Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ชีวิตของไส้ติ่ง (ไม่ใช่ฟิค ไม่ใช่เรื่องจริง และไม่ใช่บทความวิชาการ)  

“ไส้ติ่ง” พจนานุกรมฉบับบัณฑิตราชตยสถาน ได้ให้ความหมายไว้ว่า

ไส้ติ่ง หมายถึง ไส้ที่เป็นติ่งย้อยจากลำไส้ใหญ่ของคน

แต่ถึงไม่ต้องอ้างพจนานุกรม หรือ วิกิพีเดีย ทุกๆ คนก็รู้จัก “ไส้ติ่ง” กันเป็นอย่างดี ในฐานะส่วนเกิน (ของร่างกาย) ที่ไม่มีใครต้องการ เป็นที่รู้ดีกันว่าหลายๆ ครั้งชีวิตของคนเราต้องโดนจำกัดก็เพราะการที่เรามีไส้ติ่งอยู่ ห้ามกินเม็ดฝรั่ง ห้ามกินข้าวแล้วกระโดด ห้ามโน่น ระวังนี่ เพราะกลัวไส้ติ่งจะอักเสบ จนทำให้เราต้องหงุดหงิดอยู่บ่อยๆ ก็จะต้องเอาใจอะไรกันนักกันหนานะกับส่วนเกินที่ไม่เคยทำประโยชน์อะไรให้แก่ร่างกาย และหลายๆ ครั้งทุกอวัยวะภายในร่างกายก็พยายามลืมๆ ไปว่ามี “ไส้ติ่ง” อาศัยอยู่ด้วย

ก็ไม่เคยมีหนังสือสุขศึกษา หรือตำราการแพทย์ไหนๆ ระบุว่าไส้ติ่งทำหน้าที่ที่มีประโยชน์อันใดให้แก่ร่างกายของคนเรา ความสามารถเดียวที่ไส้ติ่งมีและทำได้และเป็นที่รับรู้โดยทั่วกัน ก็คือ การอักเสบ ให้ร่างกายต้องระคายเคืองและเจ็บปวด จนบางครั้งถ้าร่างกายประมาทก็อาจจะถึงแก่ความตายได้ ไส้ติ่งจึงอาศัยอยู่ในร่างกายของคนเราในสภาพที่เรียกว่า “ชาวนากับงูเห่า”

ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไร ธรรมชาติก็ยังเมตตาให้ไส้ติ่งได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ด้านร่างกายเองก็ยอมรับความมีอยู่จริงของไส้ติ่ง และก็ไม่เคยเรียกร้องให้ตอบแทนแต่ประการใด แต่ไส้ติ่งก็ยังเรียกร้องความสนใจด้วยการหาเรื่องอักเสบให้ร่างกายต้องเจ็บปวด

เวลาที่ไส้ติ่งทำตัวไม่น่ารัก เริ่มเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ร่างกายจะพยายามอธิบายเหตุผล และตักเตือนอย่างเงียบๆ ก่อนอยู่เสมอ หากไส้ติ่งฉลาดพอ และรับฟัง ร่างกายก็จะยังยอมให้ไส้ติ่งอาศัยอยู่ร่วมกันต่อไปได้ แต่ถ้าอธิบายเหตุผลก็แล้ว ตักเตือนก็แล้ว แต่ไส้ติ่งยังปิดหู ปิดตา และปิดใจ ไม่รับฟัง ยังดึงดันเรียกร้องเอาแต่ใจ ร่างกายก็คงจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเพื่อจัดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

การใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดนั้น ร่างกายจะใช้หัวใจไปสั่งสมองให้ไปกระตุ้นเม็ดเลือดขาว ให้ออกมาเรียกร้องสิทธิในการกำจัดไส้ติ่งให้พ้นไปจากร่างกาย แน่นอนล่ะการทำเช่นนั้นร่างกายอาจจะต้องเจ็บปวดบ้างอะไรบ้าง แต่มันก็เป็นการจัดการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ถ้าให้อยู่ด้วยแล้วไม่ทำประโยชน์แต่ยังจะสร้างความเดือนร้อน ก็คงจำเป็นต้องขับไสไล่ส่งให้พ้นๆ ไป

แต่การจัดการกับไส้ติ่งอักเสบก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไส้ติ่งอักเสบนั้นมันมีอยู่สองชนิด คือ ชนิดตรงไปตรงมา และชนิดไม่ตรงไปตรงมา (ตลบแตลง)

ไส้ติ่งอักเสบชนิดตรงไปตรงมานั้น เป็นไส้ติ่งชนิดที่มีมารยาทและมีสมบัติผู้ดีติดตัวมาบ้าง เราอาจเรียกได้ว่า “ไส้ติ่งชนิดหน้าบาง” ร่างกายจะสามารถรับรู้การแผลงฤทธิ์อักเสบได้เร็วและกำจัดรักษาได้ง่าย ผลกระทบกับร่างกายมักจะไม่รุนแรง

แต่ไส้ติ่งอักเสบชนิดไม่ตรงไปตรงมา (ตลบแตลง) นั้น เป็นไส้ติ่งที่บกพร่องทั้งมารยาทและสมบัติผู้ดี เราอาจเรียกได้ว่า “ไส้ติ่งหน้าทน” กว่าร่างกายจะสามารถรับรู้การแผลงฤทธิ์อักเสบต้องใช้เวลานาน บางครั้งอาจจะไม่รับรู้เลยจนต้องล้มเจ็บลงอย่างกะทันหัน และอย่างอาจส่งผลกระทบกับอวัยวะอื่นๆ อีกได้ เช่น กระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้เล็กตอนปลาย การรักษาทำให้อยากกว่าและอาจเกิดผลกระทบกับร่างกายรุนแรงได้

และนี่คือความสามารถเดียวที่ไส้ติ่งมี และเป็นความสามารถที่ไม่มีใครต้องการ หลายครั้งร่างกายก็เกิดความประมาทเพราะหัวใจอาจจะมีเมตตามากเกินไปไม่กล้าสั่งให้สมองลงมือจัดการขั้นรุนแรงกับไส้ติ่ง ซึ่งการทำเช่นนี้ไส้ติ่งหาได้สำนึกบุญคุณของหัวใจไม่ นอกจากจะยิ่งลำพองออกฤทธิ์ใหญ่โต จนบางครั้งนำมาซึ่งการเสียชีวิต

ถึงแม้ว่าธรรมชาติจะมีความเมตตาให้ไส้ติ่ง แต่ธรรมชาติก็ยุติธรรมพอที่จะเมตตาร่างกายด้วยเช่นกัน เพราะธรรมชาตินั้นให้ร่างกายของเรามีไส้ติ่งเพียงอันเดียว ถ้าไม่เจียมเนื้อเจียมตัว อยู่กันอย่างสงบไม่ได้ ก็ต้องถูกตัดทิ้งไป แล้วก็ไม่มีโอกาสวนๆ เวียนๆ มาสร้างความระคายเคือง เจ็บปวดให้กับร่างกายอีก

เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายยังคงมีไส้ติ่งติดอยู่ หัวใจกับสมองต้องทำงานร่วมกันอย่างมีสติ หัวใจต้องเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และสมองก็ต้องปราดเปรื่อง ฉับไวพอที่จะจัดการแก้ปัญหาขั้นเด็ดขาดกับไส้ติ่ง เพราะเราเลือกไม่ได้ว่าไส้ติ่งที่อยู่กับร่างกายของเรานั้นเป็นชนิด “หน้าบาง” หรือ “หน้าทน”

ความเมตตานั้นใช้ได้กับทุกสิ่งทุกอย่างในโลก แต่ไม่ใช่กับไส้ติ่งที่ไม่ยอมอยู่อย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว เพราะเมื่อใดที่เราเมตตาไส้ติ่งจำพวกนี้ ก็เท่ากับเราทำร้ายอวัยวะอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายโดยไม่รู้ตัว

จำไว้นะพวกไส้ติ่งทั้งหลายถ้ายังอยากอยู่ร่วมโลกกับร่างกาย...ก็ต้องรู้จักสงบเสงี่ยมเจียมตัว

หลังจากเขียนบทความนี้ประชากรไส้ติ่งทั้งโลกอาจจะทำการประท้วง ประณามคนเขียนได้...แต่คนเขียนหาสนใจไม่...เพราะว่าก็เป็นแค่ “ไส้ติ่ง” อย่าทำตัวเรื่องมาก เดี๋ยวตัดทิ้งเลยนี่!!
______________________________

ปล .1 ผู้เขียนได้ผ่าตัดไส้ติ่งทิ้งไปแล้วตั้งแต่ 30 มี.ค. 50 และโชคดีไส้ติ่งของผู้เขียนเป็นประเภท “หน้าบาง”
ปล. 2 เนื้อหาในบทความอาจสะท้อนให้เห็นว่าผู้เขียนเป็นคนใจร้าย ใจแคบ ซึ่งผู้เขียนก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า “ใช่”...เฉพาะกับพวกไส้ติ่งทั้งหลายเท่านั้น

แก้ไขเมื่อ 18 มี.ค. 53 16:38:12

จากคุณ : Mydarin
เขียนเมื่อ : 18 มี.ค. 53 15:02:40




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com