ความคิดเห็นที่ 1 |
"เจ้าไม่รู้สึกผิดบ้างหรืออย่างไร" ชาวอิยาถามต่อไป "ข้าไม่คิดว่าผิด ชีวิตของพ่อแม่ก็เป็นของพ่อแม่ ชีวิตของข้าก็เป็นของข้า แต่ถ้าหากเขามีปัญหา ต้องการอะไร ต้องการให้ช่วยทำอะไร ข้าก็จะไปทันที" โคเวนบอกอย่างนั้น "ถ้าเขาอยากให้ไป" "เหตุใดต้องตัดสายสัมพันธ์กับครอบครัวถึงเพียงนี้ เจ้าตัดแล้วจะเหลือใคร" โคเวนเงียบไปครู่หนึ่ง ยามเอ่ยออกมาก็ราวพูดคนละเรื่องกัน "บางทีเจ้าจะได้ยินเสียงในหัว เสียงนั้นบอกว่าเจ้าควรทำอย่างนั้นอย่างนี้ เจ้ารู้ว่าเสียงนั้นถูก แต่สิ่งที่เสียงบอกเป็นเรื่องยากลำบาก เสียงบอกให้ขยันยามเจ้าเกียจคร้าน บอกให้เจ้าต่อสู้ยามที่เจ้าทราบว่าต่อสู้ไปก็ยากลำบากไม่มีสิ้นสุด เสียงบอกให้เจ้ามีชีวิตที่ผิดจากรูปแบบปรกติทั่วไป บางทีอาจบอกว่าเจ้าเป็นหญิงทั้งที่กายเจ้าเป็นชาย หรือบอกว่าเจ้าเป็นชายทั้งที่กายเป็นหญิง ...สารพัดสิ่งทั้งปวงที่ผิดจากมาตรฐานสังคม พอคนเราได้ยินเสียงอย่างนั้น ก็ต้องตัดสินใจ" เขาบอก "ข้าก็ตัดสินใจ" "เจ้าตัดสินใจอะไร" "ตัดสินใจไม่กิน" เป็นตอนนั้นเองที่โคเวนยอมเล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขายามเยาว์วัย เรื่องของเด็กหญิงชาวอิยาที่กลายเป็นของขวัญวันเกิด และเรื่องอื่น ๆ หลังจากนั้น ยามนัคทาฟังก็ค่อนข้างตกใจ ตอนนี้เขาเข้าใจระบบของชามูมากขึ้นแล้ว จึงได้แต่คิดว่าโคเวนตัดสินใจไม่กิน ไม่สะสมพลัง ละทิ้งลาภยศฐานะ ยอมให้ครอบครัวทอดทิ้งเพื่อความรู้สึกถูกต้องในใจ เขาไม่บังคับใครคนอื่นให้เป็นตามนั้น แต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาบังคับตนเช่นกัน "เจ้ามีชีวิตลำบาก" ชาวอิยาบอกในที่สุด "อืม"
... หากเสือคิดว่าการกินกวางเป็นสิ่งผิด และงดไม่กินกวางเสีย จะถือว่าถูกต้องได้หรือ หากสิ่งมีชีวิตหนึ่งถือกำเนิดมาแล้ว กลับไม่ยอมใช้ชีวิตให้เต็มที่ ไม่ยอมทำตามธรรมชาติของตน จะถือว่าถูกหรือ นัคทาก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาย่อมไม่ต้องการให้ชามูกินอิยา ไม่ต้องการถูกกดขี่เป็นอาหารตลอดกาล แต่เวลาที่เขามองโคเวน ก็รู้สึกสงสาร เขาคิดว่าโคเวนป่วยอยู่ในใจ ความเจ็บไข้ซึ่งเกิดจากการไม่อาจยอมรับความเป็นจริงของตัวเองได้ แต่ถ้าหากมองจากมุมของอิยา ควรว่าโคเวนมีน้ำใจ กระนั้นกวางคิดว่าเสือที่ไม่กินกวางจนผอมแห้งมีน้ำใจ ก็คงไม่ได้ช่วยเสือที่ไหนหรอกกระมัง แต่บางที...ชามูกับอิยาคงต่างจากเสือและกวางตรงที่มีจิตสำนึก มีการครุ่นคิดไตร่ตรอง โคเวนลำบากก็เพราะเขาคิดมากกว่าเสือนั่นเอง "เหตุใดจึงให้เลือดมากถึงเพียงนี้" ชาวชามูตกใจยามนัคทาส่งถ้วยมาให้ตน "ไม่เป็นไร อิยาร่างกายแข็งแรง ผลิตเลือดใหม่ได้เร็ว ให้เลือดเดือนละครั้งก็ยังไม่มีปัญหา" อีกฝ่ายนั่งลง "ที่จริงจะทำให้เลือดสะอาดขึ้น ได้ถ่ายเลือดเก่าออกไปบ้าง ผู้ชายไม่เหมือนผู้หญิง ไม่มีการขับเลือดประจำเดือน ได้ทำอย่างนี้บ้างก็ดีเหมือนกัน" "แต่..." "ข้าจะทดลองเจ้า ถ้ายังผอมถึงเพียงนี้ เจ้าจะตายไปเสียก่อน แขนก็ยังไม่หายดีไม่ใช่หรือไง" แต่บางทีเรื่องทดลองหรือไม่ทดลองอาจจะไม่สำคัญถึงเพียงนั้นแล้วกระมัง นัคทานั่งดัดแขนให้โคเวนทุกครั้งที่มา แขนข้างนั้นหายช้าจนเขารู้ว่าโคเวนมีความสามารถในการฟื้นตัวต่ำถึงเพียงไร เขาก็ไม่รู้ แต่โคเวนเริ่มไม่ใช่ชามู เริ่มกลายเป็นเพื่อนเขา นัคทาเห็นโคเวนด้านที่เป็นคนเรียบ ๆ ง่าย ๆ และด้านที่ซับซ้อนจนราวกับป่วยไข้ในใจ เวลาเป็นเพื่อนกันแล้ว เห็นเพื่อนผอมเกือบตายตลอดเวลาเช่นนี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีอะไร ยามได้ยินคำว่าทดลอง โคเวนก็เกร็งขึ้นหน่อยหนึ่ง แต่สุดท้ายยังยอมกินเลือดลงไปโดยดี เขากินแล้วก็แทบเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนโคเวนจะไม่ชอบความเปลี่ยนแปลงนั้นเท่าไรนัก "จะทำอะไรก่อน" ชาวชามูถามเรียบ ๆ "ตรวจคลื่นสมองและหัวใจกระมัง" "อืม" นัคทารู้สึกราวอีกฝ่ายกำลังถามว่า "จะฆ่าและชำแหละร่างกายข้าเมื่อไร" ซึ่งทำให้เขารู้สึกแปลกพิกล เขาไม่แน่ใจว่าตนควรทำอย่างไร บางที สักวันหนึ่งไม่ช้านี้ หลังจากที่ตรวจทุกอย่างที่สามารถตรวจกับชามูเป็น ๆ ได้แล้ว เขาอาจจะต้องปล่อยโคเวนไป หาชามูคนใหม่มา คราวนี้ต้องฆ่าเสียก่อน อย่าได้เจรจากันอีก ชามูทั้งปวงคงไม่เหมือนโคเวนหรอก แต่เขารู้แล้วว่าการตั้งชื่อให้สิ่งที่จะกินอันตรายถึงเพียงไร ...มันจะทำให้กินไม่ได้ โคเวนก็เป็นโคเวน แต่เมื่อนัคทากลับมาอีกครั้ง โคเวนก็ไม่อยู่แล้ว ดูเหมือนชาวอิยาจะประมาทเกินไปจริง ๆ โคเวนคงดูอยู่ว่าเขาทำอะไร เปิดประตูได้อย่างไร เพียงแต่ตลอดเวลานี้ที่ไม่อยากไปคงมีจุดประสงค์ นัคทาไม่รู้ว่าโคเวนคิดอะไรอยู่ บางทีคงกลัวตาย ไม่อยากถูกฆ่า หรือคิดจะนำเรื่องกลับไปบอกพวกชามู แต่เขาก็ตามรอยไป โคเวนไม่ทราบเรื่องอะไรในป่าแม้แต่เรื่องเดียว รอยเท้าที่ปรากฏอยู่นั้นบอกทุกอย่างชัดเจนราวกับกลางวัน รอยยังใหม่อยู่ บางทีโคเวนคงเพิ่งหาทางออกไปได้ แต่เมื่อตามไป นัคทาก็ยังค่อนข้างเป็นห่วงอยู่นั่นเอง เขาเพิ่งเข้าใจจากโคเวนนี่เองว่าชามูที่ไม่มียานเหาะ ไม่มีปืน ไม่มีพลังเปราะบางมากเพียงไร โคเวนไม่รู้เรื่องอะไรในป่าสักอย่างเดียว สิ่งที่เขารู้มีเพียงอะไรไม่ทราบซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นนามธรรม ชามูไม่มีศัตรูตามธรรมชาติ...ไม่เคยเจอเสือหรือสัตว์ร้ายใด นอกจากอิยาต้องรบกับชามูแล้ว ยังต้องรบกับสัตว์เหล่านั้น เขาสงสัยเลือนลางว่าบางทีที่วางใจว่าโคเวนจะไม่ออกไปขนาดนี้ คงเพราะรู้ว่าถึงอีกฝ่ายออกไป ถ้าในสามสี่ก้าวไม่ถูกเสือกิน ก็ควรถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว แต่โคเวนไม่ถูกเสือกิน นัคทาพบเขาตกอยู่ใต้ชะง่อนผา ดูเหมือนจะปีนขึ้นไป และตกลงมา เขาบาดเจ็บสิ้นสติ แต่ดีที่ยังไม่มีสัตว์มาลากไป และยังไม่ตาย นัคทาขับไล่สัตว์กินซากที่วนเวียนอยู่ พาเพื่อนตนกลับมายังฐาน ตอนที่โคเวนลืมตาขึ้นมาได้ ชาวอิยาก็ยังนั่งดูอยู่ "เจ้าหนีออกไป" เขาบอก ไม่แน่ใจว่าควรเริ่มอย่างไร "อืม" "ทำไม" "คิดว่าจะตาย" เขาอยากรู้เรื่องความแตกต่างระหว่างอิยากับชามู จึงรออยู่จนถึงตอนนี้ แต่เมื่อถึงตอนนี้แล้ว โคเวนก็รู้ว่าจะถอยกลับไม่ได้ เมื่อใดที่อีกฝ่ายทราบเรื่องพลังของชามูมากพอ ก็อาจเอาคนอิยาไปทำลายเผ่าชามูจริง ๆ โคเวนไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้น เขารู้ว่าตัวเองหนีไปไหนไม่รอด ไม่มีทางกลับเมืองชามูได้ด้วยความสามารถของตัวเอง นอกจากนั้นหากเขาตายในฐาน นัคทาก็คงหาทางทดลองกับศพได้ต่อไป โคเวนจึงคิดว่าควรทำลายศพตัวเอง ถ้าหากตกจากหน้าผา ศพย่อมแหลกเหลวไม่เหลือชิ้นดี เขารู้ว่านัคทาคงหาคนชามูมาทดลองใหม่ แต่ว่าบางที ที่เขาทำได้ดีที่สุดคงมีเพียงนี้เอง "โง่เขลายิ่งนัก ไม่มีทางอื่นดีกว่านี้แล้วหรือไง" "เช่นอะไรเล่า" "เช่นทำลายฐานนี้ ทำลายเครื่องมือของข้า" โคเวนไม่ตอบคำนั้นชั่วขณะ เขานอนหงายมองขึ้นไปทางเพดาน “ระยะนี้ ที่เมืองชามูมักพูดเรื่องการขยายมหานคร” ชายหนุ่มบอก “พัฒนาระบบ จับอิยามาเลี้ยงคล้ายปศุสัตว์ด้วยวิธีการที่ดีขึ้น เฉลี่ยทรัพยากรและอาหารไปยังประชากรทุกคนให้ถ้วนทั่ว เมื่อไรที่ทำอย่างนั้นได้ ชามูคงสามารถปกครองโลกอย่างสมบูรณ์ ก่อนนี้ข้าไม่ได้ต่อต้านความคิดนั้นเพราะรู้ว่าไม่มีทางทำอะไรได้ แต่ตอนนี้เมื่อรู้จักเจ้า ก็คิดว่า...มันคงไม่ค่อยดีกับอิยาหรอกกระมัง” เขาทิ้งถ้อยคำไว้เพียงนั้น ไม่ได้พูดต่อไป แต่นัคทาคิดว่าตนพอจะเข้าใจ โคเวนไม่อยากให้เกิดอะไรอย่างนั้นกับเขา แต่ก็ไม่อยากทรยศคนของตนเอง ในโลกนี้ก็มีคนมากมายที่มีปัญหาเรื่องความภักดีในลักษณะเดียวกับโคเวน คนแบบนั้นจะทำอย่างไรได้เพื่อไม่ให้รู้สึกบาปอยู่ในใจ ...ละทิ้ง หนีไป พยายามประสานรอยร้าว หรือไม่อย่างนั้นก็ตายชดใช้บาปของตน ...หนทางโง่เขลามากมายที่เกิดขึ้นเพราะไม่มีทางที่ดีให้ไป ตกอยู่ตรงกลางระหว่างสองฝ่ายเช่นนี้ ย่อมไม่มีวันมีทางที่ดีจริง ๆ "หายแล้วจะปล่อยเจ้ากลับเมืองชามูไป" ชาวอิยาบอกในที่สุด "จะพาไปส่งที่ที่ไปต่อเองได้ เอาอย่างนั้นก็แล้วกัน" "หือ" อีกฝ่ายแปลกใจ "ข้าเห็นคนตายมามากพอแล้ว สองสามฤดูหนาวก่อน พี่ชายข้าก็ตาย" นัคทาว่า "ถึงจะมีบางอย่างที่ข้าไม่อาจช่วยด้วยกำลังของตัวเองตอนนี้ได้ แต่ข้าก็คิดว่าถ้าหากทำได้ จะไม่ยอมเห็นความตายของญาติหรือเพื่อนอีกต่อไป เจ้าอย่ามาตายแถวนี้ ข้าไม่อยากดู" คนชามูมองเขาครู่ใหญ่ สุดท้ายเพราะเจ็บบอบขยับตัวไม่ได้ จึงเพียงผงกศีรษะลง "ขอบคุณ" "ไม่เป็นไร"
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
26 มี.ค. 53 17:00:16
|
|
|
|