จดหมายร้องเรียน ...
|
|
พอดีว่าเมื่อวานนี้ไอ้คุณสงัดเพื่อนของผมมันมาหาผมที่บ้านครับ ไอ้สงัดมันเอาจดหมายของมันมาฝากให้ผมช่วยส่งลงทะเบียนให้มันด้วยฉบับหนึ่งครับ
พอผมรับจดหมายจากไอ้สงัดมาแล้ว ผมก็อดใจไม่ได้ครับ ผมเลยต้องยอมเสียมารยาท ละทิ้งสมบัติผู้ดีที่ผมมีอยู่ โดยผมทำการแกะซองจดหมายของมันออกมาอ่านในทันทีหลังจากที่มันกลับออกจากบ้านของผมไปแล้ว
แต่พอผมได้อ่านข้อความในจดหมายของไอ้สงัดจบลงแล้ว ....
ผมอยากจะขย้ำจดหมายฉบับนั้น แล้วขว้างทิ้งลงในถังขยะในทันที
แต่ผมก็ยังมีความเกรงใจไอ้สงัดมันอยู่บ้างครับ ผมเลยคิดว่าจะคัดลอกข้อความในจดหมายของไอ้สงัดมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน เพื่อน ๆ ลองอ่านกันเอาเองก็แล้วกันครับ
ข้อความในจดหมายของไอ้สงัดมีอยู่ว่า ....
@@@@@@@@@@@@@@@
เขียนที่ บ้านของคุณสงัด วันที่ 10 พฤษภาคม 2553
เรื่อง ขอร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรม เรียน ผู้อำนวยการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)
ข้าพเจ้านายสงัด อโคจรอาจิณ มีความประสงค์ที่จะขอร้องเรียนเกี่ยวกับความไม่เป็นธรรมที่ข้าพเจ้าได้รับจากร้านอาหารแห่งหนึ่งแก่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมาเวลาโดยประมาณ 19.00 น. ข้าพเจ้าได้ไปใช้บริการที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งข้าพเจ้าไม่อยากจะระบุชื่อร้านเลยว่าชื่อร้าน ครัวสนทีน ซึ่งร้านนี้ตั้งอยู่ที่หลังตลาดร้างในย่านลำปลาซิว โดยข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นผู้บริโภคคนหนึ่ง ข้าพเจ้ามีรู้สึกว่าได้รับความไม่เป็นธรรมจากการให้บริการของร้านอาหารดังกล่าวนี้
ในวันนั้นข้าพเจ้าสั่งอาหารที่ปรากฏอยู่ในเมนูอาหารของทางร้านอาหาร โดยข้าพเจ้าสั่งข้าวผัดทะเลใต้มารับประทาน 1 จาน และได้สั่งเหล้าวิสกี้มาดื่ม 1 แบน แต่ว่าพอพนักงานเสิร์ฟผู้ชายนำข้าวผัดทะเลใต้มาเสิร์ฟให้แก่ข้าพเจ้า ปรากฏว่าข้าวผัดทะเลใต้ในจานที่นำมาเสิร์ฟนั้นไม่เป็นไปตามที่ข้าพเจ้าคาดหวังไว้ เนื่องจากข้าวผัดทะเลใต้ในความคิดของข้าพเจ้าน่าจะประกอบไปด้วย ข้าวสวยที่ผัดรวมกับกุ้ง หอย ปลาหมึก เนื้อนกเพนกวินและเนื้อแมวน้ำ แต่ว่าข้าวผัดทะเลใต้ของร้านอาหารดังกล่าว มีเพียงแค่ข้าวที่ผัดกับกุ้งแม่น้ำตัวงอ ๆ ตัวเล็ก ๆ เพียงแค่ 3-4 ตัวเท่านั้น อีกทั้งข้าวที่ทางร้านอาหารนำมาใช้ผัดก็เป็นเพียงแค่ข้าวเสาไห้ธรรมดาไม่ใช่ข้าวหอมมะลิชั้นดี (สาเหตุที่ข้าพเจ้าทราบว่าเป็นข้าวเสาไห้ เนื่องจากว่าบิดาและมารดาของข้าพเจ้าเป็นชาวนามาตั้งแต่กำเนิดรวมทั้งตัวข้าพเจ้าเองด้วย จึงทำให้ข้าพเจ้าสามารถแยกแยะออกได้ทันทีว่า เป็นข้าวเสาไห้หรือว่าข้าวหอมมะลิ) ซึ่งถือว่าเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคอย่างชัดเจน
ส่วนเครื่องดื่มที่เป็นเหล้าวิสกี้ที่ข้าพเจ้าสั่ง ข้าพเจ้าคาดหวังว่าจะได้ดื่มวิสกี้หรูชั้นดีจากประเทศสก็อตแลนด์ แต่ปรากฏว่าทางร้านอาหารได้ให้เด็กเสิร์ฟผู้ชายยกเอาเหล้าแม่โขง 1 แบนมาให้ข้าพเจ้า ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นการดูถูกข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก (สาเหตุเนื่องมาจากว่าตอนที่ข้าพเจ้าทำนาอยู่ที่บ้านนอก ข้าพเจ้าจะดื่มแต่เหล้าขาวหรือเหล้าเชี่ยงชุนเท่านั้น ส่วนเหล้าสีข้าพเจ้าจะไม่ดื่มอย่างเด็ดขาด เพราะว่ามันแพงครับ) ส่วนน้ำแข็งที่ทางร้านอาหารเอามาเสิร์ฟให้ในกระป๋องน้ำแข็งแต่ละก้อนก็ไม่เต็มก้อนเลย น้ำแข็งแต่ละก้อนก็แตก ๆ หัก ๆ เหมือนกับว่าทางร้านจงใจที่จะตักน้ำแข็งที่เหลืออยู่ในถังน้ำแข็งมาของร้านให้ข้าพเจ้า นอกจากนั้นน้ำแข็งแต่ละก้อนก็มีความเย็นไม่ถึง 0 องศา (สาเหตุดูได้จาก เวลาที่ข้าพเจ้าใส่เหล้าลงไปในแก้วแล้วใส่น้ำแข็งและโซดาตามลงไป พอข้าพเจ้าเอานิ้วชี้จุ่มลงไปคนเหล้าในแก้ว 2-3 รอบ น้ำแข็งก็จะละลายหมดในทันที) อีกทั้งโซดาที่ทางร้านเอามาให้แก่ข้าพเจ้าก็แทบจะไม่มีความซ่าส์หลงเหลืออยู่เลย ดื่มแล้วไม่ซ่าส์สะใจ ไม่มีฟองฟูฟอดเหมือนกับที่เห็นในโฆษณาทีวี ซึ่งข้าพเจ้าคาดว่าทางร้านคงเอาโซดาที่เปิดขวดทิ้งไว้ข้ามคืนมาให้แก่ข้าพเจ้าเป็นแน่
เมื่อข้าพเจ้าได้ทานข้าวผัดทะเลใต้จนหมดจานและดื่มเหล้าแม่โขงจนหมดแบนแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้ทำการต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไป แต่ทางร้านอาหารก็ไม่มีกัปตันหรือผู้จัดการร้านออกมาให้คำตอบที่ชัดเจนแก่ข้าพเจ้าได้เลย มีเพียงแค่เด็กเสิร์ฟผู้หญิงหน้าตาน่ารัก 1 คน เดินมาบอกข้าพเจ้าว่า ทางร้านอาหารจะลดราคาให้แก่ข้าพเจ้า 90 เปอร์เซ็นต์เฉพาะค่าน้ำแข็ง ซึ่งในขณะนั้นข้าพเจ้าได้แต่คิดในใจด้วยความเมาสุราว่า ทางร้านลดราคาให้แก่ข้าพเจ้าตั้ง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการลดราคาให้ตั้งข้าพเจ้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ข้าพเจ้าดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่พอข้าพเจ้าเหลือบไปมองเห็นราคาค่าน้ำแข็งในเมนู ปรากฏว่าน้ำแข็งราคาแค่กระป๋องละ 10 บาทเท่านั้นเอง (แล้วทางร้านจะลดราคาให้ทำไมก็ไม่ทราบครับ)
หลังจากนั้นเด็กเสิร์ฟผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักคนเดิมก็เดินมาหาข้าพเจ้าที่โต๊ะ เพื่อเก็บเงินค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดรวมเป็นเงิน 261 บาท ซึ่งข้าพเจ้าได้ให้เงินแก่เด็กเสิร์ฟไปจำนวน 300 บาทโดยข้าพเจ้าได้กระซิบบอกเด็กเสิร์ฟผู้หญิงคนดังกล่าวเพียงเบา ๆ ว่า
ไม่ต้องทอนนะจ๊ะ ... น้องคนสวย
ดังนั้นข้าพเจ้าขอร้องเรียนกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคว่า ข้าพเจ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการให้บริการที่ร้านดังกล่าว โดยตัวข้าพเจ้าไม่ได้ติดใจในเรื่องข้าวผัดทะเลใต้ หรือเรื่องเครื่องดื่มแต่อย่างใด แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ข้าพเจ้าถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมากก็คือ เงินทอนจำนวน 39 บาท ที่ข้าพเจ้าให้เป็นเงินทิปแก่เด็กเสิร์ฟผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักไป ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้าพเจ้าจะได้เบอร์มือถือของเด็กเสิร์ฟคนนั้นมาเป็นการตอบแทน แต่หลังจากที่ข้าพเจ้าทำการจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อยแล้วข้าพเจ้าได้นั่งรออยู่ในร้านนานกว่าชั่วโมง เด็กเสิร์ฟผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ยอมโผล่หน้าออกมาจากหลังร้านให้ข้าพเจ้าได้เห็นอีกเลย ซึ่งข้าพเจ้าถือว่าเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเป็นอย่างยิ่งครับ
ท้ายสุดนี้ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้าพเจ้าจะได้รับความเป็นธรรมจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค โดยข้าพเจ้าขอให้ทาง สคบ. ช่วยไปตามขอเบอร์มือถือของเด็กเสิร์ฟผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นมาให้แก่ข้าพเจ้าด้วย ซึ่งข้าพเจ้าขอขอบพระคุณล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการให้แก่ข้าพเจ้าโดยด่วนด้วยครับ
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
( ... ลายเซ็นต์ ยึก ๆ ยือ ๆ ..... )
ลงชื่อ นายสงัด อโคจรอาจิณ
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 10:35:26
จากคุณ |
:
อาคุงกล่อง
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 53 00:16:55
|
|
|
|