 |
เกาเหลาไกด์ ตอน อาม่าทำได้ ???
|
|
เรื่องนี้เพื่อนเล่าให้ฟังตอนสมัยที่ยังเรียนไกด์กันอยู่
เขาเล่ามา..เราก็เล่าต่อ จริงเท็จประการใดก็ไม่รู้จะถามกะใครอ่ะนะ เพราะเขาสงวนทั้งชื่อทัวร์ , ชื่อไกด์และชื่ออาม่าต้นเรื่อง.......
ทัวร์ญี่ปุ่นครั้งหนึ่ง
ไกด์พากรุ๊ปคนไทยไปเหยียบแดนปลาดิบ ...เยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม ซึ่งถือว่า..ถ้าใครไม่ได้มาเหยียบฟูจิก็เท่ากับไม่ได้มาเหยียบเกาะญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว
บนภูเขาไฟฟูจิมีสถานีหลายจุดสำหรับบริการนักท่องเที่ยวที่เดินเท้าไปจนถึงข้างบน เมื่อไปถึงแล้วจะมีการประทับตราให้ว่าท่านได้พิชิตยอดภูเขาไฟฟูจิมาแล้ว
ส่วนจะถึงสถานีไหนก็แล้วแต่สังขารของแต่ละคนนะคะ
ระยะเวลาการทำทัวร์แค่ไม่กี่วัน รายการทัวร์ก็เป็นรายการปกติ คือ การเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆ ไปอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน ชมการแสดงโบราณ เดินชมวิวทิวทัศน์อันแสนวิไลของแดนอาทิตย์อุทัย ไม่ได้มีรายการอะไรวิปริตพิสดาร
ทัวร์ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยตลอดระยะเวลานั้น โดยมีอาม่าท่านหนึ่งที่ลูกหลานปล่อยให้มาเที่ยวและฝากไว้คุณไกด์หนุ่ม (น้อย) เป็นพิเศษ เนื่องจากครอบครัวนี้ใช้บริการทัวร์นี้เป็นประจำ
คุณไกด์คอยดูแลอาม่าอย่างดีราวกับญาติผู้ใหญ่ของตัวเอง ใช่แต่คุณไกด์เท่านั้น...คนทั้งทัวร์ก็พากันมาช่วยกันดูแลอาม่าด้วย
ก็แกอารมณ์ดีมีมุขเสียจนเป็นขวัญใจของใครๆนี่นา
ในห้องนอนซึ่งลูกหลานอาม่าจองห้องนอนเดี่ยวไว้ เพื่อให้อาม่ามีเวลาเป็นส่วนตัว
อาม่าเดินสำรวจห้องนอนที่ดูสบายนั้นจนทั่ว อาบน้ำเสร็จ..แกเปิดทีวีดูภาษาญี่ปุ่นที่ฟังไม่รู้เรื่อง
แล้วก็เปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจของในนั้นว่าโรงแรมเขาใส่อะไรไว้ให้แขกบ้าง มีขวดน้ำดื่ม..เบียร์..และเครื่องดื่มอีกหลายชนิด แต่ละขวดล้วนแล้วแต่มี design เก๋ไก๋...น่าดู น่ากินจริงๆ
แต่อาม่าแกก็ไม่กิน เพราะรู้ว่าแต่ละขวดนั้นราคาแพงลิบตามมาตรฐานราคาของเงินเยน ที่ญี่ปุ่นอะไรๆก็แพงไปหมด สินค้าที่ญี่ปุ่นแทบทุกชิ้นราคาไม่ใช่เล่นๆ เวลาเราเห็นของน่ารักๆ แพ็คเกจสวยๆนี่แหละตัวดี
ถ้าใครเรียนออกแบบผลิตภัณฑ์หรือออกแบบบรรจุภัณฑ์แนะนำให้ไปเรียนที่ญี่ปุ่น
ว่ากันว่า...คนญี่ปุ่นนั้นเวลาจะให้ของอะไรใครก็ตามห่อไม่ต่ำกว่า 3 ชั้น
เวลาแกะของขวัญเขาจะแกะกันอย่างทนุถนอมทีเดียวแม้ของนั้นจะไม่ได้มีราคาค่างวดอะไร แต่ความพิถีพิถันในการเลือกกระดาษห่อและการห่อของขวัญนั้นถือเป็นงานศิลปะที่แสดงความละเอียดอ่อนของจิตใจผู้ห่อของขวัญนั้นเลยทีเดียว
เพราะคนรับเขาไม่ได้มองกันแค่ของที่ได้แต่ดูไปถึงความประณีตของการห่อด้วย
อย่าแปลกใจถ้าคุณไปช้อปปิ้งของชิ้นเล็กๆราคาไม่กี่เยนในห้างที่แดนปลาดิบแล้วได้ห่อของสวยหรูจนแทบไม่น่าเชื่อว่ามีของชิ้นเล็กๆ (ราคาถูกๆ...)ของเราอยู่ในนั้น
เอ...ว่าแต่ไอ้แต่ละขวดนี่มันเป็นอะไรบ้างน้า เห็นมีแต่ขวดสีสวยๆทั้งนั้น อาม่าแกก็อดหยิบมาดูทีละขวดไม่ได้
ขวดนี้ใหญ่หน่อยสีแดง...ดูหน่อยซิ พอแกยกขวดขึ้น..มีเสียงดังกริ๊ก แกก็ไม่รู้ว่าเสียงอะไรเลยไม่ได้สนใจ หมุนขวดไปมาดูราคา...โห ดูจนพอใจแล้วก็วางแล้วหยิบขวดอื่นมาดูอีก...
น้ำอะไรน้อสีเขียวๆ..กริ๊ก วาง หยิบขวดสีชมพูมาดูใกล้ๆ...กริ๊ก สำรวจทุกอย่างในตู้เย็นจนเป็นที่พอใจแล้ว แกก็ปิดตู้กลับไปเอนหลังดูทีวีอยู่บนเตียงจนหลับไป
วันกลับ ทุกคนขนกระเป๋าลงมารวมพลกันที่ล็อบบี้โรงแรม ไกด์ตามมาอำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย reception แจ้งว่ามีค่าเครื่องดื่มเพิ่มห้องหนึ่ง
เท่าไหร่ ?
ปกติ ถ้าเป็นเครื่องดื่มไม่กี่ขวด ไกด์ใหญ่เขาจะถือว่าเป็นการ service ลูกทัวร์ ก็จะออกค่าเครื่องดื่มให้ ถือว่าซื้อใจลูกค้าไปในตัว แต่พอ reception บอกราคามาเท่านั้น ไกด์แทบเป็นลม
เฮ้ยทำไมมันแพงอย่างนี้วะ ? ห้องไหนวะ?
ปรากฏว่าเป็นห้องของอาม่าขวัญใจเรานั่นเอง พออาม่ารู้เท่านั้น ก็ปฏิเสธลั่น
อั๊วะม่ายล่ายกินอ่า .... ทำไมอั๊วะต้องจ่ายตังค์อีด้วยอ่า อั๊วะบ่อจี๊...อั๊วะไม่จ่ายหรอก
พี่ไกด์เองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ...เพราะถ้าราคาแพงขนาดนี้เนี่ย มันต้องกินกันจนหมดตู้เลยนั่นแหละ แล้วถ้าอาม่าแกกินเบียร์ทั้งหมดนั่น แกก็คงจะเมาแอ๋ให้เห็นแล้ว แต่ทำไงได้ ถ้าไม่จ่ายก็จะไม่ได้เอาท์..ล่าช้าอาจถึงตกเครื่องก็เป็นได้
อั๊วะม่ายล่ายกินอะไรของอีเลยจิงๆนาอาคุงไก้
อาม่า ผมจ่ายไปก่อนแล้วค่อยไปเก็บตังค์ลูกอาม่าทีหลังนะครับ ไม่งั้นไม่ได้ออกจากโรงแรมเสียที ไกด์ตัดสินใจจ่ายเงินไปก่อนพร้อมขอใบเสร็จไว้เป็นหลักฐาน
อีซี้ซั้ว...อั๊วะเป่ากินจิงๆนา
ทัวร์ที่ดูเหมือนจะราบรื่นเรียบร้อยก็มาจบลงที่เรื่องวุ่นวายของอาม่านี่แหละ ในเมื่อแกไม่ได้กินแล้ว โรงแรมคิดเงินแกได้ไง?
ปกติเวลาเราไปพักที่ไหนก็ตามเวลาเช็คเอาท์จะมีแม่บ้านมาเช็คตู้เย็นในห้องพักว่าแขกได้ดื่มเครื่องดื่มอะไรไปบ้าง แล้วก็จะมาแจ้งจำนวนให้เคาน์เตอร์เพื่อเก็บเงินจากแขก
แต่ที่นี่..ญี่ปุ่นครับท่าน ทันสมัยไฮเทคซะ...เสียงกริ๊ก กริ๊กที่อาม่าได้ยินตอนหยิบขวดแต่ละขวดออกมาดูนั้น คือ ระบบที่ตู้เย็นจะนับว่าแขกหยิบของขวดใดในตู้ไปบ้าง แล้วตัวเลขกับชนิดเครื่องดื่มนั้นก็จะไปปรากฏที่หน้าจอของแผนกแคชเชียร์ทันที ทำให้การ check out ของแขกทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องรอให้แม่บ้านเข้าไปเคลียร์ห้องก่อน
เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่อาม่าไม่รู้มาก่อน เลยต้องจ่ายไปเต็มๆ
พ้นไปไม่ทันจะนานเท่าไหร่ ทัวร์ญี่ปุ่นทริปนี้ก็มีอีกครั้ง บริษัททัวร์เดิม , ไกด์คนเดิม ,โปรแกรมเดิม , โรงแรมเดิม
และที่สำคัญอาม่าคนเดิม??
พี่ไกด์เองเขาก็แปลกใจว่าทำไมอาม่ายังมาเที่ยวอีก เพราะก็ไม่ได้มีโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมมาจากเดิมเลยแม้แต่รายการเดียว ส่วนลูกหลานก็คิดว่าอาม่าคงจะชอบญี่ปุ่นมากถึงกับยอมควักตังค์(ลูก) ซื้อทัวร์เดิมมาอีกรอบ
การเที่ยวญี่ปุ่นหนนี้เป็นไปตามโปรแกรมเหมือนเดิมและอาม่าก็เป็นขวัญใจกรุ๊ปทัวร์อีกเช่นเดิม ลูกทัวร์กินอร่อยหลับสบายจนกระทั่งถึงวันกลับ
ที่เคาน์เตอร์โรงแรมในเช้าวันนั้น....นอกจากพี่ไกด์คนนั้นที่มาเคลียร์เรื่องโรงแรมแล้ว ก็ยังมีอาม่าอีกคนที่ลงมาเกาะเคาน์เตอร์เพื่อรอเช็คเอาท์
reception สาว..สวย..ญี่ปุ่น..น่ารักน่าชังแจ้ง ทุกอย่างเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา ทุกคนขึ้นรถออกจากโรงแรมเพื่อขึ้นเครื่องกลับสู่เมืองไทย
พ้นเขตโรงแรมมาแล้ว พี่ไกด์แกออกจะแปลกใจว่าทำไมอาม่านั่งอมยิ้มแก้มตุ่ยอยู่คนเดียว เลยอดถามไม่ได้
อาม่ามีอะไรครับ ทำไมนั่งยิ้มอยู่คนเดียวล่ะ ?
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
คราวนี้อาม่าหัวเราะเสียงดัง เพิ่มความงุนงงให้พี่ไกด์และลูกทัวร์คนอื่นๆที่เริ่มล้อมวงกันเข้ามา
อั๊วะแก้แค้นมังได้เลี้ยวอ่า สะใจอั๊วะจิงๆ ฮ่า ฮ่า
แล้วแกก็หัวเราะอีกไม่ยอมหยุด จนพี่ไกด์ต้องถามว่าแก้แค้นใคร ?
อาคุงไก้อ่า ..อั๊วะกินน้ำมังหมดทั้งตู้เลย แต่มังม่ายล่ายเก็บตังค์อั๊วะเลยซักกะบากเลียว ไอ้โรงแรมนี้แหละที่ครั้งที่แล้ว..มังเก็บตังค์อั๊วะ ทั้งที่อั๊วะม่ายล่ายกินของของอีเลยอ่า
อ้าว ? อาม่ากินน้ำขวดพวกนั้นได้ไงล่ะครับ? ถ้ากินเขาก็ต้องรู้สิ มันมีเครื่องคิดเงินในตู้เย็นไง...หยิบปุ๊ปมันก็ดังกริ๊กแล้วก็คิดเงินปั๊ปเลย ไกด์ยังงง
ฮ่า ฮ่า อั๊วะก้อใช้ไอ้นี่ไง แกชูอะไรบางอย่างในมือขึ้นมาให้ดู มันคือ หลอด เครื่องมือสำคัญที่แกพกมาจากเมืองไทยเพื่อการนี้เลยทีเดียว
อั๊วะไม่ดึงขวกออกมาหรอก เดี๋ยวมังกิ๊กแล้วมังจะคิดตังค์อั๊วะ อั๊วะเปิดฝามังแล้วก็ใส่หลอดลงไป ดูดวันละขวก...พอกลับ..น้ำอีก็หมดพอดี ....เฮอะๆ..ม่ายลู้จักอั๊วะซะแล้ววว
อาม่าเล่าอย่างสะใจ ในขณะที่ลูกทัวร์คนอื่นๆพากันหัวเราะขำกับวีรกรรมของแก ถึงตอนนี้ พี่ไกด์เขาถึงจะเข้าใจว่าทำไมอาม่าแกยอมเสียตังค์มาทัวร์เดิมอีกรอบ
นี่แหละน้า .... ลูกหลานเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ....คุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ !!
อย่าแปลกใจนะ.....ถ้าท่านไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วระหว่างเช็คอินที่เคาน์เตอร์โรงแรม reception สาวสวยอะโนะเนะเขาจะถามคุณอย่างสุภาพว่า ...... พกหลอดมาด้วยหรือเปล่าก๊ะ ?
จากคุณ |
:
สร้อยสยาม
|
เขียนเมื่อ |
:
22 เม.ย. 53 16:04:59
|
|
|
|  |