หัวใจรัตติกาล ตอนที่ 6
|
|
6.เกลนผู้จงรักภักดี วันเวลาได้ผ่านไปอย่างช้า ๆ และในเวลาต่อมาเกลนก็ตื่นขึ้นมาด้วยความปวดเมื่อยระบมไปทั้งตัว เขาลืมตาขึ้นอย่างยากลำบากยิ่ง รู้สึกเหมือนมีเลือดเกรอะกรังติดอยู่ที่เบ้าตา ส่วนตาอีกข้างนั้นเล่า มันคงบอดไปแน่แล้ว เขายกมือขึ้นกุมตาข้างที่บอด รู้สึกสงสัยว่ามันยังอยู่ดีรึเปล่าและพาลรู้สึกสงสัยไปอีกว่านังแม่มดร้ายนั่นจะเล่นกับลูกตาของเขาแบบไหนกัน จะอมเล่น กลิ้งไปกลิ้งมากับพื้น หรือเอาไปประดับในขวดโหลแก้ว ไม่ว่าจะเล่นแบบไหน เขาก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละและตัดใจไปแล้วด้วย
บ้าจริงเชียว อะไรในโลกมีตั้งเยอะแยะดันไม่เล่น เกลนปลอบตัวเองอย่างปลง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ยกมือสั่นเทาลูบไปทั่วทั้งตัว เนื้อตัวสาก ๆ ไปด้วยเลือดแห้ง ๆ นั่น พลางนึกสงสัยตัวเองว่าผ่านมาได้อย่างไร ในช่วงเวลาอันโหดร้ายนั่น เมื่อช่วงเวลาก่อนหน้านั้น เขายังมีสภาพเป็นเทพผู้พิทักษ์แม่มด มีเวทมนตร์ ผ่านมาสามวัน แค่สามวันเท่านั้น เขากลับมีสภาพไม่ต่างอะไรกับคนพิการ เวทมนตร์ก็ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากโดนข่ายอาคมดักไว้จนหมด แม้แต่...เกลนเงยหน้าขึ้นมองโลงแก้วที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหน้าเขา น่าอนาถจริงเชียวแม้แต่จะปกป้องเจ้าหญิงให้พ้นจากเงื้อมมือของเจ้าปีศาจร้าย ก็ยังไม่มีปัญญา ฮึ เขารู้สึกสมเพชตัวเองยิ่งนัก
ที่ห้องใต้ดินอันเหม็นเน่า สาบสางและอับชื้น ที่ ๆ เจ้าปีศาจสีทองเอาไว้สังเวยวิญญาณเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ขณะนี้เจ้าตัวกลับหมอบราบอยู่กับพื้นด้วยเนื้อตัวอันสั่นเทา มันรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้าอยู่กับสิ่งโหดร้ายที่สุดในชีวิตและตัวเองกำลังจะกลายเป็นผู้ถูกสังเวยเสียเอง เบื้องหน้ามีร่างอันสูงบางตระหง่านยืนอยู่ แววตาสีดำวาววับจับจ้องเหมือนจะเผาผลาญมันให้แหลกธุลีไปเลยทีเดียว
เจ้าชักช้าอะไรอยู่ รูลดอฟท์เพียงแค่เสียงตวาดอันดังกึกก้องก็ทำเอาเจ้าหัวหน้าปีศาจตัวสั่นงันงกเลยทีเดียว ตามมาด้วยกลิ่นเนื้อไหม้ดังฟู่วววว...เจ้าขนฟูรู้ว่าสายตาอันคมกริบของพระนางกำลังแผดเผาผิวหนังมันอยู่ มันเจ็บแสนเจ็บ แต่ไม่กล้าร้องออกไป กลัวจะไปกระตุ้นต่อมโมโหของพระนางเข้าอีก
พระนางได้โปรดเห็นใจด้วย ข้าทรมานเกลนต่าง ๆ นานา แต่มันก็ไม่ยักทำนายอะไรเลย มิหนำซ้ำ ทำยังไง เจ้าหญิง อมิเลียก็ไม่ฟื้น มันละล่ำละลักตอบด้วยเสียงสั่นเทา ผิวหนังที่แขนของมันมีรอยไหม้พุพองไปกว่าครึ่งแล้ว นั่นมันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของข้า! เสียงตวาดกลับมาอย่างกรีดแหลมจนพื้นดินสั่นสะเทือน ก้อนอิฐหลายก้อนตกลงมาจากเพดานด้านบน
ฆ่ามันซะ ประโยคสุดท้ายสั่งอย่างเฉียบคมจนรูลดอฟท์รู้สึกว่าเหมือนมีมีดพุ่งผ่านเข้ามาปาดคอจนเจ็บแปลบ และเมื่อยกมือขึ้นคลำดู ก็พบว่ามีเลือดซิบ ๆ ไหลออกมาจากตรงนั้นด้วย
ไม่ได้เจ้าปีศาจสวนกลับทันควันอย่างลืมตัว ทำให้ร่างนั้นบิดเบี้ยวไปตามอารมณ์โกรธที่คุแค้น ทำไม รึเจ้าพิศวาสมัน เสียงนั้นกรีดร้องขึ้นอีกครั้ง เจ้าปีศาจสติกลับคืนมาทันที
หาไม่เลย พระนางที่เคารพยิ่ง ข้ายังคงเทิดทูนและจงรักภักดีต่อท่านอย่างสุดหัวใจ มันว่า เพียงแต่ข้าต้องการจะเอาตัวเจ้าหญิงอมิเลียมาสังเวยแด่ท่าน ด้วยเลือดของแม่มดลักษณะพิเศษจะมีอานุภาพมากยิ่งขึ้นตอนที่เจ้าหญิงมีสติครบถ้วน แต่ข้าเชื่อว่าเราต้องทำให้นางฟื้นขึ้นมาเสียก่อน ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม เราจะให้ เกลนตายไม่ได้ ขอพระนางทรงโปรด เพราะเกลนเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหญิง การที่เกลนยังมีชีวิตอยู่ นั่นหมายความว่านางก็ยังคงมีชีวิตอยู่ด้วย มันพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งพลางแลบลิ้นออกมาเลียแผล็บที่ปากยาว ๆ ของมันอย่างประหม่า เลือดที่คอยังคงไหลอยู่ จากเลือดซิบ ๆ เพียงแค่ไม่กี่หยดก็กลับกลายเป็นปากแผลฉกรรจ์ที่เปิดกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ที่ข้าไม่เข้าใจก็คือ ทำไมเจ้าหญิงอมิเลียถึงยังไม่ฟื้น เจ้าปีศาจค่อย ๆ ละล่ำละลักอธิบายกับร่างอันสูงตระหง่านนั้นด้วยใจไม่สู้ดี มันได้กลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเนื้อไหม้ของตัวเองจนรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ขืนทำอะไรผิดไปนิดเดียวมันอาจจะหายสาบสูญกลายเป็นอากาศธาตุไปเลยก็ได้
ข้าไม่รอแล้ว ก่อนจันทร์วันเพ็ญรอบหน้า เอาตัวเจ้าหญิงอมิเลียมาสังเวยข้าให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม ร่างสูงตระหง่านในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงแซมด้วยขนนกยูงด้านหลังสั่งอย่างเฉียบคมก่อนจะหายวับไปทิ้งให้เจ้าปีศาจหมอบราบอยู่กับพื้นห้องแต่เพียงผู้เดียว พระนางมีพลังเวทที่แข็งแกร่งยิ่งนัก เพียงแค่กรีดร้อง ผิวปาก หรือจ้องมอง ก็ทำให้ผู้ที่ด้อยกว่าเลือดทะลักออกจากร่างกายได้ทั้งนั้น มันครุ่นคิดอย่างหนักใจ อยากเป็นจ้าวแห่งดินแดนใต้พื้นพิภพก็อยาก อยากมีอำนาจเหนือกว่าปีศาจทั้งหลายทั้งปวงก็ลำบากยิ่งนัก เฮ้อ มันถอนหายใจ อย่างกลัดกลุ้ม
เอาก็เอาวะ มันสรุป ถึงอานุภาพของเลือดและเนื้อเจ้าหญิงอมิเลียจะลดลงนิดหน่อยถ้าเจ้าหล่อนยังไม่ฟื้น แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้กินเลย ดีไม่ดี เจ้าเกลนอาจจะตุกติกอีกก็ได้ เจ้าปีศาจรีบมุ่งหน้าเดินออกไปยังห้องที่มีรูปดาวห้าแฉกทันที
| จากคุณ |
:
amipoom
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 เม.ย. 53 01:43:56
|
|
|
|