Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Sinner Redeems (๑) เรื่องสั้นขนาดยาว  

สวัสดีค่ะ  เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวแนวไซไฟแฟนตาซี (ซึ่งหนักแฟนตาซี) ประมาณสิบตอนจบ  ตอนนี้แต่งไปได้หกตอนกะอีกครึ่งหนึ่งแล้ว  คาดว่าจะจบในเร็ว ๆ นี้

คนเขียนแต่งเรื่องนี้ขึ้นหลังจากปิดมังกรเล่ม 5 ไป  ที่เขียนเพราะเขียนเรื่องน่ารักผ่อนคลายติดต่อกันมากจนเครียด  จึงเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาตัดรส  เป็นโปรเจคระยะสั้น  ไม่มีการยืดเยื้อ  ดังนั้นอย่าปาหินใส่หนูเลยนะคะ พลีส T-T

###

ฝากประกาศข่าวงานหนังสือหน่อยนะคะ

งานนี้จะมีออกสองเรื่อง (แต่สามเล่ม) คือผู้เสกทรายภาคสอง  กับมังกรเล่มห้า  กำหนดการของข้าพเจ้าคือข้าพเจ้าจะลงไปกทม. วันที่ 27-28 มีนา และ 3-4 เมษา

วันที่ 27 ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยงจะอยู่ที่งานเอนเธอร์  เพราะมีสัมภาษณ์ขึ้นเวที (10.50 - 11.20) และแจกลายเซ็นต่อถึงเที่ยง

วันที่ 4 สถาพรให้ไปแจกลายเซ็นที่บูธช่วงบ่ายโมง - บ่ายสี่  

อื่น ๆ นอกจากนี้คงเตร็ดเตร่ในงาน  สามารถหาตัวได้ที่บูธซิลค์เวอร์มบุคส์ H18 แพลนารีฮอลล์ (แวะมาซื้อหนังสือที่เค้าเป็นบก.ด้วยก็ดีเน้อ T-T)

ปกกับกำหนดการละเีอียดสามารถไปดูได้ในสามบล็อคนี้ขอรับ
กำหนดการ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lawit&date=10-03-2010&group=26&gblog=18
ปกมังกรเล่ม 5 http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lawit&date=05-03-2010&group=26&gblog=17
ปกผู้เสกทราย http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=lawit&date=15-03-2010&group=26&gblog=19

แวะมาเยี่ยมกันมั่งเน้อ

###

๑. วัฏจักร

นานมาแล้ว  ใครบางคนเคยให้หนังสือนิทานเขา   เรื่องของฝูงลิงขาวกับฝูงลิงดำ

ฝูงลิงขาวมีอำนาจมากกว่า  มีพลังมากกว่า  จึงทำร้ายกดขี่เและเอาเปรียบฝูงลิงดำ   วันหนึ่งลูกลิงขาวตกไปอยู่ในหมู่ลิงดำ  ลิงดำจึงเล่าความจริงให้มันฟัง   ลูกลิงขาวกลับไปหาพ่อแม่พี่น้องตน   บอกว่าไม่ควรเอาเปรียบผู้อื่นอีก   พ่อแม่ของลิงขาวก็บอกว่า เจ้าเป็นลิงขาวหรือลิงดำ  หากคิดทรยศเพื่อนพ้องพี่น้องของตัวเอง  ความสุขความสบายที่ได้รับก็จะสูญไป   เจ้าก็ต้องลำบากเดือดร้อนเช่นเดียวกับลิงดำ   และอย่าได้คิดว่าเจ้ามีขนขาวเช่นนี้   ลิงดำจะไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าเลย

หน้าสุดท้ายของนิทานเล่มนั้นไม่มีอะไร   ไม่มีคำตอบให้   มีเพียงคำถามว่าหากผู้อ่านเป็นลูกลิงขาว  จะตัดสินใจอย่างไร

หิมะตกหนักมาสามวันสามคืนแล้ว  เขาอยู่ที่ปากถ้ำ  เฝ้ามองโลกสีขาวพร่าพราย  สายสีขาวที่กระหน่ำโหมรุนแรง  พัดเหวี่ยงราวจะกลืนกินทุกอย่างหมดสิ้น   เมื่อแรกที่หิมะตกลงมาอย่างนี้   เขาเคยคิดว่าดี   จะได้กลบร่องรอยของตน   แต่เมื่อผ่านไปถึงสามวันแล้วก็ชักไม่ค่อยแน่ใจ...แม้ยังมีเสบียงอยู่  แต่อาจไม่พอ  อันตรายเกินไป   อีกอย่างหนึ่ง เขาก็เป็นคนใจร้อนโดยนิสัยมาแต่แรกแล้ว

เหยื่อของเขานั่งอยู่ด้านใน

เขาทำเชือกสำหรับมัดมัน  มัดมือและเท้า  ล่ามเชือกผูกรอบคอ   เหยื่อนิ่งเงียบมาตลอด   ไม่ว่าอะไรตอนที่เขาจับมา  แต่เขาไม่ไว้ใจมัน  ตลอดหลายวันจึงไม่ให้กินอะไร  ตอนนี้มันคงสิ้นกำลังแล้ว  แต่เขายังไม่ต้องการให้มันตาย    ต้องการตรวจและชำแหละร่างกายทั้งยังเป็น ๆ

เมื่อคิดได้อย่างนั้น  เขาจึงเดินเข้าไปยืนอยู่เบื้องหน้าเหยื่อ   บางทีมันคงรู้ตัว  ก็ลืมตาเงยหน้าขึ้นมองตอบ  เขาวางกระบอกน้ำและอาหารแห้งไว้ข้างตัว  มันถูกมัดมือ  แต่ไม่ได้ไพล่หลัง  เขาทำเชือกมัดมันตามหนังสือโบราณ...เมื่อแรกไม่แน่ใจ   แต่ปรากฏว่าได้ผล   ดูเหมือนมันจะสิ้นพลังอะไรนั่นจริง ๆ

"ถ้าไม่อยากตายก็กินเสีย"

แต่เหยื่อไม่ขยับตัว  มันไม่พูดอะไร  เขาเห็นอย่างนั้นก็โมโหขุ่นเคือง  เตะเข้าท้องมัน  กระแทกแรงจนต้องอาเจียนน้ำย่อยออกมา  เขายัดเยียดบังคับให้มันกินอาหารลงไป  รู้สึกสาแก่ใจ  บางที...ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมานานแสนนาน    เขาอาจจะเป็นอิยาเพียงคนเดียวที่ได้แก้แค้นอะไรอย่างนี้กับพวกชามู

ถูกแล้ว เหยื่อของเขาเป็นชามู พวกมันเหล่านั้นซึ่งตั้งเมืองในหุบเขาราวเทพเจ้า พวกมันซึ่งกินเผ่าพันธุ์อิยาของเขาเป็นอาหาร   เขาจับมันมาได้  แม้จะต้องใช้ความพยายาม   ความอดทน  และต้องเสี่ยงมาก  เขาก็จับมันมาได้   มันเป็นเหยื่อของเขา   เขาจะทำกับมันดังที่ตนต้องการ   ดังที่ชามูมักทำกับอิยา

เขาชื่อนัคทา

ตลอดเวลาในความทรงจำ  เขามักเห็นชามูมาล่าอิยา  บางครั้งพวกมันก็ขี่ยานเหาะเข้ามาในป่า  บางครั้งมันก็รุกรานถึงหมู่บ้าน   เขาเห็นคนของตนวิ่งหนี   ร้องไห้   เห็นพวกชามูใช้พลังประหลาดเข้าใส่  พวกมันเจริญ...ทั้งในด้านวิทยาการและพลัง  พวกมันยกคนลอยได้โดยไม่ใช้มือ  บีบคนแหลกเหลวได้โดยไม่ใช้มือ  พวกมันฆ่าอิยาแล้ว   บางครั้งก็กินสด   บางครั้งก็นำซากศพรวมทั้งอิยาเป็น ๆ กลับไป

ครั้งแล้วครั้งเล่า นัคทาก็หนี  เขาเป็นอิยาเปรียวเถื่อนเหมือนหมาป่า  เขาหลบซอกซอนไปตามต้นไม้ เฝ้าระแวดระวังดู  ปีหลังเริ่มลำบากขึ้นบ้างเพราะพ่อไม่ค่อยสบาย  ยามชามูมาที่หมู่บ้าน  เขาแบกพ่อลงทางใต้ดิน   หนีไป เขาไม่เคยแน่ใจ แต่คิดว่าชามูมีการล่าอิยาอย่างเป็นระบบพอสมควร มันกินอิยาเป็นอาหาร ย่อมไม่สามารถล่าให้หมดสิ้นทีเดียวได้   เคยมีคนอธิบายให้เขาฟังว่าก็เหมือนอิยาไม่ฆ่ากวางแม่ลูกอ่อน  ไม่ถักแหถี่จนเมื่อทอดไปปลาเล็กปลาน้อยก็ติดมา   สิ่งที่ควรปล่อยก็ปล่อย  สิ่งที่ควรกินก็กิน

แต่แม้คนอื่นจะคิดอย่างนั้น นัคทาก็ไม่อาจเชื่อได้ว่าตนเป็นเช่นเดียวกับกวางและปลา   เขาไม่ต้องการถูกกิน   ยิ่งกว่านั้น   เขาไม่ต้องการถูกกินตลอดไป   แม้อิยาส่วนใหญ่จะเชื่อเรื่องธรรมชาติ   เรื่องทุกอย่างย่อมเกาะเกี่ยวยึดโยงกันและกัน   ว่าวัฏจักรของการกินและการถูกกินเป็นสิ่งอันถูกต้อง  และบำรุงเลี้ยงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าคือโลก   นัคทาก็ไม่อาจเชื่อได้   เขาคิดว่าตนต่างจากกวางและปลา   พวกมันไม่มีความคิด   เพียงมีชีวิตอยู่    ผู้เฒ่าในเผ่าบอกว่าเขาดูถูกธรรมชาติ   แต่นัคทาคิดว่าผู้เฒ่าขี้ขลาด  งอมืองอเท้า   ว่าไปแล้ว...ก็เพราะงอมืองอเท้าหนีได้ไวไม่ใช่หรือไง   จึงอยู่มาจนแก่เฒ่าได้   ปรกติแล้วอิยาเกินครึ่งมักตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาว...ถูกกิน   คนหนุ่มสาวย่อมรสชาติดีกว่าคนแก่เฒ่ากระมัง

แต่หากรอดวัยหนุ่มสาวมาได้   ก็จะเป็นเช่นกวางเจ้าเล่ห์   เป็นเสือเฒ่า  ธรรมชาติเลือกสรรแล้วให้รอดชีวิต   ก็อาจจะรอดได้ต่อไป    คนอื่น ๆ บอกมาตั้งแต่เด็กว่านัคทาคงรอดได้   อาจอยู่ถึงวัยชรา  เพราะนัคทาฉลาด   ฉลาดยิ่งกว่าคนอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน   ฉลาดกว่าพี่น้องทั้งที่ร่วมพ่อร่วมแม่  และคนละพ่อหรือคนละแม่   แต่เพราะฉลาดเกินไปละมัง   จึงพยศไม่ยอมเชื่อถืออะไรง่าย ๆ   จึงต้องพยายามค้นหาอะไรต่ออะไร

ตอนนี้เขาก็ค้นหาอยู่เหมือนกัน   เขาต้องการเข้าใจพลังของชามู

เขาไปตามเก็บเครื่องจักรกลไกที่ชามูทิ้งไว้มา  ถอดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย   ทำทุกอย่างจนค่อย ๆ เข้าใจ  เขาคิดว่าตนเข้าใจหลายส่วนแล้ว   แม้จะขาดอีกหลายอย่าง   เขาไม่รู้ชื่อชิ้นส่วน  จึงตั้งชื่อให้มันเอง  แต่แม้จะมีชื่อว่าอะไร   ความรู้ก็ยังเป็นความรู้อยู่เช่นเดิม

ทว่าเครื่องจักรก็เพียงส่วนหนึ่งของชามู   ยังมีพลัง...พลังแปลกประหลาดที่ผู้เฒ่าอธิบายว่าพวกชามูเพียงใช้หัวใจคิด   ก็ทำให้เกิดสิ่งที่ตนต้องการได้   พวกนั้นจึงยอมเชื่อว่าชามูเหนือกว่า   เป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง  พัฒนาไปมากกว่าอิยา  บางคนคิดว่าชามูเป็นเทพเจ้า  เป็นเทวดา  ในนิทานเรื่องเล่าของอิยามีอะไรอย่างนั้นมากมาย   เทวดาย่อมเล่นกับชีวิตมนุษย์ได้   จะให้ทำอย่างไร   ก็เทวดามีพลังมากกว่าพวกเรา  

แต่นัคทาไม่เชื่อ   เขาคิดว่าต้องมีคำอธิบายอย่างอื่น   เขาเชื่ออย่างนั้นด้วยหัวใจ   บางทีความเชื่อของเขาอาจจะแรงกล้าพอกระมัง เพราะในที่สุดวันหนึ่ง เขาที่สำรวจไปทุกหนทุกแห่งตลอดเวลาก็พบสิ่งก่อสร้างซุกซ่อนท่ามกลางต้นไม้   ไม่มีทางทราบได้ว่ามันอายุเท่าไร   มันสร้างจากโลหะ  ทั้งผนังข้างนอกและข้างใน   ถูกกาลเวลากลืนกิน  ถูกผืนป่าปกคลุม  แต่ในที่สุดเมื่อนัคทาค้นพบทางเข้า  หาทางเปิดจนได้  เขาก็พบว่าสิ่งก่อสร้างนั้นแข็งแรงทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ  ไม่ว่ากี่ร้อยปี หรือกี่พันปีก็ตามที่ไม่มีมนุษย์ย่างเข้ามา  ข้างในก็ไม่เปลี่ยนแปลงไป

เขาพบหนังสือหลายเล่ม  เมื่อแรกอ่านเกือบไม่ได้   เขาเคยเรียนหนังสือบ้าง   อิยามีตัวหนังสือง่าย ๆ เช่นกัน  ผู้คนเชื่อว่านัคทาจะเป็นคนที่รอด  ผู้เฒ่าจึงสอนหนังสือและความรู้ของอิยาให้เขาและเด็กที่แข็งแกร่งคนอื่น ๆ  เพื่อจะได้สืบทอดความรู้ของเผ่าพันธุ์ต่อไป

แต่ตัวหนังสือในสิ่งก่อสร้างนั้นต่างจากของอิยาพอสมควร   เขาต้องใช้เวลา   ค้นหาและทำความคุ้นเคย  เขาพบว่าทำอะไรได้มากขึ้นเมื่อพบหนังสือที่มีเครื่องให้เสียง เขาเก็บเครื่องนี้ได้ที่ใกล้เมืองชามู  หลักการใกล้เคียงกัน   ...แปลก  แม้ว่าตัวหนังสือจะผิดแผกไปมาก   ทั้งวิธีสะกดและวิธีเรียงคำ   แต่ยามให้ออกเสียงมา   กลับเป็นภาษาที่เข้าใจ   แม้บางทีจะพูดอะไรแปลก ๆ ไป   ก็เข้าใจได้หลายส่วนทีเดียว

เขาไม่บอกใครเรื่องสิ่งก่อสร้างกลางป่า   เพียงตั้งใจพยายามศึกษา   แต่แม้จะเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นมากมาย   กลับไม่มีเรื่องชามูกับอิยา เขาเพียงพบหนังสือเล่มหนึ่งที่อธิบายเกี่ยวกับวิธีจับนักโทษที่มีพลัง มีการสร้างเชือก   และการลงสะกด...มันแปลกยิ่งนัก  ไม่ใช่เครื่องจักรกลไก   ที่จริงแล้วดูเหมือนคาถาอาคมที่พวกอิยาเชื่อกัน  นัคทาไม่เชื่อเรื่องคาถา   เขาคิดว่ามันอธิบายไม่ได้  ไม่เหมือนเครื่องจักร  ไม่มีองค์ประกอบที่ชัดเจน   แต่หลังจากอ่านหนังสือหลายรอบ   เขาก็ตัดสินใจลองทำดู   เขาตัดสินใจลองเสี่ยงจับชามู

เขาซุ่มดักรอ  วางแผน  คิดทางหนีทีไล่เป็นเวลานาน  สุดท้ายก็จับมาได้  มันไม่ใช่ชามูดีกระไร  ผอมบางยิ่งนัก  เหมือนเป็นพวกขี้โรคไม่สมบูรณ์  หากมีคนเช่นนี้เกิดในเผ่าอิยา  ถ้าพ่อแม่ไม่ฆ่าไปด้วยความสงสารแต่แรก   ก็คงตายด้วยทางหนึ่งทางใดแต่เยาว์วัย    ...พวกชามูที่ยิ่งใหญ่ก็มีอะไรแบบนี้เหมือนกัน

นัคทาได้ยินเสียงอาเจียน

เขาแปลกใจ  หันกลับไป  ชามูที่เขายัดเยียดอาหารให้กินเมื่อครู่นี้กำลังอาเจียนออกมา   เขาโกรธมันก็เข้าไปใกล้  คิดว่ามันโอหังกล้าประท้วงหรือ  แต่ยามเข้าใกล้จริง  นัคทากลับต้องตกใจ  ชามูไม่ได้ล้วงคออาเจียน   สิ่งที่ออกมาไม่ใช่เศษอาหารหรือน้ำย่อย   หากแต่เป็นโลหิต   มันอาเจียนโลหิตเป็นลิ่ม ๆ อยู่พักหนึ่ง   จึงได้สงบลง   ท่าทางเหน็ดเหนื่อยยิ่งนัก   หน้าไม่มีสีเลือด  ต้องขมวดคิ้วหลับตา   ตัวสั่นเทา

"เจ้าเป็นอะไร"

"ไม่ได้เป็นอะไร" เป็นคำตอบ   นัคทาเพิ่งเคยได้ยินเสียงของมัน   เสียงมันแหบ   สั่นเล็กน้อย   เห็นได้ชัดว่าสุขภาพไม่ดี

เขาดูชามู  แต่มันไม่ได้ทำอะไร เพียงยกแขนขึ้นเช็ดเลือดออกจากปาก  ครั้นแล้วก็นั่งตัวตรงขึ้น ขัดสมาธิหลับตาลง   มันคงเจ็บปวด  แม้ยามหลับตาก็ยังขมวดคิ้วแน่น

"เฮ้ย  เจ้าเป็นอะไร" นัคทาถามซ้ำ "หากไม่ตอบจะฆ่าเสียเดี๋ยวนี้"

อีกฝ่ายยังนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง   แต่ท่าทางราวสิ้นกำลังตอบไม่ไหวมากกว่าตั้งใจเงียบจริง ๆ   ผ่านไปครู่ใหญ่  คิ้วของชามูคนนั้นจึงคลายลง

"ข้าเป็นชามู" เขาตอบราวกับเป็นความจริงที่คนทั้งปวงย่อมเข้าใจ

"แล้วอย่างไร" คำที่ย้อนกลับมาทำให้คนพูดชะงักไปนิดหนึ่ง

"ข้า...กินอย่างอื่นไม่ได้" ชาวชามูบอกต่อไป "เว้นแต่เลือดและเนื้อของอิยา"

###

ปกเบอร์หนึ่ง

แก้ไขเมื่อ 21 มี.ค. 53 23:07:22

 
 

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 18:49:55




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com