สามชาติสามภพ ป่าท้อสิบหลี่ บทอารัมภ์
|
|
บทอารัมภ์
ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว
(สามร้อยปีต่อมา)
เทพสมุทรแห่งทะเลบูรพา(๑)ได้บุตรกิเลนคนใหม่ เพื่อตระเตรียมงานเลี้ยงครบเดือนของบุตรชาย จึงได้ขอลาการประชุมขุนนางในตำหนักหลิงเซียว(๒)มาติดต่อกันหลายวันแล้ว โดยที่เทียนจวินทำเป็นลืมตาข้างหลับตาข้าง ปล่อยเขาไปตามสบาย
ตัวเป่าหยวนจวิน(๓)นึกแปลกใจ ก็แค่งานเลี้ยงงานหนึ่งเท่านั้น ไยต้องทำให้มันเอิกเกริกเกินเหตุขนาดนี้
ด้วยเหตุฉะนี้ ในวันนี้หลังจากเลิกประชุมแล้ว ตัวเป่าหยวนจวินจึงจงใจไล่ตามไปทักผู้วิเศษดาวใต้(๔)ซึ่งคบหาสนิทสนมกันดีกับเทพสมุทรบูรพามาแต่ไหนแต่ไร โดยกะจะเลียบเคียงถามไถ่เอาความ
แต่เดิมสวรรค์ชั้นเก้าแห่งนี้นั้นไร้สาระเป็นที่สุดอยู่แล้ว บรรดาเทพเซียนทั้งหลายต่างจับตาสังเกตการขอลาหยุดของเทพสมุทรบูรพามาไม่ใช่แค่ 1-2 วัน ครั้นเห็นตัวเป่าหยวนจวินนำร่อง ก็แห่กันตามเข้าไปล้อมผู้วิเศษดาวใต้ที่หน้าตำหนักทันที
ผู้วิเศษดาวใต้ประหลาดใจอย่างมาก หรือสหายเซียนทุกท่านไม่ทราบว่า งานเลี้ยงราตรีของทะเลบูรพาในครึ่งเดือนให้หลัง กูกู(๕)แห่งชิงชิวท่านนั้นก็จะไปด้วย?
นอกทะเลบูรพา ใจกลางแผ่นดินใหญ่ ก็คือชิงชิว
เอ่ยถึงตรงนี้ ผู้วิเศษดาวใต้ก็จงใจยกสองมือขึ้นประสานกันน้อมคารวะไปทางทิศตะวันออกตรงอันเป็นทิศที่ตั้งของชิงชิว ค่อยกล่าวต่อว่า
กูกูท่านนั้นเป็นโรคตา มองแสงจ้าไม่ได้ กำแพงปะการังกระเบื้องแก้วกระจกของวังมังกรสมุทรบูรพาเป็นประกายเจิดจ้าบาดนัยน์ตาเกินไป ด้วยเหตุนี้เทพสมุทรบูรพาจึงกำลังเที่ยวได้เสาะหาหญ้าชิงซิ่งเฉ่า(๖)ไปจนทั่วฟ้าดิน โดยจะนำมาทอเป็นผืนพรมคลุมปิดของที่มีประกายมากเกินไปพวกนี้
เมื่อคำพูดนี้กล่าวออกมา ทั่วทั้งตำหนักหลิงเซียวก็มีเสียงฮือฮาดังสนั่น
กูกู ที่ผู้วิเศษดาวใต้พูดถึงนั้น ก็คือธิดาคนสุดท้องของป๋ายจื่อตี้จวิน แซ่ป๋าย ชื่อพยางค์เดียวว่า เฉี่ยน เนื่องจากเป็นเทพบรรพกาลรุ่นก่อน เพื่อแสดงถึงมารยาท บรรดาเทพเซียนทั้งหลายจึงต่างเรียกนางว่า กูกู
นับตั้งแต่ผานกู่(๗)ใช้ขวานหนึ่งเล่มเบิกฟ้าผ่าพิภพเป็นต้นมา แต่ละเผ่าต่างก่อสงครามรบพุ่งกันไม่หยุดหย่อน แผ่นดินเปลี่ยนเจ้าของมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เทพบรรพกาลส่วนใหญ่ต่างเผชิญด่านผจญ ที่ดับสูญก็ดับสูญ ที่หลับไหลก็หลับไหล
ที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ นับไปนับมา ก็มีแค่ครอบครัวเทียนจวินบนสวรรค์ชั้นเก้า เจ๋อเหยียนซ่างเสินซึ่งเร้นกายอยู่ในป่าท้อสิบหลี่ทางตะวันออกของทะเลบูรพา และครอบครัวป๋ายจื่อตี้จวินแห่งแคว้นชิงชิวเท่านั้น
เมื่อเอ่ยถึงป๋ายเฉี่ยน ก็ต้องลากโยงไปถึงความลับที่ปิดกันให้แซ่ดเรื่องหนึ่งของครอบครัวเทียนจวิน...
<>::<>::<>
เล่ากันว่าเมื่อห้าหมื่นปีก่อน ป๋ายเฉี่ยนเคยหมั้นหมายอยู่กับซางจี๋ โอรสองค์รองของเทียนจวิน เดิมทีก็เป็นคู่ตุนาหงันที่สมน้ำสมเนื้อคู่ควรกันอย่างน่าชื่นชมดีอยู่หรอก แต่ซางจี๋ไม่ทราบอย่างไรถึงได้ต้องตาสาวใช้ของป๋ายเฉี่ยนเข้า เป็นตายยังไงก็จะถอนหมั้นป๋ายเฉี่ยนให้ได้
ป๋ายจื่อตี้จวินไม่อาจทนถูกหยามอัปยศได้ จึงพาเจ๋อเหยียนซ่างเสินขึ้นมายังสวรรค์ชั้นเก้าด้วยกันเพื่อเอาเรื่องเทียนจวิน
เทียนจวินเดือดดาลสุดขีด สั่งเนรเทศโอรสองค์รองไปอยู่ที่ทะเลอุดรทันที โดยแต่งตั้งให้ไปเป็นเทพสมุทรอุดร จากนั้นได้ประกาศราชโองการสวรรค์ว่า ขอใช้นามแห่งเผ่าสวรรค์ สู่ขอป๋ายเฉี่ยนมาเป็นเทียนโฮ่วของเทียนตี้รุ่นต่อไปที่จะขึ้นสืบทอดตำแหน่ง
เมื่อสามร้อยกว่าปีก่อน เทียนจวินได้ประกาศต่อสี่ทะเลแปดแว่นแคว้น แต่งตั้งพระนัดดาคนโต เยี่ยหัว เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเทียนตี้คนถัดไป
บรรดาเทพเซียนบนสวรรค์ชั้นเก้าต่างนึกว่าอีกไม่นานคงจะได้ดื่มสุรามงคลของเยี่ยหัวจวิน(๘)กับป๋ายเฉี่ยน แต่สามร้อยปีมานี้กลับไม่มีข่าวว่าคนทั้งคู่จะแต่งงานกันแต่อย่างใด
ได้ยินแต่เพียงว่าถึงแม้เยี่ยหัวจวินจะมีบุตรชายแล้วหนึ่งคน แต่ตำแหน่งภรรยาเอกกลับว่างเว้นไว้รอตลอดมา ส่วนป๋ายเฉี่ยนกลับอยู่แต่ที่แคว้นชิงชิว เทียบเชิญของใครต่างไม่อาจเชิญนางออกมาได้ทั้งสิ้น
ทั้งหญิงและชายต่างไม่ได้ตบแต่ง ทั้งสองครอบครัวกลับไม่เดือดร้อนกันสักนิด นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องแปลกอยู่
<>::<>::<>
บรรดาเทพเซียนทั้งหลายต่างทอดถอนใจอย่างสำรวม แล้วจึงเปลี่ยนไปกล่าวชมว่าเทพสมุทรบูรพาช่างมีบุญแท้ๆ กูกูไม่เคยออกจากชิงชิวมาเป็นหลายหมื่นปี มาบัดนี้เขากลับเชิญกูกูออกมาร่วมงานเลี้ยงได้ นับว่ามีหน้ามีตาเป็นอย่างยิ่ง
ผู้วิเศษดาวใต้พยักหน้าพูดว่า เดิมทีก็เป็นเรื่องมีหน้ามีตาอย่างมากจริงๆ นั่นแหละ แต่หลายวันมานี้เทพสมุทรบูรพากลับกลุ้มใจเป็นที่สุด เพราะนึกไม่ถึงว่ากูกูจะยอมรับเทียบเชิญมาร่วมงาน ก่อนหน้านี้จึงได้ส่งเทียบเชิญไปให้เทพสมุทรอุดรท่านนั้นด้วย วันก่อนได้ยินมาว่าเมื่อไม่นานมานี้เยี่ยหัวจวินได้พาเทียนซุนน้อย(๙)ไปเที่ยวแคว้นบูรพา จึงคิดจะแวะมายังทะเลบูรพาด้วยเช่นกัน ทั้งสามคนคงจะได้พบหน้ากันในงานเลี้ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้
เวลานี้เทพสมุทรบูรพากำลังอกสั่นขวัญแขวนเทียวละ เพราะกลัวว่าพอถึงเวลาแล้วจะเกิดเป็นเรื่องเป็นราวใดขึ้น
บนสวรรค์ชั้นเก้าแห่งนี้ ส่วนใหญ่จะมีแต่เทพเซียนชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ทำงานมานานพอสมควร จึงพอจะเคยได้ยินได้ฟังเรื่องของเทพสมุทรอุดร ป๋ายเฉี่ยนแห่งชิงชิว และผู้สืบทอดตำแหน่งเทียนจวินมาก่อนกันทั้งนั้น แต่ก็มีเซียนชั้นผู้น้อยบางคนที่เพิ่งจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาได้ไม่นานถามอย่างงุนงงจับต้นชนปลายไม่ถูกว่า
กูกูแห่งชิงชิวท่านนั้นคือใครกันหรือ นางกับเยี่ยหัวจวินและเทพสมุทรอุดรเคยมีความแค้นยิ่งใหญ่ต่อกันมาก่อนรึ?
บรรดาเทพเซียนทั้งหลายย่อมจะช่วยกันอธิบายเป็นการใหญ่ และในการอธิบายครั้งนี้ย่อมขาดไม่ได้ที่จะสาวไปถึงเรื่องวงในซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยรู้เป็นจำนวนมาก
เซียนน้อยจอมเปิ่นจับจุดสำคัญไม่ถูก จึงโบกพัดจีบกระดาษขาวไม่ได้วาดภาพพลางพูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยแวววาดหวังว่า
เทพสมุทรอุดรถึงกับยอมล่วงเกินป๋ายจื่อตี้จวินเพื่อจะสมรสกับสาวใช้ของกูกูท่านนั้นให้จงได้ ไม่ทราบว่าสาวใช้นางนั้นมีรูปโฉมระดับใด?
ตัวเป่าหยวนจวินเอามือป้องปากกระแอมออกมาหนึ่งครั้ง
เปิ่นจวิน(๑๐)กลับเคยเห็นหญิงนางนั้นมาแล้ว ในตอนนั้นองค์ชายรองได้โอบนางมาคุกเข่าลงตรงหน้าเทียนจวินด้วยตัวเอง หมายจะให้ตำแหน่งที่เป็นทางการแก่นาง นับเป็นหญิงงามที่น้อยนักจะได้พบเห็นจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับเหนี่ยงเนี่ยงท่านนั้นของป๋ายจื่อตี้จวินแล้ว กลับยังห่างไกลอยู่มาก แม้เปิ่นจวินจะไม่เคยพบหน้ากูกูมาก่อน แต่ได้ยินมาว่ากูกูหน้าเหมือนท่านแม่ของท่านมาก ทั้งยังงดงามยิ่งกว่าท่านแม่ของท่านอยู่สามส่วนอีกด้วย
เซียนขั้วโลกใต้(๑๑)ซึ่งสูงวัยที่สุดในบรรดาเทพเซียนทั้งหมดลูบเคราขาวโพลนยาวจดพื้นพลางพึมพำว่า
ข้าผู้เฒ่ากลับเคยได้เห็นกูกูมาหนึ่งครั้ง ในตอนนั้นข้าผู้เฒ่ายังเป็นเพียงเด็กรับใช้ส่วนตัวของเทียนจวิน ได้ติดตามเทียนโฮ่วเหนียงเนี่ยงไปชมดอกท้อยังถิ่นฐานของเจ๋อเหยียนซ่างเสิน กูกูยืนร่ายรำอยู่บนกิ่งต้นท้อนั่นล่ะ เนื่องจากอยู่ห่างเกินไป จึงเห็นเพียงอาภรณ์สีแดงแถบใหญ่ท่ามกลางดอกท้ออันเจิดจ้าแรงร้อน ภาพในตอนนั้นช่างงดงามเลิศล้ำยิ่งนัก...
บรรดาเทพเซียนทั้งหลายพากันส่งเสียงฮือฮา ถอนใจกล่าวว่าหญิงงามล่มเมือง(๑๒)เช่นนี้ยังจะถูกถอนหมั้นได้ ลิขิตฟ้าช่างยากจะหยั่งโดยแท้
หลังจากถอนใจรำพันจบแล้ว ก็พากันแยกย้ายสลายตัวไปอย่างพออกพอใจ
การที่หลังจากวันนี้ เทียบเชิญมาร่วมงานเลี้ยงครบเดือนลูกชายที่เทพสมุทรบูรพาแจกจ่ายออกไปได้กลายเป็นของสุดล้ำค่าในสี่ทะเลแปดแว่นแคว้นไปชั่วเวลาหนึ่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องในภายหลังทั้งสิ้น...
<>::<>::<>::<>::<>::<>
เชิงอรรถ
๑. เทพสมุทรบูรพา (东海水君 : dong hai shui jun : ตงหายสุ่ยจวิน) เป็นเทพผู้ปกครองทะเลตะวันออก เป็นเหมือนเจ้าครองแคว้นย่อยในอาณาจักรสวรรค์ชั้นเก้า
๒. ตำหนักหลิงเซียว (凌霄殿 : Ling xiao dian : หลิงเซียวเตี้ยน) ตามตำนานของจีนกล่าวว่าเป็นพระราชวังของเง็กเซียนฮ่องเต้
๓. ตัวเป่าหยวนจวิน (多宝元君 : duo bao yuan jun)
๔. ผู้วิเศษดาวใต้ (南斗真君 : nan dou zhen jun : หนานโต่วเจินจวิน)
๕. กูกู (姑姑 : gugu) คำเรียกอาสาว
๖. หญ้าชิงซิ่งเฉ่า (青荇草 : qing xing cao) คือ หญ้ามอส
๗. ผานกู่ (盘古 : Pangu) บรรพบุรุษผู้บุกเบิกฟ้าดินในตำนานจีน (อ่านรายละเอียดได้ที่หน้า... )
๘. คำ จวิน (君) เดี่ยวๆ ซึ่งอยู่ท้ายชื่อเทพบางคนในเรื่องนี้ เป็นคำเรียกยกย่องเทพที่มีศักดิ์ฐานะสูง
๙. เทียนซุน (天孙 : tian sun) คือชื่อตำแหน่งลูกชายของรัชทายาทของเทียนจวิน
๑๐. เปิ่นจวิน (本君 : ben jun) ตัวข้า (ตัวเป่าหยวน) จวินผู้นี้
๑๑. เซียนขั้วโลกใต้ (南极仙君 : nanji xian jun : หนานจี๋เซียนจวิน)
๑๒. หญิงงามล่มเมือง (倾国倾城 : qing guo qing cheng) เป็นคำชมว่าหน้าตางดงามมาก (อ่านที่มาโดยละเอียดได้ที่หน้า...)
แก้ไขเมื่อ 23 มี.ค. 53 05:50:58
จากคุณ |
:
Linmou
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มี.ค. 53 05:50:17
|
|
|
|