ความคิดเห็นที่ 1 |
นัคทาได้ยินอย่างนั้นก็ยิ้ม เวลานี้ในความมืดของบ้านตนเอง เขาก็ยิ้มเงียบขรึมอีกครั้ง ดีที่กลับบ้าน ดีที่ได้พบครอบครัว ดีที่ได้รู้สึกอบอุ่นใจ นอกจากพบลูกเมีย เขายังได้พบพ่อ พบพวกพี่น้อง เมื่อเย็นเขายังได้นั่งพูดคุยกับพ่อยาว ๆ อย่างสบายใจ ก่อนนี้พ่อโกรธเขาว่าฝ่าฝืนกฎธรรมชาติ แต่เมื่อได้เห็นร่างสุนัขป่าก็ไม่โกรธแล้ว ก็เข้าใจ พ่อว่านัคทาทำถูก เพราะพวกชามูขวางกระแสของโลก อิยาจึงต้องเปลี่ยนแปลง กระนั้นท่านกลับไม่ได้กลายร่าง บอกว่าเกินกำลังสุขภาพของตน
พ่อหัวเราะว่านัคทาโตเร็วยิ่งนัก...แข็งแรงตัวใหญ่กว่าพ่อสองเท่าแล้ว นอกจากนั้น พ่อยังพอใจว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ไม่ใคร่ใจร้อนวู่วามดังแต่ก่อน นัคทาก็หัวเราะว่าตนไปเผ่าต่าง ๆ เจออะไรมากมาย จะให้เป็นเด็กต่อไปได้อย่างไร
“เจ้ากลับเผ่ามาอย่างนี้ ได้ไปดูนักโทษหรือยัง” พ่อถามขึ้นในที่สุด “เมื่อวันก่อนได้ยินว่ามันอาละวาดมากทีเดียว”
“มันประสาทหลอนเพราะถึงช่วงต้องถอนยา” นัคทาตอบ “แต่มีคนดูแลแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปตรวจร่างกายมันอีกที”
นัคทาไม่มีเวลาอยู่ที่เผ่า ดังนั้นเรื่องการดูแลนักโทษและเรื่องควบคุมให้คนกลายร่างจึงตกเป็นงานของคนอื่น ที่จริงก็ไม่มีอะไรยุ่งยากนัก เพราะชายหนุ่มติดเครื่องมือที่จะฉีดยากดประสาทเข้าเส้นมันอย่างสม่ำเสมอไว้ ยาดังกล่าวจะทำให้นักโทษมึนซึม รวบรวมสมาธิไม่ได้ สติไม่มีวันแจ่มใส และต่อให้เกิดผิดพลาดจนมีสติเลือนรางขึ้นมาได้ ก็จะไม่สามารถใช้พลังจิตของชามู
นอกจากนั้น นัคทายังวางกฎเข้มงวดเป็นวินัย เขาว่าชาวชามูเป็นเครื่องมือสำคัญ จะให้เจ็บหรือตายไปไม่ได้เด็ดขาด ผู้ใดละเมิดทำร้ายหรือละเลยมันต้องถูกลงโทษรุนแรง ดังนั้นตลอดมาแม้คนอิยาจะรู้สึกเคียดแค้น นักโทษก็ยังได้รับการดูแลดีพอสมควร นอกจากใช้มีดเงินแทงเพื่อแยกตัวออกยามมันดูดเลือดอิยาแล้ว ก็ไม่มีใครทำร้าย ที่ขังได้รับการปัดกวาด นานครั้งนักโทษก็ได้ชำระร่างกาย เพราะนัคทาบอกว่าถ้าปล่อยให้สกปรกมันอาจจะป่วยถึงตาย เขาระวังถึงขั้นที่ว่าทุกหกเดือนจะต้องถอนพิษ งดให้ยาชั่วคราวเพื่อให้ร่างกายมันได้ฟื้นฟูบ้าง แต่ช่วงแบบนี้มักเป็นช่วงอันตรายเพราะนักโทษจะเจ็บปวดและมีอาการประสาทหลอน นัคทาจึงต้องหาเวลามาดู เขากลับเผ่ามาก็เพราะสาเหตุนี้เอง
“เหตุใดไม่ทำลายสติปัญญามันไปเลย” พ่อถามต่อไป
“ข้าไม่แน่ใจว่าจะไม่มีผลข้างเคียง”
ในเวลาปัจจุบัน นัคทาก็ทบทวนคำเหล่านั้น และคิดอะไรในใจ เขานั่งอยู่ท่ามกลางความมืดอีกชั่วขณะ จนกระทั่งต้องสะดุ้งเพราะลูกร้องจ้า ภรรยาของเขาก็งัวเงียตื่นขึ้นมาเช่นกัน
แม้นัคทาจะเพิ่งมีลูกคนแรก แต่เพราะอาศัยอยู่ในครอบครัวขยาย ชายหนุ่มจึงเคยดูแลญาติพี่น้องเล็ก ๆ มาหลายคนแล้ว เขาหัวเราะบอกภรรยาว่าไม่เป็นไร ก่อนจะก้าวจากเสื่อที่นอนไปดูอู่เด็ก ชายหนุ่มอุ้มลูกขึ้นมา ทำหน้าทำเสียงล่อหลอกเธออยู่ชั่วขณะ ก่อนจะนำกลับมาส่งให้ภรรยา
"ไม่เปียก หิวละมัง"
“กินเก่ง น่ากลัวจะโตขึ้นตัวใหญ่เหมือนเจ้าหรือเปล่าก็ไม่รู้” อีกฝ่ายแกล้งว่า ก่อนจะเปิดหน้าอกตนขึ้นมาให้ลูกดื่มนม
นัคทานิ่งเงียบไป
มันเตือนเขา...ความทรงจำเก่าแก่ราวกับไม่ใช่ชาตินี้ ที่ไหนสักแห่งลึกลงไป ช่วงใดช่วงหนึ่งในกาลเวลา...ผู้หญิงยิ่งให้นมลูกมากเท่าไรก็จะยิ่งมีน้ำนมไหลมาก เด็กที่ได้กินนมมารดาก็จะแข็งแรงกว่าเด็กที่ได้กินแต่น้ำข้าว จะมีชีวิตต่อไป
ในเวลาปัจจุบัน ภรรยาของเขาก็เอ่ยอีกครั้ง
“เมื่อกี้ตอนลูกร้องเจ้าไม่ได้นอนหรือ คิดอะไรอยู่หรือเปล่า นัคทา”
“ไม่มีอะไร เพียงกังวลเรื่องงาน” ชายหนุ่มตอบหลังจากเงียบไปชั่วขณะ “พ่อว่าชามูมันอาละวาด แต่กลับเผ่ามาทีหนึ่งก็มีเรื่องต้องทำมาก ควรรีบไปดูมันแต่ยังไม่มีเวลา...จริงสิ ไหน ๆ ตื่นมาอย่างนี้แล้ว จะแวะไปดูสักหน่อยแล้วกัน”
“ไปตอนดึกอย่างนี้น่ะหรือ” ภรรยาของเขาแปลกใจ ก่อนจะกลายเป็นกังวล “นัคทา...เจ้าหักโหมมากไปแล้ว เวลาไม่ได้อยู่กับข้า เจ้าได้กินได้นอนพอหรือเปล่า”
ชายหนุ่มหัวเราะบอกว่าไม่เป็นไร เขาว่าหากจะหักโหม ก็เพื่อให้ลูกมีชีวิตสบาย ให้เธอ ให้พ่อ ให้ทุกคนปลอดภัย ถ้าหากเป็นอย่างนั้นต่อให้ต้องลำบากมากกว่านี้ก็ไม่เป็นไร
“ถึงอย่างนั้นก็ต้องดูแลตัวเอง” อีกฝ่ายบอก “เจ้าเป็นหัวหน้า ถ้าเป็นอะไรขึ้นมา คนอื่น ๆ จะเสียใจ”
นัคทารับคำภรรยาแล้วจึงออกจากบ้าน เขาเดินเงียบ ๆ ในความมืดไปยังที่ขังนักโทษ มันเป็นโรงเรือนทำจากไม้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อการณ์นี้โดยเฉพาะตั้งแต่เกือบสองปีก่อน ไม้หนาแข็ง มีประตูบานเดียว มีหน้าต่างเล็กตีราวลูกกรงอยู่สูงเกือบถึงหลังคา ภายในกั้นเป็นสองส่วน มีลูกกรงหนาเกือบเท่าแขนกั้นกลาง ต่อให้นักโทษถูกพันธนาการ พวกคนอิยาก็ยังไม่แน่ใจ ดังนั้นยามให้นักโทษดูดเลือดจึงเพียงยื่นแขนผ่านลูกกรง ส่วนคนที่เข้าไปหาชาวชามูถึงข้างในจะมีเพียงนัคทากับคนของเขาอีกสามสี่คนที่ชายหนุ่มฝึกให้รู้จักฉีดยา นักโทษมึนซึมอยู่เสมอ ดังนั้นยามจะเปลี่ยนร่างคนจึงต้องฉีดยาบังคับให้มันรู้สึกหิวจนต้องกิน
เมื่อนัคทาไปถึงหน้าที่ขัง ชายหนุ่มก็พบว่าเวรยามยังคงเข้มแข็งตามปรกติ เขาเอ่ยทักทายคนยามพลางบอกว่าพรุ่งนี้ตนจะไม่มีเวลาจึงต้องมาดูในยามวิกาล เขาขอน้ำถังหนึ่ง และตระเตรียมเครื่องมือของตนในขณะที่อีกฝ่ายไปตักน้ำมา ยามได้น้ำแล้ว นัคทากับยามก็เข้าไป
ข้างในมืดอย่างยิ่ง มีแต่แสงจันทร์ที่ส่องผ่านหน้าต่างบานแคบเล็กเข้ามา นักโทษถูกพันธนาการแน่นหนา ซุกอยู่ตรงมุมหนึ่ง ไม่มีสติรับรู้อะไร ยามว่าวันก่อนมันอาละวาดจริง แต่ทุกคนทำตามที่นัคทาบอก คือไม่ต้องสนใจ ปล่อยไว้จนกว่าจะหมดฤทธิ์เอง นอกจากนั้นเขายังรายงานอีกว่าระยะหลังนี้นักโทษเริ่มไม่ได้อาละวาดอย่างดุร้าย แต่เหมือนเสียสติ กลัว และร้องไห้ มันร้องเหมือนคนจะมาฆ่าตน แต่ครั้นผ่านไปประมาณสองสามวันก็จะค่อย ๆ สงบลง
“เราทำตามที่ท่านบอก มัดมันให้แน่นหนาก่อนจะหยุดยา มันจะได้ไม่ทำร้ายตัวเอง”
นัคทาผงกศีรษะรับ ก่อนจะบอกให้ยามออกไปได้ ครั้นยามไปแล้ว ชายหนุ่มจึงไขประตูลูกกรง เขาวางถังน้ำและเครื่องมือ คุกเข่าลงตรวจร่างกายนักโทษ ดูให้แน่ใจว่ายังแข็งแรงพอสมควรไม่ได้เจ็บป่วย เขาตรวจปริมาณยาในเครื่อง ก่อนจะค่อย ๆ แก้เชือก ให้เหลือเพียงพันธนาการที่ข้อมือข้อเท้าและรอบคอตามเดิม ครั้นแก้ส่วนที่ไม่จำเป็นออกหมดแล้ว ชายหนุ่มก็นิ่งไป
เมื่อครู่ที่สะดุ้งตื่นขึ้นก็เพราะเขาฝันร้าย...ความฝันตามหลอกหลอนตลอดเกือบสองปีที่ผ่านมา
เขาฝันว่าตนกินโคเวน
ความฝันมักแปลกเปลี่ยนไปในรูปแบบต่าง ๆ นัคทาจำไม่ใคร่ได้ บางครั้งเขาก็ฝันว่าตนกำลังฉลองวันเกิด และพ่อยกเอาถาดที่มีเลือดเนื้อของโคเวนเข้ามา บางครั้งเขาก็ฝันว่าเทพเจ้าแบ่งโลก และเขาทรยศพี่น้อง กัดกินพี่ชายตัวเอง มีความฝันเรียบง่ายที่เพียงระลึกได้ว่ากินไปเท่านั้น และมีความฝันซับซ้อนที่เขาต้องกินไม่มีที่สิ้นสุด ซากศพเลือดเนื้อกองเป็นภูเขาเลากา ในฝันเหล่านั้น บางทีโคเวนก็ตายแล้ว บางทีก็ยังมีชีวิตและถูกเขากินทั้งเป็น ...เขาจำไม่ใคร่ได้ ทว่าทุกครั้งไม่ทราบทำไม ประสบการณ์การกินกลับแจ่มชัดอย่างยิ่ง รสเลือดและเนื้อชัดเจนจนชวนผะอืดผะอม ทั้งยังค้างอยู่ในปากแม้กระทั่งหลังจากตื่นขึ้นมา
ยามตื่น นัคทาจะควบคุมตัวเองได้ เขาจะไม่รู้สึกอะไรมากนัก ราวกับเป็นเรื่องห่างไกล ทว่าในความฝัน บางสิ่งก็จะหวนกลับมา บางสิ่งซึ่งเขาทิ้งไปแล้ว และทำให้เขาขุ่นใจ ทว่าบางทีอาจเพราะเขารู้ดีว่าทำไมตนจึงฝันเช่นนั้นกระมัง จึงยิ่งรู้สึกโกรธ รู้สึกไม่พอใจ
เมื่อแรกที่ฝันติดต่อกัน นัคทาบอกตัวเองว่าเป็นเพราะตนยังใจอ่อนเกินไป ต้องเข้มแข็งกว่านี้ เขาไม่ผิด...คนเราย่อมต้องเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่อาจได้ทุกสิ่งพร้อมกันไม่ใช่หรือ โคเวนป่วยในใจจนอ่อนแอ ไม่อาจทรยศ ไม่อาจเลือกข้าง ทั้งยังคิดตาย สิ่งที่นัคทาทำยังเรียกว่าความเมตตาได้ด้วยซ้ำไป เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องรบกับชามู ถึงอย่างไรถ้าไม่ทำอย่างนี้ โคเวนก็ต้องเห็นสิ่งที่ไม่อยากเห็น ก็ต้องตัดสินใจเลือกข้างใดข้างหนึ่งอยู่ดี
และเขาก็ไม่ได้ผิดในเชิงศีลธรรม ก็ในเมื่อมันไม่มีศีลธรรมอยู่ ก็ในเมื่อยามสงครามพระราชาต้องทำเพื่อคนของตน พระราชาไม่อาจเป็นคนดีได้ เพราะความดีเป็นเพียงสิ่งฟุ่มเฟือยในยามมีสันติเท่านั้น หากว่าเขาไม่กินโคเวน เขาก็ต้องถูกกิน ลูกเมียเขา พ่อเขา คนอื่น ๆ ที่เขารักก็จะต้องถูกกิน หากอิยาไม่ต่อสู้ อิยาก็จะต้องถูกกินตลอดไป อีกอย่างหนึ่งตอนนี้โคเวนก็ตายแล้ว สิ่งไม่มีสติสัมปชัญญะนั้นเป็นเพียงสัตว์อย่างหนึ่งเหมือนเสือหรือกวาง นัคทาไม่ใช่โคเวน เขาควรเข้มแข็ง ควรกล้าหาญ ยามตัดสินใจแล้วก็รับผลของการตัดสินใจ ไม่ควรฝันร้ายเมื่อต้องฆ่าหรือกินตัวอะไร
ทว่าเมื่อเวลาผ่านไป ความโกรธและความรู้สึกต่อต้านของนัคทาก็สร่างซาลง เขาเริ่มเข้าใจว่าเหตุใดตนจึงเป็นเช่นนี้ ไม่ใช่อิยาหรือชามูหรอก ไม่มีศีลธรรมอะไร ไม่มีความถูกต้อง กินหรือไม่กิน ไม่มีความเข้มแข็งหรืออ่อนแอ มีเพียงความจริงว่าต่อให้เป็นสุนัข หากเลี้ยงมันนานยังต้องรักไม่ใช่หรือ และโคเวนก็ไม่ใช่สุนัข แต่เป็นเพื่อนเขา เคยพูดคุยเจรจา เคยมอบและเคยรับน้ำใจ นอกจากนั้นโคเวนก็มีชีวิตอยู่ได้ด้วยเลือดของนัคทาถึงเกือบสองปี แม้ว่าจะด้วยความประสงค์อะไร นัคทาก็เต็มใจให้...เขาเต็มใจจริง ๆ ความรู้สึกนั้นย่อมสร้างสายสัมพันธ์บางอย่างขึ้นมา บางสิ่งที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งกับการเป็นพี่น้องกัน เลือดของเขาก็ไหลอยู่ในร่างกายของโคเวน
ความทรงจำของคนเราเป็นสิ่งแปลก ยิ่งผ่านไปนานความรู้สึกจะจางหาย และจะจดจำได้เพียงสิ่งที่ฝังใจ นัคทาก็เช่นกัน ความโกรธความขัดแย้งของเขาหายไปแล้ว เหลือเพียงความทรงจำถึงความสนุกไร้เดียงสาที่ได้พูดคุยเรื่องชามูและอิยา เหลือเพียงความจริงที่ว่าโคเวนลากเขาไปในพายุหิมะ ต่อให้ชาวชามูมีนิสัยอย่างไร มีความอ่อนแอบกพร่องที่ใดบ้าง เขาก็เป็นคนดี...เป็นคนดีอย่างยิ่ง เป็นห่วงนัคทายิ่งกว่าห่วงตัวเอง บางที...โคเวนที่ไม่มีใครก็คงเห็นเขาเป็นน้องชายเช่นเดียวกัน
พอถึงตอนนี้ ชาวอิยาก็ไม่รู้ว่าตนเสียใจหรือไม่เสียใจ เขาไม่ใช่นัคทาคนเดิมแล้ว มีสิ่งต้องรับผิดชอบ มีหน้าที่ต้องทำ นัคทาคนนั้นไม่เสียใจ แต่ในที่สุดภายในนัคทาคนใหม่ก็ยังมีนัคทาคนเก่า ต่อหน้าคนอิยาทั้งปวง เขาไม่เรียกชื่อชาวชามู ทว่าถึงเวลานี้ก็เรียกเบา ๆ
"โคเวน"
เขาจับร่างเพื่อนพิงฝา เช็ดหน้าเช็ดตัวให้เหมือนยามดูแลคนป่วย ครั้นจัดการดีแล้วจึงได้นั่งลงข้าง ๆ มีเรื่องมากมายอยากเล่าให้ฟัง เรื่องที่คนรัก พ่อ หรือญาติพี่น้องเขาไม่สามารถเข้าใจ นัคทาอยากบอกว่าโคเวน ข้ากลับไปต่อเครื่องยนต์กลไกอีกแล้ว และได้ค้นพบสิ่งนั้นสิ่งนี้ เขาอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับอิยาที่ตนค่อย ๆ เข้าใจเพิ่มขึ้นช้า ๆ ทั้งอยากฟังความเห็นจากอีกฝ่าย นอกจากนั้น เขาก็อยากถามว่าโคเวน เหตุใดจึงมีความจริงมากมายเกินไป เหตุใดข้าก็กินก่อนถูกกิน ถูกต้องตามกระแสโลกแล้ว แต่ยังข้ากลับยังต้องเสียใจ ความเสียใจของข้าก็เป็นความจริงไม่ใช่หรือ ถ้าเช่นนั้นความจริงคืออะไร
แต่เขารู้ดีว่าจะไม่มีวันถามได้ ไม่ว่าตอนนี้หรือตลอดไป ไม่ทราบทำไม ชายหนุ่มรู้สึกอยากร้องไห้ อิยาเองก็ร้องไห้ทั้งยามเสียใจและดีใจ ตลอดจนยามที่ดวงตาระคายเคือง
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
10 เม.ย. 53 12:11:15
|
|
|
|