เธอฆ่าผมตาย...แล้วหลายครั้ง 2 (ตอนจบ)
|
|
ความรู้สึกของผมตกวูบลงทันทีเมื่อเห็นท่าทางจริงจังตั้งท่ารีดผ้าของเธอ ลำพังการโดนแดดเผาเรื้อรัง ก็นักว่านักหนาสาหัสแล้ว นี่จะมาเจอเตารีดร้อนแบบเฉียบพลันกะทันหันอีก ทำให้มองเห็นชะตากรรมอันน่าสงสารของตนเองอยู่ไม่ไกล
ผมเพิ่งนึกออกว่าเธอมีงานอดิเรกคือชอบซักผ้ารีดผ้าตากผ้าเป็นประจำ จนกลายเป็นมือซักผ้ามืออาชีพระดับเทพ รู้เขารู้เราซักร้อยตัวสะอาดร้อยตัว วันไหนแดดแผดจ้าเธอจะยิ้มแย้มแจ่มใสโลดแล่นไปหาเครื่องซักผ้าอย่างมีความสุข กรีดกรายไปมาอยู่ท่ามกลางราวตากผ้าปลิวสะบัดพัดไสว บางครั้งถึงกับซักแล้วซักอีก ตากแล้วตากอีก รีดแล้วรีดอีก
ความจริงเสื้อผ้าที่เก็บเข้ามามีหลายตัว แต่ดูมันเหมือนว่าเธอสนใจผมเป็นพิเศษ สายตาคมวาวของเธอเต็มไปด้วยความอยากรีดจนออกนอกหน้า
ไม่นะที่รัก....ได้โปรด อย่ารีดตัวนี้
ผมร้องลั่นอยู่ในความรู้สึกทั้งที่รู้ว่าเธอไม่มีทางได้ยิน ซึ่งความจริงก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะถ้าเธอได้ยินเสียงเสื้อผ้าซึ่งกำลังจะโดนรีดร้องอ้อนวอนขอชีวิต เธอคงไม่กล้ารีดผ้าอีกตลอดชีวิตเป็นแน่แท้ เธอจ้องมองผมอย่างครู่หนึ่งแล้วค่อยใช้นิ้วเขี่ยเสื้อผ้าตัวอื่นออกไปราวกับเด็กเขี่ยผักออกจากจานอาหาร แล้วบรรจงหยิบผมขึ้นไปวางบนโต๊ะรีดผ้าอย่างเรียบร้อยก่อนยกเตารีดซึ่งกำลังร้อนได้ที่ขึ้นมาแล้วกดรีดลงบนเสื้อซึ่งมีจิตของผมแทรกอยู่อย่างมืออาชีพ
สิ่งที่ผมทำได้คือมองเข้าไปในดวงตาของเธอ ถ้าผมจะแตกดับก็ขอให้เห็นภาพของเธอติดอยู่ในความรู้สึกและความคิดจนวาระสุดท้ายของการดำรงคงอยู่แห่งจิตวิญญาณ ไม่มีทางจะให้หลบลี้หนีหลิกเพราะเธอเป็นนักรีดมืออาชีพเรียกว่ารีดทุกซอกทุกมุมพลิกคว่ำพลิกหงายซอกซอนชนิดไม่มีทางรอดพ้นจากการรีด ดวงจิตของผมแตกสลายออกตั้งแต่โดนประทับด้วยเตารีดครั้งแรกแล้ว การตายแบบแทบยกรังของจุลินทรีย์เพราะความร้อนทำให้ผมไม่สามารถทานทนฝืนจิตอยู่ต่อไปได้ คุณลองนึกว่ามีคนเอาเตารีดร้อนๆ มารีดคุณทั้งเป็นจะรู้สึกอย่างไร มันไม่สนุกถึงจะมาโซคิสม์ขนาดไหนก็ตาม
ผมตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง ไม่สามารถรับรู้ผ่านระบบประสาทอะไรได้นอกจากสัมผัสทางจิตซึ่งทำให้ผมยังไม่ยอมหนีห่างไปไหน ก็อย่างที่บอกไว้ล่ะครับว่าผมเพียงอยากอยู่ใกล้เธอ คอยดูแลเธอเท่านั้น แต่ทุกครั้งเป็นต้องถูกฆ่าแบบไม่ตั้งใจเสมอ เป็นผีจริงๆเสียยังดีกว่าจะได้ไม่ต้องมีข้อแม้ใดๆมาบังคับ
อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมเลิกสนใจแล้วว่าครั้งแรกผมตายเพราะอะไร ทำไมมาเป็นแบบนี้ มันไม่สำคัญอะไรต่อไปแล้ว เพราะความรักของผมยิ่งใหญ่มากมายกว่าเรื่องพวกนั้น
เอาไงดี..ผมนึกหาทางเข้าใกล้เธอต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ต่อไปจะแทรกจิตกับอะไรดี แถวนี้ถ้ามีแมวสักตัวก็ดี บางทีอาจจะลองเข้าไปอยู่ในตัวแมวแล้วจะได้ใกล้ชิดเธอแบบเนียนๆ เพราะแมวมีนิสัยขี้อ้อนอยู่แล้ว อาจได้นอนบนเตียงเดียวกับเธอและอาหารแมวก็คงไม่เลวร้ายเกินไปเพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมคงปรับสภาพตามความเป็นแมวได้ ส่วนหมาไม่อยู่ในความคิดเพราะเสี่ยงต่อการกลายเป็นหมาจรจัดและโอกาสใกล้ชิดมีน้อย
หรือจะลองแทรกจิตเข้าไปอยู่ในตัวบ้านเสียเลย แต่ก็รู้สึกว่าคิดการใหญ่เกินตัวและมีข้อเสียมากกว่า บ้านไม่มีระบบประสาทผมก็สัมผัสเธอไม่ได้อยู่ดี จะใช้มุกเก่าคืออาศัยเชื้อโรคเป็นสื่อเข้ากับบ้านก็ไม่ได้ เพราะใช้สิทธิ์เชื้อโรคไปแล้ว ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าเป็นอย่างนั้นจริงเธอคงย้ายหนีออกไปอยู่ที่อื่น เพราะผมเองคงอดไม่ได้ในการจะช่วยดูแลตามเป้าหมายที่วางไว้ เช่นเธอเดินเข้าในบ้านแล้วบ้านคอยเปิดประตูหน้าต่างให้เอง แบบนั้นมันคงไม่ต่างจากบ้านผีสิงจนทำให้เธอต้องย้ายหนี
ทำอย่างไรดีนะที่รัก ผมจะได้อยู่ใกล้และดูแลเธอโดยไม่ต้องโดนฆ่าตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้
ลองคิดเล่นๆดู ถ้าไปแทรกอยู่ในแปรงสีฟัน อย่างมากคงดูแลใกล้ชิดเธอเฉพาะช่องปากเท่านั้น ดูแลได้ไม่ทั่วถึง ถ้าเข้าไปอยู่ในก้อนสบู่คงจะดูแลปกป้องได้ทั่วถึงมากกว่า แต่ก็ไม่แน่ใจว่าบ้านนี้คนใช้สบู่ร่วมก้อนกันหรือไม่ ถ้าเธอใช้คนเดียวก็ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าสามีเธอใช้ด้วยผมคงแตกสลายดับไปก่อนสบู่จะหมดก้อน เรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้ผมพยายามสลัดความคิดบ้าบอพวกนั้น
ทันใดนั้นผมก็นึกอะไรบางอย่างออกมาได้ วิธีการแบบนั้นจะทำให้ผมสามารถใกล้ชิดและปกป้องดูแลเธอได้ยาวนานและไม่ต้องแตกดับด้วยฝีมือของเธออีก ไม่ว่าผมจะเข้าไปอยู่ในอะไรแบบไหนผมก็จะมีรูปแบบความรักความห่วงไยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะตัวของสิ่งนั้นเสมอ เมื่ออยู่ในร่างของจิ้งจก ผมก็อยากกระโดดกอดเกาะเธอเพราะจิ้งจกชอบเกาะ เมื่ออยู่ในรูปของเสื้อผ้าอาภรณ์ผมก็อยากปกป้องปกปิดเธอให้มิดชิดสนิทแนบ
ใช่แล้ว...ผมต้องทำได้ ถึงจะใช้เวลายาวนานมากแค่ไหนก็ตาม การแตกดับของผมแต่ละครั้งมันน่าจะคุ้มค่ามากกว่านี้ ความตั้งใจของผมจะต้องบรรลุผล ที่รัก.. ผมจะดูแลคุณให้ต่อเนื่องปกป้องยาวนาน คิดออกแล้วว่าสมควรทำอย่างไรต่อไป
++++
บทส่งท้าย
ผมกำลังจะแต่งงาน
ว่าที่เจ้าสาวของผมไม่ได้สวยบาดตาบาดใจจนใครมองเห็นแล้วต้องล้มลงไปชักดิ้นชักงอกับพื้น ไม่ได้ร่ำรวยหนักหนาสาหัสปางตาย เพียงแต่เธอชอบซักผ้าตากผ้ารีดผ้าเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดว่าบางวันนั่งคุยกันดีๆ เธอก็ขอให้ผมถอดเสื้อผ้า เพื่อจะเอาไปซัก ไม่ต้องคิดมากไปเรื่องอื่น ผมเรียกเธอว่าเครื่องซักผ้าเคลื่อนที่สามัญประจำบ้าน
ผมรู้ว่าผมกำลังจะมีความสุข รู้ว่าหน้าที่ซึ่งตั้งจิตตั้งใจมานานกำลังจะสัมฤทธิ์ผล ความตั้งใจของผมไม่สูญเปล่าแม้จะรอคอยเป็นเวลานานก็ตาม วันนี้ผมจะพาว่าที่ภรรยาไปเยี่ยมบ้านโดยไม่ลืมบอกให้คนที่บ้านเก็บเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทางไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
คุณไม่ต้องไปขอเสื้อผ้าใครมาซักเด็ดขาด
ผมกำชับเธอให้เข้าใจเป็นที่แน่นอนจอดรถไว้หน้าบ้าน บ้านซึ่งทำให้ผมเกิดและเติบโตจนมีการมีงานทำ ผมไม่อยากหนีไปอยู่ที่อื่น เมื่อผมแต่งงานก็จะพาภรรยาเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้
กุญแจบ้านไม่ได้ล็อคแสดงว่าจะต้องมีคนอยู่ในบ้าน บางทีพ่อกับแม่อาจอยู่หลังบ้านก็เป็นได้ ผมจูงมือว่าที่ภรรยาเดินอ้อมไปทางหลังบ้าน เพื่อพบกับแม่ซึ่งกำลังทำงานบ้านอยู่อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยทั้งที่อายุค่อนชีวิต
โธ่แม่ ทำงานอีกแล้ว กลับไปพักในบ้านเถอะครับ เดี๋ยวก็มีคนช่วยแล้ว
ผมร้องบอกกึ่งขอร้องกึ่งบังคับ รู้สึกไม่สบายใจกับการทำงานหนักของแม่ก่อนจูงแขนให้กลับเข้าไปในบ้าน
ผมบอกแล้วไงว่าผมจะปกป้องดูแลแม่เอง ตอนนี้ผมโตแล้วครับ แม่ไม่ต้องลำบากทำเพื่อผมอีกแล้ว ต่อไปพวกเรา.... ผมหันไปมองว่าที่ภรรยาซึ่งช่วยประคองแม่อีกแรงหนึ่ง จะดูแลแม่เอง พักผ่อนบ้างเถอะครับ
แม่หันไปมองราวตากผ้าซึ่งมีผ้าพาดแขวนเรียงรายสะบัดพลิ้วไหวในสายลม ยังมีผ้าเหลืออยู่อีกกองในตะกร้า ผมพยักหน้าให้ว่าที่เจ้าสาว เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ ก่อนโลดแล่นออกไปสู่แสงแดดและแนวราวตากผ้ายาวเหยียดเรียงรายสานสืบทอดต่อเจตนารมณ์แห่งศาสตร์และศิลป์การซักผ้าตากผ้า
ผมจะดูแลแม่ตลอดไป เธออายุมากไม่ได้แข็งแรงเหมือนสมัยเป็นสาว ผมได้อยู่ใกล้ชิดเธอได้ปกป้องดูแลเธออย่างที่ตั้งจิตตั้งใจเอาไว้แล้ว ความรักความห่วงไยมีรูปแบบเฉพาะตัวตามความเหมาะสมและโอกาสสำหรับบางครั้งบางคน
ในที่สุดผมได้เลือกเกิดเป็นลูกของเธอ ไม่ต้องการตายดับซ้ำซ้อนหลายครั้ง เพื่อว่าเติบโตขึ้นมาจะได้ดูแลปกป้องคุ้มครองเธอในทุกเรื่องจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แม้ว่าจะมีรูปแบบและความรักแตกต่างกันออกไป เมื่อผมเป็นเด็กเธอดูแลผมเป็นอย่างดีผ่านกาลเวลาลำบากยาวนาน ตอนนี้ถึงเวลาของผมจะทำหน้าที่ของลูกบ้าง
ที่รัก...ผมจะช่วยดูแลปกป้องคุ้มครองคุณตลอดไป...ครับแม่
จบ
จากคุณ |
:
Psycho man
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเนา 53 14:13:03
|
|
|
|