Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ผมจะเป็นพระที่ดี ตอน วิถีแห่งพระป่า  

ตอนที่ 8   วิถีแห่งพระป่า 1 : กิจวัตรพระป่า
=============================

สามวันมาแล้วที่ผมได้มาอาศัยพำนักพักพิงที่วัดป่าแห่งนี้   …ก็พอเริ่มที่จะคุ้นชินกับวิถีแบบนี้ขึ้นมาบ้าง   แม้จะยังเป็นแค่พระป่าฝึกหัด  แต่ผมก็พยายามจะทำให้ดีที่สุด
กิจวัตรของพระที่นี่จะเริ่มตั้งแต่เสียงระฆังแรกตอนตีสาม เหมือนเป็นสัญญาณปลุกให้ลุกมาทำธุระส่วนตัวก่อนจะเข้าทำวัตรเช้าตอนตีสี่     ผมตื่นแล้วก็รีบไปแปรงฟันล้างหน้า  แล้วครองจีวร (ต้องเอาผ้าสังฆาฏิติดตัวไปด้วย เพราะตามวินัยสงฆ์ ท่านไม่ให้อยู่ห่างไตรจีวรก่อนพระอาทิตย์ขึ้น) และบาตร   เพื่อขึ้นไปสวดมนตร์ทำวัตรเช้า ไปถึงโบสถ์ก็ราวๆตีสามครึ่งกว่าๆ   ผมก็จะนั่งสมาธิรอจนถึงตีสี่(ซึ่งบางครั้งก็เผลองีบหลับเพราะความง่วง  )     ครั้นเมื่อได้ยินเสียงนาฬิกาตีสี่ครั้ง   ผมก็จะลืมตา(ตื่น)ขึ้น แล้วเตรียมตัวสวดมนตร์
สำหรับการสวดมนตร์ที่นี่นั้น  จะเป็นการสวดแบบแปล  คือสวดบาลีทีละประโยคแล้วก็สวดแปลไทยตาม  จึงค่อนข้างใช้เวลานานกว่าจะสวดจบ  แต่ก็ดีที่จะได้เข้าใจความหมายของบทสวด     ซึ่งการสวดนี้ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงถึง 45 นาที  แล้วจึงนั่งสมาธิต่อ
หลังจากทำวัตรเช้าเสร็จสิ้น  ก็จะมีพระบางรูปอยู่ทำความสะอาดโบสถ์     ส่วนที่เหลือก็จะเอาบาตรไปวางไว้ที่ศาลาการเปรียญ  จากนั้นก็แยกย้ายกันทำความสะอาดบริเวณนั้นพร้อมทั้งจัดอาสนะให้พร้อม   โดยจะใช้จีวรและสังฆาฏิพาดบ่าไว้แล้วใช้ผ้าประคดอกรัดไว้อีกที  ทั้งนี้เพื่อให้ทำงานได้คล่องตัว  โดยที่มีผ้าสามชิ้น(สบง จีวร สังฆาฏิ)อยู่กับตัวถูกต้องตามพระวินัย  …ใครเสร็จก่อนก็จะมาช่วยกันเอาน้ำกรอกบาตรและถอดฐานรองบาตรออกเตรียมพร้อมสำหรับการบิณทบาต
ก่อนจะออกบิณฑบาต   พระจะครองจีวรแบบห่มคลุมเตรียมไว้  แล้วรอให้พระอาทิตย์ขึ้น  หรือ มีแสงพอที่จะสามารถเห็นลายบนฝ่ามือตัวเองได้ (หรือสามารถมองเห็นสีเขียวของใบไม้บนต้น)  จึงจะสามารถออกบิณฑบาตได้  (ซึ่งในส่วนของการบิณฑบาตนี้ ผมขออนุญาตแยกออกไปเล่าเป็นอีกตอนนึงแล้วกันนะครับ)   พอบิณฑบาตเสร็จก็จะเป็นเวลาประมาณเจ็ดโมงกว่าๆ …กลับมาถึงวัด  ก็จะเอาของที่ได้มารวมกันและเอาไปวางไว้ที่โต๊ะเพื่อให้โยมยกประเคนอีกทีหนึ่ง    จากนั้นเราก็จะกรอกน้ำ ล้างบาตรอีกครั้ง  ถอดถลกบาตรออกและเอาไปตั้งไว้ที่อาสนะประจำที่ของพระแต่ละรูป  …เสร็จแล้วก็แยกย้ายไปทำความสะอาดบริเวณวัด   แล้วกลับมารับประเคนจากโยม  และรอฉันจังหันพร้อมกัน
ผมชักเริ่มทำเวลาได้ดีในการฉันเช้า…  แม้จะได้ฉันเป็นรูปสุดท้าย  แต่ก็สามารถพลิกกลับขึ้นมาเสร็จเป็นรูปแรกๆ  เนื่องจากผมพยายามตักให้น้อยลง ฉันให้เร็วขึ้นหน่อย และพยายามไม่ฉันน้ำ(จะได้ไม่อืด)    …ก็ไม่ได้อยากจะแข่งกับใครเค้าหรอก  แต่อยากจะได้มีโอกาสอุปถัมภ์อุปัฏฐากครูบาอาจารย์กับเค้าบ้าง   …ซึ่งวันนั้นผมก็ได้ทำสมใจ   (อาจจะทะเล่อทะล่าไปบ้าง  แต่ก็สำเร็จได้ด้วยดีครับ) ^^”
หลังจากฉันเสร็จ  ก็จะไปล้างบาตรกันโดยพร้อมเพรียง (รวมไปถึงบาตรครูบาอาจารย์ด้วย)…..จากนั้นก็จะไปนั่งเช็ดบาตรกันต่อที่เพิงไม้  
ขณะผมกำลังเช็ดบาตรอยู่ … ครูบาชัยก็บอกว่าวันนี้จะให้ผมย้ายไปอยู่กุฏิ   เดี๋ยวจะพาไปดูและเอากุญแจไปไขเปิดให้   ผมบอกท่านว่า ไม่เป็นไรหรอกครูบา  ผมนอนใต้โบสถ์ก็ได้   แต่ครูบาชัยท่านบอกว่าให้ไปอยู่กุฏิน่ะแหละดีแล้ว มาอยู่วัดป่าทั้งทีควรอยู่ห่างไกลความสบาย  เมื่อได้รู้จักความลำบากจึงจะปฏิบัติธรรมได้ดี    ..ผมก็เลยยินยอม(ความจริงผมไม่ได้กลัวลำบากหรอก  แต่รู้สึกเกรงใจมากกว่า)
หลังเช็ดบาตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ครูบาชัยก็นำผมไปยังกุฏิที่ว่า …เดินลัดเลาะไปตามทางเดินราวป่า ไม่นานนักก็ถึง
กุฏิหลังนั้นเป็นเรือนไม้ใต้ถุนเตี้ย กว้างและยาวประมาณ 2 เมตรเศษๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปนักสำหรับอาศัยคนเดียว   ด้านหน้ามีชานพักเล็กๆเอาไว้นั่งพักได้    มีหลังคายกสูงมุงด้วยจาก  …ครูบาชัยเล่าให้ฟังว่าหลังคาที่ทำด้วยจากนั้นจะทำให้ตัวบ้านเย็น   เพราะมันจะไม่เก็บความร้อนในตอนกลางวัน  และทำให้บ้านถ่ายเทความร้อนได้ดีในช่วงหน้าร้อน    (..อย่าลืมนะครับว่า  กุฏิกลางป่าไม่มีไฟฟ้า  เปิดพัดลมไม่ได้   ต้องอิงธรรมชาติอย่างเดียว  )    
จากนั้นครูบาชัยก็เดินขึ้นชานพัก แล้วเปิดประตูเดินนำเข้าไป      ภายในดูกว้างขวางกว่าที่คิดมีชั้นวางหนังสือธรรมะ โต๊ะเล็กๆหนึ่งตัว และเสื่อปูเอาไว้ข้างๆ   เหนือหัวนอนขึ้นไปหน่อย มีหิ้งพระยื่นออกมาจากผนัง    …มีหน้าต่างด้านข้างอยู่ฝั่งละสองบาน  เมื่อเปิดออกไปก็จะมีมุ้งลวดอยู่อีกชั้น ซึ่งก็มีรูโหว่เล็กๆอยู่ประปราย ซึ่งส่วนใหญ่ก็ถูกซ่อมแซมแปะสก๊อตเทปไว้แล้ว   และนอกจากนั้นก็จะมีรอยปะรอยอุดอยู่ตามผนังบริเวณที่เป็นรอยแยกของไม้    แสดงให้เห็นว่าเจ้าของเก่าเป็นคนพิถีพิถันพอสมควร
ครูบาชัยบอกว่าเจ้าของเก่าท่านย้ายที่อื่นซักระยะ  ระหว่างนี้ก็ให้ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ก่อนได้จนกว่าท่านจะกลับมา  ถึงตอนนั้น ผมจะไปอยู่ไหน ค่อยว่ากันอีกที    ….ท่านยังบอกด้วยว่า  สาเหตุหนึ่งของการให้พระมาอยู่กุฏิ  ก็เพื่อจะได้ให้ช่วยดูแลทำความสะอาดไปด้วย  กุฏิจะได้ไม่ถูกทิ้งร้างจนเสื่อมโทรม
เสร็จแล้วครูบาชัยก็ขอตัวไป….ผมจัดแจงปัดกวาดทำความสะอาดกุฏิให้เข้าที่เข้าทาง   เปิดหน้าต่างด้านข้างออกให้ลมผ่านเข้ามาได้ (  ที่บานหน้าต่างแต่ละบานก็จะมีเสื่อเล็กๆผูกเอาไว้ด้านบน  สามารถม้วนขึ้นม้วนลงได้โดยมีเอ็นยึด เหมือนเป็นม่านกันฝนกันลมไปในตัว   นับเป็นไอเดียที่เก๋ไก๋จริงๆ)   กวาดพื้นบ้านที่เต็มไปด้วยขี้จิ้งจก (หรือตัวอะไรก็ตามแต่)  และเอาผ้าเปียกเช็ดถูในส่วนที่ฝุ่นจับเยอะ  …ไม่นานนักก็ได้กุฏิก็สะอาดเอี่ยมอ่องพร้อมเข้าอยู่ทันที!!
จากนั้นผมก็เดินสังเกตุรอบๆบริเวณกุฏิ …มีห้องน้ำพระสามห้องอยู่ไม่ไกลนัก  ในห้องน้ำก็ท่าทางจะไม่มีไฟฟ้า  สังเกตุได้จากเชิงเทียนที่มีเทียนใช้แล้วครึ่งแท่งอยู่บนชั้นวาง     มีก๊อกน้ำ ฝักบัวพร้อมสรรพ  ผมลองเปิดดูก็ยังไหลได้ดี(โชคยังดีที่มีน้ำนะเนี่ย)  ไหนๆก็มาห้องน้ำแล้ว  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว  ผมก็เลยแวะทำธุระซักหน่อย  …กำลังจะนั่งลงบนส้วมหลุม  จู่ๆก็มีกบตัวเล็กๆกระโดดผ่านหน้า  …ผมก็ต๊กกะใจอะดิครับ  ตัวสีเขียวๆไม่รู้จะมีพิษรึเปล่า   ก็เลยพยายามฉีดน้ำไล่เค้าให้ออกประตูไป  (ฉีดแบบไม่ให้โดนตัวน่ะครับ)  กว่าจะออกก็เล่นเอาเหนื่อย   …. พอทำธุระเสร็จ กำลังจะเดินออก  ปรากฏเห็นเค้ารออยู่หน้าห้อง   = =”(ทำหน้าประมาณว่า  เอ็งเสร็จยังวะ   รอนานแล้วนะเฟ่ย) ……เอาวะ ในเมื่อห้องนี้เค้ามีเจ้าของแล้ว คราวหลังไม่เข้าห้องนี้ก็ได้
ว่าแล้วก็เลยแวะไปดูห้องข้างๆซะหน่อย  เปิดประตูเข้าไป… จ๊ะเอ๋  แมงมุมตัวบักเอ้กเกาะอยู่บนกำแพง  ผมปิดประตูทันทีเลยครับ …  ไปดูอีกห้องก็ได้วะ    ค่อยๆเปิดประตูออกมาดู (เสียวเจอแจ๊คพ็อตอีก)  อ้า!!… โล่งอก  ห้องนี้ไม่มีอะไร…พอสอดส่ายสำรวจไปเรื่อย  …ก็ได้เจอสมใจ  ทากตัวเบ้อเร่อเกาะอยู่บนกำแพงข้างๆถังน้ำ
ครับ….ทั้งสามห้องล้วนแล้วแต่มีเจ้าของจับจองกันแล้วทั้งนั้น  ไอ้ผมเองก็เป็นเพียงผู้อาศัยครับ ก็เลยต้องเจียมเนื้อเจียมตัวกันบ้าง      นี่ยังไม่ใช่แค่นั้นนะครับ  หากเดินไปอีกหน่อย(ก็ไกลเหมือนกันแหละ)จะเจอห้องน้ำใหญ่ที่มีทั้งห้องน้ำชายหญิงแยกฝั่งกัน ฝั่งละหลายห้อง  พอเปิดเข้าไปดูก็จะเห็นได้ว่ามันเป็นห้องน้ำที่ค่อนข้างดูดีมีระดับแถมสะอาดอีกด้วย    …….. แต่หากท่านโชคดีเหมือนผม (ตอนเปิดห้องที่ 2)  ท่านจะได้พบกับงานชุมนุมรวมญาติของตุ๊กแก  ทั้งใหญ่และเล็กแบบคละไซส์

จากคุณ : ซงย้ง
เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 22:43:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com