ความคิดเห็นที่ 1 |
ยามกลับเข้ามาอีกครั้ง นัคทาถามเสียงต่ำในคอ "เหตุใดไม่ฆ่าข้า ไม่ทิ้งข้าไว้ในหิมะ" "เหตุใดต้องทำอย่างนั้น" "ข้าทำร้ายเจ้า" ชาวชามูเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร นัคทาจึงเข้าใกล้เขาอีกเล็กน้อย และต้องสะดุ้งหน่อยหนึ่ง...ชามูบาดเจ็บ แขนที่ถูกมัดไพล่ไว้เขียวเป็นรอยจ้ำคล้ายขาดเลือด ชาวอิยาจึงเร่งถอดเชือกนั้นออก เขาเห็นรอยจ้ำช้ำไปตลอดทั้งแขน และเห็นชามูถูรอยเหล่านั้น นวดเบา ๆ "เป็นอะไรไป" นัคทาอดถามไม่ได้ "ข้าไม่มีพลัง จึงดึงพลังจากร่างกาย ตอนนั้นถึงอย่างไรแขนก็ใช้ไม่ได้ จึงดึงจากแขนไป" "เพื่อช่วยข้า?" "อืม" "ทำไม" อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นหน่อยหนึ่ง "ต้องมีเหตุผลด้วยหรือ" ก็อาจจะไม่ต้องมีเหตุผลกระมัง บางครั้งคนเราก็ทำอะไรตามน้ำใจตน ถึงอย่างนั้นเมื่ออีกฝ่ายเป็นชามู นัคทาจึงไม่อาจไว้ใจในเจตนา ...อีกฝ่ายต้องการอะไร ต้องการให้เขาปล่อยไปเพราะมันแก้เชือกที่มัดอยู่เองไม่ได้หรือเปล่า แต่หลังจากพิจารณาแล้ว ชายหนุ่มก็คิดว่าเขาควรจะทำอย่างนั้นจริง ๆ ...มันช่วยเขาไว้ เรียกว่าช่วยชีวิตยังได้ แม้หวังผล แต่หากไม่ตอบแทนคงเรียกได้ว่าสิ้นศักดิ์ศรี เมื่อนึกได้อย่างนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บใจ เขาวางแผนครั้งนี้ด้วยความลำบาก ต้องมาเริ่มต้นใหม่จากศูนย์อีกหรือนี่ "ข้าจะถอดเชือกให้ เจ้าก็กลับเมืองชามูไป" ชายหนุ่มบอกทั้งที่ยังรู้สึกโมโหเสียดายอยู่มาก "น่าจะรู้ทางไม่ใช่หรือ เจ้าช่วยชีวิตข้าไว้ ข้าไม่ต้องการให้ใครพูดได้ว่านักรบอิยาไม่รู้จักบุญคุณ" ชาวชามูมองเขา ก่อนจะก้มหน้าลง "ข้าชื่อโคเวน" คนคนนั้นบอกออกมา "เจ้าชื่ออะไร"
... โคเวนเชื่อว่ามีบางสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา ซึ่งหมายความว่าบางครั้งคนเราอาจประสบบางสิ่ง และสิ่งนั้นจะส่งผลต่อชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จริง เขาเชื่อในพลังใจของคนเช่นกัน เขาเชื่อว่าคนเราสามารถเลือกที่จะจำ และเลือกที่จะลืม ถึงกระนั้น...ก็มีเรื่องบางอย่างที่ทำอย่างไรก็ไม่อาจทิ้งได้ อะไรเป็นปัจจัยกำหนดการจำและลืมหรือ เขาไม่รู้หรอก บางทีคงเหมือนกำเม็ดทรายไว้เต็มกำมือ บางเม็ดก็หลุดร่วงผ่านร่องนิ้ว บางเม็ดก็ถูกลมพัดไป บางเม็ดก็คงอยู่ในกำมือนั้น คงอยู่จนกว่ามือจะคลาย จนกว่าจะตัดสินปัดมันออกไปด้วยตัวเอง ใครจะไปรู้ได้ว่าเม็ดไหนจะไปที่ใด นานแล้ว เมื่ออายุได้เจ็ดขวบ...ย่างแปด โคเวนไปเล่น ตอนนั้นเขายังกินตามปรกติอยู่ เป็นเด็กแข็งแรง โคเวนหนีคนเลี้ยง โลดผ่านโรงเรือนและอาคาร ผ่านสวนสาธารณะ กระทั่งไปสิ้นสุดยังที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นเขาพบเด็กผู้หญิงอายุสี่ห้าขวบ เด็กผู้หญิงน่ารัก โคเวนก็เล่นด้วย เธอเป็นเด็กอิยา ดูเหมือนจะมีชามูบางคนที่เลี้ยงอิยาไว้ แต่พวกที่เลี้ยงอิยามักไม่เลี้ยงจนโต เพราะจากน่ารักไร้เดียงสาจะกลายเป็นน่ากลัวจนเกินไป อิยากับชามูมีบางอย่างใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง ใกล้จนน่าขนลุก อิยาพูดภาษาเดียวกับชามู ยืนตัวตรงสองขาเช่นเดียวกัน แม้ชามูส่วนใหญ่จะเห็นว่าตนสมบูรณ์กว่า งดงามกว่า ในขณะที่อิยาเถื่อนร้ายราวสัตว์ แต่อิยาที่ผิวคล้ำ เลือดฝาดสมบูรณ์ ดวงตาสีดำและผมสีดำก็ดูราวกับเผ่าพันธุ์แห่งแผ่นดิน บรรพบุรุษจากอดีต วิญญาณของโลก สิ่งสวยงามที่ทำให้ราวจะรำลึกถึงห้วงเวลาอันผ่านเลย กระนั้น ชามูก็กินอิยาอยู่นั่นเอง สิ่งสวยงามกับการกินไม่ได้ถูกแยกขาดจากกัน โคเวนเล่นกับเด็กหญิงดังกล่าว เขาชอบเธอ หัวเราะและทะเลาะกัน โคเวนยังจำได้ เขาเคยเห็นบิดาตนจูบแก้มมารดา ก็จูบแก้มเด็กหญิงบ้าง ได้ยินว่าชามูที่ชอบเล่นวิปริตบางคนจะร่วมเพศกับอิยา แต่จะไม่มีเด็กเกิดจากการร่วมเพศเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ในเวลาดังกล่าว ทั้งโคเวนและเด็กหญิงต่างไม่เข้าใจคำว่าวิปริตหรือไม่วิปริตใด ทั้งคู่ยังคงอยู่ในโลกราวกับเทพนิยาย เด็ก ๆ ก็เป็นอย่างนี้เอง เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนั้นหลายวัน ลอบไปหาและโบกมือลามา ทั้งคู่เข้าใจอะไรในระดับไหน โคเวนในเวลานี้ก็ลืมไปแล้ว เขาจำได้แต่ว่าต่างฝ่ายต่างรู้ว่าอีกฝ่ายคือชามูและอิยา แต่อื่น ๆ นอกจากนั้น...คงเช่นเดียวกับการจูบแก้มนั่นเอง ยังคงเป็นสิ่งในโลกเทพนิยาย ผ่านไปหลายวัน ถึงวันเกิดของโคเวน ยามกำลังตื่นเต้นดีใจ ก็มีคนนำเด็กหญิงนั้นมาส่งให้ มีหัว เนื้อกับเครื่องใน และเลือดทั้งหมดในร่างกาย เธอเป็นอาหารชั้นดี...เนื้ออ่อนนุ่ม เลือดสดใหม่ เต็มไปด้วยพลัง ศีรษะถูกส่งมาด้วยกันเพื่อยืนยันว่านี่เป็นเด็กหญิงน้อยงดงาม โคเวนจำได้ เขามองสิ่งตรงหน้า เด็กหญิงที่ไม่พูดไม่หายใจ เขาไม่ยอมกินเธอ จึงถูกบิดาตบหน้า แม้ร้องไห้ดิ้นรนอาละวาดก็ยังถูกบังคับให้กินลงไป แม่บอกว่าพ่อซื้อเด็กนี้มาให้เขาด้วยราคาแพง เขาทำตัวใช้ไม่ได้เช่นนี้จะเป็นเด็กเลวอกตัญญู แต่ใครจะว่าเขาเลวอย่างไร สุดท้ายคืนนั้นทุกคนหลับแล้ว โคเวนก็ทนไม่ไหว ต้องเข้าห้องน้ำไปอาเจียนอยู่นั่นเอง เขาเชื่อว่าตนไม่ใช่เด็กคนแรกที่พบอะไรเช่นนี้ และไม่ใช่คนสุดท้าย แต่ถึงอย่างนั้น ทรายบางเม็ดก็อยู่ในกำมือ ทรายบางเม็ดก็ถูกพัดไป เผอิญเรื่องของเด็กหญิงคนนั้นอยู่ในกำมือ โคเวนเองก็ไม่ทราบจะทำอย่างไร ถ้าหากชามูมีอาหารอย่างอื่น อะไร ๆ อาจจะง่ายกว่านี้ โคเวนก็เพียงเลิกกินอิยา แต่ไม่มีอาหารอย่างอื่น เขาจึงต้องกิน แต่โคเวนก็อยากรู้...แค่ไหนที่เรียกว่ากินกันตาย ดังนั้นตั้งแต่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ เป็นไทจากบิดา โคเวนก็ลดอาหารลง เขาลดลงเรื่อย ๆ จนเวลานี้เหลือเพียงเลือดไม่กี่หยด ซึ่งสามสัปดาห์จะกินสักครั้ง สภาพร่างกายของเขาเลวอย่างยิ่ง ไม่มีพลังเลยแม้แต่นิดเดียว แต่โคเวนไม่สนใจ เขาก็เพียงกินกันตาย ชามูไม่ได้มีความสุขจากการกิน เขาเคยเห็นอิยากิน แม้ถูกขัง แต่ยามกินหรือยามลิ้มรสชาติก็ดูมีความสุข ส่วนชามูไม่มีความสุขอย่างนั้น ไม่รู้จักว่ารสชาติคืออะไร สิ่งที่รู้คือเกิดพลัง ที่จริงชามูอยู่ได้เพียงด้วยการกินเลือด และไม่จำเป็นต้องกินมากเกินไป แต่ถ้าหากกินมากก็จะยิ่งมีพลังมาก และเชื่อกันว่าหากกินเนื้อและเครื่องในด้วยก็จะยิ่งมีพลัง แต่เนื้อและเครื่องในเป็นของมีราคา เพราะหมายความว่าต้องออกไปจากเมือง ต้องฆ่าอิยา เลือดถูกกว่ามาก แม้ว่าระยะหลังนี้ความต้องการเนื้อและเครื่องในจะมากขึ้น เพราะชาวชามูล้วนต้องการพลัง พลังเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ กำหนดสถานะทางสังคม คนพลังมากก็กดข่มคนพลังน้อย ดังนั้นระบบสังคมของชามู คนมีเงินทองและได้กินมากจึงได้เปรียบ มีเรื่องซับซ้อนยิ่งกว่านั้นพอสมควร แต่โครงสร้างง่าย ๆ ก็เป็นอย่างนั้นเอง ส่วนตัวโคเวน เขาอยู่นอกระบบมาตั้งแต่แรก นอกจากไม่มีพลังแล้ว ยังมักเจ็บป่วยไม่สบายผิดจากคนชามูทั่วไป โคเวนเชื่อว่าเขาจะมีสภาพร่างกายดีกว่านี้หากเพิ่มปริมาณเลือดขึ้น เป็นประมาณหนึ่งแก้วต่อสัปดาห์ แต่เขาไม่อยากกินเอง
...
"ชื่อนัคทา" อิยาคนนั้นตอบในที่สุด โคเวนไม่เคยออกจากเมือง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาลองออกมา ว่ากันจริง ๆ หากไม่ถือว่าเป็นตลกร้ายจนเกินไป ควรบอกว่าเขาโชคร้ายอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่แน่ใจว่าการได้พบอิยาเป็นความโชคร้ายหรือไม่ โคเวนคิดว่าอิยาน่าสนใจ เขาไม่เคยได้เห็นอิยาใกล้ถึงเพียงนี้เลย นับแต่เด็กหญิงที่แทบจะจำไม่ได้แม้กระทั่งหน้าตา อิยาเป็นบุตรของแผ่นดิน คนชื่อนัคทานี้ก็เช่นกัน เป็นบุตรของแผ่นดิน ผิวคล้ำ ทรงพลัง มีบางสิ่งคล้ายสัตว์ป่าอยู่ในท่วงท่ากิริยา อิยาไม่ใส่เสื้อผ้าสังเคราะห์ ไม่ใช้สิ่งของสังเคราะห์ ทุกสิ่งยังคงผลิตด้วยมือ มาจากสังคมบรรพกาล ในเมืองนั้นมีชามูที่หลงใหลอิยาเพราะ "ความเป็นธรรมชาติ" เหล่านี้เช่นกัน โคเวนไม่ใช่หนึ่งในพวกนั้น สิ่งที่เขาอยากรู้มากกว่าคือสภาพจิตใจของอิยา เผ่าพันธุ์ที่เป็นอาหารจะรู้สึกอย่างไร จะมีความโกรธแค้นหรือไม่ หรือว่าจะศิโรราบยอมรับชะตากรรมของตนโดยดี เขาได้เห็นความแค้นนั้น ถูกอิยาชื่อนัคทาเตะต่อยเสียพอแรง แต่โคเวนไม่ได้ใส่ใจตัวเองมานานมากแล้ว เขาจึงดูต่อไป นัคทาอายุน้อยกว่าเขา...ได้ยินว่าพวกอิยาโตเร็วเป็นผู้ใหญ่ไว แต่ดูจากรูปร่างหน้าตา บางทีหากเป็นชามูคงอยู่เพียงในวัยเรียนหนังสือ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ไม่รู้จักรับผิดชอบ ไม่รู้จักอะไรแม้แต่อย่างเดียว เขาอยากรู้อะไรมากกว่านี้ อยากคุยกับอิยา แต่นัคทาไม่ชอบเขา ตลอดเวลาจึงได้แต่เพียงอยู่ในความเงียบเครียดเกร็ง ไม่ทราบจะขึ้นต้นบทสนทนาอย่างไร "จับข้ามาทำไม" ชาวชามูถามในที่สุด "เห็นว่าเจ้าไม่ต้องการให้ข้าตาย จะนำกลับไปฆ่าที่เผ่า หรือจะเรียกค่าไถ่แลกกับใครหรืออย่างไร" "ไม่ใช่" เด็กอิยานั้นลังเล "เจ้าจะไม่ไปหรือ" "ไม่ไปหรอก เพียงแค่อยากคุยกัน" อิยาซื่อสัตย์ ซื่อสัตย์กว่าชามูหลายเท่า แม้เห็นได้ชัดว่านัคทาเป็นคนมีสติปัญญา แต่หลังจากที่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เด็กนั้นก็ยังเล่าความจริงให้ฟัง บางทีเขาอาจจะคิดว่าแม้พูดไปโคเวนก็ทำอะไรไม่ได้ ร่างกายอ่อนแอถึงเพียงนี้คงหนีไม่ไหว ฆ่าทิ้งไม่ยากเย็นอะไร แต่ถึงอย่างนั้น นัคทาก็พูดถ้อยคำซื่อตรง เขาว่าตนต้องการรู้เรื่องพลังของชามู จะทดลองกับโคเวน เขาต้องการรู้ว่าร่างกายของทั้งสองฝ่ายแตกต่างกันอย่างไรบ้าง และอิยาจะมีพลังเหมือนกันได้หรือไม่ "ข้าเคยได้ยินคนพูดว่า เป็นเพราะสมองของชามูกับอิยาไม่เหมือนกัน" โคเวนตอบไป เขาสนใจเรื่องนี้ ยามได้ฟัง ดวงตาในใบหน้าเซียวอิดโรยก็ค่อยมีแสงขึ้น "ถ้าอย่างนั้นก็ควรลองผ่าดู" นัคทาพูดกึ่งเล่นกึ่งจริง "ก็มาผ่าดู" ชาวอิยาได้ยินดังนั้นก็อดถอนใจไม่ได้ "เจ้าเป็นชามูเพี้ยนพิลึก คนชามูอื่น ๆ ในเมืองไม่เป็นอย่างเจ้าหรอกใช่ไหม" "ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น" โคเวนตอบ "แต่ข้าพูดความจริง ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าชามูกับอิยาต่างกันอย่างไร ข้าเชื่อว่าที่เมืองชามูอาจมีคนทดลองแบบนี้บ้าง แต่เขาทดลองจากมุมของชามู ไม่ได้ทดลองจากมุมของอิยา" "ไม่กลัวข้ารู้ความลับของพวกเจ้าแล้ว จะพาเผ่าพันธุ์ของข้ามาฆ่าฟันพวกเจ้าหรือไง" โคเวนชะงักไปนิดหนึ่ง ความอยากรู้ทำให้เขาไม่ได้คิดจริง ๆ ...อีกฝ่ายเป็นอิยา เมื่อค้นพบทราบความจริงย่อมนำสิ่งที่ทราบไปทำลายชามู หากเขาให้ความร่วมมือ สิ่งที่เขาทำจะเป็นการทรยศเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าโคเวนจะรู้สึกอย่างไรกับการกินและการถูกกิน คนชามูที่อยู่ในมหานครนั้นก็เป็นพี่น้องของเขา เป็นญาติ เป็นเพื่อน โคเวนอาจจะเป็นคนประหลาด แต่แม้เป็นคนประหลาดถึงเพียงไร ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของสังคม แต่ก่อนที่ชาวชามูจะได้ตอบอะไร นัคทากลับเอ่ยขึ้นเสียก่อน "เจ้าถูแขนอยู่อย่างนั้น เป็นไรหรือเปล่า เอาเลือดอีกไหม" เนื่องจากโคเวนไม่พูดอะไร อีกฝ่ายจึงให้เลือดเขาอีกเล็กน้อย ตอนที่ชาวชามูมองมา นัคทาก็ว่าเสียแขนไปข้างหนึ่งกับเสียเลือดไปไม่กี่หยดมันต่างกัน เขาเป็นนักรบอิยา ควรต้องรักษาศักดิ์ศรี รู้จักตอบแทนบุญคุณ
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
23 มี.ค. 53 11:47:21
|
|
|
|