เรื่องเล่าของทหารม้า
|
|
เรื่องเล่าของทหารม้า - One Knight’s Tale –
ข้า...คือทหารม้าผู้แข็งแกร่งห้าวหาญ
ข้า...คืออัศวินผู้มีศักดิ์ศรี
ข้า...ไม่เกรงกลัวภยันตรายทั้งปวง
ข้า...ยินดีแม้ต้องพลีชีพในสนามรบ
...เพื่อชัยชนะของฝ่ายข้า
...เพื่อความถูกต้องดีงามทั้งปวง
...เพื่อโลกที่ดีกว่าที่เคยเป็น
และวันนี้ ข้าพร้อมแล้ว...
. . .
ข้าสวมชุดเกราะขาวเต็มยศ ถือโล่และทวน แล้วชักม้าให้เดินไปประจำตำแหน่งในขบวน แถวของทหารราบต่อยาวเป็นหน้ากระดานเบื้องหน้าข้า ข้างหนึ่งของข้าคือรถศึก และอีกข้างหนึ่งคือนักบวชหนึ่งในสองท่านที่ติดตามมาในกองทัพ ซึ่งกลางขบวนเป็นที่ประทับขององค์ราชาและองค์ราชินี
ข้าเชื่อว่าการศึกครั้งนี้เป็นการศึกที่ยุติธรรม เหตุเพราะทัพขาวของข้าและทัพดำของฝั่งตรงข้ามนั้นมีจำนวนคนเท่ากัน ดังนั้น หากแม้นข้าจะไม่ได้รับชัยชนะอันทรงเกียรติแล้วไซร้ ความพ่ายแพ้ของข้าก็จะย่อมเป็นความพ่ายแพ้อันเปี่ยมด้วยศักดิ์ศรีซึ่งเราทุกคนสามารถประกาศได้อย่างภาคภูมิใจว่าเรา "ทำดีที่สุดแล้ว"
เสียงแตรศึกดังกึกก้องขึ้นโดยมีฝั่งของข้าเป็นฝ่ายที่เริ่มเคลื่อนไหวก่อน ทหารราบเริ่มรุกไปด้านหน้าทีละคนๆ พร้อมๆ กับที่ฝ่ายตรงข้ามก็ทำเช่นเดียวกัน
ข้ายังคงประจำอยู่ที่เดิม...
รถศึกเริ่มเคลื่อนไปด้านหน้าเพื่อคุ้มกันให้กับเหล่าทหารราบ ก่อนที่นักบวชท่านซึ่งเคยอยู่เบื้องข้างข้าเริ่มเคลื่อนตัวออกไป ก่อนที่ทหารราบของทั้งสองฝ่ายจะเริ่มปะทะกันและเริ่มผลัดกันรุก ผลัดกันรับ อย่างดุเดือด
และแล้วในที่สุดคำสั่งของข้าก็มาถึง ข้าควบม้าไปข้างหน้าแล้วหักม้าตั้งฉากไปทางซ้าย รอให้ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนพลอีกครั้ง แล้วข้าจึงได้รับคำสั่งอีกครั้ง ข้าหันม้ากลับควบไปขนานกับแนวแถวเดิมของทหารราบ กระโจนม้าข้ามนักบวชคนหนึ่งไปพร้อมๆ กับหันม้าไปข้างหน้าอีกครั้งและลงสู่พื้นพร้อมกับปลิดชีพทหารราบผู้ไม่ระมัดระวังและไร้การป้องกันคนหนึ่งของอีกฝ่าย
ข้าประจำตำแหน่งอยู่เหนือซากศพของทหารราบผู้นั้นเป็นเวลานาน นานพอทีข้าจะได้สังเกตความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่าย...
ราชีนีขาว (ราชินีของฝ่ายข้า) เริ่มเสด็จออก พระนางมิได้ทรงเสด็จออกมาถึงแนวหน้า แต่ก็ทรงพระดำเนินมายังตำแหน่งที่พระนางจะสามารถคุ้มครองกำลังพลได้
แต่ก็ดูเหมือนว่ากองทัพก็พร้อมจะเสี่ยง รถศึกดำเข้ามาสังหารนักบวชท่านหนึ่งของฝ่ายข้า ทว่าทันทีหลังจากที่ท่านทำเช่นนั้น ราชินีของข้าก็เสด็จไปสังหารเขาด้วยพระองค์เอง ซากรถศึกและร่างของบาทหลวงอยู่ใต้เบื้องพระบาทของพระนาง
ทัพของข้าและของศัตรูยังคงผลัดกันรุกและรับกันต่อไป มีการสังหารเกิดขึ้นประปรายและข้าก็มักได้รับคำสั่งให้คอยเคลื่อนไปคุ้มครองกำลังพลที่จุดต่างๆ ข้าไม่ได้สังหารใครอีก จนกระทั่ง...
มีคำสั่งให้ข้าสังหารพลทหารราบนายหนึ่ง...
ทว่า...
ข้าเห็น...
นายทหารผู้นั้นมีองค์ราชีนีดำคุ้มครองอยู่...
ถึงอย่างไรก็ตาม...
...ไม่ว่านายทหารผู้นั้นจะมีใครคุ้มครองอยู่หรือไม่ ข้าก็ไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธคำสั่ง
ข้าควบม้าตรงไปข้างหน้าก่อนจะหักม้าไปทางซ้าย ควบต่อไปเป็นระยะครึ่งหนึ่งของที่ควบมาก่อนเลี้ยว และเสียบร่างสังหารนายทหารผู้นั้นด้วยทวน
ราชินีดำทรงพระดำเนินตรงมา พระแสงดาบที่เปลือยฝักอยู่สะท้อนแสงแวววับ ครั้งพระนางเสด็จมาถึงที่ของข้า พระนางก็ทรงยกพระแสงดาบขึ้นและฟาดลงมา
ร่างของข้าร่วงลงสู่พื้น เห็นพระวรกายสูงของราชินีดำประทับยืนตระหง่านเงื้อมอยู่
...แต่ข้าก็ไม่เคยเสียใจ
เพราะข้าได้ทำดีที่สุดแล้ว
...และข้าก็ไม่เสียดายชีวิต
เพราะบางทีความตายของข้าคงเป็นความเสียสละ เป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ยิ่งใหญ่กว่า เป็นดั่งหินปูทางก้อนหนึ่ง...
ที่จะช่วยผดุงไว้ซึ่งความถูกต้องดีงามบนโลกนี้
และนำสู่โลกในวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
...ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่มีค่าพอที่จะยอมตายเพื่อให้ได้มา
. . .
ทั้งสองฝ่ายยังคงผลัดกันเคลื่อนพลต่อไป...
...ทหารม้าขาวอีกคนหนึ่งควบไปประจำตำแหน่งที่ถูกเลือกไว้แล้ว
กองทัพดำถูกบังคับให้เลือกระหว่างองค์ราชากับองค์ราชินี
...ราชาดำเสด็จหนีไป
ทหารม้าขาวผู้นั้นจึงปลงพระชนม์ราชินีดำด้วยทวน
...นักบวชดำที่รอท่าอยู่สังหารทหารม้าขาวผู้สังหารราชินีของตน
แต่นั่นเปิดทางให้รถศึกขาวแล่นไปกันทางหนีของราชาดำไว้
...กองทัพดำพยายามป้องกัน
แต่ก็ไร้ประโยชน์
...นักบวชขาวเดินทางเข้าไปเสริม
ราชาดำไม่เหลือทางหนีอีกแล้ว
. . .
"รุกฆาต" เสียงชายคนหนึ่งประกาศก้อง
ชายอีกคนหนึ่งทำได้เพียงปรบมือให้ทั้งรอยยิ้มเหยเก ก่อนจะพูดว่า "เป็นเกมที่ยอดเยี่ยมมาก"
"แต่ฝีมือของคุณก็ใช่ย่อยเหมือนกันครับ" ชายคนแรก ผู้ควบคุม 'กองทัพขาว' พูดอย่างฉันท์มิตร ก่อนที่พวกเขาจะจับมือกัน ก่อนที่เขาจะพูดต่อไปว่า "ว่าแต่ คุณอยากจะลองแก้มือดูสักครั้งไหมครับ?"
"ด้วยความยินดีเลยครับ" ชายผู้ควบคุม 'กองทัพดำ' พูด
. . .
ด้วยเหตุนี้... กองทัพจึงถูกจัดตั้งขึ้น... อีกครั้ง...
จากคุณ |
:
เจรามี
|
เขียนเมื่อ |
:
27 เม.ย. 53 12:03:00
|
|
|
|