กรรมสิทธิ์หัวใจ ตอนที่ ๒
|
|
ตอนที่ ๒
เสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดหน้าบริเวณบ้านทำให้คุณดวงทิพย์ต้องละสายตา เงยหน้าขึ้นมาจากการบรรจงใช้มีดเล่มเล็กฝานกล้วยน้ำว้าสุกให้เป็นแผ่นไม่หนาไม่บางเกินไป รอยยิ้มละไมกระจายไปทั่วใบหน้ายามเห็นร่างสูงคุ้นตาที่เพิ่งก้าวลงมาจากรถ
ว่ายังไง เจ้าของบ้านเอ่ยทักทันทีที่ร่างสูงใหญ่ตรงเข้ามาหา นางน่ะกำลังนั่งทำงานอยู่บนแคร่ไม้เล็กๆซึ่งตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน
แต่ดูเหมือนคำถามนั้นอาจไม่ได้ต้องการคำตอบจริงจังเท่าไหร่เพราะชายหนุ่มที่เพิ่งหย่อนกายลงนั่งข้างๆไม่ได้ตอบอะไรแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่เขาทำคือการปลดกระดุมข้อมือเชิ้ตแขนยาวของตัวทั้งสองข้าง แล้วดึงพรืดขึ้นมาให้แขนเสื้ออยู่เหนือศอกก่อนจะพับลวกๆเข้าไปสองทบ เห็นปลายแขนเสื้อเป็นก้อนขยุกขยุยที่อยู่เหนือศอกพ่อลูกชายคนเดียวแล้วคุณดวงทิพย์ก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจออกมา ใบหน้าซึ่งมีเค้าสวยสง่าส่ายไปมาพร้อมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะวางมีดและกล้วยน้ำว้าลงในกะละมังสแตนเลส เช็ดมือกับผ้าสะอาดที่วางไว้ข้างๆแล้วยื่นมือมาจัดการกับชายหนุ่ม จะพับทั้งที ก็พับให้มันเรียบร้อยสิจ๊ะ ไปยัดไว้เป็นก้อนขยุยๆอย่างนี้ ทำอะไรไปแป๊บๆมันก็จะหลุดนะ นางว่า มือนุ่มๆก็เริ่มแกะปลายแขนเสื้อพีรพัฒน์ออกมาพับใหม่
นั่นน่ะสิครับ แล้วเสียงคนที่พับไว้ เป็นก้อนขยุยๆ ก็เห็นด้วยหน้าตาเฉย เพราะฉะนั้น ให้แม่พับให้นั่นแหละ ดีที่สุด
ฮื้อ! ลูกนะลูก คุณดวงทิพย์ค้อนแกมหัวเราะให้ลูกชายอย่างพองาม และหลังจากจัดการแขนเสื้อให้พีรพัฒน์เรียบร้อยแล้วคนสูงวัยกว่าก็หยิบกล้วยขึ้นมาฝานต่อ
ชายหนุ่มชะโงกหน้าเข้ามาดู
ทำขนมหรือครับ พีรพัฒน์ถาม จ้ะ คนตอบพยักหน้า พอดีในสวน กล้วยน้ำว้ามันสุกพร้อมกันหลายเครือ นี่ขนาดแม่ตัดปันให้เจ้าลูกชุบกับป้าน้อยไปบ้างแล้วนะ แต่ก็ยังเหลืออยู่ดี ทิ้งไว้กินไม่หมดมันก็จะงอมเสียไปเปล่าๆ ก็เลยว่าจะเอามาห่อข้าวต้มเสียหน่อย
หรือครับ ชายหนุ่มว่า ขยับเข้ามาใกล้มารดาอีกนิด ก่อนจะยื่นมือลงไปหยิบกล้วยที่คุณดวงทิพย์ฝานแล้วขึ้นมากินเฉย
แน่ะ! คนเป็นแม่ร้องเบาๆ จะมาหยิบอันนี้กินได้ยังไง แม่ฝานไว้จะเอาไปทำไส้ข้าวต้ม ถ้าอยากจะกิน ไปเด็ดเอาที่อยู่ในหวีนั่นดีกว่า
คุณดวงทิพย์บุ้ยหน้าไปทางกล้วยน้ำว้าลูกอวบสีเหลืองนวลอีกสามหวีที่วางอยู่ข้างๆ แต่แม้ชายหนุ่มจะพยักหน้าหงึกๆ ทว่าพอกล้วยชิ้นแรกทยอยลงกระเพาะหมด เขาก็หยิบชิ้นสองอีก
อีหรอบนี้สตรีวัยห้าสิบสี่ก็ได้แต่ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม
เพราะเขาก็เป็นแบบนี้เสมอนะ ลูกชายของนาง...ดื้อนิ่งๆ
ว่าแต่ วันนี้กลับมาบ้านนี่ มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ
หืม? คนถูกถามออกอาการนิ่วหน้า อะไรครับ เดี๋ยวนี้แม้แต่แม่ก็จะไม่ให้ผมกลับมาบ้านสวนที่ปทุมฯนี่แล้วหรือ
ฮื้อ...ไม่ใช่แบบนั้นหรอกน่า มารดาบอก ที่นี่ก็บ้านของพี พีจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่...
คุณดวงทิพย์ลากเสียงค้างไว้ขณะเอื้อมมือไปใช้มีดตัดกล้วยในหวียื่นให้พีรพัฒน์
วันนี้รู้สึกเหมือนแม่จะได้ข่าวมาว่าพีงานยุ่งมากนี่นา แม่ก็เลยนึกว่าพีคงจะค้างที่ทำงานหรือไม่ก็ที่บ้านป้าอังน่ะซี
พีรพัฒน์ชะงักมือที่กำลังจะรับกล้วยจากแม่ทันที
นี่รักเขาโทร.มาบอกแม่หรือครับ
ไม่ใช่แค่โทร.มาบอกหรอก
คุณดวงทิพย์ดึงกล้วยที่พีรพัฒน์ไม่รับกลับมาปอกเปลือกออกแล้วฝานใส่ลงกะละมัง
แต่เขาโทร.มาปรึกษา
ปรึกษา? ชายหนุ่มทวนคำออกมาก่อนจะถามต่ออีก แล้ว...เขาปรึกษาอะไรกับแม่ล่ะครับ
ก็เรื่องที่พีไม่ยอมเข้าไปดูไปแลงานที่บริษัทป้าอังสักทีน่ะซี
ก็งานบริษัทผมเองมันยุ่ง พีรพัฒน์ตอบขณะที่มือหนาๆยื่นลงไปหยิบกล้วยขึ้นมาอีกชิ้น กำลังจะกินเข้าปากอยู่แล้วก็พอดี หันไปเจอว่าคนเป็นแม่น่ะกำลังจ้องหน้า ตาดุเชียว
ถ้ายุ่งจริง ตอนนี้จะมีเวลามานั่งขโมยกล้วยแม่กินอย่างนี้มั้ย
เฮ่อ!
แล้วคนถูกจับไต๋ได้ก็ถอนใจยาว ใช่! ไอ้งานยุ่งๆต่อหน้าหทัยรักวันนี้น่ะก็เป็นแค่เรื่องอ้าง และแน่นอน รวมไปถึงอีกสองวันที่เขาขอไว้นั่นด้วย
ผมไม่ค่อยอยากไปน่ะแม่ พีรพัฒน์บอก นี่ถ้าเขาไปพูดอย่างนี้ต่อหน้าคนอื่นที่ไม่ใช่แม่ รับรองเลยว่าคนฟังต้องคิดว่าเขาน่ะเข้าขั้นบ้าชัวร์
เพราะตอนนี้ใครๆก็คิดเสมอว่า พีรพัฒน์ วิศิษฏการ เป็นชายหนุ่มที่โชคดีและน่าอิจฉาที่สุดแห่งปี
...เพราะอะไรหรือ?...
...คำตอบคือ...
(มีต่อ)
| จากคุณ |
:
parinnada
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 มี.ค. 53 21:10:54
|
|
|
|