ความคิดเห็นที่ 1 |
...แผลเหล่านี้น่ะหรือ...เสียงของโคเวนปนหัวเราะขื่น ราวกับทราบว่าอีกฝ่ายกำลังมองอะไร...ได้ยินว่าระยะหลังมีสงครามรุนแรง ข้าไม่อาจเปลี่ยนร่างคนได้แล้ว คุณค่าลดลง เลยเหมาะจะเป็นที่ระบายความแค้นกระมัง...
นัคทานิ่งชั่วขณะ แต่แล้วเขาก็เร่งผลักความรู้สึกกลับเข้าไป เรียกสติให้คืนมา
...เจ้ารู้เรื่องแค่ไหน โคเวน...ชายหนุ่มถามหยั่งเชิงโดยเร็ว
ชาวชามูยิ้ม...บิดริมฝีปากขึ้นเล็กน้อย ยิ้มเสียดสี ไม่มีความยินดีใด
...นั่นสินะ ข้ารู้มากเท่าไร...เขาเอ่ยทวนคำ...ก็รู้มากพอจะให้ลูกลิงขาวตัดสินใจกระมัง นัคทา...
ครั้นแล้ว บางสิ่งก็ถูกยัดเยียดมาใส่นัคทา มันปะทะแรงจนเขาไม่ทันตั้งตัว
สิ่งที่เกิดกับโคเวน และความรู้สึกทั้งปวง
...หวาดกลัว โกรธแค้น เจ็บปวด เสียใจ...
...
สามปีที่ผ่านมา โคเวนอยู่ในนรก ท่ามกลางสติอันเลือนรางราวอยู่ในหมอกควัน เขาถูกขังเหมือนสัตว์ ถูกพันธนาการ และบ่อยครั้งมีคนฉีดยาบางอย่างที่ทำให้หิวโหยอย่างยิ่ง เขาหิวถึงเพียงนั้นก็คุมสติไม่ไหว ยามมีคนยื่นมือมาให้ต่อหน้าจึงต้องกิน เขากินไม่มีที่สิ้นสุดจนดวงตาไม่กลับเป็นสีเขียวอีก เขากินทั้งที่ในใจตัวเองไม่ได้ต้องการ นัคทาศึกษาร่างกายของชามู แต่เขาไม่ได้ผ่าสมอง ทั้งไม่ศึกษาเรื่องพลัง ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าชามูพัฒนาทางด้านการใช้อำนาจในจิตใจไปอย่างไร โคเวนมาจากตระกูลดีร่ำรวย แม้เป็นเด็กประหลาดไม่ยอมกินอาหาร แต่เขาก็ได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับการใช้พลังมาเป็นอย่างดี รู้จักการทำสมาธิบังคับจิตใจ ที่จริงตลอดเวลาที่ผ่านมา โคเวนใช้สิ่งนี้ช่วยยามที่อดอาหารหรือเจ็บปวดจนทนไม่ไหว เขามีความสามารถในการควบคุมให้ใจตนแยกขาดจากร่างกายได้ ว่าไปแล้วถือเป็นคุณสมบัติที่ดีอย่างยิ่งสำหรับชามู แต่ในขณะเดียวกันความสามารถดังกล่าวก็ทำร้ายเขา มันช่วยให้เขาไม่ไร้สติสัมปชัญญะเสียทีเดียวยามถูกนัคทาให้ยา มันทำให้เขารู้ตัวเกือบตลอดเวลาว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แม้ร่างกายจะขยับไม่ได้ แม้จิตใจจะชาและเปลี้ยมากก็ตาม ตอนที่ถูกบังคับให้กิน โคเวนก็พยายามต่อต้าน พยายามเพ่งพลังสู้กับฤทธิ์ยาไม่ให้หิวโหย แต่สู้ทั้งที่เสียเปรียบมากอย่างนี้ย่อมสู้ไม่ไหว ไม่ว่ากี่ครั้งก็ต้องพ่ายแพ้ ต้องกินทุกหนไป เขากลัวสิ่งที่ตนเองทำ กลัวการกิน กลัวความจริงที่ว่าตัวจะเป็นต้นเหตุให้ชามูมากมายต้องตาย ตัวจะต้องเป็นต้นเหตุให้เกิดสงคราม เขากลัวถึงเพียงนั้นก็ยิ่งพยายามสู้ ทว่าสู้เท่าไรกลับยิ่งพ่ายแพ้หนักขึ้นเท่านั้น ตลอดเวลาดังกล่าว โคเวนรู้สึกราวกับตัวเองเป็นสัตว์น่าอนาถอ่อนแอ สัตว์ที่ดิ้นรนแทบตาย แต่กลับต้องแพ้กับแส้และแอกไถ ยิ่งยามประสาทหลอน ความกลัวยิ่งกลับมาหาเขา ยิ่งหลอกหลอนราวปีศาจร้าย โคเวนกลัว แต่หนีไปไหนไม่ได้ เขากลัวอย่างยิ่ง เกลียดชังตัวเอง กลัวจนร้องไห้ กลัวจนต้องเรียก ขอร้อง ฟูมฟายอ้อนวอนให้ใครสักคนช่วย แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็รู้ดีว่าจะไม่มีใครมา เขากลัวจนแทบเป็นบ้า หากมีใครมาสักคน โคเวนคิดว่าตนคงยอมเขาโดยง่าย คงยอมก้มหัวจูบเท้า เป็นทาสเป็นคนรับใช้ ขอเพียงเขาพ้นจากที่นี่ไป ขอเพียงไม่ต้องรับผิดชอบความตายมากมาย ขอเพียงไม่ต้องรู้สึกผิดบาป ถูกทรมานเช่นนี้อีกต่อไป แต่ไม่มีใครมา ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียว เขาโดนทรมานเช่นนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า จนในที่สุดจิตใจของชาวชามูก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่มันราวกับบางสิ่งที่ข้ามพ้นความกลัวไป ราวกับมีอีกเสียงในกายเขา เสียงของสัตว์ร้าย มันร่ำร้องว่าโคเวน เจ้าจะทนทุกข์เช่นนี้ไปทำไม ก็ยอมรับเถิดว่าเจ้าหิวโหย ว่าเจ้าเลว ว่าเจ้าสู้ไม่ไหว ยอมรับเถอะว่าตัวเจ้าเองก็อยากกิน อยากแก้แค้น ไม่มีความต้องการจะรับผิดชอบอะไร เลิกบอกตัวเองได้แล้วว่าเจ้าเข้าใจนัคทา เลิกคิดแทนคนอื่น หากอยากทำร้าย ก็ทำร้ายตอบแทน ต่อสู้ ทำร้ายให้สะใจ ยอมรับว่าแม้ตัวเจ้าเองนึกว่าตัวเองสูงส่งยิ่งใหญ่ แต่ที่จริงก็มีสัตว์ร้ายอยู่ภายใน
... ...แต่นั้น ข้าก็กินเพราะอยากกินกระมัง...โคเวนแสยะเขี้ยวออกมา...กินเพื่อสะสมอำนาจ เพื่อที่พลังของข้าจะได้มากพอจะสู้กับพันธนาการและฤทธิ์ยาของเจ้าได้ ควรขอบคุณเจ้า นัคทา เจ้าทำให้ข้าเข้าใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ โคเวนก็แค่คนอ่อนแอ มันคิดว่าตัวสูงส่งมีคุณธรรมแล้วที่ไม่ยอมกิน ที่จริงมันก็โกหกตัวเอง ถึงมันทำอย่างนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร พูดว่ากลัวคนอื่นเจ็บปวด แต่ที่จริงกลัวตัวเองเจ็บปวดต่างหาก ข้าเห็นเด็กผู้หญิงคนนั้นตายเพียงคนเดียวก็กลัวจนตัวสั่น หดหัวไม่กล้าทำอะไร ไม่กล้าเลือกอะไร แต่แม้ข้าไม่เลือก คนอื่นเช่นเจ้าก็ต้องเลือกให้อยู่ดี สมควรแล้วที่คนไม่เลือกจะต้องถูกลงโทษ ก็ไม่ตัดสินใจด้วยตัวเอง...
นัคทายืนอยู่ตรงนั้น ประสาทชาจนงุนงงไปชั่ววูบ นี่คือโคเวนหรือ โคเวนหายไปไหน...เพื่อนเขาไปไหนแล้ว คนตรงหน้านี้เป็นใคร แต่แล้ว ชาวอิยาจึงค่อยตระหนักได้...ด้วยหัวใจ ไม่ใช่เพียงสติปัญญา...เขายังเปลี่ยนไป โคเวนก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน ไม่มีนัคทาไร้เดียงสาอีกแล้ว ก็ไม่มีโคเวนไร้เดียงสาเช่นกัน ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นแต่อดีตอันล่วงเลย ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
ชาวชามูนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยต่อ
...ข้าสมควรขอบคุณเจ้าจริง ๆ นัคทา...เขาบอกเรียบ ๆ ...ทำให้ข้าเลิกโง่ได้ ก่อนนี้ข้ายังคิดว่าจะสะสมพลังไว้เพื่อสักวันอาจจะได้เจรจากับเจ้า อาจจะได้เข้าใจ แต่ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ไม่มีการเจรจาอีกต่อไป ข้าได้ยินคนพวกนั้นพูดว่าเจ้าจะทำให้ร่างกายของอิยาเป็นพิษ ชามูกินแล้วตาย เจ้าจะมาทดลองกับข้า ข้าเห็นเจ้าบอกคนพวกนั้นว่าข้าเป็นอันตราย หากจับไม่ได้ก็ให้ฆ่าเสีย เป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรือไง...
นัคทานิ่งอยู่ ไม่ทราบจะตอบอย่างไร เขาไม่เข้าใจ...เหตุใดเวลานี้นัคทาแห่งอิยาจึงไม่มา
...ข้าเข้าใจ...โคเวนเอ่ยต่อไป ยกมือขึ้นกดแผลใหญ่ที่ไหล่ของตนไว้...ข้าจะกลับเมืองชามู ข้าคิดฆ่าเจ้าที่นี่ แต่ดูเหมือนเราสองคนจะมีพลังเสมอกันไม่ใช่หรือ หากสู้กันต่อก็คงตายทั้งคู่ จะสู้กันไหม... ครั้นแล้วชาวชามูก็ยิ้มเล็กน้อย ...แต่เจ้าคงตายที่นี่ไม่ได้กระมัง เจ้าเป็นหัวหน้าแล้ว ข้ามันก็แค่ไอ้ชามูนอกคอกเท่านั้นเอง...
นัคทานิ่งไป เขาเจ็บปวดทั้งร่างกาย และทราบว่าโคเวนก็เช่นกัน โคเวนกักเขาไม่ให้ติดต่อกับคนอื่นได้ แม้ตายไปด้วยกันก็ไม่มีใครรู้ นัคทายังไม่ได้วางตัวทายาท ยังไม่ได้ตระเตรียมอะไรหากตนต้องตาย เขายังตายไม่ได้จริง ๆ แม้โคเวนจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ก็ไม่อาจแลกชีวิตด้วยได้เลย ...ถ้าอย่างนั้น ก็ตกลงตามนี้ใช่ไหม...โคเวนถามต่อไป...ดี ข้าจะกลับเมืองชามู ฟื้นฟูร่างกาย คราวหน้าเมื่อพบกัน จงรบกันจนกว่าจะถึงตาย ข้าจะไม่ทำอะไรน้อยกว่านั้นเลย... เขาเอ่ยเพียงนั้นแล้วก็หันร่างจากไป นัคทาได้แต่มองตาม แม้คิดขยับจะโจมตี หรือคิดจะร้องเรียกรั้งไว้ ก็ไม่อาจทำได้ เขายืนอยู่เป็นเวลานาน สุดท้ายร่างโคเวนเกือบจะพ้นสายตาแล้ว จึงได้ส่งความคิดไป ...ดี คราวหน้าจงมารบกัน...ชายหนุ่มร้องตะโกน...ข้าไม่มีทางตาย โคเวน เจ้าต้องตาย ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะปลดแอกชาวอิยา... รอจนโคเวนไปแล้ว นัคทาก็นึกรู้ในใจ...เขาก็ฆ่าโคเวนตายไปแล้วไม่ใช่หรือ ตายไปตั้งแต่สามปีก่อนแล้วกระมัง
...
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีคนชื่อนัคทา เขาไร้เดียงสา มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่ เขาคิดว่าจะปลดแอก จะช่วยคนของตน จะนำความยุติธรรมมาให้ แต่แล้วชายหนุ่มนั้นกลับพบว่าเรื่องบางเรื่องหากจะทำก็จะต้องทำต่อไป น้ำผึ้งหยดเดียวกลายเป็นอะไรมากมาย พันรัดเอาความโกรธ ความกลัว ความโลภ ความหลง ความเกลียดชังเข้ามาจนกลายเป็นตาข่ายยิ่งใหญ่ กลายเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ กลายเป็นทางที่ไม่มีวันหวนกลับไป
เขาบอกตัวเองเสมอ...จงเด็ดขาด อย่าได้เสียใจ
แต่สุดท้ายแล้ว ตัวตนของเขาก็ไม่ได้ประกอบขึ้นจากหินและไม้อยู่ดีกระมัง
จากคุณ |
:
ลวิตร์
|
เขียนเมื่อ |
:
9 พ.ค. 53 15:17:24
|
|
|
|