ความคิดเห็นที่ 1 เค้าว่าเป็นไซต์ที่นักท่องเที่ยวนิยม วิวสวย เราก็เลยไปกัน หลังจากไปเห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารอิยิปต์โบราณเก่าแก่หลายพันปี มาเห็นของยุคใหม่ๆบ้างนี่จืดไปเลย จริงๆก็ถือโลนลี่ไปแต่ไม่มีอารมณ์อ่านหาความรู้ใส่สมองซักเท่าไหร่ ไปถึงเจอทัวร์ไทยลง ถ่ายรูปกันเจี๊ยวจ๊าว เราก็เลยเก็บๆอาการกัน ไม่ค่อยฮา อายคน (ไปแอบดูคนอื่นโพสท์ท่าแทน) นี่ด้านนอกก่อนทางเข้าวิหาร จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 03:55:44

ความคิดเห็นที่ 2 ก่อนเข้าเค้าให้ถอดรองเท้าค่ะ ข้างในเป็นพรมๆ มีไฟแขวนกันระย้าย้อย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 03:59:46

ความคิดเห็นที่ 3 ด้านบนมีหลายโดมดูแปลกตา จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:00:05

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวแท่นบูชา ผนังด้านหลังเป็นหินอ่อน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:27:17

ความคิดเห็นที่ 5 ทะลุจากตัวโบสถ์เข้าไปด้านในได้อีก มีทางเดินรอบๆคล้ายศาลาราย มีศาลาอยู่ตรงกลาง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:27:36

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนเดินออกเจอเด็กกลุ่มใหญ่มาทัศนศึกษา เรากลายเป็นตัวประหลาดอยู่แล้ว มีเด็กแห่กันมาดู ร้องเรียกฮาโลๆกันใหญ่ ว้อสยัวร์เนม บลาๆ คนใจกล้าหน่อยก็คว้ากล้องขึ้นมาถ่ายรูปพวกเรา พวกนี้เล่นด้วยหน่อยนี่ไม่ได้เลย เรายิ้มแล้วโบกมือให้ ไอ้เด็กแก่ตัวหัวโจกเอางูยางมาโยนใส่กันซะงั้น เผอิญจิตแข็งเลยไม่ตกใจ เพื่อนเราแกล้งทำเป็นตกใจ เด็กฮากันใหญ่ น้องหนูๆบางคนเดินมาซะใกล้ มาทำท่าเต๊ะจุ๊ยกะให้ถ่ายรูปเต็มที่ กว่าจะฝ่าฝูงเด็กออกมาได้ก็ทั้งเหนื่อยทั้งขำ ทางออกด้านนอกสุดดูคล้ายป้อมปราการ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:27:54

ความคิดเห็นที่ 7 ออกจากซิทาเดลมาเราก็เรียกแท็กซี่ให้พาไป Khan el Khalili Bazaar อยากไปเดินดูตลาดแบบพื้นเมืองซักหน่อย ตลาดนี้อยู่ในส่วนของ Islamic Cairo และแล้วก็ได้รู้ซึ้งว่าที่เรียกว่าแท็กซี่นรกนั้นมีจริง เราขึ้นไปต่อราคาไว้ราคาหนึ่ง เค้าก็โบกๆมือให้ไปขึ้นรถอีกคัน พอขึ้นไปปุ๊บคนขับก็โก่งเกือบสองเท่า เราก็บอกว่าสต็อป เราจะลง เท่านั้นแหละท่านผู้ชม มันเหยียบคันเร่งเข้าถนนใหญ่เลยครับท่าน เราบอกสต็อปอีกตั้งหลายรอบ มันก็ตะคอกกลับดังลั่น บอก รีแลกซ์ๆ ไอโนอาลีบาบา ไอกู้ด เหอๆๆ อะไรของมัน บอกว่าไอไม่รับคนโลโค่นเลยนะ ทัวริสโอนลี่ ทำมาสามสิบปีแล้ว โหลุง สามสิบปีภาษาไม่กระเตื้องเลย พอผ่านนู่นผ่านนี้ก็พยายามจะชี้แต่พูดก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง พูดเสร็จก็หันมาถามยูอันเดอร์แสตนด์ ดังๆซ้ำๆหลายๆรอบจนเราต้องอือออห่อหมก แล้วเค้าก็จะเปลี่ยนคำถามใหม่ แล้วก็ยูอันเดอร์แสตนด์ใหม่ ขับรถก็น่าหวาดเสียวเหลือหลาย ขับๆไปก็หันมา มายดอเทอร์ สคูล เพน ๆ ๆ พูดซ้ำมาหลายรอบมากจนรำคาญ กะว่าเฮียแกขอปากกาจะเขียนชื่อโรงเรียนลูกให้ดูหรือไง พอยื่นปากกาไปเท่านั้นแหละครับ เฮียเก็บไปเลยแล้วหันมาแต๊งกิ้ว อ้าว แล้วกัน ขอปากกาไปให้ลูกเรียนหนังสือหรอกเหรอ ปากกาหมึกเจลช้านนน ขอคืนก็ไม่ให้ โอ้ย จะบร้าตาย กว่าจะไปถึงที่นี่ลมปราณแตกซ่าน ต่อราคาไปลงตัวที่คนละครึ่ง แถมเราต้องเอาปากกาอีกด้ามไปขอแลกหมึกเจลสุดหวงคืนมา ไม่นับว่าตอนลงถึงพึ่งรู้ว่าลุงมาปล่อยไกลเป็นโยชน์ให้เดินเอาเองเหงื่อซ่ก แม่เจ้าาาาาา แท็กซี่บ้านนี้เมืองนี้ เกินบรรยาย เนี่ย ปล่อยลงตรงเนี้ย แล้วตลาดช้านอยู่หนายยยยย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:28:20

ความคิดเห็นที่ 8 เถียงกับแท็กซี่จนเหนื่อยก็ต้องเติมพลังกันมั่ง เราเริ่มจากไปเดินหาร้าน Khan el-Khalel restaurant ร้านนี้ที่โลนลี่เลือกสรรค์ ไปถึงก็เจอกับความรู้หราอลังการราวโรงแรมห้าดาวไม่ปาน แอร์เย็นฉ่ำ ขัดกับบรรยาการพื้นเมืองๆที่ต้องการ เราก็เลยเชิดใส่ เดินออกไปนั่งร้านข้างฟุตบาท คือร้าน Al-Halwagy ที่มีในโลนลี่เหมือนกัน แถวตลาดมีตรอกซอกซอยเล็กๆวุ่นวาย กว่าจะหาจากแผนที่เจอก็ใช้พลังงานอีกโข นี่ขนาดมากับหนุ่มๆที่เก่งเรื่องดูแผนที่ มาเองนี่ยอมแพ้ไปนานแล้ว ร้านนี้ไม่ทำให้เราผิดหวัง อาหารพื้นๆอย่างเคบับ ชวามา พาลาเฟลก็ทำได้รสชาติดี ราคานี้ก็ย่อมเยา ที่ติดใจเป็นพิเศษก็เจ้าน้ำฮิสบิสคัสที่วันนี้มาในรูปแบบเย็น ชื่นใจ พอสู้กับอากาศร้อนแดดเปรี้ยงกับเค้าได้บ้าง รสชาติแบบเย็นนี่ก็เหมือนน้ำกระเจี๊ยบบ้านเราดีๆนี่เอง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:28:41

ความคิดเห็นที่ 9 อิ่มกันเสร็จก็เดินเข้าไปนั่งชิลต่อในร้านกาปฟที่เก่าแก่ที่สุดคือร้าน Fishawi คนนั่งสูบชิชากันปุ๋ยๆมากมาย แถมมีฝรั่งมาถ่ายสารคดีอยู่หน้าร้าน มีกล้องไมค์ตัวยักษ์เดินตามไปมาอีกด้วย เชื่อแล้วว่าฮิต บรรยากาศร้าน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:29:02

ความคิดเห็นที่ 10 เราก็สั่งกาแฟ สั่งน้ำมานั่งจิบกัน น้ำมะม่วงที่นี้เต็มเนื้อเต็มหนังมาก ข้นคลั่กได้ใจ น้ำสตอเบอรี่ก็อร่อย ส่วนคุณพี่ยังติดใจน้ำกระเจี๊ยบไม่หายสั่งมาซดอีกคำรบหนึ่ง จิบกันเพลินๆ ถูกรมควันเพลินๆก็เลยสั่งชิชามาลองดูดกะเค้ามั่ง ไหนๆชั้นจะต้องถูกรมควันแล้ว เอามาดูดเองเลยเป็นไง เราดูดไม่เป็น ควันไม่ออก เพื่อนๆก็ฮากันไป จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:29:26

ความคิดเห็นที่ 11 ดับกระหายแล้วก็ออกมาสู้แดดร้อนเปรี้ยงกันอีกครั้ง บรรยากาศตลาดคึกคัก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:29:48

ความคิดเห็นที่ 12 ของขายก็มีสากกระเบือยันเรือรบ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:30:07

ความคิดเห็นที่ 13 ที่นี่มีทั้งส่วนที่เป็นตลาดเครื่องเทศ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:30:28

ความคิดเห็นที่ 14 และตลาดเครื่องเงินเครื่องทอง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:30:46

ความคิดเห็นที่ 15 คนที่นี่ก็ชอบหัวหมอ แบบเห็นเอากล้องเล็งปุ๊บก็แบมือขอตังค์ทันที เราก็บอกว่ายังไม่ได้ถ่ายก็มาบอกว่าล้อเล่นจ้า ถ่ายได้ พอกดถ่ายเท่านั้นแหละ แบมือบอกว่าถ่ายแล้วนะ จ่ายมาได้ เป็นงั้นไป ว่าจะซื้อของสักหน่อยก็เลยไม่กล้าซื้อเพราะคนที่นี่เรียกลูกค้ากันดุดันเหลือเกิน เรียกว่าเดินตามตื้อกันเลยเชียวล่ะ วิธีเรียกก็เดิมๆ Hey Japan! Hey China! Ni Hao! ไรงั้น ไม่อยากเปลืองแรงเถียงต่อราคา งานนี้เลยได้มาแต่รูป จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:31:08

ความคิดเห็นที่ 16 อันนี้ชอบมาก เด็กส่งขนมปังค่ะ หัวแข็งนะนี่ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:31:31

ความคิดเห็นที่ 17 ร้อนๆ เหนื่อย ๆ เซ็งๆ แล้วก็หมดแรงตบกับแท็กซี่ เราก็เลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะไป Coptic Cairo ไปดูโบสถ์ต่างๆ มุ่งตรงไปที่ Egyptian museum เลยแทน พอถอดใจแล้วก็กลับได้คนขับแท็กซี่เรียบร้อย เห็นเด็กๆขึ้นก็ถามฟังเพลงมั้ย เราก็พยักหน้ากันไป ปรากฏเฮียฮิปมาก เปิดฮิปฮอบแร็ฟโย่ ต่อบริทนีย์กะเอวริลให้ด้วยเลย เปรี้ยวได้ใจ ถึงหน้า Egyptian museum โดยไม่เปลืองน้ำลายก็ได้เข้าไปชมวัตถุโบราณกันอย่างฉ่ำปอด งานนี้เค้าเข้มงวดมาก กล้องต้องฝากไว้ข้างนอก แสกนเจอนี่ต้องออกไปฝากใหม่ แหม พวกกล้องใหญ่ๆแพงๆนี่แอบเสียวกันกลัวตกกลัวหาย แหม แต่สมัยนี้มือถือก็เป็นกล้องนะ ยังจำได้ว่าตอนไปสุสานกษัตริย์เจ้าน้องชายเราโดนเดินเข้ามาตบประเป๋ากางเกง แล้วให้เอาโทรศัพท์มากดไฟล์รูปให้ดู จะกดให้ก็ไม่ยอมบอกว่าต้องส่งให้เค้าไปดู ตอนแรกกำลังกลัวว่าจะเป็นมิจฉาชีพแฝงรอยทำทีเป็นเจ้าหน้าที่มาขโมยมือถือ เถียงกันนานมาก ให้ดูรูปจนหมดเครื่องแหละเค้าถึงเชื่อว่าไม่ได้ถ่ายแล้วคืนโทรศัพท์ เข้าไปใน Egyptian museum แล้วก็เห็นคนเอามือถือขึ้นมาถ่ายซึ่งๆกันตรึม ทีอย่างนี้ไม่มายืนตรวจ ข้างในมีมัมมี มีวัตถุโบราณ มีเครื่องทอง มีโลงศพเยอะมาก เยอะจนเรียกว่าเหมือโกดังวางกองๆมากกว่าจะเป็นมิวเซียม ป้ายบอกชื่อก็เป็นลายมือเขียน กระดาษเหลืองเชียว ตู้ก็เก่าสุดๆแทบจะผุ งานนี้ไม่มีไกด์เลยหมดสนุกไปเลย ได้แต่นั่งดูรูปเทพเล่น ก็ดูเป็นแล้วนี่นา เวลาเห็นของที่ล้ำค่าที่สุดของอิยิปต์ไปโผล่ที่ลูฟบ้าง บริติชมิวเซียมบ้างก็แอบเศร้านะ ไม่นับพวกชิ้นที่ยังตบกันอยู่อย่างรูปปั้นเนเฟอร์ติตี้ที่อยู่ที่เบอร์ลิน หรือมัมมี่พระศพของฟาโรห์องค์สำคัญๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ตามประเทศต่างๆ อย่างฮัทเชปชัทนี่รูปปั้นเด็ดๆก็มาอยู่ที่เดอะเมทนิวยอร์คหรือเอมเอฟเอที่บอสตันตรึม ตอนเดินไปเจอยังอึ้งๆเลย แต่มาเห็นอย่างนี้ก็ต้องยอมรับว่าเวลาไปอยู่ที่อื่นเค้าก็จัดแสดงได้ดูดีกว่าจริงๆอิยิอปต์อาจจะมีของมากเกินแล้วก็งบไม่พอดูแล แต่จริงๆถ้าจำลักซอร์มิวเซียมกันได้ อันนั้นก็จัดดีมาก สวยไม่แพ้ต่างประเทศเลยจริงๆ นอกเรื่องกันหน่อย ใครเห็นข่าวนี้บ้าง ขำไปมั้ยนี่ แม่คลั่ง!!! ทำศัลยกรรมงบฯ บานเบอะ เชื่อตัวเองเป็น"ราชินีเนเฟอร์ติติ" ...ถังแตกให้ลูกออกจาก ร.ร. http://matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1270618742&grpid=&catid=08 ห้องที่น่าสนใจมาก็คือห้องของฟาโรห์ตุตันคามุน (Tutankhamun) ลูกของ Nefertiti กับ Akhenaten คนที่เปลี่ยนศาสนาให้ชาวอิยิปต์มานับถือเทพ Aten เป็นเทพองค์เดียวแทนการนับถือเทพอมุนราและเทพเทพีอื่นๆอีกกว่าสามร้อยองค์ตามความเชื่อสมัยนั้น ถ้าจำกันได้ เราเล่าว่าผู้คนต่อต้าน Akhenaten เป็นอย่างมาก ดังนั้นพอ Tutankhamun ครองราชย์ Tutankhamun จึงให้ประชาชนกลับมานับถือเทพอมุนเหมือนเดิม เกร็ดที่น่าสนใจ เล่าโดยคุณไกด์สุดเนิร์ดจากตอนที่แล้วก็คือ จริงๆ ชื่อเดิมของ Akhenaten คือ Akhenamun (เพราะนับถือเทพ Amun) เมื่อต่อมาเปลี่ยนไปนับถือเทพ Aten จึงค่อยเปลี่ยนชื่อเป็น Akhenaten ส่วน Tutankhamun ผู้ลูก พ่อตั้งชื่อให้ว่า Tutankhaten พอเปลี่ยนศาสนากลับจึงเปลี่ยนพระนามเป็น Tutankhamun เนี่ย ถามจริงๆ ถ้าไม่ได้ไกด์เนิร์ดแบบเรา จะมีใครบอกมั้ยเนี่ย อ่านเรื่องราวอิยิปต์เล่นมาตั้งนาน ไม่เคยสังเกต ไม่เคยได้ยินเลย ห้องนี้มีของน่สนใจหลายอย่าง ตั้งแต่โลงศพซึ่งคล้ายๆตุ๊กตารัสเซียคือจะทำโลงเล็กใส่ในโลงใหญ่กว่าไปเรื่อยๆหลายๆชั้น โลงทองคำมีรูปเหยี่ยวปกป้อง มี รูปเทพีไอซิสเทพีฮาเธอร์ครบ แถมมือยังถือสัญลักษณ์แห่งการปกครอง (authority) ที่เป็นตะขอกับแส้ปัดยุงอีกด้วย (ใครจำพวกรูปตามฝาผนังวิหารได้จะเห็นโอสิริสถือไอ้นี่อยู่ประจำ) ดึงรูปมาจากกูเกิ้ล แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 04:56:39 จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:31:59

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้หน้ากากทองที่เห็นบ่อยและโด่งดัง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:32:54

ความคิดเห็นที่ 19 จบมิวเซียมไปเรียบร้อย คุณพี่ก็ไม่สบายไปหนึ่ง ไม่รู้กินเยอะไปหรืออย่างไรเกิดอาการจุกเสียด เราก็เลยคว้าแท็กซี่กลับโรงแรมไปนั่งอืดพุงดูรูปกัน พอคุณพี่เค้าดีขึ้นก็ค่อยออกหากิน เอ้ย ออกไปตระเวณหาร้านอาหาร คราวนี้เลือกร้านใกล้ๆ จะได้ไม่ต้องตบกับแทกซี่ ใช้เดินไปเองเลย เนื่องจากเริ่มเอียนอาหารอิยิปต์ วันนี้เลยมาแนวอิตาเลียน (สมนาคุณโดยโลนลี่) คือร้าน L’Aubergine ร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์น พาสต้าที่สั่งมาก็อร่อยสุดใจทุกอันเลย ปลื้ม เสร็จแล้วก็ออกไปสนามบิน ก่อนจบก็ยังมีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกจนได้ด้วยความที่ว่าชัทเทิ้ลที่จองไว้ไม่มารับที่โรงแรม แถมเรามีกันเหลืออยู่ห้าคน (อีกสองบินออกไปก่อนช่วงบ่าย) รถแทกซี่ไซส์ใหญ่ก็หายาก ในที่สุดกลายเป็นเวลาจวนตัว ต้องทุลักทุเลเบียดกันห้าคนในรถกระป๋องหนึ่งคัน กระเป๋าก็ใส่ท้ายรถไม่พอ คนขับเอาขึ้นหลังคารถเลยจ้า หลังคามีไอ้รางๆมีขอบ แต่เฮียไม่มัด แล้วก็ขับฉวัดเฉวียนขึ้นทางด่วน ไอ้เราก็สุดเสียว จะบอกให้ขับช้าก็กลัวตกเครื่อง จะให้ขับเร็วเดี๋ยวกระเป๋าก็จะหล่น ได้แต่นั่งสวดมนต์ภาวนา งานนี้ไปถึงสนามบินเฉียดฉิว รอดมาได้เพราะใช้บัตรทองเบ่งเช็คอินเลนพิเศษอย่างรวดเร็ว ไปถึงอัมมานก็มีคนขับรถเป็นลุงตัวโตอารมณ์ดีมารับไปส่งโรงแรม นอนพักกันให้อิ่มก่อนลุยจอร์แดนกันต่อ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:33:20

ความคิดเห็นที่ 20 เช้าแรกในจอร์แดน เราก็เริ่มโปรแกรมกันไม่รอช้า เริ่มจาก Citadel หรือ Jabel al-Qul’a ซึ่งเป็นภูเขาสูงใจกลางเมืองอัมมาน ที่นี่เราจะได้เห็นสิ่งก่อสร้างของหลายๆอารยธรรมเพราะ Citadel นี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมืองแห่งนี้ตลอดมาเป็นเวลาร่วมเจ็ดพันปี (ถ้าเชื่อวิกิ) และแถบนี้นี่เองที่เป็นต้นกำเนิดทั้งศาสนายิว คริสต์ และอิสลาม จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:33:56

ความคิดเห็นที่ 21 ไปถึงก่อนรถทัวร์จะลงแป๊บเดียว เลยโชคดีได้รูปไม่ติดคนมา จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:34:16

ความคิดเห็นที่ 22 สุเหร่านี้ตัวโดมเป็นของใหม่หลังจากบูรณะแล้ว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:34:39

ความคิดเห็นที่ 23 วิวเมืองอัมมานจากยอดเขา วันนี้อากาศหนาว ฟ้าขมุกขมัว ถ่ายรูปไม่สวยเลย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:35:01

ความคิดเห็นที่ 24 ซูมดีๆจะเป็น Theatre ใหญ่ยักษ์จากอีกฟากของเมือง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:35:27

ความคิดเห็นที่ 25 ที่เห็นธงนี่คือธงที่อยู่บนยอดเขาอีกฝั่ง เห็นว่า เป็น Free standing Flag ที่สูงที่สุดในโลกด้วย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:36:01

ความคิดเห็นที่ 26 ถัดมาเราก็ไปแวะ Jerash เป็นซากปรักหักพังจากยุคโรมัน อัมมานพยายามจะทำให้เป็นจุดขาย ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาไกด์ แต่ถามราคาเข้าจริงๆแล้วปาเข้าไปถึงยี่สิบ JOD (1JOD = 0.7 USD) เราก็เลยยอมแพ้ เดินดูเองก็แล้วกัน ที่น่าสนใจหน่อยก็มี colonnaded street เป็นถนนสายยาวที่มีเสาโรมันตั้งอยู่ทั้งสองด้าน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:36:28

ความคิดเห็นที่ 27 ปีนเขาขึ้นไปดูวิหารของอาร์เทมิส ใครสนใจเรื่องเทพปกรณัมกรีกโรมัน ตามไปอ่านได้ที่บล็อกของข้าพเจ้านะเคอะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=mneme&date=05-10-2009&group=10&gblog=2 ไม่ค่อยจะเนียนในการโฆษณาเล้ยยย เหะๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:36:50

ความคิดเห็นที่ 28 จบด้วยการไปนั่งชมเด็กๆชาวจอร์แดน (เด็กวัยรุ่น) มาสเต็ปแดนซ์เพลงพื้นเมืองอยู่ที่ Theatre จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:37:11

ความคิดเห็นที่ 29 เพลงบรรเลงโดยคุณลุงปี่สก็อตสามคนทางขวา จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:37:33

ความคิดเห็นที่ 30 ใกล้เที่ยงลุงคนขับก็คะยั้นคะยอให้ไปกินบุฟเฟต์ร้านลุงเชิญชิม โน้มน้าวสารพัดว่าเมืองหน้าไกลแต่เราก็ยังยืนกรานรอเพราะมีร้านโลนลี่ในดวงใจรออยู่ คุณลุงหัวเสียนิดๆ สงสัยอดได้เปอร์เซนต์คอมมิชชั่นแต่ก็ขับลุยกันต่อไป ไปถึงร้านต่อไปใช้เวลาครึ่งหนึ่งของที่ลุงบอกไว้ ร้านนี้ชื่อร้าน Haret Jdoudna (เอิ่ม อย่าให้เราพยายามออกเสียง) นั่งปุ๊บเราก็เปิดโลนลี่แล้วก็สั่งทุกอย่างตามที่โลนลี่แนะนำทันใด บรรยากาศร้าน จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:37:55

ความคิดเห็นที่ 31 น้ำมะนาวปั่นใส่มินต์ก็เด็ด จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:38:15

ความคิดเห็นที่ 32 อาหารร้านนี้อร่อยมากกกกกกกกกกกกก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:38:38

ความคิดเห็นที่ 33 รสชาติแปลกเฉพาะตัว อย่างเมนูนี้เป็นแป้งกรอบๆคล้ายๆแป้งเกี้ยวราดโยเกิร์ต อร่อยเกินบรรยาย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:39:09

ความคิดเห็นที่ 34 ส่วนอันนี้เป็นเนื้อลูกวัวกับมันฝรั่ง ซอสเข้มข้นมากๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:39:33

ความคิดเห็นที่ 35 ตบท้ายด้วยพุดดิ้งสุดโปรดที่เด้งๆนุ่มๆ กินกับลูกมะเดื่อเชื่อม ถ้าไม่นับร้านกุ้งเผาเราให้ร้านนี้อร่อยสุดเลยในทริป ปลื้มมากๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:39:57

ความคิดเห็นที่ 36 อิ่มท้องกันแล้วเราก็ไปโบสถ์ของเซนต์จอร์จที่เมืองมาดาบา ฝนเริ่มลงเม็ดโปรยปรายเพิ่มความหนาวเย็น จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:40:20

ความคิดเห็นที่ 37 ของดังของที่นี่คือแผนที่โมเสคยักษ์บนพื้นโบสถ์ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:40:51

ความคิดเห็นที่ 38 ต่อด้วยขับรถขึ้นเขาหน้าหวาดเสียว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:41:15

ความคิดเห็นที่ 39 เพื่อไปชม Moses Memorial Church ที่ Mt. Nebo กล่าวกันว่า ที่นี่โด่งดังเพราะพระสันตะปาปาสักองค์เดินทางมาแสวงบุญ เราเองไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับไบเบิ้ลเข็มแข็งนัก มาแถบนี้ก็เลยมึนๆ ไม่นับว่าตอนแรกเกือบได้ไปเยรูซาเล็มด้วยนะนี่ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:41:39

ความคิดเห็นที่ 40 ที่เด่นๆก็มีโมเสคใหญ่ๆ อันนี้ แล้วก็มีห้องจัดนิทรรศการซึ่งเราที่สมองบวมมาจากอิยิปต์แล้วรับความรู้ไม่เข้า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:42:09

ความคิดเห็นที่ 41 สต็อปต่อไปก็ถึงตาเราลงไปลอยตุ๊บป่องในเดดซีซักทีหลังจากที่รอมานาน แดดก็ไม่ค่อยมี ทะเลก็เลยเย็นสักหน่อย ป้าๆ ทางซ้ายก็เลยไม่กล้าลงอยู่นานสองนาน (นี่ถ่ายตั้งแต่ก่อนเราลง จนเราว่ายเสร็จป้าเพิ่งจุ่มกันไปครึ่งตัว) ส่วนลุงทางขวานอนเอกขเนกสบายเฉิบๆไปแล้ว จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:42:33

ความคิดเห็นที่ 42 แดดมีอยู่แค่เนี้ย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:42:56

ความคิดเห็นที่ 43 ก่อนลงทางโรงแรมก็มีโคลนใส่โอ่งมาให้พอกตัว เราก็แปะๆให้มันดำพอเป็นพิธี ส่วนคนใจกล้าๆก็ทามันทั้งตัวแบบนี้ไปเลย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:43:22

ความคิดเห็นที่ 44 ลงเดดซีนี่ให้ความรู้สึกประหลาดมาก มันแบบไร้แรงโน้มถ่วงอย่างแรง ว่ายไม่ไปเท่าไหร่อีกต่างหาก ยืนหรือว่ายไม่สมดุลเมื่อไหร่จะพลิกตัวหงายเก๋งทันใด อันนี้ต้องระวังน้ำเข้าตาเพราะมันเค็มจัดมากจะแสบสุดๆ ลองชิมแล้วมันเค็มจนขมเลย เค็มแค่ไหน มองลงน้ำแล้วเห็นความเข้มข้นเป็นสายๆ เหมือนน้ำเชื่อมข้นๆเลยทีเดียว เราก็ไม่วายอดเนิร์ดกันตามประสาไม่ได้ว่าอย่างนี้เราเอาเกลือเทลงอ่างน้ำที่บ้านเยอะๆแล้วมันจะลอยมั้ย ตัวเนิร์ดทั้งหลายก็ออกลายทันที ได้ข้อสรุปว่าไม่ลอยจ้า เพราะที่เกลือมันเข้มข้นขนาดนี้ได้ก็เพราะเดดซีเป็นทะเลที่อยู่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอีก ความดันอากาศเลยทำให้เกลือละลายได้เพิ่มขึ้นข้นขึ้น ถ้าไปทำที่บ้านก็คงได้น้ำเกลือบอกเกลือตกตะกอนแทน ไงล่ะ ไกด์ไม่อยู่ก็เนิร์ดเองได้จ้า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:43:52

ความคิดเห็นที่ 45 ทะเลลอยๆอย่างนี้มีหรือเราจะพลาด ว่าแล้วก็กายกรรมกันไปมากมายหลายท่า ชิลอยู่ในทะเลกันจนตัวเปื่อย จึงค่อยขึ้นไปเล่นสระว่ายน้ำบ้างนอนอาบแดดที่ไม่ค่อยมีบ้าง ก่อนจะเข้าไปแช่จากุซซี่น้ำอุ่นในสปาของโรงแรมปิดท้าย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:44:19

ความคิดเห็นที่ 46 จบวันด้วยบุฟเฟต์โรงแรมในราคายี่สิบจ็อด จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:44:48

ความคิดเห็นที่ 47 ของหวานได้โล่ห์เลย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:45:14

ความคิดเห็นที่ 48 วันถัดมาก็ตะลุยกันต่อไป วันนี้เป้าหมายคือ Aquba สวรรค์ของนักดำน้ำ เราเช่า glass bottom boat ไว้รอท่า พร้อมจ่ายค่าเช่าสน็อกเกิ้ลไว้เรียบร้อย ไปถึงก็แอบอึ้งเล็กน้อย เพราะพอบอกว่าเรือกระจก เราก็นึกถึงอะไรที่มันไฮโซๆไว้ก่อน ปรากฏว่าออกมาเป็นเรือหางยาวธรรมดาๆที่เจาะกลางเรือใส่กระจกขุ่นๆไว้เท่านั้นเอง แป่ว ที่ตอนโทรถามเค้าบอกว่ามีห้องอาบน้ำ ที่แท้ก็เป็นห้องแคบๆสาธารณะริมหาดที่ไม่มีแม้กระทั่งที่แขวนเสื้อ ทุลักทุเลเล็กน้อยกว่าจะเปลี่ยนชุดว่ายน้ำลงเรือไปได้ ท่าเรือ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:45:41

ความคิดเห็นที่ 49 เรือเป็นเงี้ยอ่ะ ขาใหญ่เดสเนะมากๆเลย ขาใครบ้างหว่า จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:46:10

ความคิดเห็นที่ 50 เรือก็ขับไปเรื่อยๆ ลมก็แรง พอแดดไม่มีเราก็หนาวจับจิต เค้าก็มีขับไปวนๆชมซากรถถังบ้างซากเรือบ้างที่จมอยู่ (มาจากไหนหว่า) แล้วก็ชี้ๆว่าจากตรงนี้เห็นดินแดนอิสราเอลกับอิรักด้วย (จริงดิ) แล้วก็ขับไปวนๆตรงโขดหินที่มีปะการังให้เราได้ถ่ายรูป อันนี้ปะการังสมอง จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:47:37

ความคิดเห็นที่ 51 หมดโขดหนึ่งเค้าก็ขับไปอีกสักพัก คราวนี้โขดใหญ่ขึ้นหน่อย มีหอยเม่น มีปลานีโม่ว่ายๆ ทีนี้เค้าก็จอดเครื่อง แล้วก็ส่งหน้ากากสน็อกเกิ้ลกองๆในถังพลาสติกมาให้ เราก็แอบเหวอ อ่ะ ที่ให้ลงไปดูนี่คือไอ้โขดอย่างนี้เนี่ยนะ ตัดสินใจกันอยู่นานมากเพราะคนขับเรือคะยั้นคะยอซะเหลือเกิน สองคนที่เพิ่งไปสมุยมาส่ายหน้า แบบว่าดีกว่านี้ชั้นก็เห็นมาหมดแล้วย่ะเธอ ส่วนเด็กขี้หนาวอย่างเรา ชั่งใจว่าขึ้นจากน้ำแล้วจะทนเปียกและลมไหวมั้ย สุดท้ายทั้งลำก็ยอมแพ้กันไป ปล่อยให้คนขับหงึ่มๆๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:49:03

ความคิดเห็นที่ 52 กลับขึ้นบนฝั่งก็บ่ายๆแล้ว สายกว่าโปรแกรมไปหน่อย คนขับพยายามจะให้เราแขวนท้องรอไปกินของปิ้งๆย่างๆกลางทะเลทรายซึ่งเป็นรายการถัดไป พวกเราไม่ไหวเลยขอจอดแมคโดนัล คุณลุงทำท่าขัดใจใหญ่อีกล่ะ ไปถึงทะเลทราย Wadi rum ก็บ่ายคล้อย แดดก็ยังไม่เยี่ยมหน้าออกมาสักที หนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเพราะเตรียมเสื้อมาไม่พอ ลงปุ๊บก็เจอกับยานพาหนะอันใหม่ รถกระบะเปิดท้ายจ้า โอ้ววววว ซีดสสสส ด้วยความหนาว ลุงคนขับตามไปเที่ยวด้วยได้นั่งข้างในรถจ้า ส่วนเราฝ่าลมฝนอยู่ข้างนอก จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:49:42

ความคิดเห็นที่ 53 ดแรกที่จอดคือหลังจากที่รถซิ่งขึ้นเนินทรายนี่มา เรางี้ถึงกับกรี๊ดลั่น ถ้าแดดออกทะเลทรายคงแจ่มกว่านี้ ตอนนี้ถ้าตาบอดสีคงบอกว่าที่นี่เป็นภูเขาหิมะ จุดที่จอดนี่ถ้าตะโกนจะมีเสียงสะท้อนดังไปไกลมากแล้วก็กลับไปกลับมาหลายตลบอยู่ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:50:08

ความคิดเห็นที่ 54 จากนั้นรถก็ซิ่งฝ่าเนินทรายไปยังกระโจมเบดูอิน ชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทราย (อันนี้คงประมาณหมู่บ้านสาธิต) ระหว่างทางเห็นเลยว่ามีรอยรถขับฉวัดเฉวียน คงมีคนมาเล่นเป็น extreme sport อยู่แถวนี้ หน้ากระโจมมีคนไปวาดหัวใจไว้ด้วย เหอๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:50:32

ความคิดเห็นที่ 55 เข้าไปในกระโจมก็เจอชาวเบดูอินนั่งผิงไฟสูบชิชาร้องรำทำเพลงกันอยู่ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:51:03

ความคิดเห็นที่ 56 นั่งกันเรียบร้อยแล้วเค้าก็แจกชาต้อนรับ ซดยังไม่ทันหมดหนุ่มๆก็มาลากเราไปเต้นดึ๋งๆๆวนรอบกระโจม จากนั้นเราก็เป็นผู้โชคดี (เพราะน้องคนที่สวยกว่าเค้าไม่เล่นด้วย อ้างว่าแบกกล้องใหญ่) หนุ่มชาวเบดูอินมาลากเราไปใส่เสื้อผ้าแบบเบดูอินแล้วก็ชวนเต้นรำ ปิดหมดเหลือแต่ตาอย่างนี้ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:51:35

ความคิดเห็นที่ 57 แถมมีมาม่อโอบไหล่ถ่ายรูปคู่ด้วย เค้าบอกว่าถ้าแต่งงานกับเค้าเค้าให้อูฐสิบตัวเป็นสินสอดเลย ต๊าย ชั้นมีราคาแค่อูฐสิบตัวเองหรือยะ นึกถึงอลินตอนถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ไม่ด๊าย อย่างชั้นต้องสิบล้าน เหอๆ เมาชิชาหรือเมาละครเนี่ย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:52:16

ความคิดเห็นที่ 58 ขากลับเห็นอูฐด้วย ค่อยเหมือนทะเลทรายหน่อย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:52:37

ความคิดเห็นที่ 59 กลับไปคืนรถกระบะ เค้าก็พาชมส่วนที่แคมป์ได้ ฝรั่งนิยมมาก มานอนกันในทะเลทราย จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:53:05

ความคิดเห็นที่ 60 ตอนแรกว่าน่าจะลำบาก นอนกลางดินกนกลางทราย ปรากฏว่าชะโงกเข้าไปข้างในมีเตียงอย่างสบายซะนั่น จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:53:28

ความคิดเห็นที่ 61 ขากลับขับรถน่ากลัวมาก หมอกลงจัด ทรายพัดคลุ้งอย่างกับมีพายุทะเลทราย มองไปข้างหน้าเห็นประมาณฟุตหนึ่ง น่ากลัวมากๆ ลุงคนขับโชว์ความเก๋า ค่อยๆกระดึบอย่างระวังจนไปถึงโรงแรมอย่างปลอดภัย กลับไปก็ได้ทานอาหารอิตาเลียนที่โรงแรม แอบไม่อร่อย แพงด้วยอ่ะ รู้สึกว่าตอนนี้จืดมากเลย อ่อนข้อมูลต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ค่ะ แค่นี้ก็เขียนจนงานการไม่ทำกันแล้วอ่ะค่ะ เหอๆๆ ต่อเพทราที่กระทู้หน้าแล้วกันค่ะ คราวนี้มีไกด์คงไม่น่าเบื่อมาก แหะๆ จากคุณ : Mnemosyne เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 04:53:56

ความคิดเห็นที่ 62 ตามมาเที่ยวต่อนะครับ ข้อมูลน้อย แต่เรื่องก็ยังคงน่าติดตามเหมือนเดิมครับ จากคุณ : Juone เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 14:05:21

ความคิดเห็นที่ 63 สนุกมากเลยค่ะ ไม่จืดหรอก จขกท.เขียนเล่าเรื่องได้สนุก ชวนให้ติดตามมากๆ แล้วก็อยากไปแบบ จขกท.บ้างจัง อิ อิ โชคดีวันนี้ลางานเลยได้ติดตามเที่ยวตั้งแต่แรกเลย หาไม่ค่อยได้เลยอ่ะกระทู้เที่ยวอียิปต์ดีๆ แบบนี้ ขอบคุณ จขกท.มากๆ นะคะ จากคุณ : bearby เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 17:50:39

ความคิดเห็นที่ 64 เชื่อแล้วว่าประทับใจพ่อไกด์เนิร์ดจริงๆ อิอิ จากคุณ : scottie เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 18:46:05

ความคิดเห็นที่ 65   กระดืบๆ...ตามมาอ่าน... # 2 โคมอะไรจะใหญ่ยักษ์ปานนั้น... # 35 อยากกินพุดดิ้งๆ ขอบคุณมากค่ะสำหรับทุกภาพที่นำมาฝากกัน (วันนี้ทำไมพิมพ์ผิดเยอะจัง....สงสัยดูรูปของกิน มากเกินไปแน่ๆ....หิวจนตาลาย...น้ำลายท่วมจอคอมพิวเตอร์) แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 19:06:02 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 19:05:27 แก้ไขเมื่อ 08 เม.ย. 53 19:02:17 จากคุณ : กาปอมซ่า เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 19:01:26

ความคิดเห็นที่ 66 ถึงข้อมูลจะน้อยลงแต่ความสนุกก็มากเหมือนเดิมค่ะ.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 20:33:41

ความคิดเห็นที่ 67 Theater ที่จอร์แดนสวยเหมือนใน Alexandria เลยค่ะ ไม่มีโอกาสได้ไปที่จอร์แดนเพราะไป Alexandria กับ Sharm el Sheikh แทน >_< พอมาเกาะกระทู้นี้ก็เหมือนได้เที่ยวทั่วอียิปต์แล้วล่ะค่ะ อิอิ ปล. ไม่ได้มีโอกาสไปชมชาวเบดูอินด้วย น่าอิจฉาจังเลยค่ะ >_< จากคุณ : ฟองคลื่น คืนจันทร์ พันดาว เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 53 21:56:38