ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่พีรพัฒน์แสดงออกไปคืออาการนิ่งและความเงียบ
เฮ้อ! พีน่ะ หทัยรักแสร้งถอนใจมาแรงๆ เอนแผ่นหลังไปพิงพนักโซฟาตัวนุ่มจนเต็ม ตั้งแต่รู้จักกันมาคุณก็เป็นแบบนี้เสมอเลยนะ เงียบขรึม แล้วก็ยากจะเข้าใจ
หืม? พีรพัฒน์เลิกคิ้วยิ้มๆ ผมน่ะนะยากจะเข้าใจ? ทวนคำเจ้าหล่อนแล้วก็อดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปพิมพ์อะไรก่อกแก่กบนโน้ตบุ๊กตัวเองต่อ หนนี้สาวสวยเลยค้อนขวับอย่างเปิดเผย
ก็ใช่สิคะ หทัยรักบอก กระแสเสียงแบบกระฟัดกระเฟียดเล็กๆนั่นส่งผลให้ชายหนุ่มอดจะหัวเราะเบาๆในคอไม่ได้ หนนี้หทัยรักเลยถอนหายใจจริงจัง
พีคะ หทัยรักเรียก ตอนนี้ที่นั่นก็เป็นบริษัทของพีเหมือนกันนะคะ แล้วเดี๋ยวสัปดาห์หน้าเอพีกรุ๊ปก็จะนัดประชุมร่วมกรรมการผู้ถือหุ้นแล้ว ใจคอพีจะไม่ลองเข้าไปศึกษาข้อมูลดูก่อนสักนิดเลยหรือคะ
ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องธุรกิจอสังหาริมทรัพย์พวกนั้นเท่าไหร่หรอก
เป็นเพราะคุณไม่อยากจะตั้งใจศึกษามากกว่าค่ะ หญิงสาวสวน รักแน่ใจว่าระบบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่พีอ้างว่าไม่ค่อยถนัดน่ะ มันง่ายกว่าการวางระบบรักษาความปลอดภัยบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่พีแอลเอส ซิเคียวริตี้ ซิสเต็มส์ ของพีทำแน่
พีรพัฒน์หัวเราะขำ
ผมว่ามันคนละเรื่องกันแล้วนะรัก
ตอนนี้เป็นเรื่องเดียวกันแล้วค่ะ หทัยรักบอก ร่างบางสมส่วนดันหลังขึ้นมานั่งตัวตรง สีหน้ากระเง้ากระงอดอย่างเด็กขัดใจเปลี่ยนไปเป็นดูจริงจัง
พีคะ เอพีกรุ๊ปต้องการประธานบริหารนะคะ พีอยากเห็นบริษัทที่คุณป้าอังสร้างมาด้วยความอุสาหะต้องหยุดชะงัก เปลี่ยนมือ หรือว่า...ร้ายที่สุดคือต้องปิดตัวลงไปงั้นหรือคะ
หนนี้ดูเหมือนความพยายามของหทัยรักจะมีผลขึ้นมาบ้างเพราะพีรพัฒน์เงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ แม้จริงๆแล้วชายหนุ่มจะรู้ดีว่าไอ้ข้อร้ายสุดที่หทัยรักว่า มันจะมีโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก เพราะไม่ว่าอย่างไรคุณอมรผู้เป็นพ่อของเจ้าหล่อนก็เป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารซึ่ง...พีรพัฒน์ออกจะมั่นใจว่าเขาคงไม่ยอมให้เอพีกรุ๊ปต้องล้มลงง่ายๆแน่ แต่...
ถ้าเปลี่ยนมือไปน่ะ ก็อาจไม่แน่
อืม...ก็ได้ครับรัก พีรพัฒน์ตอบ ใบหน้าสวยฉีกยิ้มสดใสอันเป็นเสน่ห์แบบที่เจ้าตัวมั่นใจเกินร้อยว่าต้องกระตุกลมหายใจผู้ชายได้สักครึ่งประเทศ แต่...แน่แหละ เธอไม่ประมาทว่าพีรพัฒน์อาจเป็นผู้ชายแบบที่เหลืออีกครึ่งประเทศ เพราะงั้นการจะทำให้เขารู้สึกเหมือนลืมหายใจกับเธอได้ มันก็คงต้องมีจริตเสน่ห์ตบท้ายกันนิด
แล้วสำหรับผู้หญิงสวยๆระดับอดีตดาวมหาวิทยาลัยอย่างเธอ แค่เสียงหัวเราะใสกริ๊ง กับคำพูดหวานๆประมาณว่า ต้องอย่างนี้สิคะ พีน่ะน่ารักที่สุดเลย ก็น่าพอถมถืด
แต่ทว่า...
หึๆๆ ต้องอย่างนี้สิคะ พีของรักน่ะ น่ารักที่สุดเลย
ชายหนุ่มเพียงยิ้มน้อยๆก่อนจะหันหน้ากลับไปหาจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง บอกได้เลยว่าปฏิกิริยาอย่างนั้นทำเอาอดีตดาวมหาวิทยาลัยแทบจะใบ้รับทาน!
ก็ขนาดเธอเพิ่มคำว่า พีของรักน่ะ เข้าไปด้วยเพื่อกันเหนียวแล้วนะ แต่...
อ๊าย! ไอ้ผู้ชายบ้า!
หทัยรักสูดหายใจเข้าปอดยาวๆ เค้นรอยยิ้มกระชากใจชายตามสไตล์ตัวเองขึ้นมาใหม่ก่อนจะดันตัวลุกขึ้นแล้วพาร่างอ้อนแอ้นมายืนท้าวแขนกับโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
บางทีระยะจากโซฟาเมื่อกี้อาจไกลไป หนนี้เลยมาใกล้ๆ ระยะเผาขนแบบนี้ พีรพัฒน์จะไม่อึ้งกิมกี่กับเสน่ห์เธอบ้างก็ให้มันรู้ไป!
อืม...แล้ว... หทัยรักลากเสียง เอียงคอน้อยๆประมาณ ๓๕ องศา เป็นกิริยาแบบเด็กสาว ๑๔-๑๕ ตอนเจอปัญหาแบบ...ไม่มั่นจ๊าย...ไม่มั่นใจ เรียกกันได้ว่าแอ๊บใสเนียนสุดชีวิต
แล้วพีจะเข้าไปวันไหนล่ะคะ เอ...ถ้ายังไงเข้าไปบ่ายนี้พร้อมรักเลยดีมั้ยคะ รักจะได้โทร.ไปบอกเลขาฯให้เขาเตรียมเอกสารอะไรไว้ให้ด้วย
อือ ผมว่าไว้ก่อนดีกว่า ขอผมเคลียร์งานผมที่นี่ก่อน สองวันนะ แล้วสัปดาห์หน้าผมจะเข้าร่วมประชุมบอร์ดด้วยแล้วกัน พีรพัฒน์ตอบกลับมา ไม่ได้ละสายตาไปเห็นไอ้สามสิบห้าองศาที่หทัยรักอุตส่าห์ทำเลย
เฮ้ย! ไอ้ผู้ชายบ๊าบ้า!
ก็ได้ค่ะ! หทัยรักบอก เสียงตึงขึ้นมานิดอย่างช่วยไม่ได้ แม้จะหมั่นกรอกหูตัวเองอยู่ว่าผู้ชายอย่างพีรพัฒน์น่ะเขาเรียก สุขุม แต่หลายต่อหลายครั้งเลยที่ผู้ชายคนนี้สุขุมเกินไปเสียจนหทัยรักแทบอยากจะกรี๊ดใส่หู! นี่ถ้าไม่ติดว่าพีรพัฒน์กลายไปเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีเงินหมุนเวียนในระบบปีหนึ่งๆในระดับหลายร้อยล้านแล้วละก็ เธอจะ...
ฮึย! เอ่อ พีคะ หทัยรักเปลี่ยนโทนเสียงใหม่ ใกล้เที่ยงแล้ว เราออกไปหาอะไรอร่อยๆทานกันข้างนอกดีมั้ยคะ รักไปก่อนดีกว่า ผมจะขอตัวทำงานอยู่นี่อีกหน่อย
นั่น! เอามันเข้าไป
แต่ว่ากองทัพเขาต้องเดินด้วยท้องนะคะ หทัยรักว่า หรือว่าพีจะเถียงล่ะว่าไม่จริง
ทั้งที่สายตาไม่ได้วอกแวกไปกว่าพื้นที่แถวหน้าจอโน้ตบุ๊กแต่พีรพัฒน์ก็ยังคลี่ยิ้มน้อยๆออกมา เขาเองก็คงต้องยอมรับเงียบๆว่าสาวสวยตรงหน้ามีทั้งความอดทนและพยายามดีทีเดียว แต่...
หึๆ ผมไม่เถียงหรอก เพียงแต่ตอนนี้กองทัพผมยังไม่หิว อีกอย่าง ถ้ารักต้องการให้ผมเข้าไปที่เอพีกรุ๊ปก่อนอังคารหน้า ผมก็ต้องจัดการงานทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อน มันค่อนข้างยุ่งน่ะเพราะบริษัทผมเพิ่งรับงานลูกค้าใหม่ เราต้องเซ็ทพวกอุปกรณ์เน็ตเวิร์ค แอคเสส คอนโทรล ควบคุมการเข้าใช้เครือข่ายในองค์กรของลูกค้า รวมถึงระบบจัดการล็อกไฟล์ที่เป็นแหล่งบันทึกข้อมูลจราจรบนเครือ...
โอเคค่ะ! คนฟังโพล่งออกมาก่อนจะยืดตัวขึ้นยืนเต็มความสูง หทัยรักหน้างอไปนิดอย่างช่วยไม่ได้ ก็เล่นสาธยายศัพท์แสงอะไรที่คนที่เป็นเฉพาะ ใช้ คอมพิวเตอร์อย่างเธอฟังไม่รู้เรื่องนี่
ก็ได้ รักไม่กวนพีแล้วก็ได้ เชิญพีเคลียร์งานของพีได้ ตามสบายเลย! ว่าจบก็สะบัดตัวพรืด เดินมาแถวๆหน้าประตู แต่ไอ้การจะเปิดประตูพรึบแล้วฟัดเฟียดออกไปเลยก็ใช่ที่ หทัยรักชะงักตัวไว้นิดยามจะคว้าลูกบิดเปิดออก หญิงสาวเบือนหน้ากลับมาหาพีรพัฒน์ก่อนยกองศาใบหน้าหมดจดเชิดขึ้นอย่างต้องการประกาศให้ชายหนุ่มสำนึกได้สักทีว่า
การทำให้ผู้หญิงสวยๆขัดใจน่ะ มันเป็นความผิดนะ!
แต่ทว่า...
ขอบคุณมากนะครับรัก อีกสองวันค่อยพบกันที่เอพีกรุ๊ป
ค่ะ! แล้วรักจะคอย! หทัยรักประกาศออกไปพร้อมกับสาบานในใจ สักวันเธอจะต้องทำให้พีรพัฒน์มาสยบแทบเท้าเธอให้ได้...คอยดู ............
เพิ่งจะทดลองลงที่ถนนนักเขียนเป็นครั้งแรกค่ะ ยังไงฝากตัว รบกวนชี้แนะด้วยนะคะ
| จากคุณ |
:
parinnada
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 53 20:29:31
|
|
|
|