ความคิดเห็นที่ 1 ลมไหวไวเคลื่อนคล้อย...........ถอยราน หมดปร่าคราวันวาร................ผ่านแล้ว หวังคืนชื่นเสกสาน..................นานเนื่อง คอยด่ำนำรอยแผ้ว.................แคล่วคล้องกุมกมล หนทางจางเหนื่อยอ้อน...........วอนขม ฝนชุ่มรุมมาพรม....................ห่มไว้ หายพิงสิ่งประสม....................คมเหนี่ยว เหน็บเฮย คลอท่ามความสุขให้...............ไขว่คว้าถวิลสรรค์ แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 53 13:35:10 แก้ไขเมื่อ 11 พ.ค. 53 23:51:03 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 53 23:48:40

ความคิดเห็นที่ 2 เพื่อนกิน ไม่เรียกร้อง                ก็มา หาง่าย หากเราพา                     อิ่มแปล้                   เพื่อนตาย ไม่เคยลา                  คอยช่วย  เหลือนา หายาก เป็นแน่แท้                     ชาตินี้มีไหม จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 00:00:57

ความคิดเห็นที่ 3 . โคลงโลกนิติ มีลาภเสื่อมลาภได้ ........... เท่ากัน มียศเสื่อมยศพลัน ............ แน่แท้ สรรเสริญคู่นินทาสรรค์ ..... เป็นสิ่ง ธรรมดา อย่าหวั่นไหวตามแล้ ......... คิดให้รู้ทัน ................................................... มีลาภเสื่อมลาภแท้ ........ ธรรมดา มียศเสื่อมยศนา ............. นึกไว้ สรรเสริญคู่นินทา ........... ทุกที่ อย่าลุ่มหลงแลให้ ........... หัดรู้เท่าทัน พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 00:10:31

ความคิดเห็นที่ 4 จิตมนุษย์ที่แท้                บริสุทธิ มาพบสิ่งสมมุติ              แต่งขึ้น ปั่นป่วนอย่างที่สุด          สุขทุกข์ วุ่นวาย ฝึกให้ใจเดิมฟื้น               แหละนั้นอรหันต์ฯ ................................................... จิตมนุษย์ที่แท้                     บริสุทธิ์ พบสิ่งถูกสมมุติ                   เริ่มร้าย หากปรับเปลี่ยนจนหลุด        จากชั่ว กลับจิตคิดโยกย้าย               ย่อมได้สรรเสริญ จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 00:30:05

ความคิดเห็นที่ 5 ๏ ใครจักผูกโลกแม้............รัดรึง   เหล็กเท่าลำตาลตรึง..........ไป่หมั้น   มนตร์ยาผูกนานหึง............หายเสื่อม ผูกเพื่อไมตรีนั้น................แน่นเท้าวันตาย๚ะ๛ -โคลงโลกนิติ- ๏ ใครจักผูกโลกแช้ต.........แอ็ดเอ็ม เน็ตล่มอดแทะเล็ม............หลอกชู้ บีบีอาจแอบเม็ม...............พินหลบ...แฟนแม่ กิ๊กฝากไมตรีรู้..................เรื่องเข้าถึงตาย ๚ะ๛ -ศาลายา- จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 12:13:58

ความคิดเห็นที่ 6 ๏ ใครจักผูกโลกแม้............รัดรึง   เหล็กเท่าลำตาลตรึง..........ไป่หมั้น   มนตร์ยาผูกนานหึง............หายเสื่อม ผูกเพื่อไมตรีนั้น................แน่นเท้าวันตาย๚ะ๛ -โคลงโลกนิติ- ๏ ใครจักผูกโลกแช้ต.........แอ็ดเอ็ม เน็ตล่มอดแทะเล็ม............หลอกชู้ บีบีอาจแอบเม็ม...............พินหลบ...แฟนแม่ กิ๊กฝากไมตรีรู้..................เรื่องเข้าถึงตาย ๚ะ๛ -ศาลายา- .......................... ใครหลังไมค์ส่งด้าน.......ดาวดึงส์ หลับตื่นโคลงยังคลึง.......ครุ่นค้าง เอ็มแอ็ดค่ำแนะถึง.........ทู้ฯใฝ่ เลยนา บล็อกนั่นใครผูกอ้าง.......ส่งล้วนไมตรี แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 53 13:49:27 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:44:47

ความคิดเห็นที่ 7 โลกนิติ   ผู้ใดใจฉลาดรู้..................ปัญญา ได้สดับปราชญ์เจรจา.........อาจรู้ ยินคำบัดเดี๋ยวมา...............ซับซาบ ใจนา คือมลิ้นคนผู้.....................ซาบรู้รสแกง ............................................. ฉบับญามี่แปลง มนุษย์นับเด่นได้...............ใดไฉน ครูเก่งมีนัยใน...................นั่นนั้น หากคนบ่นเบนไป...............ปันปั่น ไหนเปลี่ยนปลูกถึงขั้น.........ขจ่างคว้างมิมา ปราชญ์เจรจาซึ่งกว้าง..........กุมสุม ใครว่องไวรับหลุม...............ลู่รู้ ยากพลาดเยี่ยงยามดู...........ดังดั่ง กาลก่อคนหมายสู้...............ส่องพร้องขยันยิน ถวิลวิชาแบ่งเบื้อง................บทพจน์ นึกเนื่องซึมจนจด.................จ่อมห้อม การอายเอ่ยเบนอด...............อิงสิ่ง หลักนั่นนัยแปลงซ้อม............ซ่อนป้อนประกายสาย หลายรายแกงกลิ่นให้.............หอมดอม หากสิ่งควรถนอม...................หน่วงท้วง คือรสส่งติดตอม....................ตามล่าม มีครุ่นหมุนหมายล้วง...............ล่วงห้วงคะนึงเกลือ บทนี้ มี่แปลงโดยนำกลบทเข้าสอดด้วย คือกลบทสิงห์โตเล่นหาง และกลบทก้านต่อดอก ค่ะ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 13:56:25

ความคิดเห็นที่ 8 หลังไมค์เต็มหมดสิ้น.........สาวหึง ยามตื่นดูขังขึง.................ขับสู้ เอ็มหน้าต่างเต็มตรึง..........ต่างน่า บล็อกอสุภาสุภังรู้.............หรี่สร้างไมตรี ฯ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:02:51

ความคิดเห็นที่ 9 หลังไมค์เต็มหมดสิ้น.........สาวหึง ยามตื่นดูขังขึง.................ขับสู้ เอ็มหน้าต่างเต็มตรึง..........ต่างน่า บล็อกอสุภาสุภังรู้.............หรี่สร้างไมตรี ฯ จากคุณ : ศาลายา     เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:02:51     ........................................ ตีกรอบปลอบเร่งสู้........สอนหลอน หลอกเป่าหนังละคร......คู่ถ้อย หวังฝังใคร่ทุกตอน.........ตามปิด ฤๅฤทธิ์สวาทร้อย.....รั่วแล้วคนหนี แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 53 14:26:12 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:22:26

ความคิดเห็นที่ 10 ๏ ตีนงูงูไซร้หาก.............เห็นกัน   นมไก่ไก่สำคัญ...............ไก่รู้   หมู่โจรต่อโจรหัน.............เห็นเล่ห์ กันนา เชิงปราชญ์ฉลาดกล่าวผู้....ปราชญ์รู้เชิงกัน๚ะ๛ -โลกนิติ- ๏ ดาวคือดวงประทีปรู้.......ระหว่างดาว. สาวย่อมรู้เชิงสาว............จากชู้ ชีวิตใช่ยืนยาว................มัวงั่ง...โง่ฤา กวีอ่านงานกวีรู้...............แค่นั้นงานกวี๚ะ๛ -ขรรค์ชัย บุนปาน- ๏ อรหันต์ต่างรู้ต่าง...........อรหันต์ ทารกรู้จักถัน...................ปากสู้ ชีวิตใช่ตีบตัน..................ตามอื่น ยามปล่อยวางจักรู้............แค่นี้อรหันต์ ๚ะ๛ -ศาลายา- จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:40:15

ความคิดเห็นที่ 11 ๏ ก้านบัวบอกลึกตื้น.........ชลธาร   มารยาทส่อสันดาน..........ชาติเชื้อ   โฉดฉลาดเพราะคำขาน.....ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ....บอกร้ายแสลงดิน๚ะ๛ -โลกนิติ- ๏ เวลากระทู้ใบ้บอก.........ความไว...เน็ตนา โพสต์แรกบอกห้วงใจ.......จากบึ้ง ความถูกผิดอันใด............อาจด่วน...คิดนา บอกอื่นเลยลึกซึ้ง............บอกใบ้ใจตน ๚ะ๛ -ศาลายา- จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 14:56:29

ความคิดเห็นที่ 12 ++++++++++++++++++++++++++++++++ ๏ โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง.........เมล็ดงา   ปองติฉินนินทา..................ห่อนเว้น   โทษตนเท่าภูผา.................หนักยิ่ง ป้องปิดคิดซ่อนเร้น.............เรื่องร้ายหายสูญ ๚ะ๛ -โคลงโลกนิติ- ๏ โทษคนอื่นไว้ก่อน...........กรายตน สรรสนุกนินทาคน...............ข่มเหล้น ทำเลวมิเคยสน...................สหายเจ็บ หลายสิ่งทำซ่อนเร้น............ซ่อนร้ายใสเสมอ ๚ะ๛ -ศาลายา- ++++++++++++++++++++++++++++++++ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:03:30

ความคิดเห็นที่ 13 ๏ ตีนงูงูไซร้หาก.............เห็นกัน   นมไก่ไก่สำคัญ...............ไก่รู้   หมู่โจรต่อโจรหัน.............เห็นเล่ห์ กันนา เชิงปราชญ์ฉลาดกล่าวผู้....ปราชญ์รู้เชิงกัน๚ะ๛ -โลกนิติ- ๏ ดาวคือดวงประทีปรู้.......ระหว่างดาว. สาวย่อมรู้เชิงสาว............จากชู้ ชีวิตใช่ยืนยาว................มัวงั่ง...โง่ฤา กวีอ่านงานกวีรู้...............แค่นั้นงานกวี๚ะ๛ -ขรรค์ชัย บุนปาน- ๏ อรหันต์ต่างรู้ต่าง...........อรหันต์ ทารกรู้จักถัน...................ปากสู้ ชีวิตใช่ตีบตัน..................ตามอื่น ยามปล่อยวางจักรู้............แค่นี้อรหันต์ ๚ะ๛ -ศาลายา- .................................. โคลงสรรค์ดันสู่ด้าน.........ดูเป็น เด็กใหม่หลากประเด็น.......ด่วนรู้ นักเรียน บ่ เคยเห็น.......... เหินห่าง ฝึกนา ครูท่าน ฤ คิดอู้.................เอ่ยเคล้าลวงตา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:17:38

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณ คุณพี่เฝ้า...........มาสอน นัยเนื่องทุกบทตอน..........ย่อมแจ้ง หากลับสิ่งจริงนอน...........หลอนหน่วง ยากเอ่ยบนใจแห้ง...........เบื่อแล้วเพียรขยาย จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:28:50

ความคิดเห็นที่ 15 ..ยินดีครับ เย็นใจได้ครับ ๏ เย็นเงาพฤกษ์มิ่งไม้.........สุขสบาย เย็นญาติสุขสำราย.............กว่าไม้ เย็นครูยิ่งพันฉาย...............กษัตริย์ยิ่ง ครูนา   เย็นร่วมพระเจ้าให้..............ร่มฟ้าดินบน๚ะ๛ -โลกนิติ- ๏ เย็นลมแอร์แผ่สร้าง..........สุขสบาย เย็นอาบน้ำสะอาดกาย..........กว่าอ้าง เย็นบุญแผ่เมตต์หมาย..........กมลแจ่ม เย็นจิตปล่อยวางบ้าง............เบิกฟ้าบังอบาย ๚ะ๛ -ศาลายา- จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 16 ๏ ก้านบัวบอกลึกตื้น.........ชลธาร   มารยาทส่อสันดาน..........ชาติเชื้อ   โฉดฉลาดเพราะคำขาน.....ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ....บอกร้ายแสลงดิน๚ะ๛ -โลกนิติ- ๏ เวลากระทู้ใบ้บอก.........ความไว...เน็ตนา โพสต์แรกบอกห้วงใจ.......จากบึ้ง ความถูกผิดอันใด............อาจด่วน...คิดนา บอกอื่นเลยลึกซึ้ง............บอกใบ้ใจตน ๚ะ๛ -ศาลายา- ................................ คิดดลวนสิ่งนี้....................นึกนาน หาก บ่ ลืมหลอกลาน..........หล่นไห้ เขามาชื่อเชิงขนาน.............นองแน่น จึงเชื่อทำใจใกล้.................ก่อร้ายภายหลัง หวังเขาออกส่งอ้าง..............อีกครา เขา บ่ ยอมออกมา...............มุ่งแจ้ง หลบหายไล่ปัญหา...............หนเอ่ย จึงดั่งสงครามแกล้ง.............ก่ายทั้งตลอดแนว แถวใดคือแหล่งพ้อง.............พบเจอ จึงดั่งทางเสนอ.....................แนะรู้ หญิงชายนั่นมิเผลอ...............เผยติด กับนา จากห่างมิมาสู้.......................ส่งให้ผิดแผน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 16:02:19

ความคิดเห็นที่ 17 ๏ โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง.........เมล็ดงา   ปองติฉินนินทา..................ห่อนเว้น   โทษตนเท่าภูผา.................หนักยิ่ง ป้องปิดคิดซ่อนเร้น.............เรื่องร้ายหายสูญ ๚ะ๛ -โคลงโลกนิติ- ๏ โทษคนอื่นไว้ก่อน...........กรายตน สรรสนุกนินทาคน...............ข่มเหล้น ทำเลวมิเคยสน...................สหายเจ็บ หลายสิ่งทำซ่อนเร้น............ซ่อนร้ายใสเสมอ ๚ะ๛ -ศาลายา- .................................... โทษใดไหนขื่นแท้............ทรมาน โทษเท่าเราหลงมาร...........มุ่งร้าย โทษนัยที่เบนลาน..............เลยเบี่ยง ผลนา โทษใคร่ในละม้าย.............มั่นด้วยคำคน บนบทสรรค์ใส่ร้อน.............รุนแรง หากบั่นราวเคลือบแทง.........ท่านนั้น โปรดอภัย บ่ คิดแจง............จากเรื่อง เพียงสื่อจากเขาดั้น..............แดกด้วย ทู้ฯ มา พามิตรผลัดผ่านคล้อย..........ความไป สรรค์ใส่แตกฉงนไฉน...........นั่งร้อง จากเอ็มส่งนัยไหล...............ลองไถ่ จึงซ่านเลวทรามฟ้อง............ฝั่งนี้มีภัย จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 16:48:42

ความคิดเห็นที่ 18 มี่รู้นะ พี่ๆดูอยู่ แต่ขอนะเที่ยวนี้ รับแค่เมล์ หลังไมค์กับเอ็ม ไม่ต้องฝากมามาก ขี้เกียจอ่านเยอะสิ 5555 ขอตัวไปทำงานก่อนนะ ดึกๆมาเล่นใหม่ค่ะ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 16:51:57

ความคิดเห็นที่ 19   โลกนิติ สัจจะต่อกันอย่าได้                   บิดเบือน ตั้งจิตคุมสติเตือน                     ข่มไว้ อดทนเมื่อกระเทือน                   อารมณ์ที่ ร้ายนา เสียสละแบ่งของให้                    แก่ผู้ที่ควร *************** มีสัจจะอย่าได้                    บิดเบือน ควรเอ่ยกับใจเตือน              ระลึกไว้ อดทนอย่างรู้เหมือน             ระงับอยู่ อย่าปล่อยอารมณ์ให้             เจ็บนั้นแก่ใคร จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 19:45:35

ความคิดเห็นที่ 20 (โลกนิติ) เกิดเหตุดีเหตุร้าย               ขึ้นมา พินิจพิจารณา                    ถี่ถ้วน รู้เท่าทันโลกมายา               สิ่งชั่ว ดีนา สติปัญญาฉลาดล้วน           คิดไว้อย่าหลง ................................ เกิดเหตุดีเหตุร้าย                 คราวใด นึกก่อนถึงนอกใน                ซ่อนเร้น ระวังอย่างตั้งใจ                    มีสติ ควรพินิจนึกเน้น                   อย่างผู้ฉลาดทัน จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 20:01:11

ความคิดเห็นที่ 21 มาแอบอ่านค่ะ   เพราะมากๆเลย คุณญามี่เก่งมากค่ะ จากคุณ : พลอยแข เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 53 23:02:51

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณที่แวะมา "แอบ"นะคะคุณพลอยแข 555 อ่านได้ตามสบายเลยค่ะ ถ้าชอบแนวนี้ และขอบคุณกับคำชมค่ะ มี่ยังต้องเรียนและฝึกฝนอีกมากค่ะ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 01:24:16

ความคิดเห็นที่ 23 (โคลงโลกนิติ) รักกันอยู่ขอบฟ้า          เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว      ร่วมห้อง ชังกันบ่แลเหลียว          ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง  ป่าไม้มาบัง ..................................... (พจน์รำพัน) ~ รักกันอยู่ต่างด้าว ........... แดนไหน เหมือนอยู่เคียงคลอใจ ....... จ่อมห้อม ชังกันดั่งคนไกล ............... เกินสื่อ เพียงแค่เงายังอ้อม ............ แอบให้ห่างกัน ......................... (ญามี่) ยามรักกันห่างฟ้า.......ฟากไกล ผายื่นยังมิไหว...........เหว่ว้า คะนึงหนึ่งมอบไป........ปลอบเปลี่ยว ใจนา ทุกค่ำจำใบหน้า..........เหนี่ยวปลื้มมิวาย เสมอกรายอยู่ห้อง.......หวนถึง กอดมั่นมิรำพึง............เพิ่มพ้อ ใจจมจ่อมเหมือนดึง......ดลด่ำ หวามเฮย กายห่างเงาเริงล้อ........ แล่นเอื้อคลอหวัง ชังกันสิแค่เอื้อม............อาจราง เฉยนิ่งเหมือนหมดทาง.....ท่องเกี้ยว เหลียวเริงเบิ่งเห็นวาง.......วายร่าย ดังอยู่ตรงทางเลี้ยว.........เลื่อนคล้อยนัยน์เยือน เหมือนดังมีฝั่งฟ้า..............ฝาบัง หมดอุ่นเคียงคลอหลัง........ไล่รู้ อีกพรรณป่ามาขัง..............ขอสุ่ม มืดหม่นหมดทางกู้..............กร่อนแล้วสวาทหวาน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 01:33:55

ความคิดเห็นที่ 24 (โคลงโลกนิติ) รักกันอยู่ขอบฟ้า          เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว     ร่วมห้อง ชังกันบ่แลเหลียว          ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง    ป่าไม้มาบัง .................................. ขอแปลงอีกแนวนะคะ เพราะมี่รู้สึก บทแรกกระด้างไปค่ะ ยามรักมักห่างให้................หวงแหน ใจไกว่ไปปลอบแดน............ด่าวสร้อย หาญจับจ่อมจมแผน.............เผยผ่าว เริงเรื่องรอราวร้อย...............ร่านั้นฝันเหมือน เยือนยังพิศผ่านคล้าย...........คลอครัน เดินด่ำแดนสวนสวรรค์.......... หว่างต้อง ใจลอยค่อยเหิมหัน...............หาใฝ่ รักนา เสมออยู่รวมหอห้อง.............ห่างเอื้อมเพียงตา คราชังขังแค่เคลิ้ม.................คลำพบ ไยเร่าเบนบรรจบ...................จ่อร้อน ราวฝันหลั่นกระทบ.................ทวงเบื่อ เหลียวเบี่ยงบนสะท้อน...........ท่วมเรื้อเหลือระอา เหมือนนภาเผื่อเพ้อ................เพียรบัง เหมือนป่าปันกำลัง.................แล่นป้อง เหมือนเห็นเหนื่อยนองกรัง.......เกาะก่าย ตานา จึงส่องนัยน์พลันพ้อง..............พร่องแพ้พบพาน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 10:56:41

ความคิดเห็นที่ 25 (โคลงโลกนิติ) ใครทำโทษโทษนั้น     แทนทด ใครคิดจิตคดคด        ต่อบ้าง ใครจริงจึ่งจริงจรด      รักต่อกันนา ใครใคร่ร้างเร่งร้าง      รักร้างแรมไกล ................................................ (พจน์รำพัน) ~ คิดโทษโทษนั่นต้อง ..... ตอบสนอง คิดคดคดจักจอง ............. จิตบ้าง คิดจริงต่อจริงครอง .......... ควรค่า รักเอย คิดห่างเร่งห่างร้าง ...........  รักร้างแรมรา ............................... (ญามี่) ใครครองโทษปล่อยให้..........หวนติด สุมซ่อนคอนคอยคิด..............คลั่งแค้น ทุกข์โทษบ่โบยบิด................เบนเบี่ยง บางนา ยังหลั่งขังเหมือนแม้น............มุ่งไหม้หมดเมียง ใครเคียงคิดครุ่นคล้อย............คดงอ เพียรมั่นหมายชะลอ...............หล่อร้าย ถึงหลับตื่นยังพะนอ................นองแน่น อาจล่มจมละม้าย...................เหม่อบ้าเบนสิง ใครจริงจองจ่อด้วย..................ดวงมาน มิตรมั่นสรรค์วิมาน...................เมื่ออ้อน รักใครใคร่เพียรพาน.................พอกเพิ่ม กรำต่อตรึงตาต้อน...................แต่งแต้มหรรษา คราใครคอยบั่นเบื้อง................บทรัก เพียงห่างเห็นประจักษ์...............จ่อมร้าง คนคอยค่อยหวนหัก..................หันเบื่อ บังนา กระทั่งเหมือนคิดสร้าง................สื่อรู้เขาวาง จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 12:06:48

ความคิดเห็นที่ 26   เกิด แก่เจ็บตาย เกิดขึ้น เป็นเบื้องต้น....................คนเรา แก่ก็นั่งจับเจ่า............................อยู่บ้าน เจ็บไข้ป่วยช่วยเข้า......................หมอฉีด ยาแล ตายหมดเกิดกี่ล้าน..............บ่ ต้องสงสัย เกิดแก่เจ็บตายนี้....................ธรรมดา จะหลบหลีกหนีมา....................ไม่ได้ กรรมกำหนดเวลา.....................ทุกสิ่ง เหลือแต่ดีชั่วไว้.........เก็บขึ้นสู่สวรรค์ จากคุณ : ต้นกล้า อาราดิน เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 12:38:40

ความคิดเห็นที่ 27 (โคลงโลกนิติ) ปัญญาคิดหยั่งรู้                เหตุผล สัจจะ จริงวาจากมล           แน่แท้ จาคะ เสียสละแก่กัน           ควรจะ ให้นา อุปสมะ สงบใจถึงแม้          เหตุร้ายประดัง ................................. ปัญญาคิดหยั่งรู้                ควรมี สัจจะต่อตรงวจี                 มั่นแท้ เสียสละเพิ่มการพลี           ด้วยรัก สงบจิตสู้ถึงแม้                 เหตุร้ายมาประดัง จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 12:44:08

ความคิดเห็นที่ 28 (โคลงโลกนิติ) โลภรู้เรียนมากสิ้น                ศิลปศาสตร์ ยามจักปองไป่อาจ               กล่าวได้ ผู้นี้นับว่าปราชญ์                  ฦาชื่อ ไฉนนา กล่าวบ่ฉานเฉกใบ้                บอกข้อความฝัน .......................................... (พจน์รำพัน) ~ ตื่นรู้กองท่วมตั้ง ........... ตำรา มิอาจปฏิบัติครา .............. ใคร่ใช้ มิอาจพิจารณา ................ นัยเที่ยง จักกล่าวเป็นปราชญ์ได้ ...... ดั่งผู้ชาญไฉน ................................. (ญามี่) โลภแลดูลู่รู้.........................เรียนเขียน ทุกย่างทางทอเทียน..............เที่ยวไว้ พากเพียรเปลี่ยนเนาเนียน.......นัยเนื่อง เสริมส่งลงราวไล้..................แล่นพร้อมรอระบาย ผายผลดลด่านด้าน................ดายวาง หมองเมื่อมนต์ยากกาง............ก่อคล้อง ซึมหลากบ่สรรค์ราง................เรียนร่าย กลับส่อตะลอนร้อง.................รั่วถ้วนนัยน์หู กรูเกิดเลิศนั่นปลื้ม...................ปราชญ์ปลอม เรียนแค่แลประนีประนอม..........หน่วยอ้าง เพียงพานผ่านดูดอม..................ดองเกี่ยว หาใช่ไหลหลอมค้าง..................คล่องให้ประสิทธิ์ผล ดังยลคนบ่งใบ้.........................บอกความ ทุกเรื่องเหลือเงางาม..................แง่นี้ หาสุดสู่นัยนาม.........................นองแค่น เข็ญนา เหมือนหนึ่งชักชวนชี้..................เชี่ยวน้ำกรำหา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 14:03:09

ความคิดเห็นที่ 29 (โคลงโลกนิติ) ปัญญาคิดหยั่งรู้                เหตุผล สัจจะ จริงวาจากมล           แน่แท้ จาคะ เสียสละแก่กัน           ควรจะ ให้นา อุปสมะ สงบใจถึงแม้          เหตุร้ายประดัง ................................. (ฟองไฟ) ปัญญาคิดหยั่งรู้                ควรมี สัจจะต่อตรงวจี                 มั่นแท้ เสียสละเพิ่มการพลี           ด้วยรัก สงบจิตสู้ถึงแม้                 เหตุร้ายมาประดัง .................................... (ญามี่) ปัญญายามหยั่งรู้................เรียนผล เสพซึ่งถึงตัวตน.................แต่งต้าน หนาวเคืองเรื่องรนชน..........ชวนตื่น ตรองพึ่งจะปันด้าน..............ด่วนร้อนซึมระคาย กระจายนัยช่วยด้วย.............แดสัตย์ มีซึ่งสัจจะจัด......................แจ่มแจ้ง มิปิดสิ่งผิดมัด.....................หมดซื่อ หมายมั่นมิคอยแกล้ง...........ก่อร้ายเสียดสี เสียสละมีห่วงให้..................หวนคะนึง รักช่วยอยากดัดดึง...............ด่าวไข้ เหมือนญาติไถ่ถามถึง...........ถดเร่า ใจเอย ปัน,แบ่ง,มอบ,เรียก,ใช้..........ชื่นน้ำใจงาม ยามรอนซัดหลั่นร้อน.............รอรุม จงพึ่งสติตรองคุม..................คลื่นร้าว สงบมั่นมาประชุม..................ชวนช่วย จึงสร่างรอนเลือนน้าว.............เนิ่นยิ้มเยือนมา แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 53 16:25:06 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 16:20:30

ความคิดเห็นที่ 30 . กลบท เสือซ่อนเล็บ ~ เมื่อเอาไปใคร่เจ้า ........ เอามา เถิดรา วอนอย่าถ่วงลวงหา ......... อย่าแกล้ง เพราะว่าเอ่ยเผยนา ......... ว่าขาด รักเอย เถิดแบ่งมาอย่าแสร้ง ....... แบ่งให้ใครเลย ~ อยากเผยคำซ้ำเอ่ย ...... เผยนัย ว่าใฝ่ซึ้งถึงใคร ................ ใฝ่แท้ แล้วไยไม่ไว้ใจ ................ ไยไม่ ยอมเอย เพียงแค่สิทธิ์นิดแม้ .......... แค่ก้อยเกี่ยวกัน พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 53 22:32:13

ความคิดเห็นที่ 31 ยามดึกคืนค่ำนี้                   ร้อนจัง จะหลับกันหรือยัง                พี่น้อง ตัวผมสู่ภวังค์                      จวนหลับ กินอิ่มตึงหนังท้อง               หย่อนแล้วหนังตา จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 00:44:38

ความคิดเห็นที่ 32 อากาศแม้รุ่มร้อน               เพียงใด มิเท่าคนร้อนใจ                  โกรธแค้น เหมือนดังถูกสุมไฟ             ใจนี่ อาจคลั่งจนวิ่งแจ้น              เร่งร้อนกวดเร็ว จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 00:47:15

ความคิดเห็นที่ 33 คนพาลพวกหนึ่งน้ำ           ใจหาญ รู้ว่าตนเป็นพาล                 กระด้าง พวกนี้วัจนาจารย์               จัดใช่ พาลพ่อ จัดว่าปราชญ์ได้บ้าง           เพื่อรู้สึกตน คำแปล คนโง่เขลาที่มีใจอาจหาญรับว่าตนโง่ คนพวกนี้ครูอาจารย์กล่าวว่า “ไม่จัดเป็นคนโง่เขลา” นับว่าเป็นปราชญ์ได้บ้าง ที่รู้ว่าตนโง่เลยเร่งศึกษาหาความรู้ .................................... ใครรักย่อมว่าเพี้ยง            พงศ์พันธุ์ ใครชอบคิดชอบชมฉัน       เพื่อนไว้ ใครเลี้ยงรักษาครรภ์           คือแม่ ตนนา ใครดับดำกฤษณ์ได้            ชื่อชู้เมียสม คำแปล   ใครรักก็เหมือนญาติพี่น้อง ใครสนิทสนมเราก็เหมือนเพื่อนยาก ใครที่ตั้งท้องเรามาก็คือ แม่ของเรา ใครดับตัณหาเราได้ ถึงเป็นชู้ก็เรียกได้ว่าเมีย ............................... ปล. ขอบคุณครับ ที่คุณยังมีน้ำใจให้ และยังนึกสนุกกับการเล่นของเรา และขอบคุณที่ส่ง หัวข้อใหม่ล่าสุด ของChat ทั้ง2ห้อง มาให้พวกเราอีก (น้องมี่ใส่ให้ครบทุกตัว ที่พี่บอกนะ ***ฟองไฟ***) ......................................................... เอ แสดงว่าพี่ทุกคนยังไม่หายไปไหนสินะ? ยังดูอยู่สินะ เลยตั้งทู้เรื่อง  "ทันการณ์"555" ....................................................... มี่แปลงเลยแล้วกัน คนพาลแบบหนึ่งร้อน..........รุนแรง ปากรั่วรัวราวแทง................เที่ยวสู้ พัวพันหมั่นแสดง................ดังโง่ เผลอโผล่โตกายอู้...............อ่านด้อยสมองมี มีมองสอนอย่างรู้.................เรียนไฉน มีท่ากลบกลัวไกล................ก่อสร้าง มีหมายไถ่ทำไม...................เมียงมุ่ง มีครุ่นหมุนเรียงร้าง...............ร่นให้สนิทหวาน อาจารย์เพียรพร่ำด้วย............แดสวาท ตรองโง่โชว์บังอาจ................เอ่ยนั้น มิเพียงใช่ประกาศ.................การป่วน หากซ่อนสมองดั้น.................ดื่มด้วยจินต์นัย ใครคิดพิศเด่นคล้อย..............คำคม นึกนิ่งเหมือนอออม................อิ่มกล้วย ดังลิงวิ่งตากลม.....................ลอยเปล่า ยากแม่นเรียงเรียนด้วย...........ดั่งใบ้บอกคำ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 53 14:02:47 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 12:42:38

ความคิดเห็นที่ 34 (โคลงโลกนิติ) ใครรักย่อมว่าเพี้ยง            พงศ์พันธุ์ ใครชอบคิดชอบชมฉัน       เพื่อนไว้ ใครเลี้ยงรักษาครรภ์           คือแม่ ตนนา ใครดับดำกฤษณ์ได้            ชื่อชู้เมียสม ................................. (พจน์รำพัน) ~ ใครสนิทคิดเพื่อนพ้อง ........ ผูกพัน ใครใคร่นับญาติกัน ................ เกี่ยวไว้ ใครรักไม่มีผัน ...................... เพียงแม่ แท้นา ใครที่แทนเมียได้ .................. ดั่งชู้ควรถนอม .................................. (ญามี่) ใครรักมักตื่นคล้าย...............คอยรอ คิดหมื่นมีเกลากรอ...............กรุ่นอ้อน กลัวเบนเหนี่ยวพะนอ............นานเนื่อง หลับชื่นคืนสะท้อน................ท่าเพ้อพลันระบาย ใครพูดไหลหล่นด้วย..............ดวงหวาน เผลอมั่นประทับนาน...............หน่วงใกล้ เห็นเป็นเพื่อนเหมือนบาน.........บนบ่ม หทัยนา รักร่ำมิเมียงไหม้....................มุ่งป้องมิตรสหาย ใครกอดกายกล่อมด้วย...........แดถนอม หมดอื่นมิหมดหอม.................ห่วงเฝ้า ทุกอณูแม่คือจอม..................ใจหนึ่ง เดียวเอย รักแม่มิงอนเง้า......................ง่วนให้สุขเสมอ เผลอพานพบพลุ่งล้น...............โลกีย์ หา ใช่พาชีวี...........................วุ่นรู้ ดำกฤษณ์หนึ่งจำมี...................เหมือนล่าม ชีพแฮ ใครใคร่คอยมีชู้.......................เชื่อได้ขาดเมีย จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 14:09:05

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณพี่ๆทุกคนที่เข้ามาอ่านและร่วมแจม อีกหลายๆบทที่พี่ๆเล่นที่เอ็ม แล้วส่งให้มี่ดู ขออภัยนะคะ ที่ไม่อาจลงที่นี่ได้ 5555 คำมัน "แสลง"มากไปค่ะ เอาน่าลองกันใหม่นะคะ ทู้นี้เขาบอก เน้นคำว่า "พาล"กับ "ชู้" ค่ะ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 14:13:55

ความคิดเห็นที่ 36 ชายชวนหมายร่วมชู้...........ด้วยรัก ชายเหม่อเสมือนสมัคร.........อยู่ข้าง ชายมองคิดประจักษ์...........สวาทแน่ ชายชักชวนด้วยว้าง.............วุ่นร้อนปรารถนา จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 17:26:32

ความคิดเห็นที่ 37 ชอ ชูเรียกว่าชู้                 ชวนสม ชอ ชุดอยากสนิทสนม       ร่วมด้วย ชอ ชัดรัดคนคม                รูปหล่อ ชอ ชั่วเกิดกลัวม้วย            ดับด้วยเสน่หา พอ พามาพล่านแท้            ในกมล พอ พรั่นมาเพ้อจน              เบื่อบ้า พอ พบนับสับสน                หวังหล่น ส้วมเอย พอ เพื่อได้เห็นหน้า            ร่วมสร้างรักหมาย ชอ ชาย ฉายเดี่ยวอ้าง         เป็นโสด ชอ เชื่อรวมกระโดด             กอดเร้า ชอ โชคไม่มาโปรด              ดังว่า ชอ ชุ่มต้องนั่งเศร้า              เสพแห้วพุงกาง จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 18:10:35

ความคิดเห็นที่ 38 . ~ ชินชาชื่นชืดช้ำ .......... ชังชม เชียวเชื่อเชิงชิมชม ......... ชื่นชู้ ชวนเชยเชื่อมชวนชม ...... ชิดชื่น ชนชอบเชยขิดชู้ ............ เช่นชู้ช่ำชอง พจน์รำพัน . แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 53 22:35:15 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 22:28:47

ความคิดเห็นที่ 39   ชายหลายคนชอบเฝ้า...........ส่งใจ มีรักยังมองไกล...................เล่นชู้ หวังกามส่งหวามไหว.............เวียนอยู่ เพียงหนึ่งจึงไม่สู้..................เปี่ยมปลื้มสองนา จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 22:57:28

ความคิดเห็นที่ 40 แอบในฝันซ่อนไว้                    ทรวงใน เธอใฝ่หาถึงใคร                       ใช่ชู้ ตอนเธอกอดฉันใจ                   เธอกอด ใครนา เธออยู่กันฉันรู้                         แต่ชู้ครองใจ จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 23:09:40

ความคิดเห็นที่ 41 เพื่อ...ชู้   5555 ชายชวนหมายร่วมชู้...........ด้วยรัก ชายเหม่อเสมือนสมัคร.........อยู่ข้าง ชายมองคิดประจักษ์...........สวาทแน่ ชายชักชวนด้วยว้าง.............วุ่นร้อนปรารถนา (ฟองไฟ) .................................... ชอ ชูเรียกว่าชู้                 ชวนสม ชอ ชุดอยากสนิทสนม       ร่วมด้วย ชอ ชัดรัดคนคม                รูปหล่อ ชอ ชั่วเกิดกลัวม้วย            ดับด้วยเสน่หา พอ พามาพล่านแท้            ในกมล พอ พรั่นมาเพ้อจน              เบื่อบ้า พอ พบนับสับสน                หวังหล่น ส้วมเอย พอ เพื่อได้เห็นหน้า            ร่วมสร้างรักหมาย ชอ ชาย ฉายเดี่ยวอ้าง         เป็นโสด ชอ เชื่อรวมกระโดด             กอดเร้า ชอ โชคไม่มาโปรด              ดังว่า ชอ ชุ่มต้องนั่งเศร้า              เสพแห้วพุงกาง (โหม่งฉ่าฉ่า) .......................................... (อักษรล้วน, "ช") ~ ชินชาชื่นชืดช้ำ .......... ชังชม เชียวเชื่อเชิงชิมชม ......... ชื่นชู้ ชวนเชยเชื่อมชวนชม ...... ชิดชื่น ชนชอบเชยขิดชู้ ............ เช่นชู้ช่ำชอง (พจน์รำพัน) ................................... ชายหลายคนชอบเฝ้า...........ส่งใจ มีรักยังมองไกล...................เล่นชู้ หวังกามส่งหวามไหว.............เวียนอยู่ เพียงหนึ่งจึงไม่สู้..................เปี่ยมปลื้มสองนา (ปีศาจน้อยจอมซน) .................................................. แอบในฝันซ่อนไว้                    ทรวงใน เธอใฝ่หาถึงใคร                       ใช่ชู้ ตอนเธอกอดฉันใจ                   เธอกอด ใครนา เธออยู่กันฉันรู้                         แต่ชู้ครองใจ (ขุนพลน้อยโค่วจง) .................................................. ไฉนฉงายชายฉ่ำชู้..........ชวนฉงน ชอบยิ่งหญิงเป็นผล.........เผื่อไว้ พะนอหล่อใจตน..............ตามต่อ ใจนา เสมือนเล่นเจนกามไล้........เลื่อนชู้เป็นเมีย (ญามี่) จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 53 23:27:29

ความคิดเห็นที่ 42 . ~ ชู้ทางใจพร่ำเพ้อ ........ ละเมอภักดื์ ชู้สวาทลอบลัก ............. เล่นชู้ ชู้ทางเน็ตรู้จัก- .............. จุฟฟฟผ่าน จอนา ชู้เก่าชู้ใหม่รู้ .................. รักไร้พรมแดน พจน์รำพัน . แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 53 07:54:03 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 07:52:56

ความคิดเห็นที่ 43 ~ ชู้ทางใจพร่ำเพ้อ ........ ละเมอภักดื์ ชู้สวาทลอบลัก ............. เล่นชู้ ชู้ทางเน็ตรู้จัก- .............. จุฟฟฟผ่าน จอนา ชู้เก่าชู้ใหม่รู้ .................. รักไร้พรมแดน พจน์รำพัน เป็นเธอเสมอมั่นพร้อม........ติดตาม เป็นเช่นใจคนงาม...............ห่วงชู้ ยอมสมัครจิตไม่ถาม...........ผลเหตุ ขอแอบได้รับรู้...................หนึ่งชู้ภักดิ์เสมอ ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 10:39:28

ความคิดเห็นที่ 44 คืนค่ำบ่หลับด้วย............ดวงสวาท ใจพี่แทบจะขาด............ห่างน้อง เสน่หาคร่าจิตปราร-........ถนาซ่อน เสียงพี่ร่ำเรียกร้อง...........กอดฟ้าคว้าดาว สาวเอยเจ้ารู้เถิด..............คนดี หนีห่างพี่แสนทวี..............ขื่นเนื้อ ไอกอดพลอดตามวจี.........วันก่อน โปรดแอ๊ดคู่สายเอื้อ...........พี่นี้ขอบคุณ ขุ่นข้องจากนี้ไม่................ไถ่หา ขอใคร่ให้น้องยา................สนิทด้วย ภาพเจิดแจ่มชวนผวา...........กลัวขาด ตัวพี่แทบมอดม้วย..............หวั่นต้องขาดกัน จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 11:04:49

ความคิดเห็นที่ 45   คืนค่ำยามหลับเผล้อ ..........ฝันถึง คืนมืดมาหนหนึ่ง...............เยี่ยมน้อง คืนหนาวเหน็บหวานซึ้ง........ตรึงรัก คืนดึกนึกถึงห้อง...แต่ต้องร้องครวญ ซบหลับทับแนบเนื้อ...........นวลงาม ซบกอดถอดไถ่ถาม.............เล่าร้อน ซบแนบแอบอิงตาม...............อกอิ่ม ซบแน่นเนื้อสนิทป้อน...ก่อนรุ้งโรยลา จากคุณ : ต้นกล้า อาราดิน เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 15:05:58

ความคิดเห็นที่ 46   แก้ไขค่า คืนค่ำยามหลับเพ้อ ...........ฝันหา คืนมืดมิดจึงมา....................เยี่ยมน้อง คืนหนาวเหน็บหวานพา........ตรึงรัก คืนดึกนึกถึงห้อง...แต่ต้องร้องครวญ ซบหลับทับแนบเนื้อ...........นวลงาม ซบกอดถอดไถ่ถาม.............เล่าร้อน ซบแนบแอบอิงตาม...............อกอิ่ม ซบแน่นเนื้อสนิทป้อน...ก่อนรุ้งโรยลา จากคุณ : ต้นกล้า อาราดิน เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 15:33:39

ความคิดเห็นที่ 47 . ~ ซ่อนชู้ชูดอกซ้อน ....... แซมเรียง รักพี่รักเอนเอียง ............. ออกชู้ หอมโฉมชื่นเย็นเพียง ..... พิศวาส ดอกฤๅ รักดอกรักเจ้ารู้ ............... รื่นซ้อนแซมกัน พจน์รำพัน ( ซ่อนชู้ เป็นไม้สายพันธุ์เดียวกับซ่อนกลิ่น แต่ดอกเป็นแบบดอกซ้อน ) . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 53 21:16:28

ความคิดเห็นที่ 48 แอบรักเธออย่างนี้                          ในใจ รู้ว่าเธอมีใคร                                 อยู่แล้ว ได้เพียงแค่หลงไหล                       เธอฝ่าย เดียวนา เป็นอย่างเราไม่แคล้ว                      แค่ชู้ทางใจ จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 00:33:53

ความคิดเห็นที่ 49 กลบทสีหติกำกาม&สิงห์โตเล่นหาง อาจครองหมองเช่นนั้น.........นานหนัก เงียบปล่อยหงอยเคียงพัก......เพิ่มเศร้า ทลายกาลผ่านประจักษ์.........จมว่าง เราท่านรานรอนเร้า...............ร่ำไห้เคียงจันทร์ วารวันพลันบิ่นเบื้อง..............บทบาน มีเริ่มเติมขมขาน...................ขื่นแท้ จำฝืนตื่นตามมาร..................หมายคร่า หทัยเอย บางช่วงควงเลือนแล้..............ลุ่ยแล้วสมัครสมาน หาญเหิมเสริมซ่อนสู้..............เสพทน นัยขื่นยืนหยอกยล.................ย่ำท้า คืนดำคร่ำตรมตน...................ตามข่วน บางบ่งหลงลงบ้า....................เบี่ยงเป้าสงวนพันธุ์ หรรษาลาบ่อล้น.....................แลระทม วนผ่าวคราวจองจม..................จ่อมช้ำ คงมีคลี่สาสม.........................สอนหมื่น หมองเฮย ชาติป่วยรวยรินล้ำ...................หล่อพ้อผิดผล จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 12:05:26

ความคิดเห็นที่ 50 ~ ชู้ทางใจพร่ำเพ้อ ........ ละเมอภักดื์ ชู้สวาทลอบลัก ............. เล่นชู้ ชู้ทางเน็ตรู้จัก- .............. จุฟฟฟผ่าน จอนา ชู้เก่าชู้ใหม่รู้ .................. รักไร้พรมแดน พจน์รำพัน เป็นเธอเสมอมั่นพร้อม........ติดตาม เป็นเช่นใจคนงาม...............ห่วงชู้ ยอมสมัครจิตไม่ถาม...........ผลเหตุ ขอแอบได้รับรู้...................หนึ่งชู้ภักดิ์เสมอ ฟองไฟ คืนค่ำยามหลับเพ้อ ...........ฝันหา คืนมืดมิดจึงมา....................เยี่ยมน้อง คืนหนาวเหน็บหวานพา........ตรึงรัก คืนดึกนึกถึงห้อง...แต่ต้องร้องครวญ ซบหลับทับแนบเนื้อ...........นวลงาม ซบกอดถอดไถ่ถาม.............เล่าร้อน ซบแนบแอบอิงตาม...............อกอิ่ม ซบแน่นเนื้อสนิทป้อน...ก่อนรุ้งโรยลา ต้นกล้า อาราดิน ~ ซ่อนชู้ชูดอกซ้อน ....... แซมเรียง รักพี่รักเอนเอียง ............. ออกชู้ หอมโฉมชื่นเย็นเพียง ..... พิศวาส ดอกฤๅ รักดอกรักเจ้ารู้ ............... รื่นซ้อนแซมกัน พจน์รำพัน แอบรักเธออย่างนี้                          ในใจ รู้ว่าเธอมีใคร                                 อยู่แล้ว ได้เพียงแค่หลงไหล                       เธอฝ่าย เดียวนา เป็นอย่างเราไม่แคล้ว                      แค่ชู้ทางใจ ขุนพลน้อยโค่วจง ชวนชิดพิศพลั่งพร้อม........เพียรพะนอ รวยชื่นคืนเคียงคลอ...........คู่ชู้ วิมานอื่นอาจทอ................ทางป่วน เปรมนา หากหนึ่งในนัยรู้.................เร่าได้มิถึง (ญามี่) จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 14:12:53

ความคิดเห็นที่ 51 ต่อบท๒ ที่นี่นะคะ พี่ๆทุกคน http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9259422/W9259422.html จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 18:08:26