Return of the Angel บทที่ 19
|
|
กว่านิดาจะโทรศัพท์มาก็เกือบสี่โมงเย็น ปัญชยากำลังร้อนรุ่ม หล่อนเดินไปมาราวกับพื้นบ้านร้อนเป็นเปลวไฟ โดยมีสุภางค์นั่งมองจากโซฟา
ขอโทษนะปัง...กว่าจะเจอตัวผอ.เซ็นอนุญาตให้นิดออกมาก็บ่ายสอง กว่าจะนั่งรถมาถึงกำแพงเพชรอีก... เสียงนิดาสั่นนิด ๆ จนปัญชยารู้สึกผิด
ไม่เป็นไรหรอกนิด อย่าซีเรียสเลย เรารอได้
นิดไม่ได้ซีเรียสกลัวปังจะโกรธหรอก แต่ตอนนี้...สถานการณ์ไม่สู้ดีเท่าไร
คนฟังตาโต ถามเสียงดัง เกิดอะไรขึ้นนิด!
นิดอยู่หน้าบ้านพีช...พีชพาน้องภูมิมาที่นี่จริง ๆ แต่เขาปิดประตูใส่หน้านิด เนี่ย...ล็อกกุญแจ รูดม่านหน้าต่างปิดหมด น่ากลัวจังเลยปัง
น่ากลัว คำนี้ทำให้ปัญชยารู้สึกเย็นสันหลังขึ้นมา หล่อนนึกภาพบ้านไม้สองชั้น ที่รอบบริเวณค่อนข้างรกเรื้อ แถมด้วยอาการแปลกประหลาดของพิชาวดี คงเป็นสาเหตุให้นิดาถึงกับเสียงสั่น
นิดได้คุยกับพีชไหม หล่อนถามเพื่อน
ก็แค่ตอนที่เข้าไปหาพีชนั่นแหละ พีชหน้าแดงตาแดง เหมือนคนอดนอน หรือไม่ก็ดื่มหนัก เดินตาขวางออกมา พอนิดถามว่ากลับมาบ้านทำไม พีชก็ไม่ตอบ นิดถามถึงน้องภูมิ พีชก็บอกว่าหลับอยู่ข้างบน นิดเลยขอขึ้นไปดู เท่านั้นแหละปัง พีชผลักนิดแทบหงายท้อง ตวาดว่าไม่ได้ ไปให้พ้น...แล้วก็ปิดประตูโครม
เพราะเคยเจอเหตุการณ์คล้ายกันมาแล้ว ปัญชยาจึงฟังอย่างสงบ แต่ใจร้อนรุ่มด้วยความเป็นห่วงเด็กชาย
แจ้งตำรวจดีไหมปัง... นิดาเอ่ยขลาด ๆ บอกตำรวจว่าแม่เด็กคลุ้มคลั่งอะไรไม่รู้ จะทำร้ายลูก...
คนฟังคิดหนัก คิ้วโก่งขมวดหากันจนเป็นร่องตรงกลาง
เราไม่รู้ว่าพีชจะรับมือยังไงน่ะสินิด...ถ้าตำรวจมา พีชเขาอาจแสร้งว่าเขาปกติดี นิดจะเดือดร้อนเสียเองนะ
ก็นั่นน่ะสิ...โอ๊ย! นิดาเหลืออด นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ จะทำยังไงดีเนี่ย
ปัญชยาถอนใจเฮือก ปังจะไปคุยกับเขาเอง
ตอนนี้เนี่ยนะ...เย็นมากแล้วนะ ปังจะมาเหรอ นิดาตกใจ
ปังจะไป ปังเป็นห่วงน้องภูมิ
สุภางค์มองหน้าลูกสาวอย่างคาดไม่ถึง หล่อนอ้าปากจะท้วง แต่ปัญชยาไม่สนใจ นิดรออยู่ที่นั่นได้ไหม หรือถ้ากลัว จะเข้าเมืองไปหาเพื่อนก็ได้
นิดยอมรับว่ากลัวนะปัง...แต่ก็ห่วงน้องภูมิเหมือนปังนั่นแหละ เอาเป็นว่านิดจะอยู่แถว ๆ นี้ รอจนกว่าปังจะมาละกัน
ปัญชยาวางสาย วิ่งโครม ๆ ขึ้นบันได หยิบของใช้และเสื้อผ้าสองสามชิ้นใส่กระเป๋าใบย่อม พอวิ่งลงบันไดมา มารดาก็เอ่ยทันที
เด็กอยู่กับแม่มันที่กำแพงเพชรเหรอ
จ้ะแม่ ปังกำลังจะไปหาเนี่ย
ไม่ได้
ปัญชยาชะงัก มองหน้ามารดางง ๆ สุภางค์ดูเคร่งเครียดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม่ไม่ให้แกไป เพื่อนแกมันบ้าไปแล้ว แกยังจะรนหาที่อีกหรือ
แต่ปังปล่อยให้น้องภูมิอยู่กับพีชไม่ได้ ลูกสาวโต้ ปังแค่ไปดู...
ยังไง ๆ เขาก็เป็นแม่ลูกกัน แม่ไม่ทำร้ายลูกหรอก
แต่วันนั้นแม่ก็เห็นแล้ว ว่าพีชใจร้ายใจดำกับน้องภูมิแค่ไหน
จะยังไงก็ช่าง แม่ไม่ให้แกไป! สุภางค์ประกาศกร้าว หากปัญชยาเดินดุ่มออกจากบ้าน ไม่ฟังเสียงมารดาไล่หลังมา
แกอย่าแส่หาเรื่องได้ไหม แค่รับภาระเลี้ยงดูลูกให้เขานี่แกยังไม่พอใช่ไหม เกิดเรื่องเกิดราวยังต้องไปช่วย ไปหาทำไม แกมันเหมือนพ่อ ชอบเอาเรื่องคนอื่นมาใส่ตัว...
หญิงกลางคนชะงัก พร้อม ๆ กับปัญชยา เพราะเบื้องหน้า ตรงประตูรั้วที่เปิดกว้าง ร่างสูงของอิศวเรศยืนอยู่ที่นั่น
ใบหน้าคม มีคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นน้อย ๆ เหมือนตกใจกึ่งประหลาดใจ เขายังอยู่ในชุดทำงาน ผูกเนคไทเรียบร้อย
ชายหนุ่มกะพริบตาถี่ รู้สึกเก้อยามถูกสองแม่ลูกมองมาหน้าตื่น ๆ ก่อนยกมือไหว้สุภางค์
สวัสดีครับคุณแม่...ผม...เอ่อ...
ร่างบางในเดรสสีโอลโรส เคลื่อนมาขวางหน้า คุณมีอะไรคะ... หล่อนมองเขาด้วยแววตาคาดคั้น
ในเมื่อบอกเขาไปแล้ว...ว่าขอห่างกันสักระยะ แล้วนี่เขามาทำไม...
แต่...พอได้เห็นหน้าเขาตอนนี้ เหมือนเมฆหมอกมืดดำหนักอึ้งในใจมันกระจายออกทีละน้อย
ผมรู้สึกเป็นห่วง...แล้วก็คิดถึงคุณ... ชายหนุ่มกระซิบเบา ๆ แก้มเนียนปรากฏรอยแดงเรื่อ ก็เลยมา...ตอนแรกคิดว่าคงไม่เจอคุณ...เพราะเพิ่งสี่โมงครึ่ง แต่เจอแม่คุณก็ยังดี...
หญิงสาวอึ้งไป มือซึ่งหิ้วกระเป๋าใส่ของห้อยตกลงข้างตัว อิศวเรศเหลือบมองสุภางค์ที่เดินตรงมา
ถ้าแกจะไป...แม่อยากให้แกไปกับคุณฟาโรห์
ปัญชยาหันขวับ เบิกตามองมารดาเหมือนไม่เชื่อหู อิศวเรศเลิกคิ้วอีก
มี...มีอะไรกันเหรอครับ...คุณปังจะไปไหน เขาถามงง ๆ
ปังจะไปกำแพงเพชร ไปเอาน้องภูมิคืนมาจากแม่ใจยักษ์น่ะสิ สุภางค์ตอบเสียงดังฟังชัด
แม่...คุณฟาโรห์เขาไม่เกี่ยวนะ... ปัญชยาขยับ
ทำไมจะไม่เกี่ยว หญิงกลางคนสวนทันควัน ในเมื่อเขาทำให้เพื่อนของแก ลงมือทำร้ายลูกเพราะอยากได้เขาจนตัวสั่น เขาทำให้แกอับจนหนทาง ต้องยอมเป็นเบี้ยล่างให้เพื่อนโขกสับอยู่นี่ไง!
อิศวเรศสีหน้าตระหนก อะไรนะครับ...ผม...ใครทำร้ายลูก...
เขามองหน้าปัญชยา ซึ่งยืนเม้มปากนิ่ง สุภางค์พูดเสียงเครือ
นอกจากชอบรับภาระแทนคนอื่น แกมันยังปากหนัก มีอะไรก็บอกเขาไปสิ...บอกเขาไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่เก็บอมพะนำไว้กับตัว เรื่องมันหนักหนาถึงขั้นนี้แล้ว แกยังจะแบกรับมันไว้คนเดียวอีกหรือ แม่เป็นห่วงแกนะ ที่พร่ำพูดพร่ำบ่น ไม่ใช่เพราะเกลียดที่แกเป็นลูกพ่อ หรืออยากฝังหัวให้แกเกลียดพ่อ แต่แม่อยากให้แกเปิดใจ บอกความรู้สึกของตัวเองออกมา อย่าเป็นเหมือนอย่างแม่ ที่โกรธพ่อแกเรื่องเมียน้อย ขับไล่ไสส่งเขาไป ถ้าแม่บอกพ่อแกว่ารัก ขาดเขาไม่ได้ บางที...พ่อแกอาจเปลี่ยนใจ เลิกกับเมียน้อยแล้วยอมกลับบ้าน มาอยู่กับพวกเราเหมือนเดิม...
มารดาพูดทั้งน้ำตา ปัญชยาเองก็ยืนน้ำตาหยดเผาะ ๆ
แม่รู้จักพ่อแกดี...ถ้าแม่เปิดใจกับเขา เขาต้องกลับมา แต่แม่มันถือทิฐิ...แม่ถือมันไว้ตลอดมาจนถึงเดี๋ยวนี้...แกอย่าเป็นเหมือนพ่อกับแม่เลยนะ...แม่อยากเห็นแกมีความสุข
สุภางค์ปาดน้ำตา หันมามองอิศวเรศที่ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ ก่อนเดินกลับเข้าบ้านเงียบ ๆ
เกิดอะไรขึ้นครับ ชายหนุ่มแตะแขนปัญชยาเบา ๆ
เท่านั้น ความรู้สึกอัดอั้นจากเรื่องราวที่ผ่านมา และที่กำลังเผชิญอยู่ ก็ราวกับทำนบเขื่อนซึ่งพังทลายลงในทันที
หญิงสาวก้าวเข้าหา ซบหน้ากับอกกว้างในเสื้อเชิ้ตสีขาว แล้วร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น
แม้จะไม่รู้เรื่องราว แต่วงแขนแข็งแรงของเขา ก็สวมกอดร่างหล่อนไว้แนบอก
.............................................................................................................................
ความมืดยามราตรีปกคลุมรอบทิศ รถเก๋งสีดำแล่นตะบึงไปบนถนนสายหลักมุ่งสู่ภาคเหนือ ภายในรถเงียบกริบ นอกจากเสียงเครื่องยนต์ดังเบา ๆ แล้ว ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศเยือกเย็น เคร่งเครียด
ทำไมคุณไม่บอกผมแต่แรก ว่าน้องภูมิเป็นลูกของคุณพีช
อิศวเรศเอ่ยขึ้นในที่สุด หลังฟังเรื่องราวจากปัญชยา แล้วเอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทางจนรถแล่นพ้นเขตกรุงเทพฯ มาไกลโข
ฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ปัญชยาพูด คุณเองก็ไม่ได้คบหากับพีชนี่คะ
มันก็ใช่... ชายหนุ่มลากเสียง แต่คุณพีชเขาก็พยายามเอาตัวเข้ามาใกล้ผมตลอด...คุณไม่รู้อะไร เธอไปหาผมที่แบงออกบ่อย
เรื่องนั้นฉันทราบค่ะ เพื่อนคุณเคยบอกฉัน
นั่นแหละ...ถ้าคุณบอกผมเรื่องน้องภูมิ ผมจะได้ระวังตัวมากกว่าเดิม
หญิงสาวเอี้ยวคอมองหน้าเขา ฉันถามจริง ๆ เถอะค่ะ...การที่ผู้หญิงคนหนึ่ง เคยมีสามี มีลูกมาก่อนนี่...ผู้ชายส่วนมากไม่ค่อยยอมรับหรือคะ
อิศวเรศสบตาหล่อนแวบหนึ่ง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นเสียหน่อย ผู้ชายเรา ถ้าลองว่ารักจริงละก็...อดีตของผู้หญิงไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอกครับ ปัญหามันอยู่ที่ว่าคุณพีชเธอปิดบังผมต่างหาก
นิ้วเรียวสะอาด เคาะพวงมาลัยเบา ๆ ยามเจ้าตัวพูดต่อไปว่า ผมนึกไม่ถึงเลยนะ ว่าคุณพีชถึงกับอาละวาด ทำร้ายลูกตัวเองเพื่อต่อรองขอผมจากคุณ...มันฟังดู...ชอบกล...น่าขนลุก... เขายักไหล่
พีชคงเจอเรื่องร้าย ๆ มามาก...รวมถึงเรื่องที่คุณปฏิเสธเธอด้วย...เธอรู้ว่าฉันรักน้องภูมิ จึงใช้แกเป็นเครื่องต่อรอง ฉันตอบตกลงไปทั้งที่ลึก ๆ แล้วฉันมั่นใจว่าคุณคงไม่เล่นด้วยแน่ถ้ารู้เรื่อง...แต่ตอนนั้นฉันจำเป็นต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน...
คนฟังอมยิ้ม ก่อนเอ่ย ถามจริง ๆ เถอะครับ ถ้าสมมติว่าคุณพีชไม่ยกเรื่องน้องภูมิมาต่อรอง คุณจะยอมยกผมให้คุณพีชไหม
ถามแล้วยิ้มประสาคนขี้เล่นชอบหยอก เดาว่าหล่อนคงจะยิ้มเขิน แล้วตอบแบบเลี่ยง ๆ อาย ๆ หากปัญชยานิ่งเงียบ เหมือนใช้ความคิด แล้วตอบว่า ไม่ค่ะ
ชายหนุ่มหันมองหล่อน ร่างบางนั่งนิ่ง ทว่าดูแข็งแกร่งยามพูดช้า ๆ ชัด ๆ ฉันยอมเขามามากก็จริง แต่เรื่องคุณ...ไม่ว่าจะเป็นพีช หรือผู้หญิงคนไหน ๆ ชั้นจะไม่ยกให้ง่าย ๆ แน่นอนค่ะ แม่ฉันเคยบอกว่าคุณไม่ใช่สิ่งของ ที่จะเที่ยวยกให้ใครไปได้ ฉันเห็นด้วยกับแม่...
ความอบอุ่นเบาบาง แล่นวูบเข้าสู่หัวใจของหญิงสาว ยามได้เปิดเผยความรู้สึกจากใจจริงออกมา คุณฟาทำให้เปลือกหยาบกระด้างที่หุ้มห่อตัวฉัน ค่อย ๆ ปริแยกออก คุณทำให้ฉันยิ้ม หัวเราะได้เต็มเสียง หัวใจก็เต้นแรง ทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันคือมนุษย์ที่สมบูรณ์ มีเลือดเนื้อ มีหัวใจ มีอารมณ์ความรู้สึก เช่นเดียวกับคนธรรมดาทั่วไป หลังจากที่ปิดตัวและหัวใจ เพราะเรื่องของพ่อแม่มานาน...ถ้าในตัวฉันมีช่องว่าง...คุณฟา ก็คือคนที่เข้ามาเติมเต็ม...
มือใหญ่ เอื้อมมาเกาะกุมมือเล็กขาวซีดซึ่งวางอยู่บนตัก ไปกระชับไว้มั่น
ไม่ต้องเอ่ยคำพูดใด ๆ ออกมาอีก อิศวเรศรู้สึกมั่นใจยิ่งกว่าเดิม ว่าปัญชยาคือคนที่ ใช่ สำหรับเขาแล้ว เขาเลือกถูกแล้ว...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น...เขาจะปกป้องดูแล ยืนเคียงข้างผู้หญิงคนนี้ และจะรักเธออย่างสุดหัวใจ
| จากคุณ |
:
BAHAMAS
|
| เขียนเมื่อ |
:
19 เม.ย. 53 16:53:27
|
|
|
|