ความคิดเห็นที่ 1 |
บทที่ 5.- ครึ่งหลัง
ตั้งแต่ออกมาจากบ้านพ่อแม่ของแคลีน รเมศก็ไม่พูดอะไรอีกเลย ชายหนุ่ม ทอดสายตาไปบนท้องถนน ซึ่งคลาคล่ำไปด้วยรถที่ติดเป็นแถวยาวเพื่อรอสัญญาณไฟ หญิงสาว เหลือบมองชายคนรักหลายต่อหลายครั้งด้วยความไม่สบายใจนัก ใจหนึ่งเธออยากถามออกไปเลย ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าจะได้คำตอบที่เธอไม่ต้องการ
แกจะแต่งงานกับมันก็ได้ แต่ต้องมีสินสอดมาให้ฉันสิบล้าน ไม่รวมบ้านและรถ... ไม่อย่างนั้น แกก็ต้องเลิกกับมัน แล้วไปแต่งงานกับลูกชายเพื่อนฉัน! แกก็รู้ว่าฉันกับพ่อแกกำลัง เดือดร้อนเรื่องเงิน
เพราะถูกแม่เร่งรัด ทำให้แคลีนต้องพูดกับรเมศให้รู้เรื่อง ทั้งที่ยังโกรธชายหนุ่ม แต่ เธอก็ยอมโทรหาเขา เธอเฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ว่ารักผู้ชายคนนี้ที่ตรงไหน รเมศไม่ใช่ผู้ชาย ดีที่สุดในชีวิตของเธอ แต่เธอก็พูดได้อย่างไม่ลังเลว่ารักเขา หรือนี่คือรักแรก ซึ่งเป็นรักที่ฝังใจ...
สำหรับแคลีน แค่รักฝังใจคงไม่พอ ที่เธอรักในตัวรเมศคงเป็นเพราะเขามีสิ่งที่เธอ ต้องการ ในยามที่เธออยากได้คู่ควงดูดีเขาก็เป็นให้ได้ ในยามที่เธอไม่สบายใจ เขาก็สามารถทำ ให้เธอยิ้มได้ ที่สำคัญเขาไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ นอกจากพวกสัตว์ที่เขาต้องรักษาแล้ว เธอก็เป็นที่หนึ่ง สำหรับเขาเสมอ
แต่ระยะหลัง ทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อย กระทั่งแคลีนบอกตัวเองว่าจะเลิกและจบความรัก ครั้งนี้ จะมาจมปลักอยู่กับเขาทำไม ในเมื่อผู้หญิงอย่างเธอสามารถหาคนที่ดีกว่าได้ เธอเชื่อ เช่นนั้นและลองดู สุดท้ายพอเอาเข้าจริงใจเธอกลับกลัวที่ไม่มีเขา ความรู้สึกกลัวสูญเสียมาชัดเจน มากขึ้น เมื่อเธอถูกแม่ยื่นเงื่อนไขและบอกว่าต้องการพบรเมศเพื่อพูดเรื่องนี้
คุณแม่กับคุณพ่อพูดอะไรกับคุณคะ เธอรู้อยู่แล้วแต่ก็ยังแกล้งถาม คุณโกรธอยู่รึ เปล่าคะ
ดวงตาคมเหลือบมองมาบอกให้รู้ว่าเขาได้ยินคำถาม แต่สุดท้ายก็ยังไม่หลุดคำ พูดใด
เมษคะ อย่าเอาแต่เงียบสิ แคลไม่สบายใจนะ
ถ้าผมไม่ทำอย่างที่แม่คุณพูด คุณจะเลิกกับผมมั้ยแคล...
คำถามราบเรียบนั้นทำเอาคนฟังใจหาย เมษ...
พวกท่านให้ผมหาเงินมาหมั้นคุณสิบล้านภายในสิ้นเดือนนี้...ก่อนสิ้นปีต้องมีรถ มี บ้าน มีเงินอีกสิบล้าน ของหมั้นอีกพอสมควร... น้ำเสียงที่เปล่งออกมาสะท้อนความกังวลชัดเจน อย่าว่าแต่ปีเดียวเลย ให้เวลาผมอีกสองสามปี ผมยังไม่รู้เลยว่าจะหาสิ่งที่พ่อแม่คุณต้องการมาได้ ไหม ผมเป็นสัตวแพทย์นะแคล...คุณมีแฟนเป็นผู้ชายธรรมดา...เวลาแค่ปีเดียวผมจะไปหาของ พวกนั้นมาได้ยังไง
...คุณหาได้ แคลีนตัดสินใจพูดเรื่องที่รู้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบ ถ้าคุณกลับเข้าบ้าน คุณพ่อของคุณท่านต้องยอมช่วยคุณ แค่คุณลดทิฐิ...คุณจะหาเรื่องลำบากทำไมคะ ลูกขอพ่อแม่ จะน่าเกลียดอะไร
คุณคิดอย่างนั้นจริงเหรอแคล น้ำเสียงถามแสดงความผิดหวังชัดเจน คุณก็รู้ว่า นั่นคือทั้งชีวิตผม...ผมออกจากบ้านมาเพราะจะพิสูจน์ให้พ่อเห็นว่า ผมสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้อง ทำตามที่พ่อบอก แต่คุณจะให้ผมกลับไป เพราะผมไม่มีปัญญาหาเงินมาเป็นค่าสินสอด คุณจะให้ ผมทำอย่างนั้นจริงเหรอ
แคลีนไม่เข้าใจว่ารเมศจะคิดมากไปทำไม เธอไม่เคยเข้าใจสิ่งที่เขาทำ เพราะเธอ คิดแต่เพียงว่าจะเสียหน้าอะไรหนักหนา นั่นคือพ่อ พ่อที่พร้อมจะให้อภัยลูก เธออาจจะลืมคิดไปว่า สำหรับผู้ชายอย่างรเมศ นั่นคือการทิ้งศักดิ์ศรีของลูกผู้ชายคนหนึ่ง
แต่ถ้าคุณไม่ทำ...ความรักของเราก็จะต้องจบ คุณแม่กำลังมีปัญหา ท่านต้องการ เงิน นี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ท่านหวังว่าคนที่จะมาเป็นลูกเขย จะช่วยท่านได้
รเมศยังคงนิ่งสีหน้าเคร่งเครียด เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ แคลีนรู้ว่าใช้ไม้นี้คงไม่ได้ผล เธอรู้ว่าจะทำอย่างไรให้ชายหนุ่มใจอ่อน
เอาเถอะค่ะ นั่นคือแกล้งทำเป็นยอมให้เขาตัดสินใจ และเธอต้องแสดงออกว่า พร้อมจะอยู่เคียงข้างเขา แคลจะช่วยคุณ...แคลคุยกับบอสไว้ก่อนหน้านี้ ท่านจะให้แคลกู้เงิน... เราจะเอาเงินก้อนนั้นมาให้คุณแม่ก่อน ส่วนเรื่องแต่ง ไว้ค่อยคิดกันอีกที ยืดเวลาไปก่อน...ไว้วัน จันทร์คุณเข้าไปคุยเรื่องนี้กับแคลนะคะ ที่บริษัทของแคล
หลังคำพูดบรรยากาศในรถเงียบไป แคลีนเฝ้ารอสิ่งที่เธอคาดหวัง...
ไม่เป็นไรหรอก... ในที่สุดเขาก็พูดออกมา หญิงสาวพยายามซ่อนรอยยิ้มดีใจ ไว้ เป็นหน้าที่ผม ผมจะให้คุณเดือดร้อนได้ยังไง
แคลีนรู้อยู่แล้วว่ารเมศไม่ได้จนกรอบแบบที่เขาบอก ต่อให้ทะเลาะกับพ่อจึงยังไม่ได้ อะไรจากท่าน แต่รเมศก็เป็นหลานรักของคุณตาคุณยาย ไม่แปลกที่เขาจะมีเงินเก็บและทรัพย์สิน อยู่ส่วนหนึ่ง นั่นมันน่าจะพอที่พ่อแม่เธอต้องการ
แคลไม่สบายใจเลยที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน
ผมรู้ว่าคุณก็คงไม่อยากให้เป็นอย่างนี้...ผมพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง
เมษ...แคลขอบคุณนะที่คุณเข้าใจแคล ได้เวลาเล่นบทออดอ้อนเมื่อได้ในสิ่งที่ ต้องการ แต่ถ้าคุณไม่ไหวก็บอกแคลนะคะ แคลอยากช่วยคุณจริงๆ เราจะสร้างครอบครัวด้วยกัน
คำว่าครอบครัวที่เธอเอ่ยหวังให้เขาพยายามคิดเรื่องของคนสองคน แต่มันกลับทำ ให้เขานึกไปถึงครอบครัวที่รออยู่...ครอบครัวที่แคลีนเห็นว่าเป็นส่วนเกิน
ป่านนี้หม่องคงรอทานข้าว...โทรไปก็ไม่ยอมคุยด้วย คงโกรธที่ผมผิดสัญญา
เพราะแคลสินะคะ เธอทำหน้าเศร้า แสดงความกังวล
ไม่เป็นไรหรอก ง้อนิดหน่อยก็ดีแล้ว หม่องไม่ดื้อ
ค่ะ... แคลีนซ่อนความไม่พอใจ เพราะไม่อยากหาเรื่องทะเลาะในเวลานี้
ความจริงวันนี้ผมสัญญาว่าจะปลูกต้นไม้กับแก...ตอนออกมาก็งอน ดีที่พี่พันธุ์ช่วย พูด...ผมว่าแวะซื้อขนมไปฝากด้วยดีกว่า ตาหม่องชอบเค้กไอศกรีมมากเลยนะ...
นี่คือสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้แคลีน เมื่อก่อนหัวข้อสนทนาของรเมศจะมีแต่เรื่อง เกี่ยวกับสัตว์ ซึ่งเธอก็ว่ามันน่าเบื่อมากแล้ว แต่ตอนนี้เธอเพิ่งรู้เมื่อมีสิ่งที่น่าเบื่อกว่า นั่นคือเรื่อง ของเด็กชายที่จะกลายมาเป็นส่วนเกินของเธอกับคนรัก
ปล่อยไปก่อน จัดการทีละเรื่อง นั่นคือสิ่งที่แคลีนบอกตัวเอง
ประจวบกับเสียงโทรศัพท์ของรเมศดังขึ้น ชายหนุ่มรับสายผ่านบูลทูธ
ว่าไงพ่อครูฝึก ว่างพอจะโทรหาฉันแล้วเหรอ... แคลีนรอฟังบทสนทนาเพื่อดูว่า คู่สายคือใคร นึกว่านายโดนจระเข้ ลากไปเป็นอาหารเช้าแล้วซะอีก...
บทสนทนาบอกว่าคู่สายคือผู้ชายพฤติกรรมแปลกๆที่ชื่อวายุ
...ก็เรียบร้อยดี...ว่าแต่ห้องใหญ่สุดในบ้านหม่องจองแล้วนะ ลูกชายตัวดีให้เหตุผล ว่าเผื่อป้าสามใบเถาจะมาพักด้วย...นายกับฉันก็ใช้ห้องเล็กสองห้องที่เหลือไป
แคลีนตกใจ...คนที่เธอไม่ชอบจะมาอยู่บ้านนั้นด้วยอย่างนั้นหรือ
...ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอก...อีกสักพัก...น่าจะไปถึงไล่เลี่ยกับนาย บทสนทนาบอก ว่าวายุจะตามไปที่บ้านด้วย ป้าสามใบเถาทำกับข้าวรอ...ไม่มีใครหรอก ก็แค่คนกันเอง...ดีกัน แล้ว
แคลีนรู้ว่าคู่สายถามถึง ดูจากสายตาที่รเมศเหลือบมองมา
นี่ก็ออกมารับเธอ...โอเค...ไว้เจอกัน
ชายหนุ่มวางสาย เขาคงสังเกตเห็นความไม่พอใจจากสีหน้าเธอ ทำไมครับ
บ้านที่คุณไปเช่าจะมีคนอื่นนอกจากตาหม่องมาอยู่ด้วย? รเมศพยักหน้ารับเหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ใครคะ!
คุณไม่รู้จริงเหรอ รอยยิ้มเย้าผุดขึ้นบนใบหน้าคม ในขณะที่อีกฝ่ายไม่นึกขำด้วย เอาน่า...ถ้าคุณไม่ไปยุ่งกับเขา...คนอย่างวายุก็ไม่มายุ่งกับคุณหรอก ถ้าไม่ชอบก็อยู่ห่างๆ เท่านั้น ก็จบ...
แคลีนเมินหน้าหนี เธอรู้ว่ามันไม่จบอยู่แค่นั้น ฉันคิดผิดรึเปล่า...ที่คืนดีกับคุณ
:-: :-: :-: :-:
ยังมีต่อค่ะ ----->
| จากคุณ |
:
เบญจามินทร์ (adel_ew)
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 เม.ย. 53 10:44:53
|
|
|
|