Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ธรรมะที่บ้าน  

ธรรมะที่บ้าน

ที่หน้าประตูห้องทำงานของเรา มีข้อความที่ได้มา จากวัดชลประทานรังสฤษฏ์ อยู่สองข้อความว่า

๑.คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสู่สถานที่ดี

๒.ฆ่าความโกรธเสียได้ อยู่เป็นสุข

ข้อแรกได้พยายามปฏิบัติมานานแล้ว คิดดี ไม่อิจฉาริษยา มุ่งร้ายต่อผู้ใด มีแต่ช่วยให้เขาประสบความสำเร็จสมหวังทั้งสิ้น

พูดดี แน่นอน ไม่พูดให้ร้ายใคร แม้ในอินเตอร์เนต ก็อ่อนน้อมถ่อมตน ไม่อวดว่ารู้ดีกว่าคนอื่น ถ้าใครขัดแย้งกัน ก็ไม่เข้าไปยุ่งด้วย ไม่เที่ยวชี้ว่าใครถูกใครผิด

ทำดี เช่นพยายามรักษาศีลห้าให้ได้ ปีละหลายวัน

คบคนดี อันนี้ไม่สามารถจะแยกแยะได้ เพราะคนเราที่เป็นปุถุชน ย่อมมีดีบ้างไม่ดีบ้างในตัวทุกคน และได้คบหาสมาคมกันเป็นเวลานาน จึงจะรู้ว่าคนไหนมีดีมากกว่าไม่ดี ก็ค่อย ๆ ห่างไปเอง เพราะเราเองก็ไม่ได้ดีเลิศประเสริฐศรีอะไร

ไปสู่สถานที่ดี นั้น แม้เมื่อยังหนุ่มมีแรง ก็ไม่มีเงิน พอทำงานมีเงิน ก็ไม่มีเวลา พอแก่ลงมีเวลามีเงิน ก็ไม่มีแรงเสียแล้ว ก็เลยต้องไปแต่สถานที่ดีดี คือวัด

อีกข้อหนึ่งนั้น ฟังดูน่าเลื่อมใส แต่ปฏิบัติได้ยากมาก มีใครบ้างที่ระงับความโกรธก่อนที่จะโกรธได้

ความโกรธเป็นกิเลสตัวร้ายที่สุดคือ โทสะ มันมาเร็วเสียจนเราระงับไม่ทัน พอรู้ตัวก็โกรธเสียแล้ว เอาเป็นว่าผู้ใดระงับได้เร็วที่สุด เท่าไร ก็นับว่าดีเท่านั้น

ความโกรธเป็นต้นเหตุของ ความอาฆาต พยาบาท จองเวร เป็นตัวที่ทำให้ละเมิดศีลข้อแรก ได้ง่ายที่สุด เร็วที่สุด

คนที่ไม่เคยฝึกหัดระงับความโกรธเลย อาจทำร้าย ทรมาน หรือเข่นฆ่าผู้อื่นได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว เช่นในข่าวโทรทัศน์ เพียงรถยนต์กระทบกระทั่งกัน ก็ยิงกันตาย เป็นต้น คนทำอาจไม่ได้เจตนาจะฆ่า แต่ความโกรธมันพาให้ทำไปโดยไม่ทันคิด เมื่อรู้ตัวก็สายเสียแล้ว

สำหรับการระงับความโกรธ ต้องฝึกเมตตาให้มาก สามารถให้อภัยได้แม้กับผู้ที่ออกปากด่าซึ่งหน้า หรือทำกิริยาหยาบหยาม เย้ยหยันหรือหมิ่นประมาท และแม้ที่สุดถูกรังแก ถูกข่มเหง ทั้งทางกายวาจาและจิตใจ

ต้องรู้ล่วงหน้าแล้วว่ากับผู้นี้เราต้องโดนอย่างนี้ หลบเลี่ยงได้ก็หลบเลี่ยงเสียก่อน จะได้ไม่ดูเป็นขี้ขลาดตาขาว หรืออ่อนแอ

พระท่านว่าแพ้เป็นพระชนะเป็นมาร แต่ความจริงเรายังเห็นอยู่เสมอ ที่พระเองก็ตกอยู่ใต้อำนาจของความโกรธ และกระทำสิ่งที่เป็นผลเนื่องมาจากความโกรธ จนได้รับโทษทั้งทางโลกและทางธรรม

เมื่อฝึกไม่โกรธแล้วก็ต้องมีขันติและโสรัจจะ อดทน สงบเสงี่ยมเจียมกายวาจาและใจ ไม่ใช่ไม่ทำร้าย ไม่ด่าว่าตอบ แต่เก็บเอาไปคิดแค้น หาทางตอบโต้ เมื่อไม่โกรธแล้วต้องสละทิ้งความขุ่นเคือง หงุดหงิด เร่าร้อน ออกไปจากจิตโดยเร็วและสิ้นเชิง อย่าให้เหลือตกตะกอนอยู่ จึงจะเกิดผลสำเร็จ เป็นความเย็น ความสงบ ความแจ่มใสไม่ขุ่นมัวอีกต่อไป

สุดท้ายก็คือการให้อภัย เราต้องแผ่เมตตาให้ได้ก่อน จึงจะให้อภัยได้ ให้อภัยโดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น ล้างจิตใจให้สะอาด เหมือนกับว่าคนที่จะทำให้เราโกรธนั้น ไม่เคยทำเช่นนั้นกับเราเลย

ฟังดูเหมือนกับเป็นเรื่องสุดวิสัย ที่มนุษย์ผู้มีกิเลสจะทำได้ แต่ถ้าฝึกหัดอยู่เสมอ และรู้ตัวอยู่เสมอว่า นี้คือบทเรียน นั้นคือแบบฝึกหัด ที่เราจะต้องทำให้ได้ ค่อย ๆ ฝึกไม่ให้โกรธ ค่อย ๆ ฝึกสละความโกรธ ทีละน้อย จนกระทั่งโกรธไม่เป็นเลย

ได้พยายามตั้งใจทำให้จริง เพราะเห็นประโยชน์จริง หวังว่าวันหนึ่งคงจะสำเร็จ .

จากคุณ : เจียวต้าย
เขียนเมื่อ : 25 มี.ค. 53 08:00:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com