ความคิดเห็นที่ 1 |
สายตาของนัคทาเปลี่ยนไปจนชาวชามูสะดุ้ง ก่อนนี้นัคทามองเขาเหมือนคนเป็นเพื่อนกัน แต่ตอนนี้ นอกจากสายตาจะกลับระแวงเหมือนก่อนรู้จักแล้ว ยังมีความกลัวอยู่อย่างชัดเจน ...ราวกับเห็นบางสิ่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ไม่สามารถต่อสู้ได้ โคเวนงุนงงชั่วขณะจึงค่อยเข้าใจ นัคทาถูกล่ามาตลอดไม่ใช่หรือ ชาวชามูนอกจากมีปืนแล้ว ยังมีพลัง ยามล่าย่อมใช้พลังเช่นเดียวกัน...ทั้งยกร่างขึ้นสูงและทิ้งลง หรือบีบให้แหลกเหลวคาที่ อีกอย่างหนึ่ง แม้กฎหมายชามูห้ามไม่ให้ล่ามากเกินไป ไม่ให้ทารุณอิยา แต่ในความเป็นจริง คนชามูก็เห็นอิยาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต่ำกว่า ชามูก็เหมือนสังคมปรกติทั่วไป นอกจากมีคนดี ๆ แล้ว ยังมีคนบ้าระห่ำ เด็กหนุ่มสาวคะนอง คนวิปริตอำมหิตชอบความรุนแรง คนเหล่านั้นบางทีก็ออกไประบายความอะไร ๆ ของตนกับอิยา คนที่รอดมาจนโตขนาดนัคทา อย่างน้อยในชีวิตต้องได้เห็นการกระทำอำมหิตแมวหยอกหนูอย่างนั้นสักครั้งสองครั้งแน่นอน ก่อนนี้โคเวนอ่อนแอ ทั้งสามารถพันธนาการไว้ได้ นัคทาจึงไม่กลัว แต่ตอนนี้โคเวนไม่อ่อนแอแล้ว เพียงยืนอยู่เฉย ๆ ก็สามารถฉีกแขนขา สามารถขยี้ร่างกายเขาให้เละเทะเป็นเลือดเนื้อ ชาวชามูตกใจที่คิดได้อย่างนั้น ก็จะออกปากไป แต่นัคทากลับถอยหลังสองสามก้าวเสียก่อน “พรุ่งนี้จะพาเจ้าไปส่งแล้วกัน” ชาวอิยาพูดเมื่อรู้สึกตัวว่าทำอะไร ท่าทางกระอักกระอ่วน “...ถ้าหากยังต้องการ” ตลอดเวลาหลังจากนั้น ทั้งสองไม่ได้เจรจาเป็นเรื่องเป็นราวอีก แม้พูด ถ้อยคำก็ไม่สนิทใจดังเดิม ที่จริงนัคทารู้ว่าเป็นความผิดของตน เขารู้ว่าไม่ควรแสดงท่าตกใจอย่างนั้นแต่แรก ทว่าเขาห้ามไม่ได้...เขาเพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเป็นเพื่อนกับเสืออยู่จริง ๆ ก่อนนี้เสือผอมแห้งไม่มีแรงก็เข้าใกล้ได้ แต่เวลานี้เสืออยู่กลางป่า แข็งแกร่งทรงพลัง วิธีคิดย่อมต้องเปลี่ยนแปลง แม้บอกว่าเชื่องแล้วก็ยังเป็นเสือมีเขี้ยวเล็บกัดกินได้อยู่ ชาวอิยาเสียเลือดมาก กระหายน้ำและรู้สึกหนาว จึงถือโอกาสใช้ข้ออ้างนั้นเลี่ยงออกไป เขาต้องจัดระเบียบความคิดใหม่หมดสิ้น เวลานี้อะไร ๆ ยังไม่ลงตัว แต่เพื่อนอย่างโคเวนมีไม่มากนัก นัคทาเป็นอิยาที่รู้มากเกินไป เรื่องบางอย่างก็บอกใครแม้แต่พ่อหรือพี่น้องไม่ได้ ต้องบอกโคเวนจึงเข้าใจ อีกอย่างหนึ่ง โคเวนก็สนใจเรื่องเดียวกับเขา ทั้งมีความดีตรงที่ไม่เคยตัดสินใคร นัคทาได้สติแล้วย่อมรู้สึกเสียดายมิตรภาพเช่นนั้น แม้อึดอัดอยู่บ้าง แต่พอถึงพรุ่งนี้โคเวนก็จะไปแล้วไม่ใช่หรือ เมื่อคิดได้อย่างนั้น เขาจึงนึกว่ายามลากันจะต้องกล่าวขอโทษสักคำ แต่คืนนั้นนัคทากลับรู้สึกไม่สบาย ครั่นเนื้อครั่นตัวประหลาด เขานอนเร็ว ทว่าแม้ในความฝัน ความรู้สึกประหลาดก็ไม่หายไป บางทีคงเพราะตอนหัวค่ำคิดถึงเสือกระมัง เขาจึงฝันว่าตนอยู่กลางป่า ยามอยู่ในฝันสิ่งที่เห็นก็บิดผันเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนยามปรกติธรรมดา แต่ไม่ทราบทำไม ตลอดเวลาที่ฝันนั้นนัคทากลับรู้สึกว่าตนเป็นปรกติอย่างยิ่ง...เป็นปรกติยิ่งกว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมาอีกกระมัง ราวกับว่าเมื่อก่อนมีบางสิ่งที่สูญไป แต่บัดนี้ได้คืนมาแล้ว และเมื่อได้คืนมา ในใจของนัคทาก็ยินดี เขารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับโลก หลอมรวมเป็นชิ้นส่วนของกลไกใหญ่มหึมา เขาไม่มีความสำคัญหรอก แต่ในขณะเดียวกันกลับสำคัญอย่างยิ่ง พลังของโลกเป็นพลังของเขา ทุกส่วนเต้นเร่าในอณูกล้ามเนื้อ หูและตาของเขาไม่เหมือนเดิม ยามเขากิน พลังของโลกก็เข้าไปในร่างกาย ในฝันสนุกยิ่งนัก ราวกับเป็นบางสิ่งที่ลืมไปแล้ว ราวกับว่าได้สลัดบางอย่างทิ้งไป ปลดปล่อยทั้งหมดที่อยู่ภายในออกมา นัคทารู้สึกราวกับว่าในฝันนั้นเขาโลดแล่นไปในทุ่งกว้าง ในป่าใหญ่ ได้กัดกินเสพรส และกู่ร้องตามใจ ทว่ายามตื่นขึ้นก็จำอะไรไม่ใคร่ได้ เหลือเพียงภาพติดตาเลือนลาง เมื่อลุกขึ้นมา นัคทายังมืดหน้าอยู่เล็กน้อย จึงยกมือลูบศีรษะ ก่อนจะสะดุ้งต้องยกแขนขึ้นพิจารณา แขนเขาเป็นอะไร เหตุใดจึงมีขนมากมายเช่นนี้ นอกจากนั้น เส้นกล้ามเนื้อยังขึ้นปูดโปน นัคทาไล่สายตาจากกล้ามเนื้อท่อนแขนไปยังกล้ามเนื้อหลังมือ และต่อไปถึงปลายนิ้วก่อนจะชะงัก ...ไม่ทราบทำไม ในชั่วคืนเดียวเล็บของเขากลับงอกยาว ทั้งยังมีปลายแหลมคมไม่ผิดกรงเล็บสัตว์ป่าเลย
... เช้าวันรุ่งขึ้น โคเวนรอเพื่อนอยู่ที่ห้องเก็บหนังสือ ครั้นชาวอิยาไม่มาก็แปลกใจ หลังจากรอเป็นเวลานาน ชาวชามูจึงตัดสินใจเดินไปยังห้องเล็กที่นัคทาใช้นอนเมื่อคืน บางทีเสียเลือดมากอาจจะทำให้อ่อนเพลียต้องนอนมากกว่าปรกติกระมัง โคเวนไม่รู้เรื่องอะไรเหล่านี้เลย เมื่อวานนี้ชาวชามูไม่ได้เจตนาทำร้ายเพื่อน ย่อมรู้สึกเสียใจ ตลอดมาเขามีเพื่อนน้อย ทั้งยังตัดขาดกับครอบครัวของตนมาช้านาน เพิ่งมีนัคทาที่เจรจาเปิดอกกันได้ถึงเพียงนี้เป็นคนแรก โคเวนคิดว่าส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นคงเพราะแตกต่างกันเสียจนไม่คาดหวังว่าใครจะต้องเป็นอย่างไร กระนั้น เมื่อนัคทาดีกับเขามากมาตลอด โคเวนก็เห็นชาวอิยาเป็นเพื่อนเป็นน้องชาย เขาคิดว่ายามกล่าวคำลาควรต้องพูดคุย และตัวเขาเองควรเอ่ยขอโทษสักหลายคำ แต่ประตูปิดสนิท แม้เคาะหลายครั้งก็ไม่มีเสียงตอบ ทำให้โคเวนนึกหลากใจ เขาลองเอ่ยเรียก ผ่านไปเนิ่นนานจนไม่แน่ใจว่าควรรอหรือควรพังประตู ค่อยมีเสียงจากข้างใน เสียงนั้นว่าไม่ได้ลงกลอน เข้ามาได้ โคเวนก็เปิดประตูเข้าไป แต่เขาเข้าไปแล้วกลับสะดุ้ง นัคทานั่งอยู่ริมเตียงสนามที่กางไว้ ร่างกายของชาวอิยามีความเปลี่ยนแปลง...แปลกอย่างยิ่ง มีขนสีดำยาวขึ้นตามผิวเนื้อที่โผล่พ้นเสื้อผ้า กระทั่งบนใบหน้าก็ยังมีขนอ่อนตามโหนกแก้มให้เห็นชัดเจน ชาวชามูตะลึงงงอยู่ครู่หนึ่ง นัคทาจึงหันมาเต็มตัว นัยน์ตาสีดำของเขากลายเป็นสีเหลืองอำพัน ยามอ้าปากก็เห็นว่าซี่ฟันแหลมคมกลายเป็นเขี้ยวเกือบทุกซี่ทีเดียว "ข้าไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร" เขาบอก แม้กดไว้สุดความสามารถแล้ว หางเสียงก็ยังมีความตระหนกตื่นกลัว นัคทาไม่รู้ว่าตนเป็นอะไร ไม่เคยมีอิยาคนใดเป็นเช่นนี้ แวบแรกเขาคิดถึงโรคภัย คิดถึงอาหาร แต่หลังจากพยายามตั้งสติตรึกตรองสุดความสามารถ นัคทาจึงนึกได้ว่าบางทีอาจไม่ใช่ทั้งสองอย่าง อาจเกิดจากการที่เขาให้เลือดโคเวน เมื่อคิดได้อย่างนั้น ก็พยายามข่มความกลัวไว้ บอกว่าจะตรวจร่างกายตัวเองและเพื่อน อาจมีทางแก้กระมัง นัคทาต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการตรวจ แต่ตลอดเวลานั้น นับชั่วโมงต่อชั่วโมง ร่างกายของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปช้า ๆ ขนหนาขึ้น ความละเอียดและหยาบของเส้นขนยิ่งคล้ายขนสัตว์มากขึ้นทุกที กระดูกเริ่มผิดรูป นิ้วมือเกร็งเข้า เริ่มขยับได้ยากฝืดเฝือ นัคทากลัวจนเกือบเสียจริต แต่พยายามข่มใจ เขาตรวจแล้วจึงได้ผลออกมา เขาไม่แน่ใจนัก แต่คิดว่าน้ำลายของชามูมีสารบางอย่าง มีต่อมน้ำลายพิเศษใกล้กับอวัยวะสูบโลหิตในปาก ซึ่งหากไม่ใช้ก็จะไม่หลั่งออกมา บางทีคงคล้ายแมลงบางชนิดที่ดูดเลือดจากเหยื่อ และปล่อยสารพิษลงไปแทนกระมัง "อีกอย่างหนึ่ง อาจเพราะข้าถูกสูบเลือดมาก" ชาวอิยาบอกต่อไป "เท่าที่ตรวจมาตลอดถึงตอนนี้ ยิ่งข้าให้เลือดเจ้ามากและบ่อยเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งสร้างเลือดมาทดแทนเร็วเท่านั้น บางที...อาจจะให้มากไป เฉียบพลันไป" "แล้ว...จะแก้ไขอะไรได้ไหม" โคเวนถาม "...ข้าไม่รู้" นัคทารู้สึกกลัว เขากลัวอย่างยิ่งจนกลายเป็นความโกรธความสิ้นท่า ก็คิดอาละวาด แต่อีกทีหนึ่ง ชาวอิยาย่อมนึกขึ้นได้ว่าโคเวนมีพลังมากกว่าตน เขาสู้ไม่ได้ มีแต่ต้องนั่งตัวงออยู่ ไม่ทราบว่าควรทำอย่างไร "ข้าจะฉีดยาให้ตัวเอง แต่อื่น ๆ นอกจากนั้น...ไม่รู้เหมือนกัน" โคเวนเป็นห่วงเพื่อน ยามนัคทาฉีดยาด้วยหวังจะชะลออาการแล้ว ชาวชามูก็ถามว่าเขาทำอะไรได้บ้างหรือไม่ ชาวอิยากำลังขุ่นเคือง ทั้งไม่ใคร่สบาย จึงพูดจาเหน็บแนมหยาบคาย เขาว่าโคเวนไม่รู้อะไรสักสิ่ง จะช่วยได้อย่างไร ก็ดีแต่มีพิษ[^_^]เหมือนชามูทั่วไป แต่โคเวนไม่ใคร่ใส่ใจคำที่เกิดจากอารมณ์ เขาเป็นห่วงเพื่อนมากกว่า หลังจากนั้นนัคทาก็เริ่มมีไข้ โครงกระดูกเริ่มบิดผิดรูป นิ้วมือเกร็งจนคลายไม่ได้ ต้องปล่อยอุปกรณ์หลอดทดลองหล่นแตกคามือ โคเวนตกใจ ยามก้มลงเก็บให้ เขาก็รู้สึกได้ถึงความกลัวของนัคทา "ข้าจะไปเผ่าเจ้า เขาอาจจะรู้อะไร" ชายหนุ่มบอกออกมา "นัคทา บอกทางข้าที" "บอกไปจะมีประโยชน์อะไร" อีกฝ่ายตะคอกกลับ เสียงเริ่มแปลกแปร่งเพราะรูปร่างเปลี่ยนแปลง "บอกมาเถอะ อาจจะทำอะไรได้ ข้าจะพยายาม" นัคทาไม่ทราบจะทำอย่างไร รู้สึกสิ้นท่าแล้วจึงยอมบอกออกมา เขาพูดได้เพียงกระท่อนกระแท่นพอปะติดปะต่อเป็นถ้อยคำ แต่โคเวนจดแล้วยังไม่สามารถไปได้ในทันที นัคทาอาการหนักยิ่งนัก เขาเองก็กลัว ไม่กล้าทิ้งไว้ จึงจับแขนเพื่อนพาดบ่าพาไปนอนบนเตียง แม้นัคทานอนแล้ว ร่างกายก็เหยียดตรงไม่ได้ เขาเริ่มสูญเสียสติสัมปชัญญะ บิดตัวเกร็งราวกำลังทุกข์ทรมาน กะโหลกค่อย ๆ เปลี่ยนรูปร่างไปคาตา ขนหนาอย่างยิ่งราวจะกลายเป็นสัตว์ร้าย ตัวร้อนเหมือนไฟไหม้ โคเวนนึกอะไรไม่ออกก็พยายามลดไข้ เขาจับมือเพื่อน ...ไม่รู้ว่าอิยาจะรับได้หรือเปล่า แต่ก็พยายามรักษาตามแบบชามู ถ่ายกระแสจิตของตนเข้าไป ทว่าแม้ทำอย่างนั้น นัคทาก็ไม่หาย สุดท้ายเขาตัวร้อนจนเพ้อออกมา โคเวนฟังไม่รู้เรื่อง ไม่ทราบเขาเพ้อถึงอะไร จึงได้แต่ถ่ายพลังให้ เขากลัวเพื่อนตาย ไม่กล้าจากไป ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
... นัคทาตื่นขึ้นกลางดึก เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไรแล้ว ทราบเพียงว่ามืดเท่านั้น ชายหนุ่มรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เขาลุกขึ้น ชะงักชั่วครู่ แต่กลับไม่รู้สึกกลัว ชาวอิยามองฝ่าความมืดไปเห็นโคเวน ...โคเวนนั่งฟุบอยู่ข้างเตียง หลับไป เขาก็ไม่ได้ปลุกเพื่อนขึ้นมา ร่างกายของเขาเปลี่ยน...เปลี่ยนสาหัสจนในที่สุดก็หยุดเปลี่ยนแปลงแล้ว ไข้หายไปราวปลิดทิ้ง พลังกลับคืนมา...อาจจะมากกว่าปรกติเสียอีกกระมัง นัคทารู้สึกได้ชัดเจนว่าทุกอณูของตนเปี่ยมล้นไปด้วยพลัง และหลังจากนิ่งอยู่ชั่วครู่ บางสิ่งก็ราวหลั่งไหลเข้ามาในสมอง ...สิ่งแปลกประหลาดอย่างยิ่ง ราวสติปัญญาแต่โบราณกาล ราวความตระหนักรู้ ราวความเข้าใจ ราวกับความฝันเมื่อคืนก่อนได้กลายเป็นความจริง...ธรรมชาติและนัคทาไม่ได้แยกออกจากกันอีกต่อไป และไม่ทราบทำไม เขาก็รู้แล้วว่าตนได้เติบโต นี่คือการเติบโตเต็มที่ของอิยา ก่อนนี้เป็นแต่หนอน เวลานี้ผ่านความทุกข์ทรมานยาวนานแล้ว ก็พ้นจากดักแด้กลายเป็นแมลง นี่ต่างหากเล่าคือตัวตนที่แท้ สิ่งที่อิยาควรเป็น นี่คือขุมสมบัติที่สูญหายไปนานแสนนาน
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
1 เม.ย. 53 13:38:43
|
|
|
|