อะไรก็ได้ (ยำอะไรก็ได้)
|
|
อะไรก็ได้
เป็นคอลัมน์หนึ่ง ในนิตยสารทหารสื่อสาร ซึ่งผมได้เป็นผู้ร่วมอยู่ในกองบรรณาธิการด้วย
เมื่อกลับไปย้อนอ่านดู เห็นว่ามีเรื่องที่น่าจะเอามาเสนอผู้อ่านในถนนนักเขียนบ้าง
จึงลอกเอามาวาง ดูว่าจะมีผู้สนใจหรือไม่ครับ
ยำอะไรก็ได้
โดยผู้ใช้นามปากกา "สามเจ็ดแปด" จาก นิตยสารทหารสื่อสาร ฉบับ มกราคม ๒๕๓๓
สวัสดีปีใหม่ครับ กระผมสามเจ็ดแปด เจ้าเก่าได้กลับมาขัดตาทัพอีกครั้งหนึ่ง แทนดอกไม้สีม่วง เที่ยวนี้ก็เลยไปคว้าเอาชื่อคอลัมน์ข้างเคียงในทหารสื่อสารนี้เอง มาเป็นชื่ออาหารอย่างหน้าตาเฉย เรียกว่ายำอะไรก็ได้ คือมันคล้าย ๆ กับจะหยิบเอาอะไรก็ได้ ที่เมื่อคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้ว มันเปรี้ยวเค็มเผ็ด ใช้แกล้มกับน้ำมังสวิรัติได้ ก็ถือว่าเป็นยำชนิดหนึ่งนั่นเอง และผู้ที่จะปรุงอาหารหรือกับแกล้มรายนี้ จะเป็นใครก็ได้ไม่สำคัย อาจเป็นแม่บ้าน หรือลูกบ้าน หรือพ่อบ้านก็ได้ทั้งสิ้น รู้สึกว่าจะง่ายไปเสียทุกอย่าง
ไม่เชื่อไปถามเพื่อนผมคนที่อวบท้วมสมบูรณ์ที่สุด ในที่ทำงานดุซีครับ เขาจะดื่มเหล้ายี่ห้ออะไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ และกับใครก็ไม่เกี่ยง แต่ถ้าจะให้ดีแล้ว ควรจะมีถั่วลิสงทอดโรยเกลือ เป็นกับแกล้มสักกำมือ ก็จะถูกใจมากทีเดียว พอไปแวะที่บ้านผมเกิดมีกุ้งแห้งตัวเล็ก ๆ ชนิดที่แม่บ้านใช้ตำน้ำพริกกะปิ ทอดน้ำมันเหลืองกรอบอัดใส่ขวดไว้ เอามาแกล้มกับถั่วที่มี เก๊าะเค็ม ๆ มัน ๆ ดีขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
หรือถ้าขยับขยายต่อไปสักนิด ไม่รีบร้อนจนเกินไป ก็ค้นเอาหัวหอมแดง ขิงอ่อนหรือแก่ก็ได้ ตะไคร้ต้นเล็ก ๆ และมะนาว เอาทั้งหมดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ กองไว้รอบ ๆ จาน หรือจะมีถาดพลาสติกที่แบ่งเป็นช่อง ๆใส่ชิ้นส่วนแต่ละอย่างไว้ไม่ปะปนกัน แถมด้วยพริกขี้หนูเม็ดเล็ก ๆ พอจะกินก็หยิบเอามาใส่ฝ่ามือซ้าย อย่างละชิ้นสองชิ้นตามชอบ มือขวายกแก้วน้ำพรรค์อย่างว่าสาดเข้าคอ แล้วกระดกฝ่ามือซ้าย เทส่วนผสมทั้งหลายเข้าปาก เคี้ยวกร้วม ๆ ตาม ก็จะกลายเป็นไก่สามอย่างไปในทันที ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอวัยวะของไก่สักชิ้น แถมเครื่องปรุงก็มีมากกว่าสามอย่างเสียอีก ไม่ทราบว่าใครอุตริตั้งชื่อเข้าไปได้ยังไง
ถ้าวันดีเย็นดีเกิดมีแหนมห่อยาวหรือกลม หรืออย่างเป็นถุงโต ๆ ของป้าโน่นป้านี่อยู่ด้วย ก็เอาไอ้เจ้าเครื่องปรุงที่ว่า เว้นตะไคร้กับกุ้งแห้ง มากินรวมกับแหนมที่หั่นเป็นชิ้นพอเคี้ยว ตามด้วยผักชีหรือผักกาดหอม ก็เข้าท่าเข้าทีอีกพะเรอเชียวแหละ
ทีนี้บางวันในตู้กับข้าว(สมัยนี้คงเป็นตู้เย็น) เกิดมีปลาทูทอดเหลือจากเมื่อวานอยู่สองสามตัวก็เอาผสมกับเครื่องปรุงชนิดเดิม โดยตัดเอากุ้งแห้งออกเพียงอย่างเดียวบิปลาทูทอดเป็นชิ้นเล็กใหญ่ตามขนาดของปากคนกิน ห่อด้วยใบชะพลูหรือถ้าได้ใบทองหลางอ่อน ๆ ก็จะดีมากขึ้น หรืออย่างสมัยนี้นิยมอาหารเวียดนามจะใช้ใบโหระพาก็ได้ รวมวัตถุทั้งปวงเข้าปากเคี้ยวกรวบ ๆ ก็จะเป็นเมี่ยงปลาทู กับแกล้มมีระดับขึ้นมาทันตาเห็น
คราวนี้ถ้าเผื่อพ่อบ้านเกิดฟันไม่ค่อยมี และแม่บ้านมีเวลามากพอควร ก็เอาแหนมห่อมาขยี้เสียด้วยส้อมให้แตกออกจากกันเป็นชิ้นหยาบ ๆ เสียก่อน แล้วเอาหอมแดงซอย ขิงสดหั่นฝอยผสมลงไป เอาพริกขี้หนูครึ่งหยิบมือมาโขลกให้ละเอียด เอามะนาวมาบีบลงในครก แล้วตักเทราดลงไปบนแหนมที่ผสมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ระวังอย่าให้เปรี้ยวจนเกินไป นอกจากจะชอบเปรี้ยวด้วยกันทั้งวง ตักใส่จานรองด้วยใบผักกาดหอม โรยด้วยถั่วลิสงคั่วแกะซีก เคียงด้วยผักชี เท่านี้ก็สำเร็จเป็นยำแหนมห่อ ยกมาตั้งกลางวงได้ทันที
ถ้ายังไม่ถึงกึ๋น เอาปลาทูนึ่งทอดเหลืองอร่าม มาแกะก้างและครีบอแอก เอาแต่เนื้อปลามาขยี้ให้แหลกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วก้อย่างเดิม เอาหอมแดงซอย ขิงสดหั่นฝอยแถมด้วยตะไคร้หั่นละเอียด คลุกเข้าด้วยกัน ราดด้วยพริกขี้หนูตำผสมน้ำมะนาว แล้วก็เคล้าให้ทั่ว ตักใส่จานรองด้วยใบชะพลูหรือใบทองหลาง โดยหน้าด้วยถั่วลิสงคั่วแกะซีก เคียงด้วยผักชีและใบโหระพา ก็เป็นอัว่าสำเร็จเป็นยำปลาทูขึ้นมาทันที ยกมาตั้งได้อีกขนานหนึ่ง
เท่านี้แม่บ้านก็จะเป็นที่รัก เทิดทูนบูชาของคุณพ่อบ้านโดยไม่ยากเลย ใช่ไหมครับ แต่ถ้าใครจะออกปากว่า ของกล้วย ๆ หรือหญ้าปากคอกเช่นนี้ ก็ต้องเอามาบอกด้วย เขารุ้กันทั้งนั้นละลุ้ง ผมก็อยากจะขอแย้งซักนิดนะครับ ว่าของง่าย ๆ อย่างนี้แหละ ถ้าเราไม่ช่วงชิงทำเสียก่อนให้อยู่มือ อยู่บ้าน อยู่ช่องแล้ว เผลอ ๆ เกิดพ่อเจ้าประคุณติดกใจฝีมือคนอื่น ไปนั่งกินเอ๊ากินเอาอยู่ทีบ้านคนอื่น กว่าจะดึงกลับมาได้ อาจไม่ง่ายอย่างที่คิดก็ได้นะครับ.
#########
คัดลอกเมื่อ
12 กุมภาพันธ์ 2553
| จากคุณ |
:
เจียวต้าย  
|
| เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ค. 53 08:48:15
|
|
|
| 
