เสน่หาทะเลตรัง
|
|
เมลานีสบตากับเขา กัดริมฝีปากล่างซ้ายอย่างลืมตัว เพื่อสะกดกั้นเสียงที่อาจเล็ดลอดออกมา สองมือสอดประสานกับมือกำยำนั้น หวังช่วยเป็นหลักยึดเหนี่ยวและเพิ่มแรงกระแทกให้ช่วงล่างของลำตัว แต่กลับเผลอจิกมือเขาจนหน้าเหย
"เจ็บเหรอ" หญิงสาวระบายยิ้มในคำถาม ชายหนุ่มตรงหน้าไม่ใช่คนช่างพูด ช่างแสดงออก สีหน้าเขายามนี้จึงช่างดูน่าพิศมัย เขาสบตาหล่อนกลับ สายตานั้นดูเลื่อนลอยนิดๆคล้ายไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพื่อผ่อนลมหายใจหนักหน่วง ที่สุดเขาก็ยิ้มกลับมา พร้อมกับผ่อนความแรงของสะโพก
"เปลี่ยนดีมั้ย"
เมลานีไม่อิดออด เมื่อเปลี่ยนมือเรียบร้อยเขาก็กลับมาเป็นม้าศึกที่ถูกปล่อยทะยานออกจากซองเก็บตัวดังเดิม ความคึกคะนองของวัยหนุ่มฉกรรจ์ช่างรุนแรงและเร่าร้อนจนหล่อนครางออกมาอย่างสุดกลั้น ความที่ไม่ใช่สาวน้อยวัยใส ทำหน้าบ้องแบ๊วไปวันๆ และรู้จักให้ความสุขหรรษากับตัวเองอยู่เป็นนิจ หล่อนจึงรู้ว่า จะควบอาชาตัวนี้อย่างไรให้ได้อย่างใจ และถึงใจอย่างที่หล่อนชอบ ม้าบางตัวฝึกยาก บางตัวเย่อหยิ่งไม่ต้องการถูกฝึก และยินดีต่อการเป็นม้าป่าไร้รสนิยมตลอดกาล เมลานีจะไม่เสียเวลากับม้าเหล่านั้น บุรุษตรงหน้า เปรียบได้กับอาชาพ่อพันธุ์ชั้นเลิศที่ฉลาด เรียนรู้เร็ว พร้อมรับทุกท่วงท่า และทุกลีลาที่หล่้อนสอนให้ เขาไม่ใช่ม้าศึกกรำงานหนักมาแต่แรก ออกจะหยิ่งและไว้ตัว ราวอาชาม้าทรงคู่ใจพระราชาผู้สูงศักดิ์ เจนก็แต่สนามแข่งในรั้วในวัง บางขณะกลับดูคล้ายลูกแมวน้อยขี้อายและอาจถึงขั้นขลาดเขลา แต่เมื่อเจอสาวร้อนอย่างเมลานี เขาก็ยินดีรับใช้ เป็นม้าศึกเตรียมบุกทะลุทะลวงหล่อนอย่างอิ่มเอมใจ ได้เจ้านายสาวสะคราญที่เปิดรับได้ทุกกระบวนท่า ทั้งยังเต็มใจสอนไม่หวงวิชาเช่นนี้ หากเขาทำไม่หือไม่อือ บื้อใบ้ ก็คงไม่ได้ดื่มกินความหวานจากกายหล่อนกันพอดี
สาวเจ้าร้องครวญครางเสียงดัง ตามจังหวะกระแทกกระทั้น เขาละมือจากสองมือของหล่อน ก่อนโน้มตัวมาด้านหน้าเพื่อเร่งความเร็วที่สะโพก สองตาของหล่อนปรือปราย เมื่อเชิดหน้าและแอ่นอกขึ้นรับความกระสันต์ที่สองมือเขามอบให้ ปลายถันของหล่อนชูชัน แสดงอาการแข็งขืนสู้มือใหญ่หนาของชายหนุ่ม แม้หล่อนเป็นสาวร่างเล็ก แต่ส่วนโค้งส่วนเว้าตรงหน้าช่างได้รูป ยิ่งยามหล่อนทำตาพริ้ม ส่งเสียงครางกระเส่าอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ เขายิ่งรู้สึกราวร่างทั้งร่างจะระเบิดออก เมลานีพอใจกับสายตาของเขาที่ได้ทำให้หล่อนอ่อนระทวยราวขี้ผึ้งถูกไฟลน ส่งเสียงร้องดังขึ้นไปอีก เพื่อกระตุ้นแรงปรารถนาของชายหนุ่มตรงหน้า
"อูวววววว ซี้ดดดดดด อ๊าาาาาาาาา เสียวววววว"
หล่อนรู้สึกได้ถึงอาวุธของเขาที่เคลื่อนไหวอยู่ภายใน ส่ายสะโพกรับ อย่างกระหายในรสสวาท และรู้สึกถึงการบีบรัดภายในร่างกายส่วนล่างของหล่อนเอง เขาจำใจต้องผ่อนความแรงลงเมื่อหล่อนส่งเสียงดังต่อเนื่องไม่หยุด
"ที่ผ่อนเนี่ย กลัวคนข้างนอกได้ยินล่ะสิ" หญิงสาวยิ้มเต็มวงหน้า เมื่อชายหนุ่มพยักหน้ายิ้มกลับ ตั้งแต่กลับมาจากเกาะไหง หล่อนและเขาก็ทำตัวเป็นคนขี้เกียจ ข้ออ้างว่ากลัวแดด แพ้แดดของชายหนุ่ีม ไม่ได้รับการคัดค้านใดๆจากเมลานี เพราะรู้ดีว่า หากไม่ออกไปข้างนอกแล้ว จะมีกิจกรรมอยู่กี่อย่างกันเล่าให้ทำกัน
เขาเลื่อนใบหน้าลงไปส่วนล่างและเมลานีก็ยกกลีบกุหลาบแสนงามนั้นขึ้นรับนาสิกของเขาที่ก้มลงดอมดม เขาตวัดลิ้นลงไประหว่างกลีบแบบบางนั้น ดูดกินน้ำหวานอย่างเมามัน และลากลิ้นขึ้นลงจนคนตรงหน้าร้องไม่เป็นภาษา โอววว หล่อนหลงรักสัมผัสนี้เหลือเกิน ให้ตายเถอะ ลิ้นอุ่นๆชุ่มฉ่ำของเขาช่างสร้างความซ่านเสียวให้หล่อนดีเหลือเกิน นี่หล่อนเฝ้าเก็บดอกไม้ดอกนี้ไว้เชยชมเเพียงคนเดียวได้อย่างไรตั้งนานสองนาน ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเมื่อเขาเร่งความเร็วระรัวลิ้นจนหล่อนบิดไปทั้งกาย
"ซี้ดดดดด อูววววววววว จะถึงแล้ว อาาา "
หล่อนค่อยผ่อนลมหายใจหอบถี่ลงเป็นเนิบช้า ลึก และยาวนาน เมลานีชอบเซ็กซ์ที่สุดยอด หากเป็นไวน์ ก็ไวน์รสเลิศ ละเลียดลิ้มกับมื้ออาหารรสดี เคล้ากับดนตรีอันละเมียดเสนาะโสต นอกจากจะอิ่มหู..อิ่มท้องแล้ว ยังช่วยทำให้อิ่มทิพย์ไปแสนนาน การเร่งรีบ กลืนกินลวกๆ หรือตั้งหน้าตั้งตากิน ไม่สนใจบทสนทนารื่นรมย์ ที่เกิดขึ้นระหว่างมื้อ.. ...เป็นของแสลงสำหรับหล่อน... กินแบบนั้น ไม่กินเสียเลยยังดีกว่า
เขาซบหน้าลงบนหน้าท้องหล่อน พร้อมกับประทับจูบแผ่วเบา กิริยานั้นช่างน่ารักน่าใคร่ จนเมลานีต้องเอ่ยปากอย่างพึงใจ
"ชอบจัง"
"หืมม์??"
"อืมม เวลาเสร็จแล้วทำแบบนี้อะ ชอบจัง" รอยยิ้มเอมอิ่มฉายชัดทั้งปากทั้งตา บ่งบอกว่า "ชอบ" อย่างปากพูด ชายหนุ่มผู้พูดน้อยเป็นนิจ..ไม่ตอบคำ แต่เลื่อนตัวมาโอบกอดหล่อนไว้อย่างรู้ใจ เมลานีแอบจับสังเกตปฏิกิริยาของเขา อีกครั้งแล้วที่เขาไม่ถึงที่หมาย แต่..ไม่มีการประท้วงใดๆจากปากเขา เมลานีแอบบวกคะแนนเพิ่มให้อีกหนึ่งกระบุงใหญ่
คืนแรกที่มาถึงนั้น ยังไม่ได้ทำอะไรกัน หล่อนมัวแต่คิดวางแผน ว่าทำอย่างไร จะเป็นการเล่นตัวอย่างสวยงาม คิดนั่นนู่นนี่ ว่าจะวางท่าเช่นไร ให้เขาต้องพยายามซักนิดหนึ่ง ยอมรับอยู่หรอก ว่าเขาคือคนที่หล่อนถูกใจนักหนา แต่ จะให้แสดงออกชัดเจน จนเหมือนวิ่งตามเขาก็ดูจะผิดฟอร์มหล่อนไปซักหน่อย หลังจากทำท่าอิดออดอยู่หลายกระบวน เมลานีก็ตระหนักว่าคิดผิด นอกจากจะถูกเร้าอารมณ์จนได้ที่แล้่ว พ่อเจ้าประคุณก็ตีความว่าหล่อนไม่มีอารมณ์จนยอมรามือ ท้ายที่สุดก็กลับกลายเป็นหล่อนเอง ที่อารมณ์ค้าง ไม่ได้อย่างใจไปเสียฉิบ นี่ชั้นจะกระบิดกระบวนไปทำเบื๊อกอะไรล่ะนี่ ?!
ว่าแล้ว พอคืนที่สองบนเกาะสวาทหาดสวรรค์นั่น เมลานีก็พลิกตัว ควบม้าตัวนี้เสียเองเมื่อเขาพยายามบิ๊วแล้่วไม่ได้อย่างใจ เกาะไหงนั้นสวยจับใจ ด้วยน้ำทะเลที่ใสเสียจนน่าใหลหลง หากได้มีโอกาสรับรสจูบจากคนรักขณะอยู่ใต้แสงดาวที่พราวฟ้านั้นคงดีไม่น้อย
ใช่!! จูบ!! แปลกหรือไม่?? ที่เขาไม่เคยจูบหล่อน?? ทดลอง ทดสอบสมรรถนะ ควบตะบึงกันไปถึงไหนต่อไหน แต่เหตุใดเขาไม่เคยจูบหล่อนเลย
บ้าที่สุด !!
คิดแล้วเมลานีก็ให้ขุ่นเคือง ตะหงิดๆอยู่ในใจ นี่มันบ้าอะไรก็ไม่รู้ กะอีแค่จูบเองนะ มันยากตรงไหนเนี่ย??!!
หรือว่าชั้นปากเหม็น!!?? กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แค่คิดก็ทนไม่ได้ ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ก่อนมาก็ขูดหินปูน ขัดฟัน เตรียมพร้อมมาอย่างดี ลิสเตอรีน ก็อมๆบ้วนๆตลอด แล้วทำม๊ายยยย ทำมายยยยยยย??????
เมลานีแอบเสียเซลฟ์ เอ๊ย เสียความมั่นใจอยู่ไม่น้อย (เดี๋ยวโดนหาว่าใช้ภาษาไม่ถูกหลัก ^^' ) ขนาดแก้ม ชายหนุ่มยังแค่เฉียดไปเฉียดมา จะหอมก็ไม่หอม เล่นเจ้าล่อเอาเถิดกันอยู่นั่นแล้ว จนรอบที่สองที่สามของคืนแรกบนเกาะ ชายหนุ่มเหมือนเผลอตัวหอมมาเต็มรักด้วยความหมั่นเขี้ยวนั่นแหละ เมลานีเลยบอกเขา "ชอบให้หอมมม"
"หืมม์??" (พูดเป็นแค่นี้หรือไงนะ?? อีตานี่!!)
"ชอบให้หอมมม" เมลานีออดอ้อนอีกครั้งเสียงแผ่ว และชายหนุ่มก็โอบกระชับสองแขนแน่นเข้าตามด้วยหอมอีกหนึ่งฟอดเมื่อหล่อนจบคำ
จากนั้นมาการจูบแก้มก็ไม่เป็นปัญหาหรือของต้องห้ามอีกต่อไป ดูอย่างตอนนี้สิ
"อะรายกัน ที่ทำๆอยู่เนี่ย คุณถึงอยู่คนเดียวเลยน้าาา" ท่อนแขนกำยำ ที่สอดอยู่ใต้คอ และโอบอยู่รอบเอว ข้ามมาด้านหน้า เขย่าๆตัวหล่อนเบาๆพร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า เมื่อหล่อนแกล้งประท้วงว่าทำแล้วทำอีกอยู่นั่นแล้วจนระบม การถูกโอบกอดจากด้านหลัง ขณะนอนกอดก่ายกันก็เป็นอีกท่าที่เมลานีชื่นชอบ เอ หรือหล่อนจะเสพติดอ้อมกอดของเขากันแน่นะเนี่ย
"อื้อออ ต้องขอบคุณมั้ยยย" หล่อนถามกลับอย่างหมั่นไส้ พร้อมพลิกตัวหันไปเผชิญหน้าเมื่อเขาตอบกลับมากวนๆ ว่า "ต้องขอบคุณสิ"
"ขอบคุณแบบไหนดี แบบนี้ดีมั้ย" ทำเสียงอู็้อี้ในลำคอ ก่อนเบียดตัวชิดใกล้เข้าหาเขา และยื่นหน้าไปหอมที่แก้มเบาๆ เรียกกอดกระชับจากเขาได้อีกหนึ่งครั้งแน่นๆ เฮ้อออ ทำไมน่ารักขนาดนี้น้ออออ ดูสิ หอมกันไปหอมกันมา ขนาดนี้ แล้วจูบล่ะ????? จูบบบบบบบบบ????????
...จูบบบบ คุณคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆเท่านั้น ทำเอาฉันสั่นไปถึงหัวใจ คุณเป็นคนจูบ คุึณรู้บ้างไหม ฉันหนาวฉันร้อนเสียจนเป็นไข้ ทุกที ทุกที...
"จูบนี่ ใช้ลิ้นกะไม่ใช้ลิ้น มันต่างกันมั้ยแก มันต่างกันยังไง ละจูบเก่งไม่เก่งมันเป็นยังไง"
จำได้ว่า มีเพื่อนสาวเคยถามเรื่องจูบ เมลานีเดาเอาว่า มันไม่เคยจูบเลย ขนาดอยู่มานานสามสิบฝน ก็น่าจะยังไม่เคยต้องมือชาย เลยถามซะอย่างกะปืนกลเช่นนี้
"ชั้นว่า จูบอะ ใครก็จูบเหมือนๆกันแหละแก จูบก็คือจูบอะ ไม่ได้ต่างอะไรกันมากมาย แต่ที่ทำให้ต่างคือความรู้สึกที่เรามีต่อคนคนนั้นต่างหาก ที่ปรุงแต่งให้รสจูบกับแต่ละคนมันต่างกัน ถ้าแกรู้สึกดีกับคนนั้น รักเค้า การจูบคือการแสดงออกว่ารัก ความรู้สึกมันจะถูกบิ๊วให้รู้สึกอบอุ่นอ่อนหวาน รู้สึกดี รู้สึกพิเศษ แต่ถ้าคนสองคนแค่มีเซ็กซ์กัน จูบก็คือบันไดหรือประตูที่ทำให้ก้าวข้ามไปสู่ขั้นตอนอื่น เป็นการเตรียมอารมณ์ก่อนไปเรื่องนั้นน่ะนะ"
"แกนี่ ช่ำชองจริงนะ"
"เออ ว่าจะเปิดคอร์สสอนอยู่เนี่ย" เมลานีตอบประชด หลังประโยค "ช่ำชอง" โผล่ปึ๊งขึ้นมาที่หน้าจอที่หล่อนกำลังแชทอยู่
จริงๆแล้ว หญิงสาวไม่ได้มีประสบการณ์อะไรมากมาย แต่ความที่เป็นคนตรงไปตรงมา และช่างสำรวจตรวจตราความคิดความรู้สึกตัวเองอยู่เรื่อยๆ ทำให้หล่อนสามารถแจกแจงบรรยายอะไรต่างๆได้ดีกว่าคนทั่วไป หล่อนไม่ใช่เด็กสาวไร้เดียงสา ที่ต้องเสแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจเรื่องอย่างว่า หากแต่เธอคือนางแมวป่า ที่รู้ว่าตนเองต้องการอะไร..และพุ่งเป้าไปหาสิ่งนั้น โดยไม่ยอมเสียเวลากับสิ่งที่ไม่ใช่ หล่อนรักการสปอยล์ตัวเองในสิ่งที่ชอบ และใช้ความรู้สึกเป็นเครื่องนำทาง ชีวิตคนเรามันสั้น เกินกว่าจะมาทำเล่นตัว ล้อยั่วกันข้ามเขาแบบหนังอินเดีย หากทำแล้วมีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร และรับผิดชอบตัวเองได้ เมลานีไม่มีรอช้า
และ ขณะนี้ เมลานีกำลังต้องการ "จูบ" !!!!! จูบจากชายตรงหน้าที่หล่อนปลื้มนักหนา ไอ้จะให้จูบเองนั้นก็ได้อยู่ แต่หล่อนก็กังวลว่า หากเขาไม่ได้อยากจูบหล่อนล่ะ จะทำฉันได
อย่ากระนั้นเลย.. ว่าแล้วปฏิบัติการช่วงชิงความบริสุทธิ์ เอ๊ยย ช่วงชิงรอยจูบ จากชายคนรัก ก็เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวสมองน้อยๆของเมลานี (แอร๊ยย นี่หล่อนแอบเรียกเค้าว่าชายคนรักด้วยนะเนี่ย ให้ตายยย!!)
จากคุณ |
:
นักอยากเขียน
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ค. 53 01:50:27
A:58.64.56.129 X: TicketID:256611
|
|
|
|