The Sun Seeker - บทที่ 10 - ตามหาตะวัน (3/7)
|
|
ขอบคุณคุณ Mnemosyne สำหรับกิฟท์ครับ ^^
คุณ Caje - อนธการเทพก็มองแต่ในมุมของตัวเหมือนกัน ส่วนแอนเธียก็มีด้านที่กลัวจะให้คนอื่นเห็นอยู่มากครับ
คุณ scottie - ใช่ครับ หวังจะใช้นิกซ์เพื่อจุดมุ่งหมายของตัวเองนั่นเลย
* * * * *
5 – เมื่อเด็กชายผู้มีอำนาจกลืนกินฟื้นคืน
“นิกซ์!”
แอนเธียรีบชะโงกหน้าเข้าไปทันทีที่ร่างบนเตียงลืมตาขึ้น และหากไม่ติดว่าอีกฝ่ายยังเป็นคนไข้นอนคาสายน้ำเกลืออยู่...ราดาแมนธิสก็คิดว่าเธอคงจะดึงตัวเด็กชายขึ้นมากอดไว้แน่น ให้นิกซ์ได้ร้องอุทธรณ์เหมือนคราวเด็กเซราเสียแล้ว
“เป็นอะไรมั้ย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” หญิงสาวถามอีกครั้ง “หิวข้าวมั้ย หรือว่าหิวน้ำ หรือว่า...”
เด็กชายยังคงกะพริบตาปริบๆ อยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่แอนเธียหยิบปรอทมาให้มันอม และใช้มือทาบหน้าผากวัดไข้ ชายหนุ่มมองเธอกุลีกุจอพยาบาลนิกซ์อย่างลนลานอีกครู่หนึ่ง จึงตัดสินใจพูดขึ้น
“ให้เด็กมันได้หายใจหายคอบ้างเถอะ ตื่นมาไม่ทันไรก็โดนประคบประหงมเหมือนเป็นคนป่วย มันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
หญิงสาวหันขวับมามองเขา สายตาแข็งกร้าวอย่างกับแม่แมวหวงลูก
“รู้ได้ยังไงว่าแกไม่เป็นอะไร”
“ก็หมอโจเซฟตรวจมันวันละสามครั้ง ทุกอย่างเป็นปกติทุกครั้ง เธอจับมือมันไว้แบบนั้น น่าจะรู้แล้วว่าตัวมันไม่ร้อนไม่เย็นเกินไป...นอกเสียจากมือมันจะร้อนเพราะมือเธอเอง แล้วถ้ามันหิวอะไร มันก็พูดขอเองได้อยู่แล้ว”
แอนเธียยังมองเขาอย่างไม่เป็นมิตรนัก แต่ก็สงบลงบ้าง เธอไขหลังเตียงให้เอนขึ้นเมื่อนิกซ์พยายามจะลุกขึ้นนั่ง แล้วก็เงียบอยู่ขณะเด็กชายมองหน้าทั้งสองคนสลับกันอย่างงงๆ
“พี่แอนเธีย คุณราดา...” เด็กชายขมวดคิ้ว สีหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก “ที่ถูกยิง...”
“เพื่อนนายรักษาให้เรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ “ไม่ดีใจเหรอ”
นิกซ์กะพริบตาปริบๆ
“เซรา...น่ะเหรอฮะ”
“มีเพื่อนนายคนอื่นที่ใช้พลังเยียวยาได้รึไง” ราดาแมนธิสส่งหนังสือพิมพ์ให้ “ถ้าตอนนี้พออ่านได้ก็รีบอ่านซะ จะได้ไม่จิตตกเกินไป”
เด็กชายกลับเหลือบมองหนังสือพิมพ์นั้นอย่างไม่แน่ใจนัก คงเพราะพาดหัวข่าว ‘สุนทรพจน์ซาบซึ้งของสตรีสุริยัน ณ งานศพเทมพลาร์ผู้กล้า’
“อ่านเฉพาะที่ฉันเอาปากกาขีดไว้ก็พอ นอกนั้นไม่ต้องสนหรอก ไม่อยากรู้รึไง ว่าเด็กเซราพูดอะไรเกี่ยวกับนาย”
“อ่านเถอะจ้ะ นิกซ์” แอนเธียเสริมขึ้นบ้าง “เซรา...เขาไม่โทษเธอหรอก อ่านในนั้นแล้วเธอจะรู้นะ”
ถึงอย่างนั้น คนถูกคะยั้นคะยอให้อ่านกลับนิ่งอยู่ ไม่มีท่าทางอยากรู้ตามนั้นเลยแม้แต่น้อย
“...ไว้ก่อนก็ได้ฮะ”
...ไว้ก่อนก็ได้ ที่จริงหมายถึง ‘ขอร้องล่ะ ไว้ก่อนเถอะ’ ชัดๆ ...
“งั้น...กินอะไรก่อนมั้ย เดี๋ยวคุณป้ามาร์กาเร็ตคงทำอาหารเสร็จ” แอนเธียเสนอ ก่อนจะหันมาทางชายหนุ่ม “คุณราดาแมนธิสช่วยลงไปดูหน่อยได้มั้ยคะ ถ้าอาหารเสร็จแล้วก็ช่วยยกขึ้นมาหน่อยนะ”
ชายหนุ่มนึกอยากแค่นเสียงหรือพูดอะไรสักอย่าง ทำนองชมหญิงสาวว่าช่าง ‘ตีสีหน้า’ ต่อหน้าเด็กได้เก่งเหลือเกิน แต่เขาก็เงียบไว้ เพราะไม่อยากทำตัวให้นิกซ์ตั้งแง่มากไปกว่านี้ และคิดจะปฏิเสธโดยอ้างว่าแอนเธียสนิทกับคุณมาร์กาเร็ตมากกว่า หรือถึงแผลหายแล้ว ตัวเองก็ยังรู้สึกแปลบๆ ที่ชายโครงอยู่
ทว่าไม่ทันเอ่ย ใครอีกคนในห้องก็พูดขึ้นเสียก่อน
“พี่แอนเธีย...ท...ทำข้าวต้มให้ผมกินได้มั้ยฮะ” เด็กชายพูดตะกุกตะกัก “ท...ที่ใส่นมผง...บ...แบบที่พี่เคยทำ...น่ะฮะ ค...เครื่องอย่างอื่นไม่ต้องใส่ก็ได้ ลำบากหรือเปล่าฮะ”
“ไม่ลำบากหรอก” แอนเธียรีบรับพร้อมกับลุกจากเก้าอี้ “เดี๋ยวลงไปทำให้นะ แล้วจะขอให้คุณป้ามาร์กาเร็ตขึ้นมาเฝ้า”
“ไม่เป็นไรฮะ ผมเกรงใจคุณป้า ผม...อยู่กับคุณราดาสองคนได้ฮะ”
“นิกซ์!” หญิงสาวแทบขึ้นเสียงเหมือนตกใจ จนราดาแมนธิสซึ่งฟังมาตลอดอดเหลียวกลับไปพูดไม่ได้...ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเด็กชายอยาก (หรือที่จริงควรจะเป็นยอม) อยู่กับตนแค่สองคนเพราะอะไร
“คุณกลัวผมจะกินเด็กรึไงครับ”
แอนเธียกลับจ้องเขาเขม็ง เห็นได้ชัดเจนว่าไม่สบอารมณ์และไม่ไว้ใจ กระนั้นชายหนุ่มก็ยิ้มตอบน้อยๆ พยายามเลียนแบบสีหน้าแสนธรรมดาอารมณ์ดีของอีกฝ่ายในสมัยก่อน
เขาไม่ชอบทำตัวเหมือนรังแกผู้หญิงเท่าไร แต่...ก็ทีใครทีมันแหละนะ
“นิกซ์ควรมีทางเลือกของตัวเอง หรือไม่จริงครับ” ราดาแมนธิสเน้นเสียง “คุณแอนเธีย”
หญิงสาวยังยืนนิ่งขึงอยู่ที่เดิม จ้องเขาอย่างดุร้ายยิ่งกว่าเดิม จนเสียงหวาดๆ ดังขึ้น
“ไม่เป็นไรจริงๆ ฮะ พี่แอนเธีย อีกอย่าง ผ...ผมอยากคุยกับคุณราดาด้วย นะฮะ”
นัยน์ตาของแอนเธียค่อยคลายความแข็งกร้าว แม้จะยังแย้ง
“เธอไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า คุยกันหลายๆ คนจะดีกว่ามั้ย”
“ให้ผมคุยกับคุณราดาสองคนเถอะนะฮะ” นิกซ์ยังย้ำคำ “ผม...บอกไม่ได้ว่าจะพูดอะไร แต่ว่า...”
“...ก็ได้จ้ะ” หญิงสาวรับในที่สุด พร้อมรอยยิ้มฝืดเฝือ “ขอโทษนะ ที่เป็นห่วงเธอไม่เข้าเรื่อง จะลงไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”
“ฮะ ข...ขอโทษนะฮะพี่แอนเธีย” เด็กชายไม่วายพูด ก่อนจะก้มหน้าเงียบไป
และยังก้มหน้าเงียบอยู่ แม้ร่างของหญิงสาวจะลับออกไปจากห้องแล้ว กระทั่งราดาแมนธิสพูดขึ้นก่อน
“มีอะไรจะพูดกับฉันเหรอ”
นิกซ์ยังคงปิดปากเงียบอยู่อีกครู่ ก่อนจะตั้งคำถามแสนประหลาด
“ค...คุณราดา...คิดว่า...โลกที่...ไม่มีความทุกข์...เป็นยังไงเหรอฮะ”
“หือม์” เขาเลิกคิ้วขึ้น “โลกที่ไม่มีความทุกข์เหรอ...มันเป็นไปได้เสียที่ไหน”
ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก ราดาแมนธิสคิดว่าตนเองอยู่ในโลกนี้นานพอจะรู้ดีว่าอะไรเป็นอุดมคติเกินไป (ถึงเซลลีจะชอบหาว่าแผนการปฏิวัติโลกเพื่อเนฟิลิมก็เป็นอุดมคติเสียจนเป็นไปไม่ได้พอกัน) ซ้ำคำถามนั้นยังขัดกับเด็กชายที่ควรหดหู่เพราะตนเองเพิ่งฆ่าคนตายมากกว่า จึงไม่เข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆ นิกซ์ถึงถามอะไรแบบนี้
“มีคน...บอกว่า...ถ้า...ถ้าทุกคนตายไปหมด...ถ้าไม่มีโลกใบนี้...ก็...ก็จะไม่มีความทุกข์อีก”
ชายหนุ่มยิ่งขมวดคิ้ว
“ใครบอกอย่างนั้น”
“...อ...อนธการ...เทพ...ฮะ...”
* * * * *
| จากคุณ |
:
Anithin
|
| เขียนเมื่อ |
:
16 เม.ย. 53 15:16:03
|
|
|
|