ความคิดเห็นที่ 1 เชียร์ครับ ต่อเลยครับ . . . . . จะรออ่าน ดีจัง คิดถึงความหลังมากมาย ไม่ได้ไปมาตั้ง สิบกว่าปีแล้ว เดี๋ยวนี้ เปนอย่างไรบ้างก็ไม่ทราบ . . . ป.ล. ร้านก๋วยเตี๋ยวหัวมุมซอยฝั่งตรงข้าม ซอยสอง ที่มีโต๊ะปูหินอ่อนโบราณ ๆ ขายเบียร์ขวดเล็ก สามสิบบาท (ราคาสมัยนั้นนะเนี่ย) ยังอยู่ไหมครับ ? แฮ่ . . . . . จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 18:22:05

ความคิดเห็นที่ 2 ซ้ำ . . . แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 18:29:34 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 18:22:24

ความคิดเห็นที่ 3 และ . . .ซ้ำ . . . เฮ้อ . . . เกิดอะไรขึ้นกับน้าพันหนอ . . . ? แฮ่ . . . แก้ไขเมื่อ 20 เม.ย. 53 18:31:16 จากคุณ : พจนารถ๓๒๒ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 53 18:23:13

ความคิดเห็นที่ 4 แห่ะๆ ขอบคุณคุณพจฯ มากนะครับ จริงๆแล้วเดมอสแต่งอันนี้ไว้เกือบ 10 ปีแล้วล่ะครับ แต่ทุกวันนี้ก็ยังไปเที่ยวซอยสองอยู่บ้างอ่ะ เลยคิดถึงที่แต่งไว้นี้ ก็เอามาลงครับ มีตัวละครบางตัว และบางสถานที่ก็ไม่มีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมัน เก็บไว้อ่านแก้คิดถึงวันเก่าๆอ่ะครับผม .................. ส่วนร้านหัวมุมที่ว่า ยังอยู่นี่ครับ แต่ไม่น่าจะขายกลางคืนนะ เห็นบ่ายแก่ๆก็ปิดร้านแล้ว ไม่แน่ใจว่าเปิดอีกครั้งตอนดึกหรือเปล่าอ่ะ ขอบคุณมากนะครับ จากคุณ : เดมอส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 04:09:43

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนที่ ๒ : อุตสาหะเพื่อพบกัน วิ่งบัดเดี๋ยวเลี้ยวมาสถานีใหม่ พญาไทใครจะลงคงจะเขลา ดูเหว่ว้าวิเวกโหว๋โชว์ซึมเซา สถานีเหงาคราเราผ่านย่านนี้ไป ลองลอบมองส่องแอบแนบบนรถ หนุ่มยงยศยิ่งหลายชายหน้าใส หน้าตาดีจนอยากแนบแอบส่งใจ ชำเลืองไกลเหมือนใครเหล่เกย์ซิกกัน เมื่อเมียงมองลองชม้ายชายผ่องแผ้ว พลันถึงแล้วราชเทวีสถานีนั้น ฟังชื่อบางพลางคิดย้อนยอกรำพัน เทวีฉันพลันเศร้าใจไม่ได้มา แลข้างหน้าหาลิบลิบอยู่วิบวับ ดวงไฟจับรับแวววาวพราวพร่างหา ตึกใหญ่สูงฝูงชนล้อมปานดารา คือสาขาสยามสแควร์แลโอฬาร ถึงคราวแล้วที่พระอินทร์ต้องผินเมฆ ต้องโยกเยกเปลี่ยนขบวนย้ายสถาน ต้องเปลี่ยนรถปลดปล่อยพลอยรำคาญ ตาเหลือกลานพาลวิ่งจี๋หาที่จอง ขึ้นรถใหม่ใจแป้วแผ่วดวงจิต ชายที่ชิดมิตรที่เหล่เกย์ทั้งผอง กลับลงล่างห่างไปลิ่วปลิวสำรอง เห็นประคองสองเกย์หนุ่มพากลุ้มใจ จะมองใหม่หาใครเหล่ก็เหว่ว้า เห็นลุงป้าอาม่าอยู่กู่เสียงใส ซี๊เลี้ยวอ้าโอ้ตัวข้าปวดหทัย จะเหล่ใครเหมือนใช้แห้วแผ้วทางเรา รถโค้งขวาผ่านหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพมีฤทธิ์จิตข้าน้อยกลอยคนเหงา ตั้งใจนึกลึกดวงจิตพินิจเอา ขอพรหมเจ้าเข้าคุ้มครองข้าป้องภัย ไหว้พรหมแล้วผ่านหน้าราชดำริ ลองตรองตริชีวิตฉันจะผันไหน จะร่อนเร่เป็นเสเพลอย่างนี้ไป ยอดยาใจคงไม่อยู่คู่วันตาย เอาหน้าแนบอิงแอบแถบกระจก สะอื้นอกหากกลับตัวคงไม่สาย แต่นึกใหม่มองดูหน้าข้าก็ชาย ย่อมต้องหมายคลายความเครียดละเมียดเมา คิดได้แล้วดั่งนี้จึงมีพร้อม มายืนอ้อมเคียงเบียดเดินเฉียดเขา ศาลาแดงแผลงศรรักปักอกเรา ดินแดนเก่าเขาเรียกบนถนนสีลม โอ้สีลมสมนามสยามเดช เพราะมีเหตุอันใดหรือจึงขื่นขม ใช้กังหันผันสวาทความระบม ทุกข์ระทมให้จมหายสายลมแรง แลลงไปในเบื้องสูงเห็นฝูงคน เดินสับสนชนแล้วหลีกไม่กำแหง บ้างซื้อหาพาขายของราคาแพง ยีนส์ป้ายแดงแพงจับจิตพิศดีดี ออกจากช่องสยองตูดอีกคราหนึ่ง พอบานฉึ่งก็รีบแวบแฉลบหนี ไอ้ช่องบ้าจะทำเสียวเปรี้ยวกูดี เลยรีบลี้ครรไลลงไคลคลา เหยียบถึงพื้นก็ชื่นมื่นในทรวงอก เหมือนเราตกอกสวรรค์ชั้นไหนหนา เห็นแต่คนเร่รวยสวยหน้าตา ผ่านไปมาพาลมปลิวผิวหอมนวล มองดีดีพี่ดูใหม่ไหงเป็นตุ๊ด เดินบิดตูดพูดเสียงแตกแหลกลมหวน เป็นเกย์สาวก็มากมีที่เชิญชวน ยิ้มยั่วยวนกวนใจหนุ่มกลุ้มใจเรา มาถึงแหล่งแห่งที่มิตรติดตามนัด คนแออัดพลัดกันออกพลัดกันเข้า คือคอฟฟี่โซไซตี้เหมือนที่เดา ที่เกย์เอาไว้พบก่อนเพื่อผ่อนแรง โอ้แม่จ้าว...ก้าวเข้าไปไม่อยากเชื่อ ไม่มีเหลือผู้หญิงจริงมาแอบแฝง มีแต่เกย์หล่อหน้าขาวปากแดงแดง อยากแซกแซงจีบทั้งหมู่มาสู่กัน มองแลหามาไม่นานก็พานพบ ได้ประสพพบมิตรรักเพื่อนนักฝัน ยิ้มเต็มหน้าหูตาแหกแยกยิงฟัน เหมือนเรานั้นไม่เจอกันมาหลายปี ฯ (ต่อ)......................... *คอฟฟี่โซไซตี้ = ร้านกาแฟเล็กๆ อยู่ตรงเชิงบันไดรถไฟฟ้าสถานีศาลาแดง มักเป็นที่นัดพบของเกย์ก่อนไปเที่ยวในซอยข้างๆต่อ จากคุณ : เดมอส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 04:42:27

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนที่ ๓ : ปะทะดวงดาวสวรรค์ เลยมุ่งตรงลงดิ่งถึงตัวเพื่อน ไม่แชเชือนเลื่อนเข้ากอดมือสอดสี แกล้งโอบอ้าแล้ววนอ้อมจับตูดที เพราะเพื่อนนี้มีอดีตเคยจีบกัน คราหนึ่งนั้นวันที่หวามความเป็นมิตร เริ่มผูกจิตจากใจปองสนองฉันท์ ตอนคบหามาแต่แรกเพราะอยากฟัน แต่มาผันสัมพันธ์ลบคบเพียงใจ กอดกันแล้วก็แผ้วถอนวอนดูหน้า อูยส์เพื่อนข้ายังขำคมสมวัยใส เลยลองนึกคึกพิเรนทร์อยากจุดไฟ กระพือให้ไฟถ่านคุลุกามา นึกขึ้นได้เพื่อนเจ็บอกตกดวงจิต เลยถามมิตรเป็นอย่างไรไขภาษา ไปช้ำรักหักหัวใจใครระอา โปรดตอบข้าถ้าแบ่งปันฉันจะทำ ไอ้เอี้ยเอ้ยกูเคยบอกแล้วใช่ไหม อย่าซ้ำใจอะไรกูอย่ากู่ซ้ำ นัดมรึงเที่ยวอย่าเลี้ยวลดเพื่อนรยำ โธ๋เวรกรรมฟังเพื่อนตอบแล้วขอบคุณ เอาล่ะโหวยโวยละวะจะไปไหน เพื่อนจางไรขอแกตอบอย่าหันหุน เดี๋ยวกูถีบมรึงซะก่อนทอนเป็นทุน เหมือนทำบุญกับชายแตกแหลกหทัย หลังจากเถียงเพียงจะกัดจัดมวยปล้ำ เพื่อนคมขำก็แนะทางว่าไปไหน มีสองที่ที่เราคุยจะลุยไป ฟรีแมนไงกับเอ๊กซ์เพรสโซ่ดูโก้งาม ถ้าฟรีแมนแสนสนุกกระตุกจิต จะได้ชิดคิดแอบเข้าเอาชั้นสาม มันมืดมิดคิดจับไข่ใครก็ตาม สวาปามกามโลกีย์ก็ฟรีแมน แถมยังมีคาบาเร่ต์เก๋กว่าเก่า เพราะเขาเอาเงินลงทุนไปกว่าแสน โชว์ก็หรูดูก็มันส์ลั่นดินแดน ที่ฟรีแมนมีเจ๊เดย์เท่ห์กว่าใคร เห็นเขาว่าเจ๊แกกัดงัดไม่ปล่อย แถมยังอ่อยปล่อยมุขดีมีที่ไหน ดูแกอำขำต้องค้างขากรรไกร จะลองไปในที่นี้ดีไหมเกลอ ถามกันไปไถ่กันมาเพื่อนยาคิด อยากเสียจิตคิดจะดิ้นให้ใจเผลอ อยากให้ลืมคืนแสนเศร้าเร้าละเมอ อยากพบเจอคนหน้าใหม่ไฉไลงาม งั๊นตกลงปลงใจไปซอยสอง ดินแดนของชายรักชายคลายคำถาม เราจะไปเอ็กซ์เพรสโซ่โชว์นงราม สรุปความตามนี้เถิดโปรดเปิดใจ เดินออกมาจากค๊อฟฟี่โซไซตี้ สองเรารี่แล้วเลี้ยวซ้ายปลายทางใส ถ้าเลี้ยวขวาจะพาไปฟรีแมนไง เราเดินไปใจแช่มชื่นระรื่นทรวง เมื่อมาถึงหน้าซอยสองร้องไอ้หย๋า มีหมาต๋ายืนตรวจบัตรจัดทางหลวง ตรวจอายุจะแก่อ่อนก่อนหลอกลวง คนทั้งปวงล้วงโชว์บัตรขจัดผู้เยาว์ เดินเข้าไปถึงตำรวจคนตรวจบัตร เราก็งัดขึ้นมาโชว์ตำรวจเขา ดูใกล้ใกล้นายตำรวจหล่อไม่เบา เห็นมีเคราเขียวครึ้มดกอกแน่นดี ผ่านมาถึงจึงมองเมียงเพียงรอบรอบ เป็นคูขอบกรอบกำแพงตามวิถี แล้วจึงถึงห้องตึกแถวแนวจรลี นี่หรือที่ทิพย์วิมานสถานเกย์ โอ้ดาวเอ๋ยแม้เคยหล่นบนชั้นฟ้า รู้ไหมว่าคราดาวตกร่วงหกเห ไม่ตกน้ำไม่นองพื้นลื่นปนเป หากแต่เทลงซอยสองประคองงาม ดาวใหญ่น้อยสาดแสงพริ้มที่ริมฟ้า สาดส่องหล้าท้าแสงจันทร์ฉันขอถาม มีอีกไหมดาวดวงอื่นที่แวววาม ประกายครามเหมือนดั่งฉันได้ฝันไป งามเกินเปรียบเทพบุตรมาจุติ คงสนธิกับเทวดาจึงหน้าใส หล่อละเมียดเบียดดวงดาวให้หนาวใจ คลาคล่ำไปเต็มวิถีที่ทางเดิน ฯ (ต่อ)........................... *ฟรีแมน = ร้านฟรีแมน แด้นซ์ อารีน่า ตั้งอยู่สีลมซอย 4 ขึ้นชื่อในเรื่องของโชว์คาบาเร่ต์รอบเที่ยงคืน โดยมี "เจ๊เดย์" เป็นดาวโชว์ตัวเด่นของที่นี่ และที่สำคัญบนชั้น 3 มี "ห้องมืด" ที่ผู้มาเที่ยวจะต้องใช้มือคลำๆ ทางเดินเข้าไป คลำผิดคลำถูกไปโดนอะไร-ของใครบ้างก็ไม่รู้ (ปัจจุบัน พ.ศ.2553 ฟรีแมนปิดกิจการไปแล้วนะครับ) *เจ๊เดย์ = เดชา ฉันทากะโร ดาวโชว์ (ตลก) ที่ครีเอทสุดๆ แล้วของ พ.ศ. นี้ ฝีปากเป็นเลิศ เมื่อจบโชว์ จะมีการ Talk Show ทุกวัน ขำกันระเบิดระเบ้อ *เอ็กซ์เพรสโซ่ = ผับเล็กๆ เปิดเพลงเก่าสมัยเดอะพาเลซ สลับกับเพลงรุ่นใหม่ ตั้งอยู่สุดซอย สีลมซอย 2 แก้ไขเมื่อ 21 เม.ย. 53 06:06:30 จากคุณ : เดมอส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 05:15:00

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนที่ ๔ : เอ็กซ์เพรสโซ่ร่าเริงกัน ตามรายทางข้างขอบรอบรอบร้าน เจ้าของบ้านพากันแต่งแหล่งคนเหิร มีเก้าอี้อีกโซฟาพาจำเริญ คนนั่งเพลินเกินจนยืนชื่นชุลมุน ไอ้ที่นั่งก็นั่งเต็มเล็มละเมียด ที่ยืนเบียดก็เสียดคนจนหัวหมุน ขอทางหน่อยค่อยเดินเข้าขอเอาบุญ จนเพื่อนดุนตูดให้เดินก็เขินอาย นึกมุมนี้เหมือนกับที่เป็น Cat – Walk มุมซอกตรอกไม่อับแสงแรงดาวฉาย เหล่าเทวะและนายแบบมาแอบกาย พริ้วพรรณรายปลายสุดฟ้าท้าโลกันต์ เลยลองนึกคึกสงสัยในจริต ถ้าคนคิดจะล้างเกย์ให้อาสัญ เอาระเบิดมาเปิดใส่ตายหมื่นพัน โลกเกย์นั้นพลันหายถึงครึ่งเมืองเลย ล่วงมาถึงจึงเข้าเอ็กซ์เพรสโซ่ แหมมันโก้เกินคิดที่มิตรเฉลย คนมาใหม่ใคร่ตื่นตาอย่าว่าเชย คนไม่เคยเลยลอบมองสองตาไป มีน้ำตกหมกแอบแนบข้างฝา พี่นึกหน้าหาน้องนางน้ำตาไหล โอ้ป่านนี้ที่รักข้าเป็นอย่างไร หรือทรามวัยใคร่คิดถึงจึงหลั่งลา แลทางขวามีบาร์ยาวเขาขายของ แบ่งเป็นห้องจ้องตกแต่งแหล่งบุปผา ส่วนซีกซ้ายมีขวดเหล้าเรียงรายมา และด้านขวามามิกซ์เพลงบรรเลงมันส์ ไอ้เพื่อนยากมันเดินจากพรากไปไหน อ๋อ...นั่นไงใครมาทักกับเพื่อนฉัน เห็นกอดจูบลูบไล้ไซร้แก้มกัน แหมดูมันผันเป็นดาวราวดารา สังเกตดูพิศดีดีให้ถี่ถ้วน ทั้งหมดล้วนเหมือนเคยแนบแอบตัณหา คนมาเที่ยวเคยเลี้ยวรักปักกายา เว้นตัวข้ามาทีหลังยังต้องคอย เสียงเพลงแว่วแจ้วจูงจิตสะกิดต่อม คนเริ่มล้อมเข้ามาเรียงเคียงไม่ถอย เริ่มยักย้ายส่ายสะโพกทำโยกลอย เราเลยพลอยคล้อยกระดิกไม่คิดอาย เห็นเขาเต้นเล่นท่าผูกถูกใจจ๊อด เฟิร์สไอวอสไออะเฟรดเพรดติฝาย เหล่าเทวาพากรี๊ดไอวิวเซอร์วาย ออกท่าคล้ายชายโดนเอาเขาทิ่มแทง มองไปเห็นเป็นใครนี้ดูดีเด่น เหมือนดังเช่นเจ้าแม่ใหญ่ใคร่สาดแสง อ๋อ...ยิ่งสวย ณ ซอยสองฤทธิ์ร้อนแรง ใส่ชุดแดงแปลงกี่เพ้าผมเกล้าตึง เหลียวมาเห็นอีกคนเป็นเอเจนซี่ มีตาดีที่ต้อนกลุ่มหนุ่มใจถึง ไปถ่ายแบบเธอกับฉันพลันคำนึง เกย์รำพึงถึงนายแบบแลแสบทรวง เพื่อนสั่งเหล้าเอามาดวดทั้งขวดใหญ่ โอ้เมรัยใยเหมือนเพื่อนคอยห่วงหวง จิบทีไรก็ซื่อสัตย์ไม่ลัดลวง ตอบแทนดวงใจมิ่งมิตรให้จิตเมา ไม่เหมือนจิตมิตรยามยากโดนพรากรัก หัวใจพักเพราะดีกรีที่โดนเผา สุราใจให้คนรักเจ็บอกเอา เหมือนคนเขลาเมาเมรัยในใจตัว เอาน้ำแข็งทุบให้ป่นลงก้นแก้ว ประกายแพรวแววเหมือนล้อล่อยิ้มหัว ประคองรินกลิ่นเมรัยไม่เคยกลัว ใจไม่มั่วเหมือนกลิ่นเหล้าเคล้าเสียงเพลง ยิ่งตกดึกดูครึกครื้นรื่นระริก เต้นตูดพลิกจิกหาคู่ดูโขลงเขลง บัดเดี๋ยวแรดบัดเดี๋ยวร่านซ่านกันเอง เกย์บรรเลงเพลงปลดปล่อยอ่อยโลกีย์ มีบางคนทนแอบแนบท่าเก๊ก ทำตาเล็กทำตาน้อยคอยแอบหลี ไอ้ที่แบบแจมโฉ่งฉ่างก็มากมี ล้วนเทวีหลีเทวามองหากัน พอเพลงเปลี่ยนไฟก็เปิดตามจังหวะ เหล่าเทวะก็ผันท่าน่าสุขสันต์ พลิกแพลงโหมดังโถมเพลิงเริงศรัญย์ เปลี่ยนแปรผันตามทำนองสอดคล้องดี ก็เหมือนใจคนที่จากพรากคนอื่น พอร้างชื่นก็คืนกลับขยับหนี ตามทำนองของเสียงเพลงและดนตรี พลิกวลีที่บอกรักหักโน๊ตเอา ฯ (ต่อ).................... *ไอวิวเซอร์วาย = เพลงที่เหมากันว่าเป็นเพลงชาติเกย์ *ยิ่งสวย ณ ซอยสอง = แขกที่มาเที่ยว มีอายุแล้ว ชอบแต่งตัวแรงๆแปลกๆ เช่นกิโมโน ดูเหมือนรู้จักคนทั้งร้าน เหมือนเป็นขาใหญ่ที่นี่ แต่ปัจจุบัน (พ.ศ.2553) ไม่ได้เห็นมาเที่ยวแล้ว จากคุณ : เดมอส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 05:36:25

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนที่ ๕ : อวสานเมื่อพบกัน แอบมองเห็นใครเล่นตาท้าไหวไหว นึกซ่านใจอยากให้รักจักชอบเขา ลอบมองหน้าสง่าดีมิใช่เบา มามองเราเดี๋ยวก็ตอบว่าชอบเธอ สักพักหนึ่งจึงมาใกล้ในตัวฉัน ช่วงพัลวันทันทีแนบแอบคนเผลอ กระดาษยัดใส่มือผมก้มดูเบอร์ อยากพบเจอเธอโปรดจดกดโทรไป จังหวะไฟไล่กระพริบปริบปริบแจ่ม แลแอร่มแช่มสว่างกระจ่างใส จังหวะนั้นลอบมองหน้าท้าแสงไฟ เห็นนวลใยในวงหน้าพาร้อนทรวง เห็นหล่อเหลาเทพบุตรมาจุติ ทำไมริมาเกี่ยวข้องปองสงวน ทำไมเขาต้องลีลาท้าเชิญชวน ทำไมด่วนให้สวนกลับตอบรับเรา เห็นสิ่งนี้พี่รำพึงคิดถึงฟ้า ดวงจันทราที่สุกใสแม้ใจเหงา ก็ผลัดเสี้ยวไม่เลี้ยวลดปดดาวเอา ไม่มาเคล้ากับดาวหนุ่มชุ่มความลวง แม้ดาวฤกษ์เบิกจิตกระพริบแจ่ม อวดแอร่มให้แช่มใจในแมนสรวง แต่ต้องล้าลาลับยามเมื่อดวง สุรีย์ควงปวงดาราก็พร่าเลือน ใครบางคนเดินผ่านฉิวปลิวลมวูบ แรงลมสูบกระดาษน้อยก็คล้อยเคลื่อน สารฝากรักก็พัดไปไร้ใครเตือน ดุจเสมือนดาวเลือนลับดับแสงลา แล้วเวลาแห่งความสุขก็พ้นผ่าน ใจผ่านด่านย่านมัวเมาเคล้าตัณหา วาระนี้มีจนสองนาฬิกา ได้เวลาต้องลาแล้วแก้วเมรัย เสียงเพลงดับไฟอับแสงแรงสาดส่อง ไร้คนจ้องคนมองหาสายตาไหน ไม่มีแล้วแววตาภาษาใจ คนหน้าใสก็ถูกลืมร้างชื่นชม ควันสีเทาเถ้าบุหรี่ยังอ้อยอิ่ง ลอยควันนิ่งเหมือนชิงหยุดจุดขื่นขม เห็นแก้วเปล่าก็เหมือนร้างคนนิยม เสียงคารมของความเหงาก็เข้าแทน ต้องลาแล้วลาลับกับซอยสอง เดินประคองจูงประชิดมิตรหวงแหน มีเพียงเพื่อนและตัวเรากลางเมืองแมน เศร้าเหลือแสนแดนซอยสองประลองใจ มาหน้าซอยลองคอยมองผองผู้อื่น ไม่ยิ้มชื่นไม่กลืนสุขทุกข์หลั่งไหล ต่างรีบร้อนร่อนรถครรไลไป ตามหาใจในรังรักที่พักตัว ต่างคนต่างมีที่ชื่นดูดกลืนสุข แต่มาขลุกขยุกแอบแนบยิ้มหัว มาเหวี่ยงร่อนซ่อนหาน่าหวั่นกลัว พาพันพัวให้มัวเมาถ้าเขลาใจ รอข้าก่อนเถิดที่รักจักไปหา ใจจะพาข้าไปชิดไม่คิดไถล อยู่สีลมแต่ใจตรมถึงบ้านไกล กังหันใบย่อมหมุนหาคนปราณี จึงขอจบนิราศนี้ที่ซอยสอง มิตรทั้งผองจงปองสุขเกษมศรี ขอให้รักแต่คู่ตัวถ้าคุณมี ขอน้องพี่รักนิรันดร์คู่กันเอย ฯ .......................... *ขอบคุณเพื่อนๆในช่วงเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมา ที่เป็นจินตนาการทั้งมวลในกลอนนี้ ถึงปัจจุบันไม่ได้เจอกันอีกแล้ว แต่ยังระลึกถึงเสมอนะ *ขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่านทุกคนนะครับ จากคุณ : เดมอส เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 05:58:04

ความคิดเห็นที่ 9   แวะมาแอบอ่านบทกวี  ที่แสนไพเราะ  ครับ จากคุณ : นกมีหูหนูมีปีก (the darkknight) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 53 14:34:19