 |
ความฝันครั้งสุดท้ายของจุลินทรีย์ตัวที่เหงาที่สุดตัวหนึ่งในแกแลคซี่ทางช้างเผือก
|
|
ผมรักเสียงเพลงรักเสียงดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆแล้วครับ . ตอนผม ม.3 พ่อผมซื้อกีต้าร์โปร่งโจโจให้เป็นตัวแรก ผมนั่งฝึกทั้งวันทั้งคืนเลย ครับ เพลงแรกที่ผมฝึกก็คือเพลงสาวเชียงใหม่ มีคอร์ด C Am Dm G7 . ตอนฝึกใหม่ๆเจ็บนิ้วมากเลยครับ จับคอร์ดก็บอด เปลี่ยนคอร์ดก็ยังไม่ค่อยทัน . แต่พอฝึกไปนานๆก็เริ่มคล่องครับ เริ่มจับคอร์ดทาบได้ เริ่มเปลี่ยนคอร์ดเร็วขึ้น . หลายเดือนผ่านไปผมตีคอร์ดได้คล่องปรื๋อเลยครับ แถมยังร้องเพลงได้ดีจนเพื่อนๆในห้องชมอีกด้วย . . . ตอนผมฝึกกีต้าร์อยู่ที่บ้านมักจะมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมานั่งฟังเสมอ เธอชื่อน้องก้อยครับ เป็นเด็กข้างบ้าน (เมื่อก่อนผมอยู่บ้านพักข้าราชการครูกับ พ่อกับแม่ น้องก้อยก็เป็นลูกครูคนหนึ่งในนั้นอาศัยอยู่แฟลตเดียวกัน) น้องก้อยอ่อนกว่าผมสองปีแถมยังเรียนโรงเรียนเดียวกับผมอีกด้วย . พูดตรงๆผมไม่ชอบขี้หน้าเธอเลยครับ เธอเป็นเด็กที่หน้าตาน่าเกลียดมาก แถมยังทำตัวน่ารำคาญอีกด้วย อ้วนเทอะทะยังกะหมูตอน ผมเผ้ารุงรังไม่ยอมหวี กินจุ มูมมาม ตะกระตะกรามเป็นที่ สุด . เวลาผมเล่นกีต้าร์เธอก็ชอบมาไล่เปิดหนังสือเพลงจะให้ผมเล่นเพลงนั้นเพลงนี้ บางทีก็ขอให้ผมสอนกีต้าร์ให้โดยไม่ได้ดูตัวเองเลยว่านิ้วใหญ่ยังกะนิ้วหมู (แค่เอานิ้วเดียวกดสายก็บอดหมดแล้ว) ผมอึดอัดรำคาญมากครับ อยากจะไล่เธอไปให้พ้นๆแต่ก็ไม่กล้า เพราะเกรงใจครูนุ้ย ( คุณแม่ของเธอ) . บ้านเราอยู่ติดกันครับ คุณแม่ของเธอสนิทกับคุณแม่ของผม (สอนหมวดภาษาอังกฤษเหมือนกัน) คุณแม่ของเธอมีพูดกับผมเสมอว่าให้ช่วยดูแลน้องด้วย ผมเลยตกอยู่ในสภาพจำยอมกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ได้แต่จำใจฝืนทนเรื่อยมา . . . ที่โรงเรียน... น้องก้อยแทบไม่มีเพื่อนเลยครับ (ถึงมีก็น้อย) เป็นเพราะเธออ้วนมาก อ้วนจนน่าเกลียด หน้าตาก็อัปลักษณ์ปานซากศพ แถมยังทำตัวเป็นเด็กมีปัญหาอีกด้วย . ผมได้ข่าวมาว่าเพื่อนๆในห้องเธอชอบล้อเธอว่า "อีหมูอวกาศ" ผมนึกขำในใจครับ :-)คิดได้ไงวะ แต่ผมก็เห็นดีด้วยครับ เลยตั้งฉายาเพิ่มต่อไปอีกว่า "อีหมูอวกาศแห่งแกแลคซี่ทาง ช้างเผือก" . เธอเป็นตัวโจ๊กประจำโรงเรียนให้คนอื่นล้อเสมอครับ เวลาเธอเดินไปไหนมาไหนเธอมักจะเดินคนเดียว พอผ่านกลุ่มผู้ชายก็มักจะมีคนตะโกนแซวเธอว่า "อีหมูอวกาศ" ,"อีเชื้อแบคทีเรีย" ,"อีเชื้อจุลินทรีย์" ฯลฯ . แต่ผมไม่กล้าแซวเธอนะครับ... เพราะกลัวว่าเธอจะเอาไปฟ้องครูนุ้ย (คุณแม่ของเธอ) เลยได้แต่แอบขำในใจเรื่อยมา . ตอนอยู่โรงเรียนผมจึงทำเป็นไม่รู้จักเธอครับ เวลาเห็นเธอเดินมาใกล้ๆทีไรผมจะวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำทุกที . . . สำหรับเธอแล้ว...เพื่อนที่สนิทที่สุดก็คงจะเป็นผมนี่แหละครับ (จริงๆแล้วผมไม่ได้อยากสนิทกับเธอเลยสักนิด) แต่ติดตรงที่เธอเป็นลูกครูนุ้ยและบ้านเราอยู่ข้างๆกัน ทำให้ผมต้องฝืนใจคบเธอ หลายครั้งที่เธอร้องไห้ปรับทุกข์กับผมเรื่องที่โดนล้อ แต่ผมก็ได้แต่ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา เอาแต่นั่งเล่นกีต้าร์อย่างเดียวไม่สนใจ . แต่เธอก็ยังพอมีเรื่องดีอยู่บ้างครับ เธอชอบเช็ดกีต้าร์ให้ผม เวลาสายกีต้าร์ขึ้นสนิมเธอก็ซื้อมาเปลี่ยนให้ใหม่ พอมีหนังสือเพลงอะไรออกใหม่เธอก็จะซื้อมาให้ผมตลอด เธอบอกว่าเธอชอบเสียงกีต้าร์มาก เธอฝันอยากเล่นกีต้าร์เป็นบ้าง อยากมีกีต้าร์ดีๆสักตัว อยากออกเทป อยากมีงานแสดงคอนเสริตเป็นของตัวเอง ทำเอาผมขนลุกซู่เลยครับ นึกภาพหมูอวกาศกำลังเล่นกีต้าร์อยู่บนเวที (มันจะ อุบาทว์ขนาดไหนนะ) . . . พูดถึงความฝัน... ผมเองก็มีความฝันครับ ผมฝันอยากเป็นนักดนตรีมืออาชีพ อยากมีกีต้าร์ดีๆสักตัว (ที่เล็งไว้มี GIBSON รุ่น SLASH ,FENDER RICHI SAMBORA STRATOCASTER USA ,IBANEZ JEM รุ่น STEVE VAI ฯลฯ) อยากออกเทป อยากออกคอนเสริต....ไม่ต่างอะไรกับความฝันของน้องก้อยเลยสักนิด . ผมจึงหมั่นฝึกฝนตัวเองอยู่ตลอดเวลาครับ พอผมขึ้น ม.4 ผมก็ไปเรียนที่โรงเรียนสอนดนตรียามาฮ่าสยามกลการ มีงานประกวดดนตรีที่ไหนผมไปหมดทุกงาน ฝีมือผมพัฒนาอย่างรวดเร็วครับ พอขึ้น ม.5 ปุ๊บผมก็เล่นเพลงของนูโว ,ไมโคร ,อัสนีย์-วสันต์ ,แบล๊คเฮด ,โลโซ รวมถึงเพลงเพลงร๊อคสมัยนั้นได้แทบทุกเพลง ที่โรงเรียน พอมีงานประจำปีทีไรผมจะได้ขึ้นไปเล่นกีต้าร์และร้องเพลงโชว์เป็น ประจำ สาวๆงี้กรี๊ดตรึม!! . ยิ่งตอนวันวาเลนไทน์นะ (พวกคุณจำกันได้ไหมครับ) ที่พวกผู้หญิงชอบเอาสติ๊กเกอร์รูปหัวใจไล่แปะคนที่ตัวเองชอบน่ะ . ผมไม่อยากจะคุยเลยครับ... ว่าเสื้อนักเรียนผมถูกแปะสติ๊กเกอร์มากที่สุด บางคนก็เอาช่อดอกกุหลาบมาให้ บางคนก็เอาช๊อคโกแลตใส่กล่องรูปหัวใจผูกโบว์สวยๆมาให้ . บางคนก็เขียนจดหมายมาสารภาพรักกับผม . แหม... ช่างเป็นอะไรที่ประทับใจมากเลยครับ นึกขึ้นมาทีไรผมยิ้มกับตัวเองทุกที ตอนนั้นผมเป็นดาวจร้สแสงของโรงเรียนเลยล่ะ . . . พอผมขึ้น ม.6 ผมก็มีกีต้าร์ไฟฟ้าตัวแรกเป็นของตัวเอง เป็นกีต้าร์ที่ผมเก็บเงินซื้อมาด้วยความยากลำบาก ต้องเก็บเงินค่าขนมเกือบปีถึงจะซื้อได้ มันคือ IBANEZ ROADSTAR II SEREIS (เสียงดีมากครับขอบอก) ถึงจะไม่ใช่รุ่นที่ผมชอบที่สุดแต่ผมก็พอใจครับ . ผมเห่อกีต้าร์ตัวนี้มาก นั่งเล่นทั้งวันทั้งคืนเลยครับ เล่นเสร็จก็เช็ดถูจนเงาวับแล้วเก็บเข้ากล่องไม่ให้ใครแตะต้องเด็ดขาด ผมรักกีต้าร์ตัวนี้มาก... คิดว่าจะเก็บมันไว้เป็นสมบัติของผมตลอดไป . . . . . แต่มาวันหนึ่ง... ผมต้องเอากีต้าร์ตัวนี้ไปเล่นออกงานที่โรงเรียน พอดีวันนั้นช่วงเช้าผมต้องไปสอบ รด. ที่ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ผมเลยต้องฝากกีต้าร์ไว้ที่น้องก้อยให้เธอเอาไปโรงเรียนก่อน พอผมสอบเสร็จผมก็รีบกลับมาแล้วเดินไปเอากีต้าร์ที่ห้องเธอ . ปรากฎว่า... เธอทำกีต้าร์ผมตกครับ...ตอนกำลังเดินขึ้นบันไดชั้นสอง . กีต้าร์ผมคอหักไม่มีชิ้นดี บอดี้ร้าว สีถลอกปอกเปิก . ผมโกรธเธอมากครับ... โกรธจนไม่รู้จะโกรธเธอยังไง... เธอทำลายความภูมิใจของผม... ผมจำได้ว่าผมชี้หน้าด่าเธอโดยไม่ไว้หน้าใคร ด่าว่าเสียๆหายๆ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนเธอร้องไห้ ยืนตัวสั่นเหมือนลูกนก สุดท้ายผมก็เขวี้ยงกีต้าร์พังๆลงจากชั้นสองแล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่หันกลับไป มองเธออีกเลย . . . ผมนึกในใจและสาบานกับตัวเองว่าจะเกลียดเธอไปตลอดชีวิต . . . หลังจากนั้นมาผมก็ไม่พูดกับเธออีกเลย ไม่รู้ว่าเธอจะเอาเรื่องที่ผมด่าเธอไปฟ้องครูนุ้ยรึเปล่า แต่ก็ช่างมันปะไร... ก็เธอทำกีต้าร์ผมพังนี่ ถ้าฟ้องผมก็จะเรียกค่าเสียหายจากแม่เธอซะเลย . . . พอจบ ม.6 ผมก็ย้ายออกจากบ้านพักครูไปอยู่บ้านที่พ่อสร้างขึ้นใหม่ ผมดีใจมากครับที่จะไม่ได้เจอเธออีก คนอย่างนี้ผมไม่ขอเจออีกเลยตลอดชีวิตจะดีกว่า . เวลาผ่านไปนานมากจนผมลืมเรื่องของเธอไปแล้ว . ปัจจุบันผมอายุ 26 ปี เรียนไม่จบ...โดนไทร์ตอนปีสาม ตอนนี้เรียนรามอยู่...แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะจบเลย หนังสือหนังหาก็ไม่ยอมอ่าน เอาแต่กินเหล้าสูบบุหรี่เที่ยวเตร่ เสเพลไปวันๆ . ความฝันอยากเป็นนักดนตรีก็ไปไม่ถึงดวงดาว ทำวงไปออดิชั่นร้านไหนก็ไม่เอา บางร้านเล่นได้เพลงเดียวก็โดนไล่ลง สุดท้ายก็วงแตกจนต้องแยกย้ายกันไปคนละทาง หมดหนทางเข้าจริงๆก็เลยต้องขายกีต้าร์กับเอฟเฟคที่ใช้อยู่เอาตังไปกินเหล้า . ชีวิตผมเปลี่ยนไปมากเลยครับ... จากเมื่อก่อนที่เคยมีสาวๆห้อมล้อม...มาวันนี้กลับไม่มีเลยสักคน ดอกไม้ที่เคยเป็นฝ่ายได้รับ...มาวันนี้กลับเป็นฝ่ายต้องให้ (แต่ก็ถูกสาวเจ้า ทิ้งลงถังขยะอย่างไม่ใยดี) ความฝันอยากเป็นนักดนตรีมืออาชีพ...อยากออกเทป...อยากเล่นคอนเสริต...มาวันนี้ กลับเลือนลาง...มองไม่เห็นอ ะไรเลยสักอย่าง . ผมเริ่มท้อแท้กับชีวิต... . ผมถามกับตัวเองว่า...ความฝันที่เป็นอยู่ทุกวันนี้มันดีแน่แล้วหรือ? . ในขณะที่ผมกำลังสับสนกับตัวเองอยู่นั้น ผมเริ่มคิดถึงใครบางคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต... ผมคิดถึงน้องก้อย... . ป่านนี้เธอจะเป็นไงบ้างนะ... ผมลองมาคิดดูแล้วผมไม่น่าไปด่าว่าเธอซะขนาดนั้นเลย... ดูๆไปเธอก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น... . ผมเสียใจครับ... ผมยังจำแววตาที่ผิดหวังของเธอในวันนั้นได้ดี... . เธอก็คงเสียใจเหมือนกัน... ที่คนที่เธอเคยศรัทธาทำกับเธอแบบนั้น... . . . มาวันนี้... ผมอยากขอโทษเธอครับ... แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้แล้ว... ตอนนี้ผมคงเป็นได้แค่จุลินทรีย์ตัวที่เหงาที่สุดตัวหนึ่งในแกแลคซี่ทางช้างเผือก เท่านั้น... . . . . . จนเมื่อเดือนก่อน... ผมได้มีโอกาสไปงานเกษียณข้าราชการครูกับแม่ที่โรงแรมโลตัสปางสวนแก้ว ปีนี้ครูนุ้ย (คุณแม่ของน้องก้อย) ก็ปลดเกษียณด้วย . พอครูนุ้ยเห็นผมก็เดินเข้ามาทักทายผมอย่างคนคุ้นเคย ครูนุ้ยถามถึงสารทุกข์สุขดิบและเล่าถึงน้องก้อยว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ได้ 3 ปีแล้ว . น้องก้อยจบ ป.โท แล้วและตอนนี้กำลังต่อ ป.เอก อยู่ที่อเมริกาและทำงานในบริษัทซอล์ฟแวร์ชื่อดังแห่งหนึ่งไปด้วย ตอนสุดท้ายของการสนทนา...ครูนุ้ยบอกให้ผมไปหาที่บ้านพรุ่งนี้ พร้อมทั้งบอกที่ อยู่ใหม่ให้เสร็จสรรพ ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมต้องให้ไปหาด้วย . . . วันรุ่งขึ้น...ผมก็ไปหาครูนุ้ยที่บ้านใหม่ มันเป็นคฤหาสดีๆนี่เองครับ เป็นหมู่บ้านกึ่งรีสอร์ทชื่อหมู่บ้านกุลพันธ์วิว (หมู่บ้านที่พวกคนรวยชอบอยู่ กัน แถวๆถนนเส้นเชียงใหม่-หางดง) . พอไปถึง...ครูนุ้ยเดินออกมาพร้อมกับหิ้วกล่องกีต้าร์ออกมาใบหนึ่ง ครูนุ้ยยื่นกล่องกีต้าร์ให้ผมพร้อมกับจดหมายฉบับเล็กๆใบหนึ่ง . ผมขนลุกซู่... เย็นวาบไปทั้งตัว... ค่อยๆแกะซองจดหมายออกมาอ่านด้วยมือสั่นเทา... . . . "พี่หนุ่มค่ะ... ก้อยขอโทษนะคะที่ทำกีต้าร์พี่พัง... ก้อยรู้ดีค่ะ ว่ามันเป็นกีต้าร์ที่พี่รักมาก... ก้อยเลยเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้... ก้อยขอโทษนะคะ...ก้อยขอโทษจริงๆ ก้อยสำนึกถึงความผิดของตัวเองอยู่ตลอดเวลา... มันกลายเป็นแผลใจของก้อยเสมอมา... หลังจากที่พี่หนุ่มย้ายออกไปจากบ้านพักครูก้อยก็ไม่รู้จะไปตามหาพี่หนุ่มที่ ไหน... แต่ก้อยก็คิดมาตลอด...ว่าจะต้องไปขอโทษพี่หนุ่มสักวัน . กีต้าร์ตัวนี้... ถึงมันจะไม่ใช่รุ่นเดิมที่พี่ชอบ... แต่ก้อยก็ขอคืนมันแทนตัวเก่าที่เสียไปละกันนะคะ... หวังว่าพี่หนุ่มคงยกโทษให้ก้อยนะคะ... . สุดท้าย... ก้อยมีสิ่งหนึ่งที่อยากจะบอกพี่หนุ่มค่ะ... ตอนแรกก้อยว่าจะเก็บมันไว้ในใจตลอดไป... แต่เวลามันผ่านมานานแล้ว...ก้อยกลัวว่าพี่หนุ่มจะลืมก้อยค่ะ . ก้อยอยากบอกว่า... ก้อยชอบพี่หนุ่มค่ะ... แม้ตอนมาเรียนอยู่ที่อเมริกาก้อยก็ยังคงคิดถึงพี่หนุ่มอยู่เสมอ... บางครั้งถึงกับฝันเห็นเลยนะคะ... ฝันเห็นตอนที่พี่เล่นกีต้าร์ร้องเพลงอยู่ที่บ้านพักครู... . ฝันถึงทีไรก้อยเหงาขึ้นมาทุกทีเลยค่ะ... ก้อยเลยตัดสินใจเขียนจดหมายฉบับนี้หาพี่... . ต่อจากนี้ไป...ก้อยคงจะไม่ฝันอีกแล้วนะคะ เพราะก้อยได้ทำสิ่งที่อยากทำหมดทุกอย่างแล้ว... สุดท้ายนี้...ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ...จาก...น้องก้อย" . อ่านจบ...หยดน้ำตาของผมก็ไหลริน ผมค่อยๆเปิดกล่องกีต้าร์ออกดูปรากฎว่า... มันเป็นกีต้าร์ GIBSON รุ่น SLASH ที่ผมชอบที่สุดเลยครับ...
จากคุณ |
:
พี่หนุ่ม
|
เขียนเมื่อ |
:
11 มี.ค. 53 12:44:55
A:180.183.117.246 X: TicketID:183173
|
|
|
|  |