 |
พุทธสุภาษิต : สัตบุรุษงดเว้นจากคำพูดส่อเสียด
|
|

๏ พูด จาวาทกถ้วน ......... ควรระวัง ดี ชั่วคิดก่อนยัง ............... หยุดได้ เป็นศรี สัจจ์พึงหวัง ........... สุคติ ... แลนา แก่ปาก มากพึงใช้ ............ สติต้องตรองธรรม ๚ะ
๏ สำ คัญคือให้หลีก .......... ลำเอียง รวม จิตคิดเทียบเคียง ........ ก่อนพลั้ง วา ทีก่อนเปล่งเสียง .......... สงวนศัพท์ ... ท่านเอย จา รีตคำกล่าวรั้ง .............. รัดผู้เผยคำ ... แลนา ๚ะ๛
--------------------------------------------

สัตบุรุษในโลกนี้ เป็นผู้งดเว้นจากการพูดเท็จ งดเว้นจากคำพูดส่อเสียด งดเว้นจากคำหยาบ งดเว้นจากการเจรจาเพ้อเจ้อ (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๙๖) --------------------------------------------
เมื่อความวิวาทกันเกิด เกิดพร้อม บังเกิด บังเกิดเฉพาะ ปรากฏแล้ว ชนทั้งหลายย่อมนำคำส่อเสียดเข้าไป คือ ฟังจากข้างนี้แล้วไปบอกข้างโน้น เพื่อทำลายคนหมู่นี้ หรือฟังจากข้างโน้นแล้วมาบอกข้างนี้ เพื่อทำลายคนหมู่โน้น เป็นผู้ทำลายคนที่พร้อมเพรียงกันบ้าง สนับสนุนคนที่แตกกันแล้วบ้าง ชอบผู้ที่เป็นก๊กกันบ้าง ยินดีผู้ที่เป็นก๊กกัน เพลินคนที่เป็นก๊กกัน เป็นผู้กล่าววาจาที่ทำให้เป็นก๊กกัน นี้เรียกว่า ความพูดส่อเสียด (พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๙ หน้าที่ ๒๔๑) --------------------------------------------
ปูติมุขเปตวัตถุที่ ๓
ท่านพระนารทะถามเปรตตนหนึ่งว่า [๘๘] ท่านมีผิวพรรณงามดังทิพย์ ยืนอยู่ในอากาศ แต่ปากของท่านมีกลิ่นเหม็น หมู่หนอนพากันมาไชชอนอยู่ เมื่อก่อนท่านทำกรรมอะไรไว้?
เปรตนั้นตอบว่า เมื่อก่อนข้าพเจ้าเป็นสมณะลามก มีวาจาชั่ว สำรวมกายเป็นปกติ ไม่สำรวมปาก ผิวพรรณดังทองข้าพเจ้าได้แล้ว เพราะพรหมจรรย์นั้น แต่ปากของข้าพเจ้า เหม็นเน่าเพราะกล่าววาจาส่อเสียด ข้าแต่ท่านพระนารทะ รูปของข้าพเจ้านี้ ท่านเห็นเองแล้ว ท่านผู้ฉลาดอนุเคราะห์กล่าวไว้ว่า ท่านอย่าพูดส่อเสียดและ อย่าพูดมุสา ถ้าท่านละคำส่อเสียดและคำมุสาแล้ว สำรวมด้วยวาจา ท่านจักเป็น เทพเจ้าผู้สมบูรณ์ด้วยสิ่งที่น่าใคร่.
(พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ หน้าที่ ๑๒๓) --------------------------------------------
สัตบุรุษ [สัดบุหฺรุด] น. คนที่เป็นสัมมาทิฐิ, คนดีน่านับถือ มีคุณธรรม ประพฤติอยู่ในศีลในธรรม. (ส. สตฺปุรุษ; ป. สปฺปุริส). (พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ http://rirs3.royin.go.th/ )
จากคุณ |
:
ศาลายา
|
เขียนเมื่อ |
:
18 มี.ค. 53 09:09:22
|
|
|
|  |