Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
รักเธอต้องวัดใจ - 4  

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9030556/W9030556.html

บทที่ 4

นอกหน้าต่างรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ แผ่ทะมึนด้วยม่านความมืด

มันผ่านตาไปอย่างรวดเร็ว สลับกับแสงสว่างวูบวาบจากเสาไฟ และหน้ารถคันที่ขับสวนมา

เธอนั่งน้ำตาไหลไปเงียบๆ แล้วแต่ว่ารถคันนี้ จะขับเคลื่อนไปไกลแค่ไหน

เจ้าของรถอาจจะจอดลงตรงนี้ แล้วเธอก็คงรบเร้าให้เขาเมตตามากไปกว่านั้นไม่ได้

จะว่าไปแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ ก็มีเมตตาต่อเธอมากเกินไปด้วยซ้ำ

อุตส่าห์พาเธอหลบความชุลมุนในโรงแรมออกมาได้สำเร็จ ยอมตามใจพามาแวะบ้าน

เพื่อให้เธอได้แอบไปซ่อนเงินกับจดหมายสั้นๆ ไว้ในตู้กับข้าว

หวังว่าเมื่อมารดาหรือน้องชายมาเปิดเจอ ก็จะเข้าใจว่า ทำไมเธอต้องหนีไปซ่อนตัวสักระยะ

ชายหนุ่มเปิดเพลงสากลเก่าๆ ขับไล่ความเงียบ เขาขับรถไปพลาง เคาะนิ้วตามจังหวะไปพลาง

บางครา ยังได้ยินฮัมในลำคออย่างมีความสุข เธอเองก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก

ความรู้แค่ชั้นมัธยมปลาย แค่อ่านออกเขียนได้ก็นับว่าหรูแล้ว

“พี่จ๋า นี่เราจะไปไหนกัน หนูว่าเราออกจากกรุงเทพมาไกลมากแล้วนะคะ ทำไมพี่ไม่ปล่อยให้หนูลงตรงไหนสักแห่ง”

“เหลวไหล”

จารวีเอ็ด

“ค่ำมืดดึกดื่น จะลงไปเดินท่อมๆ ให้จิ๊กโก๋ลากไปโทรมหรือยังไง ไปกับฉัน อาจจะอึดอัดหน่อย แต่ก็ปลอดภัยเต็มร้อย เพราะฉันไม่มีนิสัยเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย”

“แล้วพี่จะไปไหนหรือคะ”

“ประจวบ”

“ถ้าอย่างนั้น หนูก็ลงที่นั่นก็ได้ค่ะ”

จารวีก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน คงช่วยเหลือกันได้แค่นี้แหละ เงินในกระเป๋าก็แบ่งให้ไปแล้ว

หวังว่าเธอจะใช้ความอดทนฟันฝ่าอุปสรรคไปเจอเส้นทางสายใหม่ที่สวยงามกว่า

ป่านนี้ เสี่ยบุญพร้อมจอมหื่น คงโดนหามไปนอนหยอดน้ำเกลือในโรงพยาบาลแล้ว

ตำรวจก็คงตามหาคนร้าย เพราะเสี่ยชั่วให้การเฮงซวยเป็นบ้า พนักงานโรงแรมคนหนึ่งเล่าให้เขาฟังว่า

“ได้ยินว่าเป็นสาววัยรุ่น อ้างว่ามาส่งแว่นตา พอเสี่ยให้เข้ามา ก็ทำทีบ่นว่าเหนื่อยบ้าง เมื่อยบ้าง เสี่ยก็ใจดีสั่งอาหารมาเลี้ยง แต่พอเผลอ แม่ตัวแสบนั่นก็ฟาดกบาลให้เลย ได้ยินว่าบัตรเครดิตหายด้วยครับ เฮ้อ เด็กผู้หญิงสมัยนี้นี่ก็เก่งจริงๆ ใจกล้าชะมัด”

เขาเก็บมาเล่าต่อให้สาวแปลกหน้าฟังด้วย เธอร้องโวยวายใหญ่เลยว่า ‘ไม่จริง’ เขาก็เชื่อเธอนั่นล่ะ

เพราะตอนเธอพรวดพราดเข้ามาในห้อง ก็มีแต่ตัวกับเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเท่านั้น แถมยังมีบาดแผลเต็มตัวอีก

ตำรวจก็ได้แต่ฟังความข้างเดียวไป แล้วทายว่าคงจะเชื่อสนิท เพราะพนักงานโรงแรมคนเดิมยังเล่าเพิ่มเติมว่า

“น่าสงสารเสี่ยนะครับ ผมเองก็เพิ่งมาทำงานที่นี่ แต่คนเก่าๆ ก็บอกว่า เสี่ยเป็นคนใจดี ชอบแจกเงิน ชอบช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก ชอบทำการกุศลบริจาค ที่สำคัญนะครับ ยังเป็นเพื่อนกับเจ้าของโรงแรมด้วย แถมนะครับ ยังเคยให้เงินทุนกับเจ้าของโรงแรมมาปรับปรุงผับใต้ดินด้วย”

คนดีขนาดนั้น ตำรวจคงไม่เชื่อหรอกว่า หลอกสาวหน้าซื่อตาใสคนนี้เข้าไปปล้ำ

มันก็เหมือนอย่างที่เธอเปรยขื่นๆ นั่นล่ะ ‘ไม่มีใครฟังเสียงของคนจน’




ประมาณตีห้าเศษ จารวีก็มาถึงจุดหมายปลายทาง เขาเห็นรถตู้จอดอยู่ในใต้ต้นไม้หน้าบ้านพักที่ยังปิดไฟมือตื๋อ

จึงขับไปจอดเคียง แล้วดับเครื่อง พลางหันไปเขย่าตัวปลุกสาวร่วมทาง เธอก็ตื่นแบบรวดเร็วทันใจ

ไม่มีท่าทางงัวเงียให้เห็น แถมยังลุกลี้ลุกลนลงจากรถ เพราะคงเข้าใจว่า ต้องแยกทางกันแล้วล่ะ

“ฟ้ายังไม่สางเท่าไหร่ ขึ้นบ้านก่อน”

เขาบอกไปเบาๆ วูบหนึ่ง ก็พลันรู้สึกสงสารหน้าซื่อใสกับตาแป๋วที่จ้องประสานไร้มารยา

เธอยังรีบผงกศีรษะเชื่อฟัง น่ารักน่าเอ็นดูเสียจน ‘หัวใจเต้นแปลกๆ ‘

“บ้านของพี่หรือคะ”

เธอถามขณะขึ้นบันไดตามหลัง

“บ้านพักชั่วคราวที่ทางบริษัทเช่าให้พัก ระหว่างมาทำงานน่ะ”

“หลังใหญ่เหมือนกันนะคะ แล้วพี่พักคนเดียวหรือคะ”

จารวีส่ายหน้าในความมืด พลางเคาะประตูปลุกคนข้างใน สักพักก็ได้ยินเสียงกุกกัก แล้วตามด้วยแสงไฟสว่างทั่วบ้าน

สาวตัวเล็กค่อยเขยื้อนไปยืนหลบด้านหลังหนุ่มตัวสูง แล้วยื่นเฉพาะหน้าออกไป กระทบกับแสงตางัวเงียของคนเปิดประตู

“อ้าว นายเจีย ทำไมเพิ่งจะโผล่มาวะ”

คนเปิดประตูและเจ้าของคำถาม ก็คือ เนื่องหัตถ์ เพื่อนหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเงียบขรึมที่สุด

แต่ขณะเดียวกัน ก็มักจะได้รับความเกรงใจจากเพื่อนทุกคนในกลุ่มไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าจารวี

“เดี๋ยวค่อยเล่า เอ้า เข้าไปสิ”

เขาหันไปดึงต้นแขนสาวร่วมทาง รุนให้เข้าข้างใน ตัวเองก็ช่วยเพื่อนปิดประตู

เนื่องหัตถ์ทำหน้าแปลกใจ ขณะมองตามร่างเล็กของสาวแปลกหน้าไปจนถึงห้องโถงกว้าง

ซึ่งวางแค่ชุดรับแขกไม้ แต่ก็ไม่ค่อยจะมีแขกโผล่มาให้รับ

นอกจากคนในบ้านนั่งกันเอง ซึ่งก็ใช้นั่งหารือเรื่องงานเสียมากกว่า

“นี่พี่เนื่อง”

จารวีบอกสาวร่วมทาง รอจนเธอยกมือไหว้เพื่อนแล้ว เขาก็ค่อยบอกเพื่อน

“นี่แพขิม เก็บมาได้ข้างทาง”

“นายเจีย”

เนื่องหัตถ์ทำเสียงเหมือนตำหนิ

“โอ้ ได้โปรดได้ไหม ฟ้ายังไม่สาง อย่าทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้เจอแม่ก่อนเลย มีอะไรไว้คุยหลังจากฉันตื่นก็แล้วกัน ตอนนี้ง่วงมาก มาทางนี้แพขิม”

จารวีตัดบทกลั้วยิ้มเซ็ง เขาง่วงและอยากจะหลับมากกว่าสาธยายที่มาที่ไป ที่ควงสาวแปลกหน้ามาด้วยให้เพื่อนฟัง

ร่างสูงออกเดินก่อน เนื่องหัตถ์จึงรีบเดินตาม แล้วแซงหน้าเพื่อนหนุ่มมาถึงห้องพัก

อีกฝ่ายก็ไม่พูดมาก เปิดประตูพรวดเข้าไป หยิบหมอนมาหนึ่งใบ แล้วสั่ง

“นอนพักสักสองสามชั่วโมง แล้วพรุ่งนี้ ฉันจะพาไปส่งแถวๆ ตลาด ไปเว้ย”

คนหนุ่มว่าจบ ก็หันไปชวนเพื่อนออกจากห้อง เนื่องหัตถ์ดึงแขนไว้ พยายามจะซักไซ้ให้ได้

แต่จารวีก็คร้านจะอธิบายในยามง่วงจัด เขาโยนหมอนลงบนพื้น แล้วทอดตัวนอน หลับตาเลย

ยังได้ยินเพื่อนถอนหายใจ ก่อนเสียงฝีเท้าจะห่างออกไป สักพัก ภายในบ้านก็กลับคืนสู่ความมืดดังเดิม




แปดโมงเช้ากระมัง เสียงสนทนากลั้วหัวเราะ กับเสียงแก้วเสียงช้อน ไหนจะเสียงถาดเสียงถ้วย

แลจะประสานกันดัง เพื่อปลุกคนนอนหลับให้ตื่น จารวีพลิกกายจากนอนตะแคงเป็นนอนคว่ำ

พาสองแขนสอดใต้หมอน กดหน้าอัดลึกลงในความนุ่มของฟองน้ำ แต่สุดท้ายก็ต้องดีดตัวมานั่ง

สลัดใบหน้าสองสามที สองตาไม่ได้อวดความงัวเงีย นอกจากคมกับดุอยู่สองอย่าง

“เอ้า ไอ้หนุ่มปากเสีย ตื่นแล้วหรือจ๊ะ”

“ไอ้เวร”

จารวีเลยสนองความทะเล้นเข้าให้ ธนาหัวเราะชอบใจใหญ่ แถมยังใช้ปลายเท้าสะกิดต้นขา

เร่งให้เพื่อนลุกไปอาบน้ำอาบท่าเสียที จะได้กินอาหารเช้า

“อาหารเช้า”

จารวีทวนงงๆ

“อ้อ เดี๋ยวนี้ พวกแกมีอาหารเช้าด้วยหรือ ดัดจริตตั้งแต่เมื่อไหร่ ทุกทีก็เห็นตื่นแต่ไก่โห่ แล้วไปโม่ปากอยู่ในตลาดร้านอาโกไม่ใช่หรือ”

“เฮ้ย นั่นมันโบราณแล้วเว้ย ยุคนี้ยุคใคร ดูเสียก่อน”

กนกก็โผล่หน้ามา กอดคอเพื่อนจอมเจ้าชู้ด้วยกัน

“ยุคจารวีมีฝีปากเว้ย หัวหน้ากองก็เลยอนุมัติยอมให้เรามีแม่บ้านไว้ใช้สอย ดูแลกับข้าวกับปลา ซักผ้ารีดเสื้อ ถูบ้านกวาดห้อง แกอยากรู้จักแม่บ้านของพวกเราหรือเปล่าล่ะ ภูมิใจนำเสนอเว้ย”

แพขิมยกถาดไม้ตามเข้ามาสมทบ เธอยิ้มกว้างอย่างสดชื่น เมื่อเห็นจารวีตื่นแล้ว

แต่ไม่ทันสังเกตสีหน้าหงุดหงิดบึ้งตึง จึงร้องทักออกไปด้วยน้ำเสียงสดใสว่า

“พี่เจีย ตื่นแล้วหรือคะ”

“แล้วไอ้ที่ฉันนั่งอยู่แบบนี้ เธอนึกว่ายังไง ละเมอหรือ”

“อ้าว ไอ้ปากเสีย แกไปตะคอกน้องเขาทำไม คนเขาถามดีๆ ไอ้นี่พาล ลุกไปอาบน้ำเว้ย สายโด่งแล้ว ทุกคนเขารอแกอยู่คนเดียว เหมือนเมื่อคืนไง รอแกอยู่คนเดียว”

ธนาร้องด่า แล้วช่วยดึงแขนดึงขา จนคนหนุ่มร้องฮึดฮัดรำคาญ แต่ก็ยอมลุกขึ้น

แพขิมรีบเดินตามหลังมาจนถึงห้องพัก ทำให้เขาอดหันกลับไปมองอย่างแปลกใจไม่ได้ ก่อนจะถามว่า

“ตามมาทำไม”

“มาเตรียมเสื้อผ้าให้พี่เจียค่ะ อย่าถามมาก พี่ๆ ข้างนอก เขารอพี่เจียอยู่คนเดียว หนูเพิ่งรู้นะว่าพี่เจียเป็นหัวหน้าทีมชุดนี้ ฟังดูโก้มาก แล้วพี่เจียก็ใจดีมากด้วย ขอบคุณมากค่ะ ชาตินี้ทั้งชาติ หนูสัญญาว่าจะไม่ลืมบุญคุณที่พี่เจียมีต่อหนู หากต่อไปวันหน้า พี่เจียต้องการให้หนูทำอะไร พี่เจียบอกมาได้เลยค่ะ หนู.. “

“เดี๋ยวๆ “

จารวีงงจัด สาวร่วมทางพูดอะไรไม่เห็นจะเข้าใจ แล้วยังมากราบอกด้วยท่าทางซาบซึ้งนักหนาอีก

“เธอพูดอะไร บุญคุณอะไร ชาตินี้ชาติหน้าอะไรของเธอ”

“ก็ที่พี่เจียช่วยขอร้องหัวหน้ากองให้รับหนูเป็นแม่บ้านที่นี่ไงคะ หนูไม่รู้จะตอบแทนบุญคุณครั้งนี้ของพี่เจียยังไงดี นอกจากขอตั้งใจทำงานรับใช้พี่ๆ ทุกคนให้ดีที่สุด จะไม่ให้ขาดตกบกพร่องแม้แต่อย่างเดียว”

“อะไรของเธอ”

“อย่ามาทำไก๋อีกเลยค่ะ ไม่เนียนสักนิด ไปค่ะ อาบน้ำ เดี๋ยวหนูเตรียมเสื้อผ้าให้ดีกว่า”

จารวีโดนรุนหลังหายเข้าไปในห้องน้ำ แพขิมก็ยืนหัวเราะเบาๆ ด้วยความชื่นใจ

หากไม่เกรงใจว่าเขาเป็นผู้ชายละก็ เธอจะกอดรัดให้สาสมกับความชื่นใจ ตื้นตันใจ

และซาบซึ้งในบุญคุณ ที่เขามีจิตเมตตาคนตกทุกข์ได้ยากอย่างเธอในครั้งนี้

เวลานี้ เธอก็คงต้องลอยคอตามกระแสน้ำไปก่อน ในเมื่อเหตุการณ์มันออกมาในรูปนี้แล้ว

จะฝืนดึงดันกลับกรุงเทพไปเผชิญหน้ากับความผิดที่ตนไม่ได้ก่อก็ใช่ที่

ติดคุกติดตะรางไป ครอบครัวก็จะลำบากกว่านี้ แม้จะต้องทำหน้าที่แม่บ้านอยู่ที่นี่

เงินเดือนไม่มากมายเท่ากับร้านขายแว่นตา แต่มันก็ยังดีกว่าซัดเซพเนจรไปตามบุญตามกรรมตามลำพัง

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 53 16:33:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com