ความคิดเห็นที่ 1 |
Chapter 10
ลูซิเฟอร์ได้ทิ้งปริศนาไว้ก่อนที่จะตัดการติดต่อไป ซึ่งนั้นทำให้ลิลิธครุ่นคิดอย่างหนัก นางพยายามทบทวนคำพูดของ ลูซิเฟอร์เท่าที่จะจำได้ ซึ่งนางก็สะดุดกับประโยคทิ้งท้ายเกี่ยวกับเรื่องนี้ “เจ้ามีผู้ที่จะช่วยสอนเรื่องพวกนี้ให้เจ้าอยู่แล้วนี่นา ปัญหามีแค่ เจ้า กับ ‘พวกนาง’ นั้น อย่าตีกันก็พอ”
‘พวกนาง’
จากคำที่ลูซิเฟอร์ทิ้งไว้ ถ้าลิลิธคาดเดาไม่ผิด ความเป็นไปได้ของผู้ที่จะมาช่วยสอนนางในเรื่องต่าง ๆ ก็คงเป็นไอเซ็ท นามาฮ์ และอาแกรทเป็นแน่ เพียงแต่นางก็ไม่อาจแน่ใจได้ ด้วยเพราะนางมองไม่ออกเลยว่านามาฮ์และอาแกรทจะมาช่วยนางได้อย่างไร
ก๊อก* ก๊อก*
เสียงประตูห้องของลิลิธถูกเคาะ ซึ่งลิลิธคิดว่าผู้ที่เคาะคงจะไม่ใช่เชดิมและโซฟิอาเป็นแน่ เนื่องจากตามปกตินั้นทั้งสองจะเปิดประตูเข้ามาปรนนิบัติต่อเมื่อนางเรียกเท่านั้น แม้ว่ามีเรื่องเร่งด่วนอันใดทั้งสองจะกล่าวผ่านประตูซะมากกว่าการเคาะประตู นางจึงตะโกนออกไปทั้ง ๆ ที่ยังนอนอยู่เช่นนั้น
“เข้ามาได้”
ประตูถูกเปิดออกทันทีที่สิ้นคำของลิลิธ ผู้ที่เปิดเข้ามาก็คือไอเซ็ทในชุดสีฟ้า กระโปรงยาวสีขาวที่ดูเป็นเอกลักษณ์ในแบบของนาง ไอเซ็ทที่เข้ามาเดินตรงมาหาลิลิธแล้วนั่งลงใกล้ ๆ ทันที สีหน้าของนางดูจะเป็นห่วงลิลิธพอสมควร
“อะไรกัน เจ้ายังลุกไม่ขึ้นอีกรึ?”
คำถามของไอเซ็ทราวกับว่านางทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับลิลิธ ซึ่งนั้นทำให้ลิลิธดูจะสงสัยพอสมควร นางจึงไม่ได้ตอบคำถามของไอเซ็ท แต่เป็นการถามกลับไปด้วยความประหลาดใจแทน
“เจ้ารู้ด้วยรึว่าข้าเป็นอะไร?”
ไอเซ็ทอึ้งกับคำถามของลิลิธไปเล็กน้อย สีหน้าของนางเหมือนจะครุ่นคิดว่าจะตอบข้อคำถามของลิลิธอย่างไรดี เพราะการที่นางเฝ้าดูลิลิธนั้นก็เป็นการไม่เหมาะสมนัก ซึ่งถ้าตอบออกไปก็เกรงว่าจะเป็นว่าทำให้หมางใจซะเปล่า ๆ แต่กระนั้นนางก็คิดว่าถ้าไม่กล่าวความจริงไป แล้วลิลิธไปรู้ทีหลังคงจะยิ่งกว่านี้ ไอเซ็ทจึงตอบออกไปตามความเป็นจริง
“รู้สิ ถ้าเป็นเรื่องของเจ้าก่อนที่จะเข้าห้องล่ะก็ ส่วนใหญ่ข้าจะเฝ้าดูอยู่บ่อย ๆ นั่นล่ะ” “รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับข้าเมื่อวานด้วย” ลิลิธถามย้ำอีกครั้ง สีหน้าของค่อนข้างแปลกใจพอสมควร
“ใช่ ตั้งแต่ต้นจนจบเลยทีเดียว” ไอเซ็ทกล่าวตอบอย่างเรียบ ๆ แต่สายตาของนางจับจ้องที่ลิลิธอย่างไม่วางตา เฉกเช่นเดียวกับลิลิธที่มองไอเซ็ทไม่วางตาเช่นกัน
ลิลิธที่ได้รับคำตอบค่อย ๆ หรี่ตาที่มองไอเซ็ทอยู่ ก่อนจะปั้นหน้าบึ้งแล้วลืมตากล่าวด้วยน้ำเสียงค้อนใส่ไอเซ็ท “แล้วจะมาช่วยดูใจหน่อยก็ไม่ได้นะ”
เป็นเรื่องที่ผิดคาดสำหรับไอเซ็ท ดูลิลิธจะไม่ใส่ใจเรื่องที่นางเฝ้าดูพฤติกรรมของลิลิธเลยสักนิด ราวกับว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาที่นางรู้สึกเคยชินเสียแล้วเช่นนั้น “นี่ข้าเฝ้าสังเกตการณ์เจ้าตลอดนะ”
“อืม...”
“ข้าดูเจ้าเวลาอยู่ข้างนอกเกือบตลอดเลยนะ ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรก็ตาม”
“อืม แล้วยังไงรึ?”
“....เจ้าไม่โกรธบ้างเลยสักนิดรึ” ไอเซ็ทกล่าวด้วยความสงสัยต่อคำตอบที่ดูเหมือนไม่ยี่หระอันใดของลิลิธ
ลิลิธเหมือนจะหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่สีหน้าของนางยังดูปกติธรรมดาไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจ หรือสงสัยสิ่งใดออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย ๆ ก่อนที่จะกล่าวตอบออกไป “ไม่เลย ชีวิตข้าก็ถูกเฝ้ามองมาตลอด ถ้าจะมีใครมาเฝ้าจับตาดูต่อไปอีก ข้าก็ไม่คิดว่ามันจะทำให้ข้ารู้สึกโกรธอันใดได้แล้ว อย่างมากก็แค่แปลกใจเท่านั้นเอง”
“เจ้านี่นะ ไม่เหมือนผู้ใดที่ข้าเคยเจอเลยจริง ๆ” ไอเซ็ทถอนหายใจออกมานิดหน่อยให้กับสิ่งที่ลิลิธกล่าว จะว่าเป็นการถอนหายใจด้วยความโล่งใจก็ว่าได้ เพราะนางคิดว่าลิลิธจะไม่พอใจนางเสียอีก แต่กลับเป็นว่านางไม่ได้ไม่พอใจในสิ่งที่นางหวาดหวั่นแต่อย่างใด
“แล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ ถึงได้นอนอยู่แต่แบบนี้” ไอเซ็ทกลับมาถามถึงอาการของลิลิธที่ดูเหมือนคนหมดแรง ทั้งที่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางไม่น่าส่งผลได้มากถึงเพียงนี้
“ไม่รู้สิ ข้าก็ตอบไม่ถูก มันเพลียไปหมดจนไม่มีแรงจะลุกไปใหนเลยทีเดียว ไม่รู้นามาฮ์ใช้เวทย์มนต์ใดกับข้ากันแน่” ลิลิธตอบพลางแสดงสีหน้าไม่พอใจยามที่กล่าวถึงนามาฮ์
“นั่นล่ะ ข้าถึงได้ไม่อยากสู้กับนาง นามาฮ์น่ะนะดูจะเชี่ยวชาญเวทย์มนต์ประเภทตัดทอนความสามารถของศัตรู รวมไปถึงเวทย์สายคำสาปรูปแบบต่าง ๆ ด้วย นี่ยังไม่นับไอ้พวกสิ่งมีชีวิตที่นางสร้างไว้ใช้งานอีก” ไอเซ็ทกล่าวพลางส่ายหัวไปมายามนึกถึงลิลิธที่ท้าทายนามาฮ์
“ไว้ว่าง ๆ เจ้าจะมาลองกับข้าหน่อยก็ได้นะ” เสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นเบื้องหลังไอเซ็ท ท่ามกลางสีหน้าที่ดูตกตะลึงของลิลิธ ไอเซ็ทหันหน้าไปมองด้วยสีหน้าเจื่อน ซึ่งผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหลังไอเซ็ทนั้นได้แต่มองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ออกจะดูเบื่อ ๆ ซะด้วยซ้ำไป
“นามาฮ์!! เจ้ามาที่นี่…” ลิลิธกล่าวด้วยความตกใจ แต่นางไม่ทันกล่าวจบประโยคนามาฮ์ก็กล่าวแทรกขึ้นในทันที
“ข้าก็เดินมาตามทาง แถมห้องเจ้าก็ไม่ได้ล็อค ข้าจึงขอถือวิสาสะในฐานะผู้ดูแลคฤหาสน์แห่งนี้เข้ามา ก็แค่นั้นเอง” นามาฮ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยพลางมองลิลิธที่นอนเอาผ้าห่มคลุมกายด้วยแววตาที่เหมือนจะพอใจกับภาพที่เห็นอย่างยิ่ง
ไอเซ็ทซึ่งเมื่อครู่ยังตกตะลึง กลับมาสงบเยือกเย็นได้อีกครั้ง ในหัวของนางพยายามคิดหาเหตุผลต่าง ๆ สำหรับการมาของ นามาฮ์ที่มาถึงห้องของลิลิธ ซึ่งเหตุผลมันดูมีเพียงไม่กี่ประการเท่านั้นตามความคิดของนาง ไอเซ็ทจึงยิงคำถามใส่นามาฮ์ ไปด้วยน้ำเสียงและแววตาที่สุขุมเยือกเย็น “เจ้า...มาดูผลงานที่ทำไว้ หรือเพราะมีเรื่องอันใดต้องบอกแก่ลิลิธ จึงได้ทำให้เจ้าที่ไม่เคยเข้าไปหาผู้ใดเช่นนี้ มาถึงห้องของ ลิลิธได้”
นามาฮ์เลิกคิ้วด้วยความสนใจในสิ่งที่ไอเซ็ทถาม นางไม่แปลกใจนักกับการที่ไอเซ็ทจะมองจุดประสงค์ของนางออก ด้วยเพราะอย่างไรเสียนางก็ยอมรับว่าไอเซ็ทนั้นเป็นเทวทูตที่ทรงปัญญามากผู้หนึ่ง เพียงแค่ไม่ค่อยได้แสดงออก และนิสัยทั่วไปออกจะดูเหมือนไม่ค่อยเต็มเสียมากกว่าก็เท่านั้น นางปรายตามองไอเซ็ทพลางยิ้มพราย “เจ้านี่ยังคงฉลาดไม่เปลี่ยนแปลงจริง ๆ ถ้าข้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญเจ้าคงไม่เชื่อสินะ”
“เจ้าก็กล่าวเกินไป อย่าเรียกว่าความฉลาดอันใดเลย เรียกว่าเป็นเรื่องผิดสังเกตซะมากกว่า เลยทำให้ข้าฉุกคิดได้” ไอเซ็ทกล่าวตอบรับไปด้วยรอยยิ้ม
ลิลิธได้แต่เพียงมองการสนทนาของไอเซ็ท และนามาฮ์อย่างเงียบ ๆ เพราะแม้จะเป็นการสนทนาที่ดูเรียบ ๆ แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ นางรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มีอย่างมากมาย จนนางแทบไม่เชื่อความรู้สึกของตนเองเลยว่าสิ่งที่สัมผัสได้ ณ เวลานี้คือแรงกดดันที่เกิดจากพลังของไอเซ็ท มันมากซะจนแทบจะข่มนามาฮ์ได้เลยทีเดียว นั่นทำให้ลิลิธยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าทำไมไอเซ็ทจึงได้ยอมนามาฮ์มาตลอด
| จากคุณ |
:
joyka
|
| เขียนเมื่อ |
:
14 มี.ค. 53 19:00:58
|
|
|
|