Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Sinner Redeems (๘)  

๑. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9018703/W9018703.html
๒. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9026155/W9026155.html
๓. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9041329/W9041329.html
๔. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9054093/W9054093.html
๕. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9066358/W9066358.html
๖. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9082250/W9082250.html
๗. http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9106378/W9106378.html

###

น้อง penwings @ อีนี่ก็ต้องรออ่านต่อไปหนา
อิยากินชามูเหรอ  ก็คงย่อยสลายเป็นโปรตีนและกรดอะมิโนละมัง...ระบบร่างกายมันใกล้คนกว่าน่ะ

หน่าจัง @ หุหุ  ต้องติดตามชะตากรรมของเว่นต่อไป

คุณ Caje @ หงึก ๆ นั่นสิเนอะ

คุณธารธารา @ แต่ละคนก็มาเจอกันเพื่อให้อะไร ๆ เปลี่ยนไปละมัง  
ส่วนจะเป็นไงต่อไปต้องอ่านต่อดูเน้อ

คุณ river @ ตอนแรกพี่แกคงหน้ามืดคิดว่าจะทำเพื่อเผ่า  ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว  ประมาณนี้มั้งคับ - -''

คุณ scottie @ หาไม่เจอหลังไมค์มานะขอรับ

ทินาจัง @ งือ > <

คุณ Aree-Yong @ บางทีคนดีก็เจอเรื่องอะไรมากกว่าคนอื่นเพราะทำอะไรมากกว่าคนอื่นละมังคะ
แต่ชะตากรรมของสองคนนี้ยังไม่จบแค่นี้หรอกหนา  ลองอ่านต่อไปดูก่อนเนอะ

คุณแนน @ ขอบคุณค่า  แก้ไขโดยพลัน > <

คุณ Draconia @ และเหตุการณ์ก็ยังดำเนินต่อไปขอรับ...
ไปเที่ยวเมืองจีนหนามาก  ที่ญี่ปุ่นคงพอ ๆ กัน  รักษาสุขภาพนะคับ

###

๘. ดีกับเลว

ล่วงเข้าปีที่สาม  สิ่งที่นัคทาพยายามทำก็เริ่มปรากฏชัดเจน

เขาต่อเครื่องกล  สอนให้คนอื่นใช้   เริ่มเข้าใกล้เมืองชามูมากขึ้น   สำรวจพื้นที่  สภาพอากาศ  และความเป็นไปได้ในการบุกโจมตี  เมืองชามูถูกล้อมด้วยสภาพอากาศเลวร้าย  ถึงอย่างนั้นก็น่าจะพอมีทางเข้าไปได้   นัคทาไม่เคยคิดรบซึ่งหน้ากับชามู   เขาบอกคนอื่นว่าอันตรายเกินไป   ชามูมีอาวุธ  มีพลัง

“แต่มันก็มีจุดอ่อน” ชายหนุ่มอธิบายเหนือแผนที่ที่เพิ่งทำขึ้นใหม่ “มันต้องกินอิยา  หากไม่กินอิยา  มันต้องตาย  ดังนั้นวิธีฆ่ามันดีที่สุดคือทำลายเสบียง เราจะไม่รบชามูซึ่งหน้า  แต่จะลักลอบพาอิยาที่ถูกจับไปหรือถูกเลี้ยงไว้ออกมา”

คนอื่น ๆ ไม่ทราบเรื่องนี้   เมื่อแรกจึงไม่เข้าใจว่านัคทาหมายถึงอย่างไร   ชายหนุ่มก็อธิบายว่าชามูไม่เพียงออกมาล่าอิยาไปกินเท่านั้น   ในเมืองชามูยังมีการเลี้ยงอิยา...เขาไม่แน่ใจว่าจะถึงขั้นผสมพันธุ์เหมือนปศุสัตว์หรือไม่   แต่ถึงอย่างไรก็มีการเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร   มีอิยาที่ถูกเลี้ยงเพื่อเจาะเลือดขายเป็นถุง ๆ สำหรับคนยากจน   และมีอิยาที่ถูกเลี้ยงอย่างดีเพื่อเอาเนื้อและเครื่องใน...อาหารล้ำค่าเปี่ยมพลังสำหรับคนร่ำรวย

ยามเขาเล่าเรื่องเหล่านี้ คนฟังบางคนโกรธจนตัวสั่น  บางคนตกใจหน้าซีดขาว  ไม่นึกมาก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้   แม้ว่าแต่ก่อนมาอิยาจะเคยเชื่อว่าตนเป็นเหยื่อ   แต่อิยาเป็นเผ่านักล่า  มีการเพาะปลูกและทำปศุสัตว์เพียงเล็กน้อย   พวกเขาเคยคิดว่าแม้ตนเป็นเหยื่อ  ก็ยังเป็นเหยื่อดีเช่นเสือเช่นหมาป่า  แต่ที่จริงแล้วในสายตาพวกชามู  พวกเขาเป็นเพียงหมูหรือไก่เท่านั้นเอง

“ข้าเคยสอบปากคำชามูที่เราจับมา” นัคทาเอ่ยต่อไป “มันว่าชามูคิดจะขยายการทำปศุสัตว์อิยา   จะได้มีอาหารพอเพียงสำหรับทุกคนตลอดไป”

เขาจงใจเลือกคำพูดเพื่อสร้างกระแสให้เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม  เขาต้องการพลังนั้นเพื่อทำให้เกิดความกระตือรือร้นจะเปลี่ยนแปลง  แต่ในขณะที่พูดออกจากปากตน  นัคทาก็รู้สึกชา...เขาเป็นเช่นนี้มาพักใหญ่แล้ว  ชาจนแม้ยามคนอื่นเคียดแค้นขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ชายหนุ่มกลับสงบนิ่งอยู่ได้ ระยะหลังนี้พวกอิยาด้วยกันล้วนสรรเสริญว่าท่านนัคทาเยือกเย็นมั่นคง  ทว่าที่จริงเขาเองก็ทราบว่าตนเพียงแต่ชา...ความชาของคนที่ยังมีมโนธรรม  แต่กลับจำเป็นต้องโกหกหลอกลวง   ความชาของพระราชาซึ่งเพื่อให้ชนะสงคราม  ก็พยายามถือเสียว่าศีลธรรมเป็นแต่สิ่งฟุ่มเฟือย

บางครั้งนัคทาก็เคืองใจ  เขาประสงค์จะพุ่งไปข้างหน้า  ร่วมรับรู้ความรู้สึกเช่นเดียวกับเพื่อนพ้องพี่น้อง  ร่วมโกรธ  ร่วมชิงชัง   ร่วมปรารถนาจะปลดแอก   ทว่าขณะที่จะพุ่งไปเช่นนั้น...ทุกครั้งจะต้องมีอีกเสียงในใจ  เสียงซึ่งรั้งเขาไว้   ซึ่งทำให้เขาไม่อาจไปทางใดจนสิ้นสุดได้   เสียงแปลกพิกลซึ่งกันเขาออกสู่วงนอก  ไม่ได้เข้าข้างชามู   แต่ก็ไม่อาจแค้นเต็มที่อย่างอิยา เสียงเช่นว่าในยามที่เอ่ยถึงชามูทำปศุสัตว์อิยา นัคทาก็ได้ยินคำกล่าวขอบคุณของโคเวน  เขาพูดอย่างนั้นทุกครั้งที่ชายหนุ่มยื่นถ้วยใส่โลหิตให้   ...ขอบคุณนะนัคทา   ปากพูดขอบคุณ   ใจก็คิดขอบคุณเช่นเดียวกัน  ทำให้ทุกครั้งนัคทารู้สึกว่าตนทำเรื่องสำคัญ   ทำเรื่องดี

ยิ่งเวลาผ่านไปนาน  นัคทายิ่งรู้สึกว่าตนแตกเป็นสองภาค   เขาไม่รู้ว่าส่วนใดเป็นความจริง   และส่วนใดเป็นความลวง   เขาคือนัคทา  ยืนอยู่ตรงหน้าคนอิยาทั้งปวง  พูดถึงการรบ  พูดถึงการปลดแอก   และเขาคือนัคทา  เพื่อนของคนชามูชื่อโคเวน  นัคทาแห่งอิยาฉลาดเฉียบขาด  เข้มแข็งมั่นคง   ไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ตนทำ   ไม่เคยหยุดคิดถึงผลประโยชน์ของอิยา   ทว่าในขณะเดียวกัน  ก็ยังมีนัคทาคนธรรมดา...มีข้อบกพร่องทั้งปวงของคนธรรมดา   มีความอ่อนแอ  ขี้ขลาด  โลเลตัดสินใจไม่ได้   มีความเสียใจ  เป็นนัคทาคนที่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่า...ไม่มีทางอื่นที่ดีกว่านี้หรือไง

แต่ความคิดและความรู้สึกของนัคทาคนนั้นล้วนไม่มีประโยชน์อันใด   ชายหนุ่มจึงเนรเทศมันไปไว้เสียข้างใน

...

ป่าของอิยากว้างใหญ่  เมื่อถึงในฤดูน้ำมาก   นัคทาก็ให้คนเร่งสะสมอาหาร   เขาส่งสายสืบข้ามบริเวณเขตแดนเข้าไปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ   สอนคนเหล่านั้นให้ตรวจอากาศจนกระทั่งพบรูปแบบที่แน่นอน   เขาส่งคนเข้าไปใกล้กำแพงเมือง   แต่ยังคงไม่ได้เข้าใกล้มากเกินไป   บางครั้งในวันที่อากาศแปรปรวนพอสมควร   นัคทาก็คืนร่างเป็นหมาป่าใหญ่   เขาวนเวียนไปรอบ ๆ กำแพงนั้น   พยายามเข้าใจ   พยายามคิดว่าจะเข้าไปได้อย่างไร

แม้ในสายตาของอิยา เมืองชามูจะดูใหญ่โตกว่าหมู่บ้านหลายร้อยเท่า เป็นมหานครซึ่งโอฬารจนแทบจะเข้าใจไม่ได้   แต่ในความเป็นจริง   เมืองชามูก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป   นัคทาเคยประมาณว่าประชากรอิยารวมกันทุกเผ่าน่าจะมากกว่าประชากรชามู   ดูเหมือนจากปากคำของโคเวน   คนชามูจะมีลูกน้อยกว่าอิยาอย่างเห็นได้ชัด   สามีภรรยาแต่งงานกันอาจจะมีลูกอย่างมากสักสามคน   โคเวนบอกว่าเขามีพี่ชาย    แต่พอนัคทาถามว่าเป็นอย่างไร  ชายหนุ่มก็จะเงียบเสีย   เขามีปัญหากับครอบครัว   บางทีปัญหาคงฝังลึกอยู่ในใจ  แม้เป็นคนไม่ตัดสินใครก็ยังคงรู้สึกอยู่นั่นเอง

นอกจากนั้น  นครของชามูก็ดูจะแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน   มีส่วนที่อยู่อาศัย  เขตการศึกษา  ย่านกิจการงาน  ย่านบริหาร  ตลอดจนย่านบันเทิงเริงรมณ์ ว่าไปนอกจากเรื่องอาหารแล้ว   ชามูก็ดูจะไม่มีปัญหาอะไรในชีวิตอีก   ดังนั้นคนชามูส่วนใหญ่   แม้คนยากจนก็ค่อนข้างมีชีวิตสบาย   ยิ่งพวกคนชั้นสูงร่ำรวยแล้ว  มักใช้เวลาทำสิ่งต่าง ๆ ที่อยากทำมากกว่าจะมาดิ้นรนอะไร   ดูเหมือนชามูจะไม่มีวิทยาการใหม่ ๆ มานานแล้ว   ทุกอย่างสร้างบนรากฐานของอารยธรรมเดิม ผู้คนไม่ต้องการหรือคาดหวังอะไร เหมือนมหานครมากมายที่ยามมั่นคงพอแล้ว  ผู้คนก็แสวงอำนาจเล่นการเมือง  สู้รบกันเองภายใน  หรือหันมาสนใจแนวคิดและลัทธิศาสนาแปลก ๆ   โคเวนเห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องธรรมดา   แต่นัคทาที่ฟังอยู่มักรู้สึกชัดเจนว่าพวกชามูเน่าใน   เอื่อยเนือย  แทบไม่มีความกระตือรือร้น   เขาคิดว่าบางทีอาจเพราะอย่างนั้น  จึงมีชามูบ้าคลั่งที่ออกมาทำร้ายอิยาเพื่อฆ่าเวลา  มีพลังงานอยู่แต่ไม่รู้จะทำอะไร   ก็ต้องเอาพลังงานนั้นไปไว้ที่ไหนสักแห่งอยู่ดี

บางทีคงเพราะสุขสบายถึงเพียงนี้กระมัง   ทุกอย่างจึงค่อนข้างหละหลวม   นัคทาใช้เวลาสองสามเดือน   ก็หาทางเข้าเมืองได้   เขาไม่แน่ใจว่าอิยาคนอื่น ๆ จะรับความแตกต่างตลอดจนวิทยาการของชามูไหวหรือไม่  ตนเองจึงลองปลอมปนเข้าไปในหมู่อิยาที่ถูกเลี้ยงไว้ก่อน   เขาเรียนรู้อะไรหลายอย่างจากที่นั่น   แต่ละอย่างไม่มีอะไรน่าดีใจเลยสักอย่างเดียว

“พวกนั้นคิดว่า...” ชายหนุ่มบอกบิดาในภายหลัง “ตัวเองเกิดมาเพื่อถูกกิน”

อิยาที่ถูกเลี้ยงในเมืองค่อนข้างสุขสบาย  ยิ่งพวกที่เกิดในที่คุมขังยิ่งไม่มีความเดือดร้อนอะไร  พวกนั้นกินอิ่มนอนหลับ มีอาหารบริบูรณ์ ถูกเลี้ยงขุนอย่างดี  เพราะที่จริง...แม้ผิดจากความคิดของนัคทาอยู่มาก...ชามูก็เป็นพวกเจริญแล้ว   มีอารยะไม่ได้ป่าเถื่อนโหดร้าย   พวกนั้นเห็นอิยาที่เลี้ยงไว้เป็นสิ่งใช้การได้  เป็นอาหาร  เป็นสิ่งมีค่า  จึงสมควรต้องพิทักษ์ดูแล ยิ่งเป็นอิยาที่มีไว้สำหรับเจาะเลือดขายแล้ว ยิ่งได้รับการบำรุงจนแทบถึงขั้นไม่ต้องทำอะไร

นอกจากนี้  อิยาในกำแพงก็ไม่มีสติปัญญา  ส่วนหนึ่งคงเพราะพวกนั้นสุขสบายเสียจนไม่ต้องคิดอะไร  และอีกส่วนหนึ่งคงเพราะพวกชามูต้องการให้เป็นอย่างนั้น   สิ่งที่โคเวนเคยเตือนนัคทาเป็นความจริง ชามูรู้สึกว่าอิยาสง่างาม  เป็นบุตรของโลก  วิญญาณแห่งป่า  แต่ในขณะเดียวกันก็จะอึดอัดใจหากเห็นอิยามีสติปัญญา  ความฉลาดเป็นสิ่งบ่งบอกว่าสิ่งมีชีวิตนี้ก็มีจิตใจเช่นเดียวกัน  เจ็บปวดหนาวร้อน   มีความสุขและความทุกข์   ตลอดจนสามารถคิดเห็นเองได้   ชามูอึดอัดใจที่จะคิดว่าอิยาไม่ต้องการให้อะไร ๆ เป็นเช่นนี้   ว่าที่จริงแล้วอิยาไม่ได้อยากถูกกิน  ตลอดจนไม่อยากตาย  เมื่อเป็นอย่างนั้น อิยาที่ถูกเลี้ยงไว้ในกำแพงส่วนใหญ่จึงมีระดับสติปัญญาค่อนข้างต่ำ ว่าไปนัคทายังอดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากพวกชามูไม่กลัวว่าอาหารจะด้อยคุณภาพลง คงให้อิยาผสมพันธุ์กันเองในครอบครัว   ลูกหลานที่เกิดมาจะได้โง่เขลาปัญญาอ่อน   ไม่ต้องคิดอะไร

เขาโกรธที่พบอะไรอย่างนั้น    แต่ในขณะเดียวกันกลับพบว่าความโกรธของตนอาจจะไม่มีความหมาย...พวกอิยาในกำแพงสบายเสียจนกลายเป็นพวกเกียจคร้านไม่อยากคิด  แทบทุกคนเชื่ออย่างง่าย ๆ และฝังหัวว่าตัวเองเกิดมาเพื่อให้ “นาย” กิน  ว่าการถูกกินเป็นเรื่องถูกต้อง   เป็นความยินดี   ผิดจากหนทางนี้ก็ไม่มีหนทางอื่น ๆ อีกเลย

เมื่อเห็นสภาพอย่างนั้นแล้ว นัคทาก็นึกถึงโคเวน เขาจำได้...ครั้งหนึ่งโคเวนเคยอ่านหนังสือ และนั่งจ้องหน้ากระดาษเป็นเวลานาน  ครั้นถามว่ามีอะไร โคเวนก็ว่าหนังสือพูดถึงทาส เมื่อถามต่อไปว่าทาสเป็นอย่างไร   และเหตุใดจึงต้องเคร่งเครียดถึงเพียงนั้น   ชาวชามูก็ตอบเรียบ ๆ ว่าทาสคือคนรับใช้ที่เป็นสมบัติของนาย   เขาว่าในกาลก่อน...ในอารยธรรมก่อนกระมัง   ทาสถูกสั่งสอนให้เชื่อว่าตนต่ำกว่า   ว่าตนควรเกิดมาเป็นเช่นนี้เอง

“ก็เหมือนชาวอิยาสินะ” นัคทาถามเสียดสี

“อืม” โคเวนรับในคอ “แต่ก็มีทาสบางคนที่เชื่อเช่นนั้นจริง ๆ  ยามถูกปลดปล่อยก็งุนงงเวิ้งว้าง  ไม่ทราบว่าตนควรทำอย่างไร   ในใจสับสนจนราวสูญเสียทุกอย่างไป”

“พวกอ่อนแอ”

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 53 23:33:33




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com