ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - หมี่เป็ดจอมทรนง
|
|
ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - หมี่เป็ดจอมทรนง
สมัยทำงานที่ธนาคารไทยแห่งแรก จำได้ว่าร้านตรงข้ามมีการขายหมี่เป็ดตอนเช้า ประมาณว่าไม่เกินเที่ยงวันก็ขายหมดแล้ว เพราะเป็นเจ้าเดียวในตลาดปาดังเบซาร์ ที่ขายเนื้อเป็ด เลือดเป็ด ที่ต้มกับเครื่องยาจีน เป็นเจ้าเดียวในตลาดที่ขายเนื้อเป็ด ส่วนเจ้าอื่น ๆ ก็มีรายย่อยสองสามเจ้า แต่ฝีมือและความชำนาญในเรื่องนี้ยังไม่เข้าขั้น ระดับแชมป์ฝีมือในเรื่องเป็ดแต่อย่างใด ที่จำได้ดีเพราะกินทุกเช้าก่อนเข้าทำงาน กินติดต่อกันอยู่ราวสักสามเดือนติดต่อกัน จนเป็นโรคเกาซ์เลยต้องหยุดกินชั่วคราว
เถ้าแก่ร้านขายหมี่เป็ดนี้ มีความทรนงและอารมณ์ร้อนรายหนึ่งพอสมควร คือ ถ้าวันไหนได้เป็ดมาคุณภาพไม่ดี แกก็ไม่ยอมขายเสียเลยในวันนั้น การสั่งซื้อสินค้าก็ตามคิวที่แกกำหนด การเที่ยวใช้อภิสิทธิ์แหกคิวอย่าเสี่ยงดีกว่า ถ้าแกจำได้ก็จะโดนเอ็ดดังลั่นเสียผู้เสียคนไปเลย
มีครั้งหนึ่งแกโกรธลูกสาวของแกมาก ในเรื่องให้มาช่วยงานแกในการขายหมี่เป็ด ก็ตามประสาวัยรุ่นที่ไม่ค่อยอยากจะทำงานมากนัก เที่ยวโอเอ้วิหารรายอยู่ในช่วงเช้าที่ต้องรีบขายรีบช่วยงาน ปรากฎว่าแกโกรธถึงขั้นเททิ้งหม้อต้มเครื่องยาจีนเป็ดทั้งหม้อ เทลงบนพื้นถนนสายหน้าที่ทำงาน ทำเอาวันนั้นคนในตลาดปาดังเบซาร์ อดกินเนื้อเป็ดเจ้าประจำไปเลย และล่วงเลยไปอีกหลายวัน กว่าแกจะยอมกลับมาขายอีก หลังจากขายไม่นานนักแกก็ล้างมือในอ่างทองคำ (วางมีดวางดาบหยุดการขายหมีเป็ดไป) เพราะหาคนงานและลูกสาวมาช่วยงานไม่ได้ ก็เลยยุติบทบาทเจ้าของกิจการหมี่เป็ดไปเลย
ส่วนลูกสาวของแกสองคนก็ไปทำงานที่หาดใหญ่ ไปค้าขายสินค้าชายแดนกับเพื่อน ๆ จนไม่นานหลังจากแกเดินทางไกลตามข้อ 24 ของเช็คคืน (ถึงแก่กรรม มีคนแปลจากภาษาจีนว่า ผู้สั่งจ่ายเดินทางไกล) ลูกสาวคนหนึ่งก็เรียนรู้ว่า อาชีพของบรรพบุรุษและเทคนิคในการทำอาหาร เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและเป็น Core Completency ที่ยากจะหาคนมาลอกเลียนแบบหรือปลอมแปลงได้ เลยกลับมาที่บ้านเกิดเปิดร้านใหม่อีกครั้ง ก็ยังขายดีเหมือนสมัยพ่อแก่ขายเช่นเดิม ถ้าไปหลังสี่โมงเช้าก็มักจะไม่เหลือแล้ว เพราะทำพอขายและเท่ากับจำนวน หรือปริมาณในการทำของขายแต่ละวัน ก็เคยไปอุดหนุนครั้งหนึ่งและรำลึกความหลังในเรื่องนี้
เขียนไว้จากความทรงจำ ก่อนที่จะลืมหายไป
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
19 มี.ค. 53 22:56:45
|
|
|
|