ขมนักรักของเรา (Bitter- sweet) ตอนที่ 1
|
|
สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ หลังจากทีได้เขียนเรื่อง "หัวใจรัตติกาล" ซึ่งเป็นแนวเเฟนตาซีลงบนถนนนักเขียนไปแล้ว คราวนี้อยากจะเปลี่ยนเป็นแนวรักใส ๆ มั่ง เช่นเคยค่ะ น้อมรับคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ทุกท่านเพื่อนำไปปรับปรุงค่ะ
1.แรกพบ
Gelato เป็นชื่อร้านไอศกรีมเล็ก ๆ น่ารักที่ทาด้วยด้วยสีสันสดใส ตั้งอยู่บนถนนเลียบชายหาด ในย่านดาวน์ทาวน์ที่มีนักท่องเที่ยวมาอยู่ตลอดทั้งปี เมธาวีหรือที่ใคร ๆ ต่างก็เรียกเธอว่า หนูเค้ก กำลังนั่งอยู่ข้างหน้าต่าง สายตาของเธอเหม่อมองไปยังอีกฝั่งของถนนซึ่งอยู่ติดกับทะเล น้ำสีฟ้าที่สะท้อนกับแสงแดดยามบ่ายส่องประกายระยับราวกับจะเชื้อเชิญให้ลงไปเล่นคลายร้อน มีคนว่ายน้ำอยู่ประปราย บ้างก็เดินซื้อของที่ระลึก เมธาวีเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ที่พ่อนักธุรกิจของเธอหอบหิ้วข้ามน้ำข้ามทะเลจากประเทศไทยมาอยู่ที่ประเทศในแถบแคริบเบี้ยนนี้ นับตั้งแต่ที่ทั้งพ่อและแม่ต่างแยกทางเดินกันเมื่อเธออายุได้หกขวบ และสุดท้ายพ่อก็มาปักหลักเปิดธุรกิจเป็นร้านไอศกรีมเล็ก ๆ อยู่ใจกลางเมืองจอร์จทาวน์แห่งนี้ ร้านไอศกรีมของพ่อเป็นที่นิยมของคนที่นี่ในเรื่องความอัธยาศัยดีของพ่อและเป็นไอศกรีมโฮมเมด จึงทำให้ร้านนี้เปิดมานานถึงสิบสองปีแล้ว
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะกระจกมาจากพ่อซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของข้างนอก หนูเค้ก ทำการบ้านเสร็จหรือยังลูก มาที่นี่หน่อยสิ เสียงพ่อถามออกมาจากอีกฝั่งหนึ่งของหน้าต่างไม้ที่ทาด้วยสีขาวสะอาดตา ซึ่งเป็นอีกด้านที่เธอนั่งอยู่
เมธาวีเก็บการบ้านแล้วเดินออกไปข้างนอกตรงไปที่พ่อยืนอยู่ สายตาก็กวาดไปยังถังสี แปรงทาสี ที่วางอยู่บนพื้นที่โรยด้วยหินอ่อน
พ่อจะเปลี่ยนสีใหม่อีกแล้วเหรอคะ เธอถาม พ่อของเธอเป็นชาวอเมริกันที่มีผมสีชาและตาสีเขียวซึ่งอยู่ในวัยสี่สิบต้น ๆ ยังดูหนุ่มและกระฉับกระเฉง พ่อมีรสนิยมแบบวัยรุ่น เอาแต่ใจตัวเองและชอบสีสันสดใส ในรอบเดือนนี้พ่อเปลี่ยนสีร้านตามอารมณ์มาไม่น้อยกว่าสองครั้งแล้ว
ลูกไม่ชอบงั้นหรือ พ่อว่าสวยออก พ่อหันมาถาม เส้นผมสีชาที่ถูกตัดไว้อย่างประณีตพลิ้วไหวไปตามแรงลมอ่อน ๆ ที่โชยมา
เอ้อ เมธาวีคิดหาคำตอบ
พ่อว่าสีนี้แหละ พ่อสรุปเอาเองอีกตามเคยโดยที่ไม่รอคำตอบของเธอ เมธาวีค่อย ๆ เดินเลี่ยงออกมาอีกทางหลังจากที่เห็นลูกค้ากลุ่มหนึ่งเดินเข้าไปในร้าน เธอหันกลับไปมองร้านอีกครั้งหนึ่งก็พบว่ามันเสียงดังเกินไปที่จะนั่งทำการบ้านต่อ จึงออกมาเดินเล่นตามร้านค้าที่ตั้งเรียงรายอยู่แถวนั้น
โครม!
โอ๊ย เมธาวีล้มลงก้นจ้ำเบ้ากระแทกพื้น เมื่อใครบางคนเปิดประตูร้านขายแว่นตาออกมาโดยไม่ทันระวัง
อุ๊บส์ ซอรี่ ชายหนุ่มคนที่ก่อเหตุเข้ามาพยุงเธอลุกขึ้นจากพื้น เมธาวีเจ็บไปหมดทั้งหัวทั้งก้น เธอปัดเศษฝุ่นออกจากชุดกางเกงเอี๊ยมยีนส์ขาสั้นอย่างฉุน ๆ
นาย...ไม่มีตาเหรอ เป็นคนไทยทำไมไม่พูดไทยล่ะ เมธาวีต่อว่าผู้ชายที่ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้าเป็นชุด ผู้ชายที่ตัวสูง ผมสั้น ผิวขาวอมเหลืองและหน้าตาคล้ายคนเอเชีย
ผมไม่ใช่คนไทยครับ อ้อผมชื่อรสส้ม นายรสส้มแนะนำตัวกับเมธาวีด้วยสำเนียงแปลก ๆ
หะ..อะไรนะ เธองง
ผมชื่อรสส้มครับ มีน้องชายชื่อรสชีส แล้วแม่ชื่อ... ชายหนุ่มแนะนำตัวเสียยืดยาวทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครร้องขอ
พอ พอ ชั้นไม่ได้อยากรู้ชื่อครอบครัวนายซักหน่อย ดูท่าทางนายนี่จะไม่เต็มแฮะ เมธาวีแอบคิดในใจ
งั้นคุณชื่ออะไรครับ ผมเพิ่งมาที่นี่เป็นครั้งแรก เรามาเป็นเพื่อนกันมั๊ย นายรสส้มยื่นมือออกมาให้จับเช็คแฮนด์แบบฝรั่ง
ฝันไปเถอะย่ะ ถ้านี่เป็นมุขใหม่ในการจีบหญิงล่ะก็ จะบอกให้ว่าเห่ยมาก เพราะชั้นไม่ชอบบอกชื่อกับคนที่ไม่รู้จัก และก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับนาย....
หนูเค้ก เสียงเรียกที่ขัดจังหวะการสนทนาดังขึ้น เมธาวีหน้าเสียด้วยความอายที่อีกฝ่ายรู้ชื่อเธอจนได้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ส่วนนายรสส้มก็หัวเราะก๊ากออกมาดัง ๆ เลยทีเดียว
อ้อ ลิตเติ้ลเค้ก ชื่อน่ารักดี นายนั่นว่าพลางเอามือเสยผมตั้ง ๆ ของตัวเองที่ใส่เจลมาเสียหล่อเฟี้ยว โดยไม่ได้สนใจสาวน้อยทียืนทำตาเขียวใส่อยู่ตรงหน้า
อย่ามาเรียกชื่อชั้นแบบนี้นะ เมธาวีกัดฟันพูดแล้วหันไปเอาเรื่องคนเรียกทันที พี่แพนด้า
เรียกพี่แพนสิยะ สาวรุ่นพี่ที่เพิ่งเดินเข้ามาร่วมวงด้วยค้อนกลับ ครอบครัวของพี่แพนและเมธาวีค่อนข้างสนิทกันจากเมืองไทย ซึ่งทั้งสองรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เธอย้ายมาอยู่ที่นี่เกือบสิบปี และตอนนี้ก็เรียนอยู่ปีสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับเมธาวีด้วย
ต๊ายหัวปูดเชียว ไปโดนอะไรมา แล้วคุณลุงจะว่ายังไงล่ะเนี่ย เจ้าหล่อนว่าพลางเอามือจิ้ม ๆ หน้าผากที่ปูดเป็นลูกมะนาวของเพื่อนสมัยเด็กไปด้วย
ก็อีตานี่น่ะสิ เปิดประตูออกมาไม่ดูตาม้าตาเรือ เมธาวีโบ้ยชี้ไปที่คนผิดซึ่งยืนกอดอกเก๊กท่าฟังสองสาวคุยกัน
อ้าวคนไทยเหรอ ทำไมพี่ไม่เคยเห็นหน้าเลย ต๊าย หล่อเลิศอย่างกับนายแบบ เป็นโมเดลรึเปล่าจ๊ะ แพนด้าหันไปถามชายหนุ่มพลางส่งสายตาปิ๊ง ปิ๊งไปให้
พี่แพนด้า! เมธาวีชักจะเหลืออด ดูเอาเถอะแทนที่จะเข้าข้างเธอ กลับไปชมนายนั่นเสียนี่
ผู้ชายต้องมาก่อนสิยะ น้องรัก แพนด้าหันมากระซิบตอบ ส่วนนายนั่นยิ้มตาหยีเลยทีเดียว
"ผมไม่ใช่คนไทยครับ แล้วก็ฟังภาษาไทยไม่ออกด้วย" นายนั่นบอก
"อ้าว เหรอ ถ้างั้นพี่ถามใหม่ก็ได้" แพนด้าตั้งคำถามใหม่เป็นภาษาอังกฤษกับหนุ่มน้อยรูปหล่อ
อ๋อ เข้าใจแล้ว" คราวนี้นายรสส้มถึงบางอ้อทันที "พี่สาวครับ ผมชื่อรสส้ม น้องชื่อรสชีส แม่ชื่อ... นายรสส้มแนะนำตัวกับพี่สาวที่เพิ่งเจอหน้ากันอีกครั้ง
ก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีใครเค้าอยากรู้ประวัตินาย เมธาวีพูดขัดขึ้นมา
เอ่อ ครับ เรื่องที่พี่สาวถามนั้น ผมเคยเป็นโมเดลเล่น ๆ ขำ ๆ ที่มหาวิทยาลัยในประเทศก่อนจะย้ายมาที่นี่ครับ นายรสส้มบอกชื่อประเทศตัวเองซึ่งอยู่ทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ออกมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มแบบกระชากใจสาวให้ เขามั่นใจในรูปร่างหน้าตาที่หล่อเข้ม ส่วนสูงร้อยแปดสิบห้า สูงยาวเข่าดีของตัวเอง ที่ไม่ว่าไปที่ไหนเขาก็เจอกับสายตาชื่นชมในความหมดจดของหน้าตาแบบนี้จนชินซะแล้ว
เมื่อถูกเรียกว่าพี่สาว แพนด้าก็ยิ้มอาย ๆ พลางหยิกเนื้อน้องสาวสมัยเด็กแก้เขินอีกหลายหนึบ ก่อนจะรีบบอก เรียกพี่แพนก็ได้จ้ะ ใครๆ ก็เรียกกัน
อ้าว แต่ผมได้ยินลิตเติ้ลเค้กเรียกว่า แพนด้า
วุ๊ย ลิตเติ้ลเค้ก ชื่อน่าเอ็นดู แพนด้าหัวเราะกิ๊กกับชื่อใหม่ของเมธาวีอย่างชอบใจ พี่ชื่อจริงว่า พาเมลล่าจ้ะ ส่วนแพนด้าน่ะ นิคเนม
ครับ พี่แพน ยินดีที่ได้รู้จักครับ จุ๊บ นายรสส้มใช้ริมฝีปากสัมผัสมือของพี่สาวเบา ๆ ตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่นั่นก็ทำให้แพนด้าแทบกรี๊ด นาน ๆ ทีจะเจอคนหล่อแบบนี้ ส่วนเมธาวีทำหน้าเลี่ยน ๆ อยากจะอ้วก
นี่นาย จะเวอร์มากไปแล้ว เมธาวีดึงมือพี่สาวกลับมา ก่อนจะลากออกไปจากตรงนั้นทันที ไปเหอะ พี่แพน
ไปก่อนนะจ๊ะ น้องรสส้ม แล้วเจอกัน บาย แพนด้าโบกไม้โบกมือกลับมา หลังจากที่สองสาวออกมาจากตรงนั้นแล้ว นายรสชีสซึ่งเป็นน้องของนายรสส้มที่เพิ่งซื้อแว่นเสร็จก็เดินออกมาจากร้านขายแว่น
เป็นอะไรไป พี่รสส้ม ยืนเหม่อเชียว นายรสชีสที่ตัวอ้วนบึ้กเดินเข้ามาตบไหล่พี่ชายซึ่งยังยืนอยู่หน้าร้าน
ไม่มีอะไร ซื้อของเสร็จแล้วเหรอ นายรสส้มแกะถุงแว่นตาของน้องชายที่เพิ่งซื้อมาใหม่แล้วเอาขึ้นมาลองใส่พลางหยิบคูปองในถุงที่แถมขึ้นมาดู นี่อะไร
อ๋อ คูปองชิมฟรีของร้าน Gelato น่ะ เป็นไอศกรีมโฮมเมด เค้าบอกว่าอร่อยมาก ไปกินกันมั๊ย กำลังร้อนอยู่ด้วย นายรสชีสชวน เหงื่อที่หลังเปียกชุ่มเสื้อยืดออกมา อาจจะเป็นเพราะตัวอ้วนจึงทำให้ร้อนกว่าชาวบ้านเขา
เอาไว้ทีหลัง ว่าแต่ตอนนี้ไปสมัครเรียนก่อนเหอะ อีกอาทิตย์หนึ่งก็จะเปิดเทอมแล้ว นายรสส้มพูดตัดบทพลางเดินนำหน้าน้องชายไปที่ลานจอดรถ ...............................................................................................
แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 53 03:56:45
| จากคุณ |
:
amipoom
|
| เขียนเมื่อ |
:
28 เม.ย. 53 01:44:55
|
|
|
|