ความคิดเห็นที่ 1 คำแปล น้ำร้อนปลาเป็น  น้ำเย็นปลาตาย   : น้ำร้อนหมายถึงคนที่ปากร้ายแต่จิตใจไม่ร้ายย่อมไม่เป็นพิษภัย   ส่วนน้ำเย็น หมายถึงคนปากหวานหลอกให้คนหลงเชื่อง่าย ๆ ย่อมมีอันตรายได้. จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 18:11:29

ความคิดเห็นที่ 2 มิใช่หรอกน้อง ญามี่..... น้ำร้อนน่ะ.....       เขาหมายความว่าสถานะแวดล้อมซึ่งเอื้อต่อการดำรงค์ชีวิต น้ำเย็น.....           เขาเปรียบเปรยถึงสถานะที่สิ่งมีชีวิต ไม่สามารถดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ ด้วยประการทั้งปวง ต่างหาก....... แย้งมาได้นะขอรับ.. จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 19:13:41

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงเย็นหรือรุ่มร้อน...........................ก็คลาย เพราะหากใจคอยหมาย...................สยบยื้อ มือยังไม่้ยอมพาย............................บังอาจ สาดเสียฯ ละเหี่ยใจดึงดื้อ...............................ซื่อบื้อถือดี ความผิดเขาเร่าร้อน........................สอนระวิง โดนติวนเหมือนลิง..........................หลอกเจ้า ทำใจกับความจริง...........................แสนยาก จังเฮยฯ เอาล่ะใครจะเม้าท์...........................ป่าวร้องถองยัน ฉันก็ ขอบาย หายหน้า บารนี๚ะ๛ ลืมใส่บทกวี มาอีกที่ มี่....คง ไม่ว่านา...... จากคุณ : เปลวอัคคี เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 19:41:55

ความคิดเห็นที่ 4 น้ำเย็นจวนเดือดแล้ว........ใจเอย น้ำอุ่นมีใครเคย.................แพ่งด้วย น้ำร้อนเดือดมาเฉลย.........ชนโศก น้ำเร่งชำระม้วย.................ดับร้อนนานา หาน้ำเย็นไป่รู้.....................ใครมี ทั่วถิ่นต่างราวี.....................คร่าพร้อม น้ำร้อนสุ่มปฐพี...................แล้วเพื่อน ยังเกลียดกันคอยล้อม.........เข่นเคี้ยวอีกฤๅ หุ หุ ขอตอบแทนน้องมี่คำสิ มี่..คงดีใจค่ะ มีคนน้ำร้อนเหมือนกันอีกแล้ว... จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 20:04:40

ความคิดเห็นที่ 5 (พจน์รำพัน) น้ำ  ร้อนจักว่าป้อง ........... ปลาเป็น ร้อน ไป่เกินลำเค็ญ .......... แค่ร้อน ปลา จึงใคร่ครวญเห็น ....... เหตุแห่ง ภัยแล เป็น สิ่งเตือนสะท้อน ........ ท่ามนั้นขุกเข็ญ น้ำ  เย็นเยียบยิ่งป้อน ....... ปลาตาย เย็น ฉ่ำเกินสบาย ............ บ่ ดิ้น ปลา จึงจ่อมภัยกราย ....... เกินหลบ ตาย ดั่งพังเพยสิ้น ........... สุดด้วยเย็นใจ 19.16 น. ๏ น้ำ-มีปลาอยู่-ใต้ ............ น้ำ-ฤา เห็นแล ร้อน-ร่อนเร่เรือ-มือ ........... จุ่มน้ำ ปลา-มีไม่มี-ถือ ................ หลักหลบ ร้อนเอย เป็น-หลักธรรมชาติ-ย้ำ ...... เรื่องน้ำร้อนเย็น ๏ น้ำ-ร้อนเป็นเหตุให้ ........ ปลาหนี เย็น-ฉ่ำวังน้ำมี ................. ร่มไม้ ปลา-วนว่ายวารี ............... มีแหล่ง อาหารแล ตาย-ติดแหลอบใช้ .......... เบ็ดทั้งวางอวน ๏ น้ำ-คำนวลนั่นร้อน .......... ฤๅเย็น ร้อน-ย่อมหลบแลเห็น ........ ปากร้าย ปลา-ช่อนชะโดเป็น ........... ปลาบุรุษ ฤๅแล ไป-ห่างบ้านร้อนคล้าย ........ ดั่งใบ้บอกผล ๏ น้ำ-คำบ่นด่าร้อน ............ แรงเกิน เย็น-เลิกงานหาเงิน ............ เมื่อยล้า ปลา-ฉลาดอาจเดิน ............ จนค่ำ เต้น-ซะเลยเย็นบ้า ............. ดึกน้ำค้างหนาว  ๚ะ๛ (คริคริ) 20.10 น. แก้ไขเมื่อ 16 พ.ค. 53 20:19:23 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 20:17:42

ความคิดเห็นที่ 6   น้ำเมื่อร้อนช่วยให้.................ระลึกไว ใจมั่นไม่มีใน........................สิ่งร้าย น้ำเย็นสิมีไฟ........................เล่ห์เหลี่ยม ควรเลี่ยงอย่าหลงคล้าย...........ตกน้ำลืมหนี จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 20:40:12

ความคิดเห็นที่ 7   น้ำร้อนปลาโดดดิ้น.................หลบหนี รวกผักก็สุกดี..........................กินได้ ต้มแกงสะดวกมี......................น้ำซด น้ำดื่มต้มสุกไว้............โรคร้ายภัยหนี น้ำเย็นดื่มเมื่อร้อน...................ชื่นใจ น้ำเย็นช่วยแก้ไข..................ซับผ้า น้ำเย็นลูบอย่าไป..................เลยนะ น้ำเย็นหวานซึ้งหน้า.....จะได้ใช้งาน จากคุณ : ต้นกล้า อาราดิน เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 22:07:45

ความคิดเห็นที่ 8 มิใช่หรอกน้อง ญามี่..... น้ำร้อนน่ะ.....       เขาหมายความว่าสถานะแวดล้อมซึ่งเอื้อต่อการดำรงค์ชีวิต น้ำเย็น.....           เขาเปรียบเปรยถึงสถานะที่สิ่งมีชีวิต ไม่สามารถดำรงค์ชีวิตอยู่ได้ ด้วยประการทั้งปวง ต่างหาก....... แย้งมาได้นะขอรับ.. ถึงเย็นหรือรุ่มร้อน...........................ก็คลาย เพราะหากใจคอยหมาย...................สยบยื้อ มือยังไม่้ยอมพาย............................บังอาจ สาดเสียฯ ละเหี่ยใจดึงดื้อ...............................ซื่อบื้อถือดี ความผิดเขาเร่าร้อน........................สอนระวิง โดนติวนเหมือนลิง..........................หลอกเจ้า ทำใจกับความจริง...........................แสนยาก จังเฮยฯ เอาล่ะใครจะเม้าท์...........................ป่าวร้องถองยัน ฉันก็ ขอบาย หายหน้า บารนี๚ะ๛ ลืมใส่บทกวี มาอีกที่ มี่....คง ไม่ว่านา...... จากคุณ : เปลวอัคคี     เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 19:41:55   ถูกใจ : โหม่งฉ่าฉ่า, หนึ่ง [ ๑ ], y@mie ...................................... 5555ขอบคุณค่ะพี่เปลวอัคคี ที่ยังกลับมาเยี่ยมและแจมกับ "น้ำร้อน"คนนี้อีก ว่าแต่มาใหม่ได้อีกนะคะ ส่วนน้ำเย็นกับน้ำร้อนของพี่จะแตกประเด็นไปไหน ก็ตามใจค่ะ มี่คงแตกน้ำเย็นและร้อนอีกหลายแบบแน่555 หนีรอนหรือเช่นร้อน......ขาดเย็น หนีแน่คงลำเค็ญ...........คลั่งพร้อม หากมองคล่องนัยเห็น....ตระหนักมั่น คงเริ่มละลายล้อม.........เหนื่อยนั้นเลือนมลาย ปรายตายังสิ่งสู้..............เพียงพอ หลอนหล่อคงหยุดพอ......ว่างเว้น ใจเดินเนิ่นในคลอ............เคียงเที่ยง โศกผ่าวจะรีบเร้น.............ห่างให้เราเสมอ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 23:12:32

ความคิดเห็นที่ 9 (พจน์รำพัน) น้ำ  ร้อนจักว่าป้อง ........... ปลาเป็น ร้อน ไป่เกินลำเค็ญ .......... แค่ร้อน ปลา จึงใคร่ครวญเห็น ....... เหตุแห่ง ภัยแล เป็น สิ่งเตือนสะท้อน ........ ท่ามนั้นขุกเข็ญ น้ำ  เย็นเยียบยิ่งป้อน ....... ปลาตาย เย็น ฉ่ำเกินสบาย ............ บ่ ดิ้น ปลา จึงจ่อมภัยกราย ....... เกินหลบ ตาย ดั่งพังเพยสิ้น ........... สุดด้วยเย็นใจ 19.16 น. ๏ น้ำ-มีปลาอยู่-ใต้ ............ น้ำ-ฤา เห็นแล ร้อน-ร่อนเร่เรือ-มือ ........... จุ่มน้ำ ปลา-มีไม่มี-ถือ ................ หลักหลบ ร้อนเอย เป็น-หลักธรรมชาติ-ย้ำ ...... เรื่องน้ำร้อนเย็น ๏ น้ำ-ร้อนเป็นเหตุให้ ........ ปลาหนี เย็น-ฉ่ำวังน้ำมี ................. ร่มไม้ ปลา-วนว่ายวารี ............... มีแหล่ง อาหารแล ตาย-ติดแหลอบใช้ .......... เบ็ดทั้งวางอวน ๏ น้ำ-คำนวลนั่นร้อน .......... ฤๅเย็น ร้อน-ย่อมหลบแลเห็น ........ ปากร้าย ปลา-ช่อนชะโดเป็น ........... ปลาบุรุษ ฤๅแล ไป-ห่างบ้านร้อนคล้าย ........ ดั่งใบ้บอกผล ๏ น้ำ-คำบ่นด่าร้อน ............ แรงเกิน เย็น-เลิกงานหาเงิน ............ เมื่อยล้า ปลา-ฉลาดอาจเดิน ............ จนค่ำ เต้น-ซะเลยเย็นบ้า ............. ดึกน้ำค้างหนาว  ๚ะ๛ (คริคริ) 20.10 น. จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 20:17:42   ถูกใจ : อาลีอา, หนึ่ง [ ๑ ], y@mie ........................................... พี่นก มี่แจมต่อของพี่กับพี่พจน์นะคะ พี่พจน์ตอนนี้จำศีลกับสถานการณ์ค่ะ5555 น้ำ-ใจในถิ่นคล้อย............คนดี ร้อน-ดั่งหวังปรานี..............หน่วงช้ำ ปลา-คืนชื่นวนทวี..............วางใฝ่ ฝันเอย ฝัน-รื่นยืนยงล้ำ.................หลั่งช้อยลำนำ น้ำ-หลอนรอนเหนื่อยร้อน....โรมรัน เย็น-ค่ำจำหมอกควัน...........ครั่นแท้ ปลา-เหลือเหงื่อรำพัน..........พลางพล่าน สลาย-สู่พรูผลแพ้................เพิ่มด้วยผวาคลำ น้ำ-แปรแลเปลี่ยนอ้อม..........อวดนภา มาก-สิ่งอิงวาจา....................จ่อมเรื้อ ปลา-บนบ่นศรัทธา.................ธรรมเที่ยง หนี-เลี่ยงเรียงรอยเชื้อ.............ชั่วร้ายตามตำ น้ำ-เงินเพลินบ่น้อย.................นำหวัง ลง-เร่าเหงาภวังค์....................วุ่นด้วย ปลา-ดอยปล่อยในถัง...............ถมเกลื่อน เหม็น-เหยื่อเครือคลอม้วย.........มุ่งเป้าหมายขัง จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 23:22:33

ความคิดเห็นที่ 10 อันสายน้ำทั่วท้อง                      แดนดิน สูงค่าเกินทรัพย์สิน                     อื่นไซร้ คนสัตว์ต่างต้องกิน                     ครองชีพ น้ำหมดยากอยู่ได้                       หากไร้ปลากิน จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 53 23:44:45

ความคิดเห็นที่ 11 . ๏ น้ำ-คำนวลนั่นร้อน .......... ฤๅเย็น ร้อน-ย่อม หลบแลเห็น ........ ปากร้าย ปลา-ช่อนชะโดเป็น ........... ปลาบุรุษ ฤๅแล ไป-ห่าง บ้านร้อนคล้าย ........ ดั่งใบ้บอกผล ๏ น้ำ-คำบ่นด่าร้อน ............ แรงเกิน เย็น-เลิกงานหาเงิน ............ เมื่อยล้า ปลา-ฉลาด อาจเดิน ............ จนค่ำ เต้น-ซะเลยเย็นบ้า ............. ดึกน้ำค้างหนาว  ๚ะ๛ (คริคริ) จากคุณ : นกโก๊ก     น้ำ  คำคนครุ่นนั้น .......... นานา นักนา ร้อน ฤ เย็นนำพา ........... เพื่อไร้ ปลา หมอย่างไฟครา ...... งอรีบ กลับแล เต้น เร่าลืมปลาไว้ ......... หว่างนั้นคงดำ น้ำ  คำคราคาบร้อน ...... แรงไฉน เย็น เมื่อเจือเข้าไป ....... เปลี่ยนได้ ปลา ดุกย่างบนไฟ ........ ลุกจุ่ง ดับนา หลับ ตื่นพอกินให้ ......... ห่างพ้นกลคำ พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 00:18:38

ความคิดเห็นที่ 12 (โคลงโลกนิติ) คนเมาหมดสัจถ้อย..........เจรจา แรงโลกละอายหา............ห่อนได้ มักเนื้อหน่ายกรุณา..........เป็นเที่ยง บรรพชิตหญิงอยู่ใกล้........แกล่สิ้นศีลแสวง คำแปล คนเมาไม่มีสัจจะในการพูด คนโลภมีความอยากรุนแรงไม่กลัวบาป คนชอบกินเนื้อไร้ความเมตตา นักบวชที่อยู่ใกล้ผู้หญิง ก็หมดใจที่จะรักษาศีล ..................................... คนเมาพูดคล่องแท้..........ทอทรุด ถูกมั่งเหลวมีผุด...............ผ่านพร้อย สติหายใส่นัยอุด..............อิงทั่ว คำพร่ำดังหลับร้อย...........ร่ายต้นขาดปลาย ปรายโลภแรงเร่าสู้............เสพอยาก มีบ่อยบิดเบือนหลาก.........แล่นเข้า เงินตราผ่านมาฝาก............ฝอยเล่ห์ เขมือบนา บาปบั่นลงคลอเคล้า...........คลื่นริ้วลมทะเล เหหันดูหนึ่งเนื้อ.................นองฤดี ใจชั่วรัวรอยทวี..................วุ่นคว้า อยากกินกลิ่นเหมือนมี.........หมายหน่วง ขาดซึ่งเมตตาบ้า................บั่นเนื้อเสพฉลอง ผองบรรพชิตหื่นเข้า.............ขวยหาย ยามผ่านสาวราววาย.............หว่างร้อน กามเกิดปรี่รนกราย..............กุมซ่อน สวาทเอย ศีลร่วงหลงใหลฟ้อน.............ฟ่องฟ้องกิเลสหนา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 13:04:24

ความคิดเห็นที่ 13 . ~ คนเมามิอาจสร้าง ....... ศรัทธา คนโลภคอยแต่หา .......... ห่วงได้ คนกินสัตว์ปูปลา ............ เป็นฆาต บรรพชิตสีกาใกล้ ........... เกลือกกลั้วเกินศีล พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 13:07:37

ความคิดเห็นที่ 14 เมารักหนักเท่าฟ้า              มหาสมุทร เมาอยู่ไม่มีสุด                   หลุดห้วง เมานางผ่องผิวผุด              เรืองเรื่อ เมาใคร่ที่อยู่ล้วง                คึกเคลิ้มสวาทหา จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 13:15:46

ความคิดเห็นที่ 15 เมาทุกสิ่งล้วนแต่..........น่ากลัว เมาชื่นบนกามมัว..........เรื่องร้าย เมาลาภอาจทำหัว.........หายจาก เมาฆ่าเนื้อสัตว์คล้าย.....คลั่งบ้าสมองตัน จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 13:28:08

ความคิดเห็นที่ 16   เมาอะไรก็รู้.................ไม่ดี แต่ยากห่างหายหนี........อย่าต้อง ใจเหมือนวุ่นว้างมี..........มนต์เพรียก ให้รับทุกเมาจ้อง............จ่อมด้วยสมปอง จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 13:51:41

ความคิดเห็นที่ 17 . ~ คนเมามิอาจสร้าง ....... ศรัทธา คนโลภคอยแต่หา .......... ห่วงได้ คนกินสัตว์ปูปลา ............ เป็นฆาต บรรพชิตสีกาใกล้ ........... เกลือกกลั้วเกินศีล พจน์รำพัน . เมารักหนักเท่าฟ้า              มหาสมุทร เมาอยู่ไม่มีสุด                   หลุดห้วง เมานางผ่องผิวผุด              เรืองเรื่อ เมาใคร่ที่อยู่ล้วง                คึกเคลิ้มสวาทหา ฟองไฟ เมาทุกสิ่งล้วนแต่..........น่ากลัว เมาชื่นบนกามมัว..........เรื่องร้าย เมาลาภอาจทำหัว.........หายจาก เมาฆ่าเนื้อสัตว์คล้าย.....คลั่งบ้าสมองตัน โหม่งฉ่าฉ่า เมาอะไรก็รู้.................ไม่ดี แต่ยากห่างหายหนี........อย่าต้อง ใจเหมือนวุ่นว้างมี..........มนต์เพรียก ให้รับทุกเมาจ้อง............จ่อมด้วยสมปอง ปีศาจน้อยจอมซน เมามาหนาร่วมดื้อ........ดุนดัน เมาเผื่อเครืออนันต์.......เนิ่นสร้าง เมาคุณอุ่นเอิบอัน..........อิงเอ่ย เมาใคร่ใครครองห้าง......ห่างแล้วละเมอหมอง ญามี่ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 14:14:21

ความคิดเห็นที่ 18 เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียงข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วางนัยไว้............โปรดรู้ใครคอย จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 14:51:22

ความคิดเห็นที่ 19 . เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียง ข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วาง นัยไว้............โปรดรู้ใครคอย ฟองไฟ ~ เมาใจจึงใคร่ค้น ......... ควานหา เมารักรุมอุรา .................. ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมาสวาทนัยน์ตาเยิ้ม ........ ยิ่งให้กระสันถึง พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 14:55:36

ความคิดเห็นที่ 20 . เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียง ข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วาง นัยไว้............โปรดรู้ใครคอย ฟองไฟ ~ เมาใจจึงใคร่ค้น ......... ควานหา เมารักรุมอุรา .................. ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมาสวาทนัยน์ตาเยิ้ม ........ ยิ่งให้กระสันถึง พจน์รำพัน . เมามองตอนตื่นแล้ว............เขาหาย เมาอุ่นเมื่อใกล้กาย............คู่ข้าง เมาผลัดเหม่อเมื่อสาย..........สวาทขาด เมาเร่าคราใครขว้าง............ทอดทิ้งให้เหงา โหม่งฉ๋าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 15:00:19

ความคิดเห็นที่ 21 . เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียง ข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วาง นัยไว้............โปรดรู้ใครคอย ฟองไฟ ~ เมาใจจึงใคร่ค้น ......... ควานหา เมารักรุมอุรา .................. ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมาสวาทนัยน์ตาเยิ้ม ........ ยิ่งให้กระสันถึง พจน์รำพัน . เมามองตอนตื่นแล้ว............เขาหาย เมาอุ่นเมื่อใกล้กาย............คู่ข้าง เมาผลัดเหม่อเมื่อสาย..........สวาทขาด เมาเร่าคราใครขว้าง............ทอดทิ้งให้เหงา โหม่งฉ๋าฉ่า เมาฝนมนต์ปร่าป้อน...........ปรอยปอง เมาคร่ำคลำครรลอง............หล่อว้าง เมาคุณขุ่นนัยนอง...............นำเหนื่อย เมาเบื่อเหลือรอนอ้าง...........เอ่ยคล้อยหวามไหว จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 15:08:35

ความคิดเห็นที่ 22 . เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียง ข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วาง นัยไว้............โปรดรู้ใครคอย ฟองไฟ ~ เมาใจจึงใคร่ค้น ......... ควานหา เมารักรุมอุรา .................. ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมาสวาทนัยน์ตาเยิ้ม ........ ยิ่งให้กระสันถึง พจน์รำพัน . เมามองตอนตื่นแล้ว............เขาหาย เมาอุ่นเมื่อใกล้กาย............คู่ข้าง เมาผลัดเหม่อเมื่อสาย..........สวาทขาด เมาเร่าคราใครขว้าง............ทอดทิ้งให้เหงา โหม่งฉ๋าฉ่า เมาฝนมนต์ปร่าป้อน...........ปรอยปอง เมาคร่ำคลำครรลอง............หล่อว้าง เมาคุณขุ่นนัยนอง...............นำเหนื่อย เมาเบื่อเหลือรอนอ้าง...........เอ่ยคล้อยหวามไหว ญามี่ เมานางเหนื่อยแต่เฝ้า........ห่วงคะนึง เมาโศกครวญรำพึง...........สู่น้อง เมาเมินเริ่มคิดถึง...............งอนแง่ เมาแย่ตรงชักฟ้อง.............เร่านี้เริ่มระอา ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 22:29:18

ความคิดเห็นที่ 23 เมาเหล้ากันเอีกแล้ว            คุณลุง เมาเบียร์จนลงพุง                ป่องแล้ว เมามายหลับให้ยุง               ดูดเลือด เมาตื่นถอนอีกแก้ว              ไม่แคล้วตับแข็ง ขุนพลน้อยโค่วจง จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 17 พ.ค. 53 22:59:58

ความคิดเห็นที่ 24 (โคลงโลกนิติ) คนเมาหมดสัจถ้อย..........เจรจา แรงโลกละอายหา............ห่อนได้ มักเนื้อหน่ายกรุณา..........เป็นเที่ยง บรรพชิตหญิงอยู่ใกล้........แกล่สิ้นศีลแสวง คำแปล คนเมาไม่มีสัจจะในการพูด คนโลภมีความอยากรุนแรงไม่กลัวบาป คนชอบกินเนื้อไร้ความเมตตา นักบวชที่อยู่ใกล้ผู้หญิง ก็หมดใจที่จะรักษาศีล ..................................... คนเมาพูดคล่องแท้..........ทอทรุด ถูกมั่งเหลวมีผุด...............ผ่านพร้อย สติหายใส่นัยอุด..............อิงทั่ว คำพร่ำดังหลับร้อย...........ร่ายต้นขาดปลาย ปรายโลภแรงเร่าสู้............เสพอยาก มีบ่อยบิดเบือนหลาก.........แล่นเข้า เงินตราผ่านมาฝาก............ฝอยเล่ห์ เขมือบนา บาปบั่นลงคลอเคล้า...........คลื่นริ้วลมทะเล เหหันดูหนึ่งเนื้อ.................นองฤดี ใจชั่วรัวรอยทวี..................วุ่นคว้า อยากกินกลิ่นเหมือนมี.........หมายหน่วง ขาดซึ่งเมตตาบ้า................บั่นเนื้อเสพฉลอง ผองบรรพชิตหื่นเข้า.............ขวยหาย ยามผ่านสาวราววาย.............หว่างร้อน กามเกิดปรี่รนกราย..............กุมซ่อน สวาทเอย ศีลร่วงหลงใหลฟ้อน.............ฟ่องฟ้องกิเลสหนา   ญามี่ (y@mie) :  17 พ.ค. 53 13:04:24   06.52 น. ๏ มีเน่า เมานี่ หนี้ .................. มี่แน เมาเล่า เม้า เหลาแหย ............ แน่แล้ว --->(เล่า เหล้า เมามายไม่แพ้กัน) เมาหน่อย ม่อยเนา แล ........... น่ารัก เมาเบื่อ เมื่อเบา แก้ว ............. จิบน้ำเย็นชา ๏ เมายา มา เย้าแหย่ ............. แม่มา-เยาว์เอย อ้ายับ up ยา ตา ................... หยาดเยิ้ม ยามั่น ยั่น มายา .................... เยาวเรศ เหล้ากรอก หลอกเก๊า เคลิ้ม ..... คับแค้นระบายคำ ๏ น้ำเหล้า เน่าล้ำ-ระ .............. บาย-ความ ในใจ-แหล เมาบ่น หม่นเบา ยาม .............. หนักอึ้ง เฒ่าโม้ โธ่เม้า ตาม ................. คน-ประสาท แดก-ฮา แม่กด หมดแก้ ขึ้ง(ครึ่ง) .......... ค่อนแก้วก็เมา-แล้วเล่าความในใจที่ไม่กล้าบอกให้ใครรู้ว่าเมียกูกลัวนักนา บารนี ๚ะ๛ (คริคริ) 07.38 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 07:41:24

ความคิดเห็นที่ 25 . ~ เมาใจจึงใคร่ค้น .......... ควานหา เมารักรุมอุรา ................... ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมา สวาทนัยน์ตาเยิ้ม ....... ยิ่งให้กระสันถึง ~ เมาใจไม่เจ่าแม้น ......... เมาไฉน เมารักมักเร่าไหล ............. ลื่นเร้า เมาเธอเหม่อเท่าใด .......... เดาสิ เมาสวาทมาดสะเว้า ......... ว่าร้อนวอนรา พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 10:00:07

ความคิดเห็นที่ 26 . เมาคอยเคยคึกเคลิ้ม......สวาทหวัง เมาแนบเคียง ข้างหลัง.....อยู่ใกล้ เมาหมองเมื่อเธอยัง........หายห่าง เมาใคร่วาง นัยไว้............โปรดรู้ใครคอย ฟองไฟ ~ เมาใจจึงใคร่ค้น ......... ควานหา เมารักรุมอุรา .................. ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมาสวาทนัยน์ตาเยิ้ม ........ ยิ่งให้กระสันถึง พจน์รำพัน . เมามองตอนตื่นแล้ว............เขาหาย เมาอุ่นเมื่อใกล้กาย............คู่ข้าง เมาผลัดเหม่อเมื่อสาย..........สวาทขาด เมาเร่าคราใครขว้าง............ทอดทิ้งให้เหงา โหม่งฉ๋าฉ่า เมาฝนมนต์ปร่าป้อน...........ปรอยปอง เมาคร่ำคลำครรลอง............หล่อว้าง เมาคุณขุ่นนัยนอง...............นำเหนื่อย เมาเบื่อเหลือรอนอ้าง...........เอ่ยคล้อยหวามไหว ญามี่ เมานางเหนื่อยแต่เฝ้า........ห่วงคะนึง เมาโศกครวญรำพึง...........สู่น้อง เมาเมินเริ่มคิดถึง...............งอนแง่ เมาแย่ตรงชักฟ้อง.............เร่านี้เริ่มระอา ฟองไฟ เมาเหล้ากันเอีกแล้ว            คุณลุง เมาเบียร์จนลงพุง                ป่องแล้ว เมามายหลับให้ยุง               ดูดเลือด เมาตื่นถอนอีกแก้ว              ไม่แคล้วตับแข็ง ขุนพลน้อยโค่วจง เมารวยขวยเลื่อนแล้ว..........แลไฉน เมารุ่งปรุงกระไร..................ร่ายร้อย เมาคนหม่นทำไม.................มัดบ่อย เมาคร่ำนำซอยสร้อย............ส่งด้วยฉงนเหงา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:53:09

ความคิดเห็นที่ 27 (โคลงโลกนิติ) คนเมาหมดสัจถ้อย..........เจรจา แรงโลกละอายหา............ห่อนได้ มักเนื้อหน่ายกรุณา..........เป็นเที่ยง บรรพชิตหญิงอยู่ใกล้........แกล่สิ้นศีลแสวง คำแปล คนเมาไม่มีสัจจะในการพูด คนโลภมีความอยากรุนแรงไม่กลัวบาป คนชอบกินเนื้อไร้ความเมตตา นักบวชที่อยู่ใกล้ผู้หญิง ก็หมดใจที่จะรักษาศีล ..................................... คนเมาพูดคล่องแท้..........ทอทรุด ถูกมั่งเหลวมีผุด...............ผ่านพร้อย สติหายใส่นัยอุด..............อิงทั่ว คำพร่ำดังหลับร้อย...........ร่ายต้นขาดปลาย ปรายโลภแรงเร่าสู้............เสพอยาก มีบ่อยบิดเบือนหลาก.........แล่นเข้า เงินตราผ่านมาฝาก............ฝอยเล่ห์ เขมือบนา บาปบั่นลงคลอเคล้า...........คลื่นริ้วลมทะเล เหหันดูหนึ่งเนื้อ.................นองฤดี ใจชั่วรัวรอยทวี..................วุ่นคว้า อยากกินกลิ่นเหมือนมี.........หมายหน่วง ขาดซึ่งเมตตาบ้า................บั่นเนื้อเสพฉลอง ผองบรรพชิตหื่นเข้า.............ขวยหาย ยามผ่านสาวราววาย.............หว่างร้อน กามเกิดปรี่รนกราย..............กุมซ่อน สวาทเอย ศีลร่วงหลงใหลฟ้อน.............ฟ่องฟ้องกิเลสหนา   ญามี่ (y@mie) :  17 พ.ค. 53 13:04:24   06.52 น. ๏ มีเน่า เมานี่ หนี้ .................. มี่แน เมาเล่า เม้า เหลาแหย ............ แน่แล้ว --->(เล่า เหล้า เมามายไม่แพ้กัน) เมาหน่อย ม่อยเนา แล ........... น่ารัก เมาเบื่อ เมื่อเบา แก้ว ............. จิบน้ำเย็นชา ๏ เมายา มา เย้าแหย่ ............. แม่มา-เยาว์เอย อ้ายับ up ยา ตา ................... หยาดเยิ้ม ยามั่น ยั่น มายา .................... เยาวเรศ เหล้ากรอก หลอกเก๊า เคลิ้ม ..... คับแค้นระบายคำ ๏ น้ำเหล้า เน่าล้ำ-ระ .............. บาย-ความ ในใจ-แหล เมาบ่น หม่นเบา ยาม .............. หนักอึ้ง เฒ่าโม้ โธ่เม้า ตาม ................. คน-ประสาท แดก-ฮา แม่กด หมดแก้ ขึ้ง(ครึ่ง) .......... ค่อนแก้วก็เมา-แล้วเล่าความในใจที่ไม่กล้าบอกให้ใครรู้ว่าเมียกูกลัวนักนา บารนี ๚ะ๛ (คริคริ) 07.38 น. จากคุณ : นกโก๊ก     เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 07:41:24   ถูกใจ : หนึ่ง [ ๑ ] ............................................. ขอบคุณค่ะพี่นก ที่มาช่วยมี่ทวนโคลงผวนอีก หมายเนา เมาหน่าย หนี้............หนีไว เมืองเน่า เมาเนือง ไป................ป่วนแท้ มองการณ์ ม่านกอง ไกล............เกินลู่ มองเร่า เมาลอง แพ้...................เพื่อใกล้ใครคน ขนเมา เขาหม่น ไหม้.................หมายออด แลไพล่ ไหลแพ พลอด..............เพิ่มเร้า กุมลน ก่นหลุม ลอด..................เลือนเหม่อ เมาหล่น มนต์เหลา เว้า...............เหวี่ยงให้สวาทสม พรมหาย พรายห่ม ห้วง...............หวงเมา เมืองรุ่ง มุงเรือง เกลา..................ก่อชื้น หลายดล หล่นดาย เฉา................ฉายชื่น มองผ่าน มารพอง ครื้น.................ครุ่นข้างสติไสว จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 13:59:04

ความคิดเห็นที่ 28 . ~ เมาใจจึงใคร่ค้น .......... ควานหา เมารักรุมอุรา ................... ร่วมเทิ้ม เมาเธอมุดเมียงครา ......... คอยสบ ตาเอย เมา สวาทนัยน์ตาเยิ้ม ....... ยิ่งให้กระสันถึง ~ เมาใจไม่เจ่าแม้น ......... เมาไฉน เมารักมักเร่าไหล ............. ลื่นเร้า เมาเธอเหม่อเท่าใด .......... เดาสิ เมาสวาทมาดสะเว้า ......... ว่าร้อนวอนรา พจน์รำพัน ....................................... เมาหอมหลอมล่วงเคล้า..........คุมพะนอ เมาเยื่อเหลือใยกรอ................ก่อคล้าย เมาตุงมุ่งเคียงหอ....................หวนหน่วง เบามั่งบังเมาละม้าย................มุ่งเต้นคึกถวิล รวยรินจินต์คล่องเคลิ้ม.............คอยสวาท เสียงมั่นทันทอวาด...................หว่างซ้อน เมาใดไม่หวังพลาด..................พานต่อ เมาหน่อพอสะท้อน..................ท่ามว้างเวียนหา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 14:01:09

ความคิดเห็นที่ 29 เมารักภักดิ์เพิ่มพร้อม...........พากเพียร เมาช่วงควงใครเขียน...........ขจ่างข้อง เมาเดือนเลื่อนเบียดเบียน......บทเบื่อ เมาซุ่มหลุมใจร้อง................เร่งเพ้อปรารถนา เมาหาพาปรี่ปลื้ม.................ปองแทง เมายั่วรัวสุขแสดง.................เด่นท้า เมาผองย่องจรดแจง.............จำอยู่ เมาหน่วงลวงแววว้า...............วิ่งบ้าแหกตะโกน เมาโดนโยนสิ่งสร้อย..............ไสชะงัก เมาจ่อมหอมนัยหลัก...............แล่นคุ้ม เมากรองส่องประจักษ์.............ใจเริ่ม คึกเอย เมาลู่หมูยังอุ้ม........................เอ่ยอ้อนทนุถนอม เมาตอมออมอุ่นเคลิ้ม..............คดีหวาม เมาใหญ่ใครจะถาม.................ถ่วงสู้ เมาชุมชุ่มชวนลาม..................แลเพื่อน เมาบ่นกลกระทู้......................ท่ามบ้าปนเมา กลบท ยกกำลัง ๓ คือ บุษบงแย้มผกา+สีหติกำกาม+โตเล่นหาง จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 15:58:56

ความคิดเห็นที่ 30 . ~ เมาฝันบรรเจิดจ้อง ............. ใจงาม เมารักจักโตตาม .................... ไต่เต้า เมาโคลงโหย่งหยอกความ ...... คิดเลียบ เคียงเอย เมาหนึ่งตรึงติดเฝ้า ................ ใฝ่ร้อยฝอยฝัน พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 21:44:30

ความคิดเห็นที่ 31   วอนสุขปลุกเพื่อนพ้อง........พลันพา หายผ่าวคราวมองหา........ห่วงห้วง คึกคืนยื่นเริงมา.................หมองร่วง หายเอย วันวุ่นหมุนแปรท้วง............ที่สร้อยผันหวาน หาญเดินเมินหม่นร้อน........รุมกมล ทุกข์หล่นยลจางจน.............แจ่มช้อย เบิกบานซ่านมุมดล..............ดันมั่น คืนค่ำนำใจร้อย...................รื่นเคลิ้มวิถี มีเมืองเรืองสุ่มซ้อน................แซมรวย เริงร่าพาอำนวย.....................หน่วงเศร้า สุขนานผ่านระทดระทวย........ทางขื่น เงินหมื่นยืนหยอกเย้า.............เยี่ยมหน้าชวนสรรค์ จากคุณ : ญามี่ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 22:10:06

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณทุกเพื่อนพ้อง      มากมาย ภาพเยี่ยมหวิวหวานกราย      กึ่งเคล้า จากคุณ : แสงแรก ประดับดิน เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 53 22:27:35

ความคิดเห็นที่ 33   เมาบางครั้งส่งให้..........ลืมเจ็บ เมาปวดก็หายเหน็บ......เหนื่อยร้อน เมาหวังคลั่งอาจเก็บ......ขมขื่น เมาอยู่ไม่สะท้อน.........ชอกช้ำใครสนอง จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 14:09:14

ความคิดเห็นที่ 34 ฝนไฟใครเร่าร้อน.............รุมหลอน ฝนปล่อยลอยรอนชอน......ชุ่มช้ำ ฝนฟังหลั่งตรมตอน............ตัวล่วง เจ็บเอย ฝนใหม่ไยมิย้ำ..................เยี่ยมยิ้มอีกครา ฝนชามาขื่นข้อง................ไขคม ฝนเที่ยวเหลียวชวนชม........ช่วยรู้ ฝนฝันหลั่นอารมณ์.............เริงห่าง ฝันเหม่อเผลอลืมสู้.............สุ่มเศร้าเผาใจ ฝนไหนไหลแต่ร้อย............รอนโศก ฝนด่าวยาววิปโยค...............อย่างท้อ ฝนฝืนขื่นฉากโลก...............แลหวั่น ฝนเหลี่ยมเทียมดังล้อ...........ล่วงล้วงคนดัง ฝนหลังกรังกร่อนเชื้อ............ชวนพิศ ฝนเรื่องเปลืองพินิจ...............หน่วยแท้ ฝนพลอยบ่อยในผิด..............ผูกผ่าว ฝนหล่นชนยอมแพ้................เพื่อรั้งชีพตน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 16:33:17

ความคิดเห็นที่ 35 ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เราผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปลว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอกจะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับเรา ........................................ คบปราชญ์แท้ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง.................สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจบ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 53 19:10:56

ความคิดเห็นที่ 36 . ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เรา ผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปล ว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอก จะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับ เรา ..................................................... คบปราชญ์แท้ ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง................. สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจ บ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา โหม่งฉ่าฉ่า ~ ความคิดคนหลากผู้ ...... แผกกัน กาละเทศะธรรม์ .............. ถ่องข้อง ผู้สามารถเลือกสรรค์ ........ สมเหมาะ คือปราชญ์นำพาต้อง ........ ตรึกเฝ้าติดตาม พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 00:36:44

ความคิดเห็นที่ 37 ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เรา ผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปล ว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอก จะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับ เรา ..................................................... คบปราชญ์แท้ ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง................. สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจ บ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา โหม่งฉ่าฉ่า ~ ความคิดคนหลากผู้ ...... แผกกัน กาละเทศะธรรม์ .............. ถ่องข้อง ผู้สามารถเลือกสรรค์ ........ สมเหมาะ คือปราชญ์นำพาต้อง ........ ตรึกเฝ้าติดตาม พจน์รำพัน นักปราชญ์ควรคบค้า                     กว่าใคร ปราชญ์บ่ชักนำไป                       ชั่วช้า คนพาลชั่วทั้งใจ                          อย่าคบ จงมั่นอย่างคนกล้า                       หลีกพ้นคนเลว                     ขุนพลน้อยโค่วจง จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 01:03:36

ความคิดเห็นที่ 38 ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เรา ผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปล ว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอก จะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับ เรา ..................................................... คบปราชญ์แท้ ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง................. สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจ บ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา โหม่งฉ่าฉ่า ~ ความคิดคนหลากผู้ ...... แผกกัน กาละเทศะธรรม์ .............. ถ่องข้อง ผู้สามารถเลือกสรรค์ ........ สมเหมาะ คือปราชญ์นำพาต้อง ........ ตรึกเฝ้าติดตาม พจน์รำพัน นักปราชญ์ควรคบค้า                     กว่าใคร ปราชญ์บ่ชักนำไป                       ชั่วช้า คนพาลชั่วทั้งใจ                          อย่าคบ จงมั่นอย่างคนกล้า                       หลีกพ้นคนเลว       ขุนพลน้อยโค่วจง เปรียบปราชญ์ทาบเที่ยงแท้.......ทอวจี ปราชญ์ใช่ไวเพียงที.................ท่าพ้อง หากเสริมเพิ่มนัยลี-..................ลาร่าย กวีเอย สอนลู่ดูคำต้อง........................แต่งต้องภาษา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 01:41:24

ความคิดเห็นที่ 39 . ห่วงหา........................... โหยโหยอาลัยหา เคยเคลียคราพลอดออดอ้อน คืนค่ำจำสะท้อน ใจเคยหวามถามหาใคร ( โจทย์ ) โหยโหยคราห่างห้วง.......หวงหา ลมเฆี่ยนโบยจนชา.........ช่วงชะเง้อ ใครคนหนึ่งวางวา-.........จาว่า เหงาเอย ยินดั่งใครครวญเพ้อ........พร่องแพ้คิดถึง ญามี่ ~ โหยโหยหาอุ่นอ้อม ..... อาลัย เคยพร่ำพลอดอิงไอ ....... ออดอ้อน คืนค่ำร่ำหาใคร .............. คนหนึ่ง ใจไถ่ถามสะท้อน ........... แทบล้าคราหมอง พจน์รำพัน . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 08:18:54

ความคิดเห็นที่ 40 ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เรา ผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปล ว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอก จะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับ เรา ..................................................... คบปราชญ์แท้ ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง................. สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจ บ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา โหม่งฉ่าฉ่า ~ ความคิดคนหลากผู้ ...... แผกกัน กาละเทศะธรรม์ .............. ถ่องข้อง ผู้สามารถเลือกสรรค์ ........ สมเหมาะ คือปราชญ์นำพาต้อง ........ ตรึกเฝ้าติดตาม พจน์รำพัน นักปราชญ์ควรคบค้า                     กว่าใคร ปราชญ์บ่ชักนำไป                       ชั่วช้า คนพาลชั่วทั้งใจ                          อย่าคบ จงมั่นอย่างคนกล้า                       หลีกพ้นคนเลว     ขุนพลน้อยโค่วจง เปรียบปราชญ์ทาบเที่ยงแท้.......ทอวจี ปราชญ์ใช่ไวเพียงที.................ท่าพ้อง หากเสริมเพิ่มนัยลี-..................ลาร่าย กวีเอย สอนลู่ดูคำต้อง........................แต่งต้องภาษา ญามี่ (y@mie)   07.05 น. กลโคลงผวนผสม 'พยัคฆ์หาคู่ย่อง คำโคลงบางบาท เล่นคำผวนแบบ 'พยัคฆ์ครวญหาคู่' คำโคลงบางบาท เล่นคำผวนแบบ 'พยัคฆ์ย่องยามสาม' ๏ ป้อนศาสตร์ ปราชญ์ซ้อนใส่ .......... ป้อน-ปัญ ญาวุธ-ยุทธ-วาวัน .......................... ยอกย้อน ปราดฟัด ปัดฟาดฟัน ...................... ปั่นป่วน สิ้นปราชญ์ ศาตร์ปลิ้นปล้อน ............. ซับซ้อนศัพท์แสง   (พยัคฆ์ครวญหาคู่) ๏ ปราชญ์แผลง แปลงพลาดนี้  ........ พินาศ อำนาจ อาจนำชาติ ........................ นาฏช้ำ มีปราชญ์ มาดปีศาจ ...................... ปาดซี่ ตำแหน่ง แต่งนำน้ำ ....................... ตกใต้ตรมตรอง (พยัคฆ์หาคู่ย่อง) ๏ พลาดป้อง ผ่องปราชญ์ ซ้ำ .......... ปล้ำศาสตร์ ระเบิด เลิศบ๊ะฆาต ........................ บาดค้า ครบเกียรติ เขียดกบปาด ............... กราด-ปรบ มือ-ด่วน มวลดื้อบ้า ...................... ด่าบื้อซื่อดับ (พยัคฆ์ย่องยามสาม) ๏ ฆาตปรับ ขับปราชญ์บ้าน ............. ป้านบาตร บ้านนอก บอกน้านขาด .................. นาฏคร้าน เกลียดยับ กลับเหยียดญาติ ............ กาไก่ ร้ายปราชญ์ ราษฎร์ป้ายด้าน ........... ป่านด้ายใครทอ-ยกดอกผ้าไหมลายทองงามตา บารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) (พยัคฆ์หาคู่ย่อง) 08.26 น. แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 53 15:07:56 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 53 08:48:45 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 08:45:30

ความคิดเห็นที่ 41 . ห่วงหา........................... โหยโหยอาลัยหา เคยเคลียคราพลอดออดอ้อน คืนค่ำจำสะท้อน ใจเคยหวามถามหาใคร ( โจทย์ ) โหยโหยคราห่างห้วง.......หวงหา ลมเฆี่ยนโบยจนชา.........ช่วงชะเง้อ ใครคนหนึ่งวางวา-.........จาว่า เหงาเอย ยินดั่งใครครวญเพ้อ........พร่องแพ้คิดถึง ญามี่ ~ โหยโหยหาอุ่นอ้อม ..... อาลัย เคยพร่ำพลอดอิงไอ ....... ออดอ้อน คืนค่ำร่ำหาใคร .............. คนหนึ่ง ใจไถ่ถามสะท้อน ........... แทบล้าคราหมอง พจน์รำพัน . โหยโหยหลงรักด้วย           รอยคะนึง ใจหนึ่งเพียรส่งถึง              หนึ่งคล้อย อยู่ไหนบอกคิดถึง              หาหน่อย หลับยากเฝ้าโศกสร้อย.......ใคร่รู้ใครเหมือน . ฟองไฟ จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 13:10:44

ความคิดเห็นที่ 42 . ห่วงหา........................... โหยโหยอาลัยหา เคยเคลียคราพลอดออดอ้อน คืนค่ำจำสะท้อน ใจเคยหวามถามหาใคร ( โจทย์ ) โหยโหยคราห่างห้วง.......หวงหา ลมเฆี่ยนโบยจนชา.........ช่วงชะเง้อ ใครคนหนึ่งวางวา-.........จาว่า เหงาเอย ยินดั่งใครครวญเพ้อ........พร่องแพ้คิดถึง ญามี่ ~ โหยโหยหาอุ่นอ้อม ..... อาลัย เคยพร่ำพลอดอิงไอ ....... ออดอ้อน คืนค่ำร่ำหาใคร .............. คนหนึ่ง ใจไถ่ถามสะท้อน ........... แทบล้าคราหมอง พจน์รำพัน . โหยโหยหลงรักด้วย           รอยคะนึง ใจหนึ่งเพียรส่งถึง              หนึ่งคล้อย อยู่ไหนบอกคิดถึง              หาหน่อย หลับยากเฝ้าโศกสร้อย.......ใคร่รู้ใครเหมือน . ฟองไฟ โหยโหยฤๅจิตรู้.....................หาใคร มองค่ำเหม่อเรื่อยไป...............สู่เช้า เหงานะใคร่บอกไกล...............ไปสู่ เธอนา ฉันนึกเธอมีเฝ้า......................ห่วงด้วยกันไหม โหม่งฉ่าฉ่า จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 14:25:15

ความคิดเห็นที่ 43 ร่วมรักนักปราชญ์เชื้อ             ชาตรี เรา ผิดชอบชั่วดี                      ท่านแจ้ง เอาเยี่ยงอย่างอย่ามี                จิตโกรธ ปรากฏกลท่านแกล้ง                แนะให้ขุมทอง แปล ว่า คบนักปราชญ์ผู้ชาตรี หากเราทำผิดชอบชั่วดีประการใด ท่านก็จะบอก จะเตือนเรา อย่าได้ไปมีความโกรธเลย เพราะท่านได้ชี้ทางขุมทองให้กับ เรา ..................................................... คบปราชญ์แท้ ย่อมได้...............รู้จริง คบชั่วเจอปราชญ์สิง................. สัตว์ร้าย ย่อมไม่อาจพาดพิง..................ถูกผิด ปราชญ์เก่งอาจ บ่นคล้าย............เรื่องพร้อยเอือมระอา โหม่งฉ่าฉ่า ~ ความคิดคนหลากผู้ ...... แผกกัน กาละเทศะธรรม์ .............. ถ่องข้อง ผู้สามารถเลือกสรรค์ ........ สมเหมาะ คือปราชญ์นำพาต้อง ........ ตรึกเฝ้าติดตาม พจน์รำพัน นักปราชญ์ควรคบค้า                     กว่าใคร ปราชญ์บ่ชักนำไป                       ชั่วช้า คนพาลชั่วทั้งใจ                          อย่าคบ จงมั่นอย่างคนกล้า                       หลีกพ้นคนเลว     ขุนพลน้อยโค่วจง เปรียบปราชญ์ทาบเที่ยงแท้.......ทอวจี ปราชญ์ใช่ไวเพียงที.................ท่าพ้อง หากเสริมเพิ่มนัยลี-..................ลาร่าย กวีเอย สอนลู่ดูคำต้อง........................แต่งต้องภาษา ญามี่ (y@mie)   07.05 น. กลโคลงผวนผสม 'พยัคฆ์หาคู่ย่อง คำโคลงบางบาท เล่นคำผวนแบบ 'พยัคฆ์ครวญหาคู่' คำโคลงบางบาท เล่นคำผวนแบบ 'พยัคฆ์ย่องยามสาม' ๏ ป้อนศาสตร์ ปราชญ์ซ้อนใส่ .......... ป้อน-ปัญ ญาวุธ-ยุทธ-วาวัน .......................... ยอกย้อน ปราดฟัด ปัดฟาดฟัน ...................... ปั่นป่วน สิ้นปราชญ์ ศาตร์ปลิ้นปล้อน ............. ซับซ้อนศัพท์แสง   (พยัคฆ์ครวญหาคู่) ๏ ปราชญ์แผลง แปลงพลาดนี้  ........ พินาศ อำนาจ อาจนำชาติ ........................ นาฏช้ำ มีปราชญ์ มาดปีศาจ ...................... ปาดซี่ ตำแหน่ง แต่งนำน้ำ ....................... ตกใต้ตรมตรอง (พยัคฆ์หาคู่ย่อง) ๏ พลาดป้อง ผ่องปราชญ์ ซ้ำ .......... ปล้ำศาสตร์ ระเบิด เลิศบ๊ะฆาต ........................ บาดค้า ครบเกียรติ เขียดกบปาด ............... กราด-ปรบ มือ-ด่วน มวลดื้อบ้า ...................... ด่าบื้อซื่อดับ (พยัคฆ์ย่องยามสาม) ๏ ฆาตปรับ ขับปราชญ์บ้าน ............. ป้านบาตร บ้านนอก บอกน้านขาด .................. นาฏคร้าน เกลียดยับ กลับเหยียดญาติ ............ กาไก่ ร้ายปราชญ์ ราษฎร์ป้ายด้าน ........... ป่านด้ายใครทอ-ยกดอกผ้าไหมลายทองงามตา บารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) (พยัคฆ์หาคู่ย่อง) 08.26 น. นกโก๊ก ปราชญ์สอน ดัง ป้อนศาสตร์...........เลียบนึก ลึกเด่น เหมือน เลนดึก...................ดูดไว้ ศึกปราชญ์ เร่ง ศาสตร์ปรึก-............ษาหน่อย ใครเกี่ยง กลัว เคียงใกล้.................ยากรู้กวีสาน (นางสิงห์ย่องยามเผลอ) . หาญผัน หันผ่าน พ้อ........................โหยหา ญาณหมด หยดมาร มา.....................มุ่งแม้น แสงปราชญ์ ศาสตร์แปลง ปรา-..........ศรัยซ่อน ขันคัด ขัดครัน แคว้น........................คล่องคล้องคำครอง (พยัคฆ์ครวญหาคู่) . ญามี่ . ~ ผองปราชญพลาดป้องโกรธ ...... โปรดกรอง ต่างแย่งแตงย่างครอง ................. ย่องค้าง ธารเมือกเทือกมารพอง ............... มองพล่าน หวั่นเนิ่นเวิลด์นั่นร้าง ................... นั่งรั้นกันเอง (พยัคฆ์ย่องยามสาม) ~ เพลงปราชญ์พลาดเปล่งกร้าว ..... เปล่าเกรง รุมฆาตราษฎร์คุมเหง ................... เคร่งหุ้ม โฉดเถือเชื่อโทษเหวง .................. ชักฉุด     แดนซื่อดื้อแสนคุ้ม ...................... ซุ่มแค้นกำสรวล (พยัคฆ์หาคู่ย่อง) . พจน์รำพัน . จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 15:53:29

ความคิดเห็นที่ 44   . ห่วงหา........................... โหยโหยอาลัยหา เคยเคลียคราพลอดออดอ้อน คืนค่ำจำสะท้อน ใจเคยหวามถามหาใคร ( โจทย์ ) โหยโหยคราห่างห้วง.......หวงหา ลมเฆี่ยนโบยจนชา.........ช่วงชะเง้อ ใครคนหนึ่งวางวา-.........จาว่า เหงาเอย ยินดั่งใครครวญเพ้อ........พร่องแพ้คิดถึง ญามี่ ~ โหยโหยหาอุ่นอ้อม ..... อาลัย เคยพร่ำพลอดอิงไอ ....... ออดอ้อน คืนค่ำร่ำหาใคร .............. คนหนึ่ง ใจไถ่ถามสะท้อน ........... แทบล้าคราหมอง พจน์รำพัน . โหยโหยหลงรักด้วย           รอยคะนึง ใจหนึ่งเพียรส่งถึง              หนึ่งคล้อย อยู่ไหนบอกคิดถึง              หาหน่อย หลับยากเฝ้าโศกสร้อย.......ใคร่รู้ใครเหมือน . ฟองไฟ โหยโหยฤๅจิตรู้.....................หาใคร มองค่ำเหม่อเรื่อยไป...............สู่เช้า เหงานะใคร่บอกไกล...............ไปสู่ เธอนา ฉันนึกเธอมีเฝ้า......................ห่วงด้วยกันไหม โหม่งฉ่าฉ่า . โหยโหยดังเหว่ว้า...........หน่วงใน ใครอื่นฤเข้าใจ...............เท่าเฝ้า หนึ่งคำร่ำบอกไป...........เมื่อก่อน ยังมั่นไม่ใช่เย้า...............หยอกด้วยสนุกสนาน . ปีศาจน้อยจอมซน จากคุณ : ปีศาจน้อยจอมซน (ปีศาจน้อยจอมแก่น) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 16:38:50

ความคิดเห็นที่ 45 . ห่วงหา........................... โหยโหยอาลัยหา เคยเคลียคราพลอดออดอ้อน คืนค่ำจำสะท้อน ใจเคยหวามถามหาใคร ( โจทย์ ) โหยโหยคราห่างห้วง.......หวงหา ลมเฆี่ยนโบยจนชา.........ช่วงชะเง้อ ใครคนหนึ่งวางวา-.........จาว่า เหงาเอย ยินดั่งใครครวญเพ้อ........พร่องแพ้คิดถึง ญามี่ ~ โหยโหยหาอุ่นอ้อม ..... อาลัย เคยพร่ำพลอดอิงไอ ....... ออดอ้อน คืนค่ำร่ำหาใคร .............. คนหนึ่ง ใจไถ่ถามสะท้อน ........... แทบล้าคราหมอง พจน์รำพัน . โหยโหยหลงรักด้วย           รอยคะนึง ใจหนึ่งเพียรส่งถึง              หนึ่งคล้อย อยู่ไหนบอกคิดถึง              หาหน่อย หลับยากเฝ้าโศกสร้อย.......ใคร่รู้ใครเหมือน . ฟองไฟ โหยโหยฤๅจิตรู้.....................หาใคร มองค่ำเหม่อเรื่อยไป...............สู่เช้า เหงานะใคร่บอกไกล...............ไปสู่ เธอนา ฉันนึกเธอมีเฝ้า......................ห่วงด้วยกันไหม โหม่งฉ่าฉ่า . โหยโหยดังเหว่ว้า...........หน่วงใน ใครอื่นฤเข้าใจ...............เท่าเฝ้า หนึ่งคำร่ำบอกไป...........เมื่อก่อน ยังมั่นไม่ใช่เย้า...............หยอกด้วยสนุกสนาน . ปีศาจน้อยจอมซน โหยโหยโดยด่าวด้าน.............แดดล ลนหล่นซนสับสน...................สู่เศร้า ใครไขอย่างแยบยล................ยามเยี่ยม หลบลบขมเคืองเคล้า.............คร่าวครั้งคิดคอย . ญามี่ . จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 16:52:25

ความคิดเห็นที่ 46 ไปที่บท๓ กันนะครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9276593/W9276593.html#1 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 53 21:54:11