 |
เรื่องเล่าสยองของข้าพเจ้า ตอน ลางบอกเหตุ
|
|
เรื่องที่ 54
ลางบอกเหตุ
ลาง
น. หมาก; เครื่องหมายที่ปรากฏให้เห็นอันบอกผลร้ายหรือดี; ชื่อนกชนิดหนึ่งเราเรียกกันว่านกกะลาง. ว. ต่าง, แต่ละ, บาง.
ลาง
n. an omen, a portent, an augury, a presage
เรื่องเล่าวันนี้ขอขึ้นต้นแบบเชิงความรู้กันสักหน่อย จะได้ไม่โดนข้อหาว่าไร้สาระจนเกินไปนัก และถ้าจะให้เจาะลึกยิ่งขึ้นคงต้องแยกภาษาอังกฤษมาแปลกันทีละคำเช่น omen เป็น n. แต่หากเขียนเป็น ominous ซึ่งเป็น adj. จะมีความหมายว่า ลาง ซึ่งเป็นลางร้าย
มันจะวิชาการเกินไปหน่อยแล้ว
เอาแค่ว่าลาง ก็คือสัญญาณเตือนเหตุการณ์ล่วงหน้าก็แล้วกันนะคะ เพราะส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันแบบนี้ บางครั้งอาจมีการเสริมคำว่า สังหรณ์ ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความขลัง แต่คงไม่ขออธิบายแล้วล่ะว่ามันมีความหมายว่าอะไร
เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะพาลคิดว่าเรื่องเล่าคราวนี้กลายเป็นพจนานุกรมไปแล้วเรอะ
กลับมาที่ลางบอกเหตุซึ่งเป็นหัวข้อสนทนาในวันนี้ก่อนดีกว่า มันเป็นเหตการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งแต่ก็ทำให้พี่เฉียดตายมาได้ และที่สำคัญ สิ่งที่เกิดขึ้นมันทำให้พี่รู้จักระมัดระวังตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม
คงไม่ไล่เรียงตามลำดับหรอกนะคะเพราะเกิดขึ้นนานพอดู
เรื่องแรกเป็นเหตุการณ์เฉียดตายของแท้ค่ะ เพราะพี่รอดจากการโดนรถสิบล้อทับ!
ตอนนั้นพี่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆกำลังหางานทำ แต่บังเอิญช่วงนั้นกำลังบ้าพวกอาวุธมีด และการต่อสู้มาก ชนิดว่าอ่านหนังสือทุกเล่มที่เกี่ยวกับมีดเลยก็ว่าได้ ก็สมัยก่อนยังไม่มีอินเตอร์เน็ตนี่คะ ตำรับตำรานี่แหละคือแหล่งข้อมูลชั้นดี ทุกวันนี้พี่ก็ยังคงทำแบบนี้เหมือนเดิม
พอดีตอนนั้นค่ายเสือดำที่หัวหินเปิดรับสมัคร พี่เลยขอให้แม่พาไป เจอด่านแรกก็เดี้ยงเพราะต้องวิ่งรอบสนามบอลแปดรอบ เด็กเมืองเดี้ยงสิคะเพราะวิ่งธรรมดาน่ะสบายอยู่แล้วแต่นี่เขาคัดเอา 7 คนแรกที่เข้าเส้นชัย
พี่ได้เป็นคนที่แปด = =
เล่าตอนสอบนิดนึง ลู่วิ่งเป็นดินค่ะแถมคืนก่อนสอบฝนตกหนัก จากดินแข็งๆแปรสภาพเป็นโคลนเหนียวทันที รองเท้าไม่ต้องใส่ค่ะ วิ่งเท้าเปล่ากันไปเลย
สนุกดีนะ แต่เพราะความเป็นเด็กเลยไม่รู้ว่าการสอบเข้าต้องผ่านด่านพวกนี้ก่อน สมรรถภาพทางร่างกายสู้ไม่ไหวจริงๆ บางคนพอไม่ผ่านด่านนี้ก็จะถอนตัวไปเลยแต่พี่ยังอยากรู้ว่าต่อไปต้องเจออะไรเลยสู้ต่อ พอรู้เข้าจริงๆแทบหงายท้อง
ว่ายน้ำ!
แม่เจ้า! พี่เป็นคนกลัวน้ำแถมเพิ่งหัดว่ายได้แค่สองอาทิตย์เท่านั้น มันไม่มีทางผ่านได้อยยู่แล้ว
แต่ความที่ถอยไม่เป็นเลยกัดฟันขึ้นไปยืนบนสะพาน ไม่ได้ว่ายในสระน้ำหรูหรอกค่ะ บ่อดินดีๆนี่แหละ แถมเป็นคนแรกด้วย ที่ประทับใจมากคือพี่ๆตชด.แหงกันมาให้กำลังน้องใหม่กันมาก มีการลงขันว่าใครจะชนะด้วย อาศัยเสื้อยืดกางเกงนักมวยของพี่เลยมีคนพนันไว้แยะ
ผลคือแพ้กราวรูด
ได้ยินน้องสาวมาเล่าให้ฟังว่าก่อนแข่งทุกคนฮือฮากับท่าทางและการแต่งตัวของพี่มากเลยลงเชียรกันแยะ แต่พอโดดลงน้ำและว่ายเท่านั้น หงายเก๋งกันระนาว
ไม่รู้นี่คะว่าจะพนันข้างเรา จะได้แขวนป้ายไว้ว่า ว่ายน้ำไม่เป็น
สรุปคือไม่ผ่าน แต่ก็สนุก ได้ไปลูบๆคลำๆมีดสปาร์ต้าของแท้จากพี่ๆตชด.ด้วย ขอบพระคุณมากเลยค่ะ
คืนนั้นพวกพี่ค้างที่หัวหินเพราะไหนๆก็มาแล้วเลยขอนอนกินลมชมทะเลเล่นหนึ่งคืน รุ่งเช้าก็ออกไปหาซื้ออะไรทานที่ตลาดโดยใช้รถจักรยานยนต์ที่เพื่อนน้องสาวมาให้ยืม ตอนรับความรู้สึกที่แตะคือ อย่าขับ แต่ตอนนี้คิดว่าคงเพราะเราไม่คุ้นมากกว่า
พี่ขี่รถคันนี้เข้าเมืองคนเดียว ขาไปก็ไม่มีอะไรแต่ขากลับมันสายมาก รถราก็เริ่มวิ่งกันขวักไขว่ ถนนสายหลักสิบล้อวิ่งกันถนนสะเทือน พี่ขับมาจนถึงสี่แยกก็ชะลอและเตรียมหยุดเพราะเห็นสิบล้อวิ่งตะลึงมาแต่ไกล พอแตะเบรกเท่านั้นใจหายวาบเลยค่ะ
รถไม่หยุด!
พี่ใช้ทั้งเบรกมือและเท้าปรากฏว่าใช้ไม่ได้ สิบล้อก็วิ่งใกล้เข้ามา ทำไงดีเพราะถ้าหักหลบรถต้องล้มแน่ๆ แถมกลางถนนแบบนั้นด้วย งานนี้เละแน่นอน
ตอนที่กำลังตกใจมีเสียงหนึ่งดังในหัวว่า ไปเร็ว! พี่เลยใส่คันเร่งเต็มที่แล้วบิดตัดหน้าสิบล้อไปเลย ตัวเย็นวาบเพราะลมที่วิ่งผ่านหลังตามมาด้วยเสียงด่าของคนขับ แต่ตอนนั้นไม่ได้ยินอะไรแล้วค่ะ ประคองรถวิ่งไปจนถึงที่พักและชะลอความเร็วลง อาศัยก้อนหินแถวนั้นแหละช่วยหยุด เล่นเอาเข่าบวมเลย
ผลก็คือเบรกไม่ค่อยดีต้องย้ำหลายครั้ง พี่นึกว่าทำไมไม่บอกก่อน และเตือนตัวเองทุกครั้งว่าก่อนจะให้ใครยืมของ หรือรับของมาจากใครให้ตรวจสอบสภาพให้ดีก่อนนำไปใช้ ไม่อย่างนั้นแล้วอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
นอกจากเรื่องนี้แล้วพี่ยังเคยมีลางบอกเหตุตอนเป็นนักเรียนมัธยมปลาย ตอนนั้นการไปโรงเรียนต้องไปต่อรถที่แยกบางเขน ระหว่างรอก็มองนั่นมองนี่ไปเรื่อย ตอนนั้นเองก็มีความรู้สึกว่า เราต้องเดินไปยืนที่รั้วนะ รั้วที่ว่านั่นก็คือหน้าสาธารณสุขบางเขนค่ะ ก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าทำไมต้องไปยืนตรงนั้นเลยไม่ขยับไปไหน ชั่วอึดใจเดียวก็มีคนส่งเสียงร้องพอหันไปมองก็เจอนักเรียนช่างกลกำลังไล่ตีกัน คนหนึ่งวิ่งหนีมาทางพี่โดยมีอีกสองคนถือดาบวิ่งไล่ พี่ยืนตัวแข็งเลยค่ะ งานนี้โดนลูกหลงแน่
ตอนคิดแบบนั้นพี่รู้สึกเหมือนมีคนผลักอย่างแรง ข่างกลสองคนนั่นวิ่งผ่านไป ส่วนตัวพี่ลงไปยืนที่ถนนมีรถเมล์คันหนึ่งจอดดูด้วยความตกใจ พี่รีบวิ่งกลับไปยืนบนทางเท้าและนึกว่าถ้าเราเดินไปยืนที่รั้วคงไม่เจอเหตุการณ์ประชิดตัวแบบนี้ แต่ก็โชคดีที่ไปเป็นอะไร
ลางบอกเหตุอีกครั้งเกิดบนรถเมล์ค่ะ จำไม่ได้ว่าจะไปไหนแต่ยืนต่อรถแถวลาดพร้าว พอดีสายจะนั่งมาก็โดดขึ้นไปนั่งที่เบาะเดี่ยวด้านหลัง บอหย่อนตัวปุ๊บก็ปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที แถมมีเสียงเตือนว่า รีบลงไปเดี๋ยวนี้ ความดื้อบวกกับขี้เกียจรอรถเลยไม่ยอม พอรถออกจากป้ายก็ได้ยินเสียงดังโครม ตัวพี่เซไปกระแทกกับเก้าอี้ข้างหน้า หัวเข่าช้ำทั้งสองข้างแถมเจ็บอกจนพูดอะไรไม่ออก
ปรากฏว่ารถเมล์คันนั้นโดนรถเมล์เล็กปาดหน้า เลยชนท้ายกัน ดีที่เพิ่งออกตัวไม่อย่างนั้นคงเจ็บหนักกว่านี้
มีครั้งหนึ่งตอนขึ้นรถเมล์ที่เกษตรที่นั่งตอนหน้าว่างพี่ก็จะเดินไปนั่ง ปรากฏว่าปวดหัวอีกและมีเสียงเตือนว่า อย่า เลยหยุด ผู้หญิงคนหนึ่งเลยเบียดขึ้นไปนั่งแทน พอรถวิ่งไปถึงสามแยกเกษตรก็จะเลี้ยว แต่ต้องรอคันหน้าเป็นรถยกขนาดใหญ่ซึ่งวิ่งได้ช้ากว่าให้เลี้ยวไปก่อนท้ายรถเลยสะบัดเล็กน้อย ตะขอเหล็กที่ถูกมัดไว้หลุดออกและแกว่งมาที่รถเมล์ฟาดกระจกหน้าจนแตกกระจาย พี่ยังโดนบาดไปหลายที่แต่ผู้หญิงที่นั่งเบาะหน้าโชคร้ายกว่าเพราะโดนขอเหล็กที่ว่านั่นกระแทกเต็มๆ พอดีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งอยู่ในรถคันนั้นด้วยเลยแจ้งรถพยาบาลได้ทัน
ไม่ต้องไปตามคนขับรถยก เพราะหายไปตั้งแต่กระจกแตกแล้ว ส่วนคนขับรถเมล์มีน้ำใจอยู่ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ทุกคนก็เป็นพยานให้ว่าเขาไม่ผิดแต่ก็คงโดนลงโทษตามวินัย
พอผ่านเหตุการณ์นั้นพี่เลยคิดว่าถ้าตอนนั้นเราไม่ฟังลางบอกเหตุเหมือนทุกครั้งแล้วไปนั่งที่เบาะหน้านั่นล่ะ
*/*/*/*/*
ขออภัยที่ลงช้าไปหนึ่งวันนะคะ เมื่อวานทำความสะอาดห้องพระครั้งใหญ่น่ะค่ะแถมด้วยล้างครัวอีกนิดหน่อย เลยไม่ได้เข้าเน็ต
เรื่องเล่าครั้งนี้อาจไม่ตื่นเต้นน่ากลัว ออกในแนวเล่าประสบการณ์สู่กันฟังมากกว่า ครั้งหน้าจะไปหักคอน้องนกให้เล่าเรื่องสยองมาให้ได้ค่ะ
วันนี้ชมภาพน่ารักรับเทศกาลสงกรานต์กันนะคะ วลาร์ดกับวูล์ฟ จากนักล่าแห่งรัตติกาล ฝีมือน้องฟิน EinniF ค่ะ
จากคุณ |
:
Moony_Lupin
|
เขียนเมื่อ |
:
17 เม.ย. 53 12:47:20
|
|
|
|  |